ตอนที่แล้วตอนที่ 134 ปืินดัดแปลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 136 ข้อมูลของฟาง เวิ่น

ตอนที่ 135 ดาบเพลิงคลั่ง


ผู้คนหลั่งไหลอยู่ที่ทางเข้าห้อง1121 ไม่นานหลังจากนั้น หลิน ฮวงผู้ที่พึ่งจะกลับมาจากการแลกอาหารเช้าก็ถูกพบเห็นโดยฝูงชน

 

“หัวหน้าหลิน มาแล้ว หลีกทางให้เขา!”คนหนึ่งตะโกน

คนที่ยืนแออัดต่างรีบแหวกทางให้หลิน ฮวงได้เดิน

“หัวหน้าหลิน คุณออกไปกินอาหารเช้ามาหรือครับ?”

“…”หลิน ฮวงไร้คำพูด

 

หลังจากที่เดินผ่านฝูงชนไปห้องเขา ท้ายที่สุดเขาก็พบต้นตอของเรื่องราว ฟาง เวิ่น ผู้ที่อยู่ในอันดับแรกและหลี่ ลี่อันดับสามได้มาอยู่ในห้องเขา เหล่าคนที่มีอันดับ4-10ล้วนยืนอยู่นอกห้องเขา เสี่ยว โม่เองกำลังนั่งอยู่กับฟาง เวิ่นและหลี่ ลี่ และเมื่อพวกเขาเห็นหลิน ฮวง ทั้งสามคนก็ยืนขึ้นในทันที

 

“น้องชายหลิน ชื่อของฉันคือฟาง เวิ่น”เขากล่าวอย่างนุ่มนวลพร้อมกับจับมือหลิน ฮวง เขาดูอายุประมาณ17หรือ18ปีเท่านั้น

“ชื่อของฉันคือหลี่ ลี่”ชายหนุ่มข้างเขากล่าว เขาดูอายุเกิน20ไปแล้ว เขาดูโตกว่าและสูงกว่าด้วยความสูงถึง1.8เมตร คนที่ติด10อันดับแรกล้วนมาอยู่ที่นี่เพื่อสรรเสริญเขาหลังจากที่ได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

“น้องชายหลิน ฮวง เรามาที่นี่เพื่อทำความรู้จักกับนาย มันคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราถูกส่งมาค่ายฝึกเดียวกัน และบางทีเราอาจจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันหลังจากที่เป็นสมาชิกของอีกาม่วง โปรดยอมรับของขวัญที่ด้อยค่านี้ด้วย”ฟาง เวิ่นกล่าวและวางแหวนเก็บของไว้ในมือหลิน ฮวง

“ขอบคุณ ฟาง เวิ่น”หลินฮวงยิ้มและยอมรับขอบขวัญโดยไม่ลังเล

 

หลังจากที่เขาฆ่า กง ซุนยี่ไปหลิน ฮวงก็ค้นศพเขาเพื่อให้ผู้คนคิดว่าเขาเป็นคนโลภและหาของขวัญมาให้เขา มันจะดีกว่าหากเขาสามารถได้รับบางสิ่งจากผู้คนในค่ายฝึกก่อนที่เขาจะจากไป

 

“ฉันได้ยินมาว่าน้องชายหลิน ชอบทักษะดาบ ฉันได้รับของดีมาก่อนหน้าและมันจะเสียเปล่าหากเราใช้มัน ฉันรู้สึกว่ามันจะเหมาะกับนายกว่า”หลี่ ลี่กล่าวขณะที่มอบคริสตัลทักษะต่อสู้ให้หลิน ฮวง เมื่อได้ยินว่ามันคือทักษะดาบ หลิน ฮวงก็เก็บของขวัญนั้นไปทันที จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็จากไปหลังจากการสนทนาสั้นๆ ผู้คนด้านนอกห้องเขาก็ส่งมอบของขวัญให้เขาเช่นกัน หลิน ฮวงไม่ได้ปฏิเสธใครเลย และครึ่งชั่วโมงต่อมาฝูงชนก็จากไปจนหมด

“อาหารเช้าของฉันเย็นแล้ว…”หลิน ฮวงพึมพำกับตัวเขา หลังจากที่ส่งทุกคนไปแล้ว หลิน ฮวงก็ส่ายหัวและถอนหายใจ

“ฉันจะหามาให้นายด้วย”เสี่ยว โม่กล่าวทันที เขาต้องการให้ของขวัญหลิน ฮวงเช่นกันแต่เขาไม่มีของล้ำค่าเลย

“ไม่เป็นไร มากินข้าวกันเถอะ”หลิน ฮวงส่งขนมปังที่เขาซื้อมาให้เสี่ยว โม่

 

หลังจากที่รับขนมปังมา เสี่ยว โม่ก็ลังเลและถาม“นับจากวันนี้ไป ให้ฉันได้เลี้ยงอาหารเช้าและอาหารเย็นนายเถอะ”

“ได้สิ นายสามารถเอาแต้มจากฉันไปได้ในภายหลัง”หลิน ฮวงพยักหน้า เขาคิดว่าเขาจะสามารถประหยัดเวลาได้ไปเยอะเมื่อเสี่ยว โม่วิ่งไปซื้อข้าวของให้เขา

“ไม่จำเป็น อาหารไม่ได้แพงนัก”เสี่ยว โม่โบกมือเขา

“แต้มมันจำเป็นสำหรับนาย แต่ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ขาดทักษะต่อสู้หรืออุปกรณ์ และฉันก็ไม่ได้สนใจการจัดอันดับ นอกจากนี้ ด้วยแต้มที่ฉันมีตอนนี้ ฉันสามารถใช้จ่ายได้นับหมื่นแต้มต่อวัน ซึ่งต่างกับนาย ทุกแต้มสำหรับนายล้วนมีค่า นายควรจะใช้มันเพื่อแลกดาบดีๆสักเล่ม”หลิน ฮวงอธิบาย

“ฉันใช้แต้มของฉันเพื่ออาหาร หากนายอึดอัดใจ งั้นนายก็ควรจะเลี้ยงอาหารฉันเมื่อเราออกไป”หลิน ฮวงบอกเขาและตบหลังเขา

“ได้เลย!”เสี่ยว โม่ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนออีกต่อไป

 

เพียงเมื่อพวกเขากำลังกิน พวกเขาก็ได้ยินเสียงประกาศถึงการประหาร พวกเขาทั้งคู่ออกจากห้องไปในทันทีและเดินตามฝูงชนไป จากนั้นทั้งสามคนก็ถูกผลักไปที่ใจกลางสนาม คนสุดท้ายนั้นจ้องมองมาที่เสี่ยว โม่ เขาคือคนที่อยู่อันดับที่4จากท้ายตาราง เมื่อหลิน ฮวงโกงแต้มให้เสี่ยว โม่ เขาจึงกลายเป็นคนที่ต้องถูกประหาร ตอนนี้ เขาจึงจ้องมองเสี่ยว โม่อย่างขุ่นเคือง

หลิน ฮวงสังเกตเห็นถึงคนนั้นที่จ้องมองเสี่ยว โม่ ดังนั้นเขาจึงวางมือลงบนไหล่และถาม“ไม่เป็นไรนะ?”

เสี่ยว โม่ส่ายหัวและหลบสายตาจากคนๆนั้น ในไม่ช้า การประหารก็เริ่ม หลังจากที่สองคนแรกถูกฆ่า มันก็ถึงเวลาสำหรับคนที่สาม

ชายสวมแว่นกันแดดจ่อไมค์ที่ปากเขา เขาควรจะบอกชื่อและวิธีการประหารของเขา

แต่ทว่า เขากลับยิ้ม“เสี่ยว โม่ อย่าลืมเสียละว่าแกเป็นหนี้ชีวิตฉัน!”

ชายสวมแว่นกันแดดขมวดคิ้วและพยักหน้าให้เพชรฆาต เพชรฆาตปิดปากเขาและกรีดคอเขาเพื่อไม่ให้พูดอีกต่อไป เลือดไหลทะลักออกจากคอเขา และเขาก็หายใจราวกับกล่องลมถูกดึงออกไป ทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงที่ขยายผ่านไมค์

เขาคนนั้นจับจ้องมาที่เสี่ยว โม่จนกระทั่งเขาตาย หลังจากการประหารจบลง เสี่ยว โม่ก็เอาแต่นิ่งเงียบตลอดทางกลับห้อง

 

“เขาตายไปแล้ว ไม่ต้องไปใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูดหรอก”หลิน ฮวงกล่าว

“เขาพูดถูก ฉันควรจะเป็นคนที่ต้องตาย ฉันเป็นหนี้ชีวิตเขา”เสี่ยว โม่ส่ายหัว

“นายแค่โชคดีที่รอดมาได้ นายไม่ได้เป็นหนี้อะไรเขาทั้งนั้น’หลิน ฮวงกล่าวอย่างหนักแน่น”หากนายยังคงฝังลึกเรื่องนี้ไว้ในใจ ชีวิตนายจะไม่มีทางสงบสุข ไม่สำคัญว่านายจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน เขาก็ตายไปแล้ว ดังนั้น ฉันขอแนะนำให้นายทิ้งมันไว้ข้างหลัง เมื่อนายออกไปและกลายเป็นสมาชิกสำรองของอีกาม่วง นายก็สามารถหาญาติพี่น้องเขาได้เพื่อดูว่านายสามารถชดใช้อะไรให้เขาได้บ้าง”หลิน ฮวงกล่าวต่อ

เสี่ยว โม่เงียบไปสักพักก่อนที่จะพยักหน้า

“หมั่นฝึกฝนเข้าไว้นายจะได้ไม่คิดมาก ไปต่อสู้ในหอคอยฝึกฝนซะ มันจะช่วยนายปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้น”หลิน ฮวงกล่าว

“อื้อ”เสี่ยว โม่พูดและลูกขึ้น จากนั้นเขาก็โบกมือลาหลิน ฮวงและจากไป

 

หลิน ฮวงนั่งอยู่ที่เตียงเขาเพื่อดูของขวัญจากฟาง เวิ่นและคนอื่น แหวนเก็บของไม่ใหญ่นัก มันมีขนาดประมาณ1000ตารางเมตร แต่มีคริสตัลชีวิต3000ชิ้นอยู่ข้างใน หนึ่งคริสตัลชีวิตเทียบได้กับ100ปี เช่นนั้น 3000คริสตัลชีวิตก็จะแลกได้3พันล้านเครดิต!

“ว้าว!ฟาง เวิ่น ช่างร่ำรวยนัก!บางทีเขาอาจจะมาจากราชวงศ์ และต้องไม่ใช่ตระกูลราชวงศ์เล็กๆ...”มันไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะคิดถึงเบื้องหลังของฟาง เวิ่น แต่ที่แน่ๆเขาจะไม่ใช่คนใจปล้ำเฉยๆ

 

หลังจากที่เก็บแหวนของฟาง เวิ่นไป หลิน ฮวงก็มองไปที่ทักษะดาบของหลี่ ลี่ จากนั้นเขาก็มองไปที่รายละเอียดของคริสตัลทักษะ ดาบเพลิงคลั่งถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์ดาบเมื่อ300ปีก่อนจากการผสมผสานทักษะดาบที่เขาใช้เวลาค้นคว้าถึง7ปี...

 

“เสี่ยว เฮย ทักษะดาบนี่เป็นยังไง?”หลิน ฮวงรู้ว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าคำพูดของเสี่ยว เฮย เพราะเขายังไม่ได้ฝึกฝนมัน

“ท่านกำลังล้อข้าเล่น?”เสี่ยว เฮยตอบกลับ หลิน ฮวงไม่คิดว่าจะได้ยินเช่นนั้น เขานั่งตัวตรงในทันที ทักษะต่อสู้ที่อยู่ในระดับสุดยอดเพียงอันเดียวของเขาก็คือวิชาดาบใหญ่ เขาไม่อาจเชื่อได้ว่านี่จะเป็นทักษะดาบใหม่ที่สามารถเลื่อนเป็นระดับสุดยอดได้

“ข้าไม่เคยโกหกท่าน ทักษะดาบนี่ยังไม่สมบูรณ์ แต่มันมีศักยภาพมากพอ ข้าขอแนะนำให้ท่านฝึกมันทันที”เสี่ยว เฮยกล่าว

 

มันเป็ฯครั้งแรกที่หลิน ฮวงได้ยินความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับทักษะต่อสู้

 

“หากมันกลายเป็นระดับสุดยอด และเทียบได้กับวิชาดาบใหญ่ อันไหนจะทรงพลังกว่ากัน?”

“มันไม่อาจเปรียบเทียบได้ก่อนที่ท่านจะเปลี่ยนเป็นการ์ดทักษะ”เสี่ยว เฮยกล่าว เกือบจะเยาะเย้ย

 

หลังจากที่คิดสักพัก หลิน ฮวงก็ระบุได้ว่าทักษะดาบนี้จำต้องใช้ชิ้นส่วนการ์ดและเขาไม่อาจสะสมพวกมันได้ในเวลาอันสั้น เมื่อเขาเข้าไปในหอคอยฝึกฝน เขาต้องใช้พลังงานจำนวนมากรวมถึงเวลา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาต้องหาวิธีหลบหนีไปจากที่นี่ให้ได้ภายในสองเดือนครึ่ง

จากนั้น เขาก็เก็บคริสตัลทักษะต่อสู้และมองหาของขวัญชิ้นอื่น ด้วยทักษะดาบที่น่าอัศจรรย์ ไม่มีของขวัญใดที่ทำให้เขาตื่นเต้นอีกต่อไป หลังจากมองผ่านๆ หลิน ฮวงก็นอนบนเตียงและเริ่มคิดถึงวิธีหลบหนี แมม้ว่าทักษะชีวิตเขาที่ค่ายฝึกจะดีและผู้คนของอีกาม่วงจะชอบเขา หลิน ฮวงก็ไม่ชอบวิธีการของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเช่นนี้

 

“หน้าบากกำลังจับตาดูฉันอยู่ ทันทีที่ฉันใช้การ์ดแปลงร่าง เขาจะจับได้ว่าฉันหายไป ไม่มีทางที่ฉันจะหลบหนีได้พ้น...”

“นอกจากนี้ มันยังไม่มีจุดบอดทั่วทั้งเมืองเนื่องจากมีกล้องติดอยู่รอบๆ พวกเราไม่มีความเป็นส่วนตัวแม้กระทั่งตอนอาบน้ำหรือใช้ห้องน้ำ พวกเราถูกจับตาดู24ชั่วโมง พวกเขาใช้แม้กระทั่งใช้นกจับตามองเราในพื้นที่ฝึก.....”

“ดูเหมือนว่าจะมีอยู่สองทางเท่านั้น หนึ่งคือกลายเป็นสมาชิกสำรองของอีกาม่วงและถูกนำตัวไปโดยเจ้าหน้าที่ อีกทางคือศพของฉันจะถูกส่งไปนอกเมือง...”

“ซึ่งหมายความว่า วิธีเดียวที่จะหลบหนีไปจากที่นี่ได้คือการแกล้งตาย!”หลิน ฮวงสรุป

“อย่างไรก็ตาม ฉันต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาจะส่งศพของฉันไปที่ไหนและจะจัดการกับศพยังไง หากบางสิ่งผิดพลาด ฉันอาจจะตายจริงๆ....”

 

หลังจากคิดอยู่สักพัก หลิน ฮวงก็เริ่มวางแผนหลบหนี เขาเดินออกจากห้องเขาและมองไปที่ลานจากระเบียง ศพของกง ซุนยี่ไม่อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป เขาแสยะยิ้มและเดินไปในห้องข้างๆ เขาเคาะประตูเหล็ก“นายรู้ไหมว่าฟาง เวิ่นพักอยู่ห้องไหน?”เขาถามเพื่อนข้างห้อง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด