ตอนที่แล้วChapter 57: สูตรยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 59: ตราบเท่าที่ผมอยู่กับเธอได้

Chapter 58: ไม่ต้องกังวล ผมอยู่ที่นี่แล้ว


Chapter 58: ไม่ต้องกังวล ผมอยู่ที่นี่แล้ว

สกิลสร้างยาพิษที่หาไม่ได้ทั่วไป!

เมื่อได้รับรูปภาพนี้ ทั้งแชทกิลด์ก็เงียบสงัดไปชั่วครู่หนึ่ง หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็พูดขึ้น “เย็....เหี้..! น้องกระทิง นายไปหาของไอ้พวกนี้มาจากไหนกัน? มาจากเควสของนายเรอะ? ฉันไม่สามารถที่จะเชื่อว่านายจะหาของดีๆแบบนี้มาได้!”

สกิลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรูนและยาพิษนั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด ในช่วงเวลานี้ แม้กระทั่งสกิลธรรมดาทั่วไปก็มีค่ามากกว่าสิบเหรียญทองซะอีก! ไม่ต้องพูดถึงสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไปทั้งสองเล่มนี้เลย!

ยาพิษที่สร้างมาจากสกิลธรรมดานั้นเท่าเทียมกับที่ขายในร้านค้า ดังนั้นอันที่สร้างมาจากหนังสือสกิลนี้นั้นก็จะมีระดับที่สูงกว่าอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดก็ตามที ผู้คนที่มีเงินน้อยกว่าห้าสิบเหรียญทองนั้นจะไม่สามารถที่จะได้หนังสือพวกนี้อย่างแน่นอน

“ผมพึ่งจะพูดไปว่า ผมไปช่วยเพื่อนทำเควสของเธอมา!”หวังหยู่พูดซ้ำก่อนที่จะเพิ่มเติมไปว่า “มันเป็นเควสลับ!”

“นายมั่นใจนะว่าไม่ใช่เควสของนายเอง?”ที่เหลือบ่น เขานั้นเพียงแค่ไปช่วยและเขาก็ได้รางวัลที่ยอดเยี่ยมแบบนี้มาอะนะ? มันไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย!

“โอ้ มันไม่ใช่ของรางวัลเควส ผมไปขู่กรรโชกพวกมันมาด้วยตัวเอง!”หวังหยู่อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโฮวาร์ดให้ที่เหลือฟัง

“….”

สมาชิกในนิกายซวนเฉินนั้นคิดว่าพวกเขานั้นยอดเยี่ยมอย่างมากในการโกง ใครจะไปคิดว่าหวังหยู่นั้นจะนำหน้าพวกเขาไปก้าวหนึ่งและไปขู่กรรโชกทรัพย์NPC ตรงๆแบบนี้กัน?

ถ้าพวกเขาไม่รู้ละก็ จะไม่มีใครเชื่อว่าหวังหยู่นั้นเป็นไก่อ่อนในการเล่นเกม ในตอนนี้เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดในพวกเขาและเขาก็ประสบความสำเร็จมากกว่าพวกเขาซะอีก! ชายคนนี้น่าเคารพมาก!

“หนังสือสกิลสองเล่มนี้มีค่าอย่างต่ำก็เล่มละ100เหรียญทอง..... ฉันไม่ได้มีเงินเท่านั้นในตอนนี้…”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับอย่างผิดหวัง

“มันไม่เป็นไร พี่ก็ติดผมไว้ก่อนแค่นั้นแหละ!”หวังหยู่หัวเราะ

“โอเค ถ้าอย่างงั้นละก็ฉันจะไปพบนายที่ร้านอาหาร!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิกรีบตกลงอย่างตื่นเต้น

ในช่วงเวลานี้ของเกมปกติแล้วร้านอาหารนั้นเงียบสงบมาก อย่างไรก็ตามมันกลายเป็นที่คึกคักอย่างมาก มันเป็นวันหยุดราชกาล….

หลังจากหาที่นั่งแล้ว หวังหยู่ก็ไม่ได้รอนานจนกระทั่งรัศมีฤดูใบไม้ผลิรีบวิ่งเข้ามา

“พี่ชายฤดูใบไม้ผลิ! ตรงนี้!”หวังหยู่รีบตะโกน

หลังจากรัศมีฤดูใบไม้ผลินั่งลง หวังหยู่ก็ยื่นหนังสือสกิลทั้งสองเล่มให้กับเขา

หลังจากที่ได้รับหนังสือพวกนี้แล้ว รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็พยักหน้าและพูด “นายจะเล่นต่อไหม ฉันจะออกจากเกมแล้ว!”

“ไม่นั่งคุยกันก่อนงั้นเหรอ?”หวังหยู่ถาม รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเร่งรีบจนแตกต่างจากตัวเขาในเวลาปกติที่เขานั้นใจเย็น

“ไว้ครั้งหน้า มันเป็นวันก่อนวันหยุดปีใหม่! ฉันจำเป็นที่จะต้องใช้เวลากับภรรยาและลูกของฉัน! พวกเขากำลังรอฉัน ก่อนที่จะกินข้าวเย็นกัน!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ

“โอ้….”มีเพียงสองคนในนิกายซวนเฉินที่แต่งงานแล้ว หวังหยู่ก็เข้าใจว่ารัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นยังไง

หลังจากที่รัศมีฤดูใบไม้ผลิจากไป หวังหยู่ก็เงียบอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะออกจากเกมไปด้วย

เมื่อมองไปที่นาฬิกาเขาก็พบว่า มันเป็นเวลาบ่ายสามแล้ว

“มันบ่ายสามแล้ว ดังนั้นบริการอาหารกลางวันที่ร้านอาหารน่าจะเลิกแล้ว ทำไมเซียนน้อยยังไม่กลับมา….หรือว่ามันจะต้องทำงานเพิ่มเนื่องจากวันหยุดก่อนปีใหม่?”

หวังหยู่นั้นมาจากทางเหนือ ดังนั้นครอบครัวของเขานั้นก็มีการรวมตัวกันกินข้าวเย็นในวันก่อนปีใหม่ด้วยเช่นกัน

เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แม้ว่ามันจะมีผู้คนที่กินข้าวในร้านอาหาร มันก็ไม่น่าจะยุ่งจนกระทั่งมู่จี่เซียนไม่สามารถที่จะกลับบ้านได้

เมื่อเห็นว่ามู่จี่เซียนยังไม่กลับบ้าน หวังหยู่ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและก็ตัดสินใจที่จะออกไปตามหาเธอด้วยตัวของเขาเอง

ตั้งแต่ที่มันเป็นเวลาหลายวันหลังจากวันที่หวังหยู่ออกจากบ้าน สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือถนนนั้นเต็มไปด้วยแสงไฟที่ประดับทางหลากหลายสี! แม้กระทั่งต้นไม้ก็ติดไฟไว้ด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีการจุดพลุก็ตาม ทั่วทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของปีใหม่

ร้านอาหารที่มู่จี่เซียนอยู่นั้นอยู่ห่างออกไปไม่เท่าไหร่จากบ้านของหวังหยู่ แล้วเขาก็ไปถึงมันโดยใช้เวลาไม่กี่นาที อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเข้าไปในร้าน เขาก็ได้ยินเสียงการพูดคุยและก็ทำให้เขากังวลอย่างช่วยไม่ได้

ด้านในร้านอาหารนั้นมีกลุ่มของผู้ชายที่ดูแข็งแกร่งยืนล้อมรอบโต๊ะและก็มีชายหนุ่มที่ดูร่ำรวยที่มีผมสีทองอยู่ตรงกลาง ด้านหน้าโต๊ะนั้น มู่จี่เซียนที่กำลังถือถาด ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจับไปที่แขนเสื้อของเธอและตะโกนอย่างดังก้อง “ไอ้กระห...เวรเอ้ย! มึงตาบอดเรอะ? เสื้อของพ่อมึงคนนี้มีค่าหลายพัน! มึงรับผิดชอบมันไหวเรอะ?”

“นายเป็นคนที่ทำให้ฉันสะดุด!”ชุดยูนิฟอร์มของมู่จี่เซียนนั้นก็เปียกโชกและมือของเธอนั้นก็เป็นแผล! ถึงแม้ว่าผิวของเธอนั้นจะค่อนข้างซีด เธอก็ยังคงมีบุคลิกภาพที่ดูแข็งแกร่งอยู่ดี

เธอนั้นมีบุคลิกภาพที่แข็งแกร่งมาก และเธอก็ไม่เคยให้ตัวของเธอนั้นโดนรังแกได้อย่างง่ายดายเลย

“เหี้...! มึงกล้าที่จะท้าทายกูเรอะ?”ชายผมทองนั้นเหวี่ยงแขนของมู่จี่เซียนไปและเหมือนกับว่าเขาต้องการที่จะต่อยเธอ

ทันใดนั้นเจ้าของร้านอาหารก็วิ่งออกมาและรีบไปบังมู่จี่เซียนและพูด “พี่ชายฮุย....ได้โปรด....เซียนน้อยยังเด็กอยู่ เธอไม่ได้รู้อะไรเลย คุณเป็นคนใหญ่คนโต ได้โปรดอย่ารังแกเธอเลย อย่าสู้กันเลย วันนี้เป็นวันก่อนวันปีใหม่ เสื้อของคุณราคาเท่าไหร่ครับ? ผมจะจ่ายให้คุณเอง!”

ชายผมทองจ้องไปที่เจ้าของอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะหัวเราะอย่างดูถูก “เฒ่าหยู่? นายคิดว่าฉันจะยอมรับการโดนคุกคามแบบนี้ได้งั้นเหรอ? ให้ฉันบอกนายนะว่า ฉันไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น!”

“ผมรู้! ผมรู้! ทุกคนนั้นรู้ว่าผู้ชายที่ยอดเยี่ยมแบบพี่ชายหยู่นั้นเป็นยังไง! คุณคือคนที่ปกป้องเขตทั้งเขตของเรา! เงินจำนวนน้อยนั้นเป็นจำนวนที่ผมต้องการที่จะจ่ายมัน…”เฒ่าหยู่นั้นรีบตอบกลับ

“ถ้าอย่างงั้นละก็ ฉันก็เป็นคนที่มี้เหตุผล ตั้งแต่ที่นายจริงใจ ฉันก็ไม่ต้องการที่จะกลายเป็นตัวตลกกับพี่น้องของฉัน! แล้วถ้าเป็นยังงี้ละ เสื้อของฉันมีราคา 8000 ดังนั้นพวกเราจำเป็นที่จะต้องได้ 10000 เพื่อเป็นค่ารักษาบาดแผลทางใจของพวกเรา!”ชายหัวทองหัวเราะอย่างหยิ่งยโส

“นี่มัน…”ใบหน้าของเฒ่าหยู่นั้นกลายเป็นไม่สะดวกสบายสักเท่าไหร่ ร้านอาหารของเขานั้นสามารถที่จะได้เงินไม่กี่พันต่อวัน เงิน 10000ดอลลาร์นั้นเป็นจำนวนที่เขาไม่สามารถทนมันได้อย่างง่ายดาย

“หื้ม? มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?”

“ไม่....ไม่…..”เฒ่าหยู่ฝืนยิ้มก่อนที่จะกระซิบกับคนเก็บเงินด้านหลังเขา “หลี่น้อย รีบไปเขียนเช็คเงิน 10000ดอลลาร์ให้พี่ชายหยู่”

“บอส! พวกเราไม่สามารถที่จะให้เงินกับเขาแบบนี้ได้! เขาแสร้งทำมันเพื่อให้ได้แบบนี้!”หลี่ซัวชี้ไปที่ชายหัวทองและอุทานขึ้น

ในเวลานั้นเอง ใบหน้าของเจ้าของร้านก็ดำมืดขึ้นและเขาก็รีบดึงแขนเสื้อของมู่จี่เซียนไว้และขู่ “หุบปาก!”

เมื่อทำงานธุรกิจมาเป็นเวลานาน เฒ่าหยู่นั้นก็รู้ว่าชายหัวทองนั้นต้องการให้มันเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้วเขาก็ไม่มีทางทำอะไรได้นอกจากทนมัน…

“ถูกแล้ว มันเป็นการตั้งใจทำ! แล้วเธอจะทำยังไงละ?”ชายหัวทองหัวเราะอย่างเยือกเย็น

“ฉันจะแจ้งตำรวจ!”เมื่อเห็นว่าเขานั้นยังคงมั่นใจ มู่จี่เซียนก็หยิบมือถือของเธอและเตรียมที่จะโทรหาตำรวจ

ชายหัวทองก็รีบคว้ามือถือจากมือของมู่จี่เซียนในทันทีและเขาก็ขู่อย่างคุกคาม “ฉันยอมไว้หน้ากับเธอและเธอก็ไม่ต้องการมันอีกงั้นเหรอ? ได้! ถ้าอย่างงั้นเด็กสาวที่กล้าหาญตัวน้อยคนนี้ก็ไม่เลวเลย! พาเธอไป!”

“พี่ชายฮุย พี่ไม่สามารถทำได้! เธอเป็นคนท้องถิ่น! ครอบครัวของเธออาศัยอยู่แถวนี้…”เจ้าของร้านรีบตะโกน

“ถ้ามีใครบางคนมาสร้างปัญหาให้กับนายะลก็ บอกว่าพี่ชายฮุยเอาเธอไป! ฉันแค่ต้องการเล่นกับเธอเล็กน้อย…ฉันไม่ทำเธอพังหรอก…”ชายหัวท้องหัวเราะเยาะแล้วเขาก็ยื่นมือไปแตะแก้มของมู่จี่เซียน

ทันใดนั้น มือใหญ่ก็โผล่มาจากด้านหลังมู่จี่เซียนและจับไปที่นิ้วของชายหัวทอง และก็ตะครุบเข้าให้!

“แคร๊ก!”เสียงแตกละเอียดดังขึ้นมาจากนิ้วมือของชายหัวทอง

“อ๊ากกกกกก!!!”ชายหัวทองคุกเข่าลงไปกับพื้นและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

“ที่รัก….ทำไมคุณอยู่ที่นี่…”เมื่อหันกลับไปดู มู่จี่เซียนก็เห็นหวังหยู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอและเธอก็เริ่มทีจะร้องไห้ออกมาในทันที

สุดท้ายแล้วเธอก็ยังเป็นแค่ผู้หญิง ไม่สำคัญว่าเธอนั้นกล้าหาญและแข็งแกร่งแค่ไหน ในสถานการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าเธอนั้นหวาดกลัวอย่างแน่นอน โดยที่เธอนั้นไม่ยอมให้เธอนั้นโดนดูถูก เธอจะต้องอดกลั้นไม่ให้ร้องไห้เอาไว้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้หวังหยู่นั้นปรากฏตัวขึ้น เธอก็ไม่สามารถที่จะอดทนมันได้อีกต่อไป

หวังหยู่ก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดแล้วเขาก็จับไปที่มือที่เย็นเฉียบของมู่จี่เซียนอย่างนุ่มนวล ในขณะที่เขาก็ลูบหลังเธอแล้วก็กระซิบ “ไม่ต้องกังวลไป ผมอยู่ที่นี่แล้ว…”

เมื่ออยู่ในอ้อมอกของหวังหยู่ และรู้สึกถึงมือที่อยู่ด้านหลังก็ทำให้มู่จี่เซียนนั้นรู้สึกสบายอย่างอธิบายไม่ได้ และเธอก็พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด