ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 1 : กองกำลังสมุนปีศาจ (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 2 : ฟักไข่ (1) [อ่านฟรี]

เล่ม 2 ตอนที่ 1 : กองกำลังสมุนปีศาจ (3) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 1 : กองกำลังสมุนปีศาจ (3)

หลังจากง่วนกับการฆ่ามนุษย์สุนัขอยู่ครึ่งค่อนวัน เขาก็หาหมู่บ้านพบจนได้

มันตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่ดูไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก มีบ้านอยู่เพียงแค่สี่สิบหลังคาเรือน แต่ผู้คนทั้งหมดก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในนั้น ยังคงมีบ้านที่คล้ายกระท่อมอยู่จำนวนหนึ่ง เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นหมู่บ้านที่มีอะไรมากนักเพราะตอนนี้เห็นคนในหมู่บ้านแค่หนึ่งหรือสองคนเอง

ในเมื่อมันเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากเมือง เขาจึงไม่พบเห็นผู้เล่นแม้สักคน

แต่ก็นั่นแหละ ถ้าหากไม่ใช่อาร์คที่เดินทางข้ามภูเขาลัดป่าฝ่าดงมุ่งมาทางนี้เพราะคันฉ่องที่นำทางมาแล้วล่ะก็ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พวกเขาจะพบเจอกับหมู่บ้านชายเขาเช่นนี้ บางทีอาจเป็นเพราะหมู่บ้านนี้มีสภาพไม่ค่อยดีนัก เพราะตอนที่เขายืนอยู่ในหมู่บ้านแล้ว แผนที่ยังไม่มีการจดจำตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ

“ที่นี่ดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลย” เจ้าค้างคาวพึมพำด้วยเสียงบางเบาบนไหล่ของอาร์ค

“หุบปากไว้เถอะน่า”

เมื่ออาร์คเข้ามาในหมู่บ้าน เขาแขวนเจ้ากะโหลกเอาไว้ที่เอวและเจ้าค้างคาวไว้ที่ไหล่ พวกมันคล้ายกับเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง แต่เป็นเพราะพวกมันคือสมุนปีศาจ ในเมื่อพวกมันเป็นทั้งอันเดตและปีศาจ อาร์คจึงไม่คิดปล่อยให้พวกมันถูกพบเจอโดยเอ็นพีซีในหมู่บ้าน

‘เอาล่ะ คิดแล้วคงไม่มีเหตุอะไรให้ต้องกลับมาหมู่บ้านนี้อีกเป็นครั้งที่สอง ดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรเอาเสียเลย...’

อาร์คมองเข้าไปยังหมู่บ้านด้วยดวงตาเฉยชา กระทั่งว่าหมู่บ้านนี้ค่อนข้างทรุดโทรม แต่ก็นับได้ว่าเป็นโอเอซิสของเหล่านักเดินทาง มันยังมีร้านขายของตั้งอยู่

‘โล่งอกไปที’

อาร์คพ่นลมหายใจออกมาขณะมองไปยังสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋า

เป็นเพราะเขาจดจ่ออยู่กับการออกล่าอยู่หลายวัน นอกจากนี้ เขายังเก็บรวบรวมวัตถุดิบทำอาหารทั้งหมดเท่าที่พบเจอมา ต้องขอบคุณสิ่งนี้จึงทำให้กระเป๋าของเขามันเต็มปริบจนไม่มีช่องว่างเหลือ แม้ว่าพื้นที่ในกระเป๋าจะขยายขึ้นมาหน่อยเพราะเปลี่ยนอาชีพ แต่ไอเทมส่วนใหญ่ที่มีก็เป็นเขาได้รับมาจากการล่าในพื้นที่แถบนี้ บางทีเขาต้องโยนพวกมันทิ้งไปบ้างเพราะพื้นที่ในกระเป๋าไม่พอ

อย่างน้อยหลังจากมาถึงหมู่บ้าน เขาก็ยังพอที่จะโยนพวกมันทิ้งไปได้โดยไม่ต้องหลั่งน้ำตาออกมา

‘ถ้าหากเราเอาพวกมันมาได้หมด คงทำเงินได้สักหกเหรียญทอง’

หกเหรียญทองมีค่าเทียบได้กับหกหมื่นวอน

เขาถึงกับโยนเงินหกหมื่นวอนทิ้งลงไปกับพื้น

ถ้าหากเขานึกภาพย้อนไป มันคงเป็นใบกะหล่ำปลีหกใบที่กำลังลอยลิ่วปลิวหายไป ทั้งหมดแทบทำเอาเขาเป็นบ้าเลยทีเดียว

*ใบกะหล่ำปลีในที่นี้หมายถึงธนบัติเงินวอน เพราะธนบัติในเกาหลีมีมูลค่า 10,000 วอน ดังนั้นแล้ว 6 ใบจึงหมายถึง 60,000 วอน*

 

‘ยังดีแหละนะที่เจอหมู่บ้านที่นี่’

เขากลัวที่จะต้องจินตนาการว่าต้องสูญเสียมากเพียงใดหากไม่เจอหมู่บ้าน

‘ถ้าเราต้องเดินทางข้ามภูเขาอีก ไม่รู้เลยว่าจะเจอกับหมู่บ้านอีกทีเมื่อไหร่ ก่อนจะไปเราควรเตรียมกระเป๋าให้พร้อมและซื้อหาสิ่งที่จำเป็นต้องใช้’

เมื่ออาร์คเดินเข้าไปในร้าน เจ้าของพลันเผยสีหน้าประหลาดใจ

“เอ? นี่เจ้า... เป็นคนต่างถิ่น?”

“ครับ”

“คนต่างถิ่นที่มายังหมู่บ้านของเรา... ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามันผ่านมานานแล้วเพียงใด”

อาร์คคิดว่าการพูดคุยแบบสุภาพน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

“ผมอยากขายพวกนี้ทั้งหมดเลยครับ”

เจ้าของร้านจ้องมองไอเทมเหล่านี้และพูดกล่าวเพียงประโยคสั้น “ย่อมได้ ข้าให้ราคาทั้งหมดนี่ 10 เหรียญทอง”

“ว่าอะไร?” อาร์คคล้ายหูฝาด

“เมื่อกี้ท่านพูดว่า 10 เหรียญทอง?”

“ถูกต้องแล้ว มีอะไรผิดแปลกไปรึ?”

“ไม่เห็นหรือว่าไอเทมเต็มกระเป๋า? ไม่พิจารณาให้ดีก็บอกราคา 10 เหรียญทองแล้ว? พวกนี้มันไม่ใช่ขยะนะ นี่ท่านให้ราคาตามน้ำหนักของกระเป๋าหรือไงกัน?”

“แค่มองผ่านข้าก็บอกได้แล้ว มีของดีจำนวนมากหรือไร? ไม่มีอะไรดูมีค่าด้วยซ้ำ พวกสิ่งของเหล่านี้ทำเงินได้ไม่มากหรอกนะ” เจ้าของร้านพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขวานผ่าซาก

สินค้าที่ได้รับมาโดยง่ายในพื้นที่จะถูกขายในพื้นที่ได้ด้วยราคาที่ต่ำกว่าตลาด แต่นี่มันอะไรกัน? เพราะอาร์คใช้ทักษะเวทมนตร์ฟื้นฟูเพื่อเพื่อยกระดับความชำนาญกับอุปกรณ์ที่ได้รับมา อย่างมากที่สุดค่าความทนทานของมันก็คือหนึ่ง ไอเทมที่มีค่าความทนทานหนึ่งนั้นหากเอามาขายก็คงไม่อาจได้สักเหรียญทองแดง เขาไม่อาจต่อว่าอะไรได้ที่ตั้งราคาตามน้ำหนักเหมือนขยะเช่นนี้

แต่ว่านี่...

‘ห้าวันเลยนะ เราออกล่าถึงห้าวันโดยไม่พักผ่อนแต่ได้แค่ 10 เหรียญทอง?’

ยิ่งไปกว่านั้น อาร์คยังใช้กล่องเครื่องมือระดับหรูหราไปกล่องหนึ่งเพื่อซ่อมแซมในช่วงที่ออกล่า เป็นเพราะเขาไม่คิดที่จะเอาอุปกรณ์สวมใส่ระดับวิเศษของตนไปเสี่ยงกับเวทมนตร์ฟื้นฟูขั้นต้นในตอนนี้

นั่นหมายความว่าเขาเสียค่าใช้จ่ายไปถึง 15 เหรียญทองเพื่อเป็นค่าซ่อมแซมแต่กลับได้รับกลับมาเท่านี้? ถ้าหากเขาคิดจุดคุ้มทุน เขาต้องได้รับอย่างน้อยยี่สิบเหรียญทองถึงจะสมราคา

แต่นี่มัน 10 เหรียญทองไม่ใช่ 20 เหรียญทอง!

‘อึก ผลการล่าราวคนบ้าของเรากลับเป็นขาดทุน...’

หัวใจเขาราวโดนบีบเค้น

อาร์คขายผ้าคลุมและอุปกรณ์เซ็ตสวมใส่ของนักรบไปเมื่อไม่นานมานี้ จนโชคดีได้รับเงินถึงเจ็ดล้านวอน แต่เหตุผลที่ไอเทมพวกนั้นมีราคาแพงเพราะพวกมันยากจะได้รับ เขาไม่มีอะไรอื่นนอกจากคาดหวังว่าโชคจะยังดีเช่นนั้นต่อไป แต่ความเป็นจริงไม่ง่ายขนาดนั้น

แทนที่จะคาดหวังว่าจะได้รับโชคลาภ การเก็บเล็กสะสมน้อยนั้นสมควรเข้ากับความเป็นจริงมากกว่า และผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างก็ใช้วิธีการนี้เพื่อออมเงินเอาไว้ สำหรับผู้เล่นแล้ว 1 เหรียญทองนับได้ว่าเป็นโชคลาภก้อนใหญ่

แต่นี่ขาดทุน? มันเป็นไปได้ด้วยหรือ?

อาร์คเผยสีหน้าอ้อนวอนอย่างเต็มที่ “ได้โปรดให้ผมอีกสักเล็กน้อยได้ไหมครับ?”

“ดูเหมือนเจ้าจะรู้สินะว่าแท้จริงแล้วมันไม่สัมพันธ์กับราคาตลาด แต่ว่านะ ข้าคิดที่จะละทิ้งร้านนี้แล้วออกไปจากหมู่บ้านแล้วล่ะ กล่าวตามตรง กระทั่งว่าข้าซื้อพวกมันด้วยราคาดี แต่มันก็เป็นได้เพียงแค่สัมภาระอย่างที่เจ้าเห็น ถ้าหากเจ้าไม่ต้องการขาย ข้าก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด”

ไม่ได้ผลดังที่คาด ในเมื่อหมู่บ้านนี้เขามาเป็นครั้งแรก ค่าความสัมพันธ์ย่อมเป็นศูนย์ การต่อรองราคามันแทบเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว

ถ้าหากเป็นร้านในปราสาทแจ๊คสันที่เขามีสัมพันธ์อันดีด้วย อย่างน้อยเขาจะได้รับเพิ่มอีก 10% หรือว่า 20% ถ้าหากพิจารณาจากราคาขายในท้องตลาดกับความหายากด้วยแล้ว เขาสมควรได้รับมากกว่านี้สักเท่าตัวหนึ่ง แต่เขาก็ไม่อาจที่จะแบกสัมภาระพวกนี้กลับไปเมืองแจ๊คสันเพื่อเงินอีก 10 เหรียญทอง

เขาอดไม่ได้ที่จะต้องพยักหน้าทั้งน้ำตา

“เข้าใจแล้วครับ ได้โปรดซื้อพวกมันทั้งหมดด้วย”

“เจ้าคิดถูกแล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ว่าแถวนี้ไม่มีหมู่บ้านอื่นใดอีก... หา! ไม่จริงน่า? นี่มันหนังมนุษย์สุนัขสีเทา?”

“รู้จักมันสินะ?”

อาร์คหูแทบกางออก เขาเร่งร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็วและลูบมือของตนซ้ำไปมา

“มันเป็นหนังของมอนสเตอร์ที่ผมจัดการไปด้วยความยากลำบาก พวกมันนับว่าแข็งแกร่งเอาเรื่อง ทุกครั้งต้องสู้กับพวกมันทีละตัว ที่จริงแล้วแทบเอาตัวไม่รอดจากความตายเลยล่ะ กล่าวตามตรงนะ ถ้าหากไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นล่ะก็ผมคงไม่รอดจนถึงตอนนี้ เพราะงั้นท่านไม่คิดว่าหนังแผ่นนี้ควรขายให้ได้ราคากับสิ่งที่กระผมลงทุนไปหน่อยหรือ? อา ในเมื่อท่านคิดว่าจะปิดร้านนี้อยู่แล้ว งั้นผมก็คงไม่คาดหวังอะไรมากนัก ก็แค่ถามเผื่อว่าท่านจะรู้ถึงความยากลำบากของผมเพิ่มสักนิดก็ยังดี...”

“เจ้าพูดว่าล้มมันได้?”

“แน่นอน”

“งะ-งั้นเจ้าจะบอกว่าข้ามภูเขาอากัสมางั้นเรอะ?”

“ครับ ผมไม่รู้ทางก็เลยข้ามภูเขามา ทำไมเหรอครับ?”

“น่าประหลาดใจมาก แม้ว่าคนพวกนั้นจะไม่ได้เดินทางมาลำพังก็เถอะ... แต่นี่เจ้าข้ามผ่านสถานที่แห่งนั้นด้วยกำลังของตนเอง ดูเหมือนเจ้าจะเป็นนักผจญภัยที่น่าประทับใจกว่าที่ข้าคิดนะ บางที...”

เจ้าของร้านเริ่มจ้องมองอาร์คด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

“ถ้าหากเรื่องที่เจ้าจัดการมนุษย์สุนัขเป็นจริง ข้าจะซื้อทั้งหมดนี่ในราคา 20 เหรียญทอง”

“จะ-จริงเหรอครับ?”

“ในทางกลับกัน ช่วยฟังคำขอร้องของข้าได้ไหม?”

ปากของอาร์คตอนนี้แทบฉีกยิ้มกว้างไปถึงใบหู

‘คำขอของเอ็นพีซี! หรือก็คือภารกิจ!’

เขารู้สึกยินดีแทบตายที่ได้รับเงินเพิ่ม แต่กระทั่งว่าได้รับภารกิจด้วย!

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ผู้เล่นยังเข้าไม่ถึง กล่าวก็คือ ภารกิจนี้ยังไม่มีใครรู้จัก การจะได้รับรางวัลจากมันเพราะเขาค้นพบภารกิจนั้นก็ทำเอาหัวใจแทบกระโจนทะยานฟ้าแล้ว

อาร์คเร่งร้อนพยักหน้า เจ้าของร้านเริ่มพูดต่อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ที่จริง หมู่บ้านนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนนอกสักเท่าไหร่ มันถูกจัดตั้งขึ้นโดยผู้บุกเบิกจำนวนหนึ่ง แม้จะเป็นสถานที่แห้งแล้งตรงเชิงเขา แต่ถ้ามีถนนตัดผ่านก็สามารถนับได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่พัฒนาแล้ว มันมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตขึ้นจนเป็นจุดพักระหว่างพื้นที่แจ๊คสันกับเมืองการค้าแห่งอื่น”

เจ้าของร้านมีนามว่า กาเลน เขาเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกยุคแรก กาเลนเริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่น่าเวทนา

“ในช่วงเริ่มต้นทุกสิ่งล้วนน่าพึงพอใจ พวกเราเป็นกังวลเรื่องที่มีมอนสเตอร์อยู่ค่อนข้างมาก แต่พวกเราก็มีผู้นำที่มีนามว่า แลนเซล เขาเป็นทหารรับจ้างมากประสบการณ์ เช่นนั้นแล้วมอนสเตอร์ส่วนใหญ่จึงไม่อาจนับเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้ พวกเรารวมตัวกับเขาจนเกิดขึ้นเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน ข้าไม่อาจลืมความรู้สึกของผู้คนในตอนนั้นได้ ทุกคนต่างมีความสุขจนต้องหลั่งน้ำตา”

“แต่หมู่บ้านนี้ดูแล้วไม่ได้มีกองกำลังอะไรขนาดนั้นนี่ครับ”

“ถูกแล้ว ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะพวกบัดซบมนุษย์สุนัข”

“พวกมนุษย์สุนัข?”

“เดิมทีพื้นที่นี้หาได้มีพวกมนุษย์สุนัขอยู่ไม่ แต่พวกมนุษย์สุนัขนั้นเข้ารุกรานเป็นฝูงจากที่ไหนสักแห่ง จากนั้น พวกมันก็เริ่มตั้งถิ่นฐานในถ้ำลึกภายในภูเขาเป็นศูนย์กลาง จากนั้นความฝันของพวกเราชาวหมู่บ้านที่จะสร้างถนนเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นก็ถูกทำลาย พวกมนุษย์สุนัขทำให้พวกเราต้องหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทาอยู่แทบทุกวี่วัน”

“ท่านไม่คิดไปร้องขอความช่วยเหลือเลยเหรอครับ?”

“แน่นอนว่าพวกเราคิด แต่ว่า หมู่บ้านแห่งนี้มีคนเพียงแค่หยิบมืออาศัยอยู่และอยู่ระหว่างการพัฒนา พวกเราไม่อาจจ่ายค่าจ้างให้กับทหารรับจ้างจำนวนมากได้ ถ้าแลนแซนยังอยู่ก็คงดี”

“ถ้าเขายังอยู่ก็คงดี...?”

กาเลนส่ายศีรษะด้วยสีหน้ามืดมน

“แลนเซลเป็นนักรบชั้นสูงอย่างแท้จริง เขาต้านทานพวกมนุษย์สุนัขเหล่านั้นเอาไว้และขับไล่พวกมันจากหมู่บ้านได้หลายครั้งครา ทว่า แลนเซลคิดว่าลำพังตนไม่อาจช่วยเหลือหมู่บ้านไว้ได้ เขาเชื่อมั่นและรวบรวมชาวบ้านและมุ่งหน้าไปยังถ้ำด้วยตนเองเพื่อจบเรื่องราวกับมนุษย์สุนัข พวกเราเชื่อมั่นในแลนเซลว่าเขาต้องทำได้ พวกเราไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย แต่มันเป็นกับดัก กระทั่งแลนเซลก็ไม่ทราบว่ามีอะไรรอคอยอยู่หากก้าวเท้าเข้าไปในถ้ำนั่น”

“กับดัก?”

“ข้าไม่ทราบว่าพวกมนุษย์สุนัขเหล่านั้นเลี้ยงดูได้อย่างไร แต่มันมีอสรพิษจำนวนมหาศาลอาศัยอยู่ภายในถ้ำ จำนวนของมันเยอะเกินจะนับได้ ท้ายที่สุด พวกเราโดนการโจมตีจนแตกตื่นจากทั้งมนุษย์สุนัขและพวกอสรพิษจนพวกเราต้องล่าถอย แต่แลนเซลหาได้ยอมแพ้จนถึงท้ายที่สุด เขามุ่งเข้าไปในถ้ำและสู้อย่างอาจหาญ ผ่านไปหลายชั่วโมง มันมีเสียงร้องที่ดังลั่นสนั่นไปทั่วทั้งถ้ำ ทว่า... ผู้กล้าแลนเซลของพวกเรานั้นไม่ได้กลับมาอีกนับแต่นั้น”

“เขาเป็นคนที่น่ายกย่อง”

“ใช่ เขาคือนักรบที่แท้จริงเหนือผู้ใด”

กาเลนถอนหายใจออกมา

“ไม่ว่าจะอย่างไร หลังเกิดเรื่องราวขึ้น ประชากรในหมู่บ้านต่างก็จากไปทีละคน ไม่อาจต่อว่าพวกเขาในเรื่องนี้ พวกเขาหวาดกลัวดงอสรพิษเหล่านั้น และกระทั่งผู้นำอย่างแลนเซลยังเสียชีวิตไป เช่นนั้นแล้วพวกเขาต้องสูญเสียกำลังใจที่จะเดินหน้าไปต่อ แม้ว่าหมู่บ้านนี้จะเป็นความพยายามอย่างหนักของพวกเรา มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรไปมากกว่าชีวิตของพวกเขา ข้านั้นอดทนมานานยิ่งแล้ว แต่คิดแล้วก็คงอีกไม่นานหรอก”

“ต้องการให้ผมทำอะไร จัดการพวกมนุษย์สุนัขในถ้ำนั่น?”

“จะ-เจ้าจะช่วยหรือ?”

“แน่นอนว่าช่วยได้ จะยังไงผมก็เป็นนักผจญภัยนะ จะเมินเฉยไปได้ยังไงกัน?”

“อย่างที่ข้าบอกไปก่อนหน้านี้ ข้าไม่มีรางวัลอะไรให้มากมายนัก”

“ผมรู้ ในเมื่อมันเป็นสถานที่ที่ท่านฝากชีวิตเอาไว้ มันก็ไม่อาจโกหกได้ว่าท่านไม่ต้องการให้รางวัลใด แต่ที่ผมช่วยนั้นไม่ได้เพื่อหวังรางวัลใหญ่ แค่ท่านมอบความจริงใจกลับมานั้นก็เพียงพอแล้ว”

อาร์คกำลังเอ่ยคำส่อความหมายให้เขามอบสิ่งมีค่าที่สุดออกมา

มนุษย์สุนัขเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถล่าได้ง่ายด้วยระดับเลเวลของเขา

ในเมื่อมันเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่เป็นกลุ่ม เขาจึงสามารถได้รับค่าประสบการณ์มากมายจากพวกมัน ถ้าหากเขาคิดออกไปล่า ยังไงก็ดีกว่าหากมีภารกิจพ่วงไปกับการล่าด้วย

นี่ก็คล้ายกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

กาเลนนั้นไม่ทราบถึงความหมายโดยนัยจึงกล่าวออกด้วยสีหน้าทราบซึ้งใจ

“ขอบคุณเจ้ามาก งั้นเอาแบบนี้เป็นไง ถ้าหากเจ้าจัดการมนุษย์สุนัขในถ้ำนั่นและนำแผ่นหนังของพวกมันมาได้ ข้าจะจ่าย 20 เหรียญเงินสำหรับแต่ละผืน และถ้ามันมีโอกาสที่เจ้าจะสามารถจัดการมนุษย์สุนัขทั้งหมดภายในถ้ำได้และนำความสงบกลับคืนสู่หมู่บ้าน ข้าจะขอมอบอีก 10 เหรียญทองเป็นการตอบแทนความสำเร็จนั้น แน่นอนว่ามันไม่อาจนำรางวัลนี้ไปเทียบกับอันตรายที่เจ้าต้องเผชิญได้ แต่นี่คือสิ่งที่ข้าสามารถมอบให้ได้”

“มันมีพวกมนุษย์สุนัขอยู่กี่ตัวกัน?”

“พวกเราไม่ทราบแน่ชัดนัก บางที พวกเราคิดว่าน่าจะมีสักร้อยตัว”

‘20 เหรียญเงินต่อตัว! ร้อยตัวก็เท่ากับ 20 เหรียญทอง!’

อาร์คที่ใบหูตอนนี้คล้ายได้ยินเสียงเหรียญดังกระทบกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่รางวัลที่เพียงพอนัก แต่มันก็ไม่ใช่รางวัลที่น้อยนิด มอนสเตอร์เลเวล 40 นั้นหากนำแผ่นหนังของมันไปขายก็ได้ราคาเพียงแค่ 5 เหรียญเงินจากร้านค้า แต่นี่กาเลนเสนอให้มากกว่าถึง 4 เท่าจากราคานั้น ข้อเสนอเท่านี้กับภารกิจของหมู่บ้านในภูเขา นับได้ว่าสมน้ำสมเนื้อเอาเรื่อง

‘ถ้าหากสำเร็จงานก็จะได้อีก 10 เหรียญทองต่างหาก ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยนิดเลย!’

“ข้าต้องขออภัยที่ไม่อาจมอบอะไรให้สำหรับการกำจัดพวกอสรพิษได้ ข้าสามารถฝากความหวังนี้เอาไว้กับเจ้าได้หรือไม่?”

“อย่าได้เป็นกังวลและเชื่อมั่นในตัวผม มันแน่นอนอยู่แล้วว่าผมมาที่นี่ก็เพื่อทำงานนี้ให้ลุล่วง”

อาร์คคว้ามือของกาเลนมาเขย่าเป็นการยืนยันการตอบรับด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

พร้อมกันนั้นเสียง ทะ-ทะ-ด๊าม พลันดังขึ้นพร้อมหน้าต่างภารกิจที่เด้งขึ้นมา

 

=====

เคราะห์ร้ายแห่งผู้บุกเบิกหมู่บ้านแลนเซล

ท่านได้ค้นพบหมู่บ้านที่บุกเบิกและยังไม่เป็นที่รู้จักในโลกภายนอกจากการเดินทางอันยาวไกล

หมู่บ้านนี้จัดตั้งขึ้นมาหลายปีด้วยความพยายามของเหล่าผู้บุกเบิกที่ติดตามหัวหน้ากองทหารรับจ้างแลนเซลมาด้วยความเชื่อมั่น มันถูกตั้งชื่อว่า ‘แลนเซล’ ตามนามของผู้นำในที่แห่งนี้ พวกเขาคาดหวังว่าแลนเซลจะกลายเป็นจุดพักเท้าระหว่างพื้นที่แจ๊คสันและเมืองการค้าแห่งอื่นได้

แต่ด้วยฝูงของมนุษย์สุนัขที่นำพาอสรพิษจำนวนมากเข้ามายังถ้ำที่อยู่ใกล้เคียง ความพยายามของพวกเขาล้วนสูญเปล่า ประชากรที่ฝากความหวังเอาไว้ต่างเริ่มถดถอย ทว่าผู้กล้าแห่งหมู่บ้านแลนเซลได้เสียสละตนเอง

ชาวบ้านที่สูญเสียกำลังใจต่างออกไปจากหมู่บ้าน และตอนนี้หลงเหลือเพียงแค่คนจำนวนเล็กน้อยในหมู่บ้าน แต่กระนั้นกาเลนก็ยังคงคิดที่จะรักษาหมู่บ้านแห่งนี้เอาไว้ เขาจึงขอร้องให้ท่านช่วยจัดการเหล่ามนุษย์สุนัข กาเลนได้ให้สัญญาราคา 20 เหรียญเงินต่อผืนหนังของมนุษย์สุนัขผืนหนึ่ง และจะมอบ 10 เหรียญทองเป็นการตอบแทนหากเป้าหมายหลักสำเร็จลุล่วงด้วยดี ท่านต้องจัดการมนุษย์สุนัขและช่วยหมู่บ้านแลนเซลจากความสิ้นหวัง

ระดับความยาก : C

=====

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด