ตอนที่แล้วChapter 65: ราชินีนรกแอนเดรีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 67: ฉันต้องการที่จะแตะมัน

Chapter 66: บอสแปลงร่าง


Chapter 66: บอสแปลงร่าง

“ง่ายเหรอ? นายล้อฉันเล่นใช่ไหม? ทั่วทั้งพื้นที่ด้านหน้าของแอนเดรียนั้นเต็มไปด้วยเปลวเพลิง! มันไม่มีทางที่ตัวละครโจมตีใกล้แบบพี่นั้นเข้าไปถึงเธอได้! สกิล [เฮล อินเฟอโน] นั้นจะแสต็คเผาไหม้ ดังนั้นไม่สำคัญหรอกว่าพี่จะมีการต้านทานเวทย์เท่าไหร่ พี่ก็จะยังคงตายอยู่ดี!”ไร้ความกลัวทำหน้าบูดบึ้ง

ในสองวินาทีที่ไร้ความกลัวนั้นอยู่ในเปลวเพลิง เขานั้นได้คำนวณความเสียหายเกี่ยวกับผลกระทบของการติดเผาไหม้จาก [เฮล อินเฟอโน] ไว้แล้ว

ในวินาทีแรกนั้นเปลวเพลิงนั้นทำความเสียหาย 40 หน่วย หลังจากนั้นก็ 80 หน่วยในวินาทีที่สอง และหลังจากนั้นก็จะเป็น 120 ในครั้งที่สาม และต่อไปเรื่อยๆ

หวังหยู่นั้นเป็นเพียงแค่นักต่อสู้ที่มีพลังชีวิตน้อยกว่า 800 หน่วย ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าแอนเดรียได้ภายในห้าวินาที หลังจากนั้นเขาก็จะถูกเผาจนตาย!

การฆ่าบอสในดันเจี้ยนในห้าวินาทีงั้นเหรอ? แม้ว่าหวังหยู่สามารถที่จะทำแบบนั้นได้ก็ตามทีเขาก็จะโดนแบนไปในทันที เนื่องจากมีเพียงแฮคเกอร์เท่านั้นที่สามารถทำได้!

เมื่อพวกเขาพูดคุยกันเสร็จ สกิลของแอนเดรีย [เฟลมมิ่ง บาเรจ] นั้นก็ค่อยๆลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ทุกคนนั้นก็รู้ว่ามันเป็นแม่มดที่หน้าด้านมากที่กำลังจะร่ายเวทย์อีกหนึ่งเวทย์ตามมา..

ในอดีตนั้นมีเกมที่ถูกเรียกว่า {STRANGE LEGACY} ผู้เล่นนั้นสามารถที่จะใช้ที่ย่างบาบีคิวในการย่างหมูป่าที่พวกเขาฆ่าได้ ในตอนนี้สมาชิกของนิกายซวนเฉินก็คิดว่าแอนเดรียนั้นทำเหมือนกับพวกเขาเป็นหมูป่า…

“ความทระนงตัว ตามผมมา!”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็หยิบเสาออกมาจากกระเป๋าของเขา

“อ๊า? ผม?”ความทระนงตัวตกตะลึง หวังหยู่นั้นเลือกเขาในกลุ่มคนที่เผชิญหน้ากับบอสในระดับนี้งั้นเหรอ? แล้วเขาจะสามารถทำอะไรได้ละ?

“ใช่! วินาทีที่เปลวเพลิงนั้นหายไป ก็มุ่งหน้าเข้าไป!”

เมื่อเขาพูดเสร็จแล้ว หวังหยู่ก็จับเสาที่มือของเขาและกระโดดหลบลูกศรที่ยิงออกมาครั้งสุดท้ายของแอนเดรียก่อนที่จะกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรงและส่งตัวเขาขึ้นไปกลางอากาศ

บูม! บูม! บูม!

ในขณะที่เขาอยู่กลางอากาศ หวังหยู่ก็ส่งลูกเตะไปสามครั้งใส่ ใบหน้าของแอนเดรีย กราม และ หน้าอก

สำหรับลูกเตะครั้งที่สามนั้น หวังหยู่ก็รู้สึกว่าขาของเขานั้นถูกพันไปด้วยบางสิ่งที่นุ่มมากและยืดหยุ่น....สมกับเป็นบอสที่มีหน้าอกไซส์ 36E……

แล้วแอนเดรียก็หลบหนี ก็มีดวงดาวบินเป็นวงกลมไปบนหัวของเธอ

ลูกเตะที่สองของหวังหยู่นั้นก็คือ [เตะด้านข้าง] และผลกระทบเพิ่มเติมนั้นก็ติด!

ตั้งแต่ที่แอนเดรียนั้นยังคงเป็นบอส ระยะเวลา 2.5วินาทีของการมึนงงนั้นก็เหลือเพียงไม่ถึงวินาที ก่อนที่เธอจะฟื้นคืนสติได้

สำหรับหวังหยู่แล้วนั้น 1วินาทีมันก็มากกว่าเพียงพอแล้ว! ในวินาทีนั้นหวังหยู่ก็ขัดจังหวะการร่ายเวทย์ของเธอและมือซ้ายของเขายื่นไปทางลำคอของเธอ

ผิวหนังของแอนเดรียนั้นนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อและเนียน.....อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องสำคัญในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือ [บีบคอ] นั้นสามารถที่จะยกเลิกสกิลของเธอได้

ตามทฤษฏีแล้ว ตราบเท่าที่หวังหยู่ไม่ปล่อย ผลกระทบนี้ก็จะอยู่ไปตลอดกาล

ในวินาทีที่หวังหยู่จับไปที่คอของแอนเดรีย เปลวเพลิงรอบข้างก็หายไปในทันที เมื่อเห็นแบบนี้ คนที่เหลือก็เข้าใจกับความตั้งใจของหวังหยู่ในทันที และเริ่มที่จะร่ายสกิลสำคัญๆใส่แอนเดรีย

พร้อมกับมืออีกข้างที่ว่างเปล่าของเขา หวังหยู่ก็เริ่มที่กระหน่ำโจมตีไปที่ใบหน้าของแอนเดรียซึ่งทำให้คนอื่นนั้นถอนหายใจ

ชายคนนี้แม่งโหดเหี้ยมมากเกินไป.....แอนเดรียนั้นเหมือนเป็นหยกในกลุ่มหญิงสาว แต่หวังหยู่ก็ยังคงต่อยเธอไปทั่วทั้งใบหน้า...

แอนเดรียนั้นดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงและ แม้กระทั่งเป็นนักเวทย์ เธอก็ไม่สามารถที่จะดิ้นหลุดออกมาได้ โดยปราศจากเวทย์มนต์ของเธอแล้ว เธอก็เหมือนเสือที่ไร้เขี้ยวและสามารถที่จะยอมรับชะตากรรมของเธอได้เพียงเท่านั้น

“ความทระนงตัว! จับไว้!”

[บีบคอ] นั้นเป็นสกิลที่ใช้มานาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่หวังหยู่นั้นไม่ได้แบกโพชั่นมานามา แม้กระทั่งอุปกรณ์ของเขานั้นจะ

ฟื้นฟูมานาเป็นอย่างดีก็ตาม มันก็ไม่สามารถที่จะตามมานาที่ใช้ได้ทัน

พร้อมกับลูกเตะนั้น หวังหยู่ก็ทำให้เธอมึนงงอีกครั้งและความทระนงตัวก็พุ่งมาด้านหน้าและทำหน้าที่แทน

ความสามารถในการต่อสู้ระยะใกล้ของแอนเดรียนั้นน้อยเป็นอย่างมาก ดังนั้นหวังหยู่และความทระนงตัวนั้นเป็นคนที่จัดการเธอ เธอก็สูญเสียความสามารถในการต่อต้าน แม้กระทั่งหวังหยู่ก็ส่ง [เตะด้านข้าง] ใส่เธอทุกครั้งที่คูลดาวน์ของมันสิ้นสุดลงและทำให้เธอมึนงงเป็นครั้งคราว

นิกายซวนเฉินนั้นทำร้ายเธอจนกระทั่งพวกเขานั้นพึงพอใจ

ดันเจี้ยนนั้นเป็นสิ่งที่ไว้ทดสอบความสามารถของผู้เล่น ผู้เล่นนั้นจะติดตามพลังชีวิตของบอสไปในขณะที่หลบสกิลและควบคุมความเสียหายของ เพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเขานั้นจะไม่ดึงดูดค่าแอคโกรของบอสไปจากแท็งค์ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในพื้นที่นั้นสามารถที่จะเป็นผลลัพธ์ที่ทำให้ทั้งทีมโดนกวาดล้าง

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีหวังหยู่อยู่รอบๆ สิ่งพวกนี้ก็แตกต่างออกไปอย่างสมบูรณ์ มันเหมือนกับว่าเขานั้นมีความสามารถในการดึงค่าแอคโกรจนเป็นเรื่องปกติ ไม่สำคัญว่าบอสนั้นจะโหดเหี้ยมแค่ไหน เขาก็สามารถที่จะพึ่งพาความเสียหายอันท้าทายสวรรค์และกลยุทธ์อันเรียบง่ายของเขาในการจัดการมันได้!

พร้อมกับมีหวังหยู่อยู่รอบๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีแผน ไม่ต้องหลบสกิลหรือควบคุม พวกเขาก็สามารถที่จะใช้รัวสกิลของพวกเขาโดยปราศจากความกลัวที่แอคโกรจะเปลี่ยนไป!

“ลืมค่าแอคโกรไปซะ! เพียงแค่โจมตีมัน!”นี่คือความฝันของแท็งค์ในทุกแห่งหน แต่ในตอนนี้ นักต่อสู้ที่ที่เป็นที่รู้จักกันในขยะนั้นเป็นคนที่ทำมันได้สำเร็จ สำหรับผู้พิทักษ์แล้ว ขุนนางครอทก็กลั้นน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้ เขาพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะดึงค่าแอคโกรโดยใช้สกิลของเขา แต่แอนเดรียนั้นไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย....สิ่งที่เขาทำได้เพียงก็คือฟาดโล่ใส่หัวของเธอทำให้เธอมึนงงแค่นั้น….

ภายใต้การระดมการโจมตีของสองสถานะที่ทำให้มึนงงและสกิลขัดจังหวะสองสกิล แอนเดรียนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากกระสอบทราย และพลังชีวิตของเธอก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเธอมีพลังชีวิตเหลือ 30% ร่างกายของเธอก็สว่างวาบโดยแสงสีทอง [อารมณ์ของราชินีแห่งนรก] ก็ถูกใช้งานและส่งความทระนงตัวกระเด็ฯออกไป

หวังหยู่ใช้ [เข่าลอย] และพยายามที่จะขัดจังหวะสกิลของแอนเดรีย แต่เขาก็ตกตะลึงว่าเธอนั้นเพียงแค่ตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อเขาพยายามจะจับไปที่เธอ โล่สีเขียวอันสกปรกนั้นก็ปรากฏขึ้นรอบๆตัวเธอและบล็อกเขา

สำหรับการโจมตีของหวังหยู่นั้นก็กลายเป็นโดนอากาศแทน ร่างกายของแอนเดรียนั้นเริ่มที่จะบิดเบี้ยวและเปลี่ยนแปลงไป

“เธอกำลังแปลงร่าง! รีบหลบ!”ไร้ความกลัวตะโกนอย่างเร่งรีบ

เมื่อคนที่เหลือได้ยินคำสั่งของเขา พวกเขาก็เริ่มที่จะแยกย้ายและหลบซ่อน มีเพียงหวังหยู่ที่ยังคงพยายามในการโจมตีแอนเดรียต่อไป

เมื่อเป็นมือใหม่เกี่ยวกับการเล่นเกม หวังหยู่นั้นก็ไม่คุ้นเคยกับคอนเซปต์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอมตะ ไม่สำคัญหรอกว่าเขานั้นจะเป็นสัตว์ประหลาดมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายระบบได้

“กระทิงเหล็ก! หยุดพยายามที่จะตีเธอได้แล้ว! เธอเป็นอมตะในตอนนี้!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิ ตะโกน

“มันไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย!”หวังหยู่บ่น

“สมเหตุสมผล? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นายเคยเห็นเสาออกมาจากหมา?”

“นั่นมันจริง…”หลังจากที่ครุ่นคิดเกี่ยวเรื่องนี้ หวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงและพยายามโจมตีแอนเดรียเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหลบหนี

อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้นั้น มีแรงดึงดูดอันแข็งแกร่งดึงหวังหยู่ไว้ในที่ตรงนั้น

“ไอ้มนุษย์ที่หน้าด้าน! นายกล้าที่จะหลบหนีหลังจากที่ทำร้ายราชินีแห่งนรกงั้นเหรอ? ลิ้มรสความกราดเกรี้ยวของเปลวเพลิงนรกของฉันซะ!”

เมื่อเธอตะโกนแล้ว ใยแมงมุมขนาดใหญ่ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า

หวังหยู่นั้นก็รีบใช้งาน [โกสต์] และร่าย [ระลอกคลื่น] ใส่บนพื้นดินและยืมแรงของมันหลบหนีจากใย หลังจากที่หลบหนีจากตาข่ายได้แล้ว หวังหยู่ก็พุ่งหน้าไปหาแอนเดรียอีกครั้งหนึ่ง

“กระทิงเหล็ก ระวัง!”

“เหี้....!” เมื่อเขาหันกลับไป หวังหยู่ก็เห็นแอนเดรียและไม่สามารถที่จะควบคุมความตกตะลึงของเขาไว้ได้และเขาก็ด่า

นี่มันยังคงเป็นบอสตัวเดิมอย่างงั้นเหรอ? ทำไมผู้หญิงที่สมงามที่เปิดเผยคนนั้นหายไปไหนกัน?

ผมยาวของแอนเดรียนั้นจางหายไปและถูกแทนที่ด้วยหนาม ผิวที่สวยงามของเธอในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยรอยสักปีศาจ เธอนั้นยังคงมีคู่ดวงตาถูกเพิ่มเข้ามาและปากของเธอก็กว้างมากขึ้นพร้อมกับฟันที่แหลมคม ใบหน้าของเธอนั้นยืดออกมาจนเหมือนกับเป็นม้า!

สิ่งที่เป็นสัตว์ประหลาดมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ เธอนั้นมีแขนคู่หนึ่งเพิ่มขึ้นมาและด้านล่างของเธอก็กลายเป็นแมงมุม! เธอเปิดปากและจ้องไปที่หวังหยู่อย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าเขาจะเดาการแสดงออกของเธอไม่ออก มันก็เป็นเรื่องที่เด่นชัดว่ามันไม่เป็นมิตร…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด