ตอนที่แล้วTWO Chapter 197 การลุกไหม้ของทุ่งหญ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 199 สงครามมู่เย่ ตอนที่ 1

TWO Chapter 198 การเลือกฝ่าย


TWO Chapter 198 การเลือกฝ่าย

ทุ่งหญ้าในตอนนี้ คล้ายกับเป็นกองไม้แห้ง หากมีประกายไฟเพียงเล็กน้อย มันก็อาจลุกลามเป็นเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ได้

ในขณะที่เปลวเพลิงแผดเผาทุ่งหญ้า ตลาดการค้าของเมืองมิตรภาพก็จะรุ่งเรืองขึ้นอย่างเงียบๆ

ไม่กี่วันมานี้ มีคนเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ระบุชื่อ นำฝูงแกะขนาดใหญ่, ขนแกะ และแม้กระทั่งม้าฉิงฟู่ ออกมาขายในตลาด โดยพวกเขาตั้งใจใช้สินค้าเหล่านี้ เพื่อแลกซื้อธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากเหล็กของเมืองมิตรภาพ

ธัญพืชนั้นได้ตามต้องการ แต่ผลิตภัณฑ์จากเหล็กนั้นเป็นสินค้าควบคุม ผู้ปกครองเมืองมิตรภาพ โจวไห่เฉินไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง เขาจึงรีบส่งจดหมายมายังเมืองหลักในทันที เพื่อขอคำแนะนำจากลอร์ดของเขา

วัตถุประสงค์ของโอหยางโชวก็คือ การลากและกระตุ้นให้ชนเผ่าเร่ร่อนเข้าสู่สงคราม ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถลดภัยคุกคามต่อเมืองมิตรภาพลงได้ และยังสามารถเก็บเกี่ยวกำไรจากสงครามได้อีกด้วย

ผู้ซื้อที่ปิดบังตัวตนเหล่านี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพวกเขาเป็นตัวแทนจากเผ่า และส่วนใหญ่ก็เป็นเผ่าขนาดกลาง จึงจะเข้าใจเหตุผลได้ว่าทำไม พวกเขาจึงซื้อธัญพืชและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก

ดังนั้น ในการตอบกลับของเขา โอหยางโชวกล่าวว่า ผลิตภัณฑ์จากเหล็กจะไม่สามารถซื้อขายได้โดยตรง แต่เขาจะผ่อนปรนแร่เหล็ก โดยอนุญาติให้มีการซื้อขายพวกมันได้อย่างอิสระ

โอหยางโชวไม่ได้กังวลเรื่องขายแร่เหล็กทั้งหมดให้กับชนเผ่าเร่ร่อน เขาต้องการจะเลี้ยงดูเหล่าหมาป่าที่ทรุดโทรมเหล่านี้ให้แข็งแรงมากขึ้น

การเติบโตของชนเผ่าเร่ร่อนช้ากว่าเมืองซานไห่มาก หลังจากมีการตั้งนิคมในทุ่งหญ้า เมืองซานไห่ก็อาจจะมีกำลังมากพอที่จะขยี้พวกเขาทั้งหมดรวมกันได้ ดังนั้น แร่เหล็กเหล่านั้นจะมีประโยชน์อันใด

เดือนที่แล้ว ขณะที่จิวต้วนเสี้ยนนำทีมออกไปวาดแผนที่ของดินแดน พวกเขาได้พบแหล่งแร่เหล็กอีกแห่ง ห่างออกไปจากเมืองทางตะวันตก 20 กิโลเมตร กรมคลังวัสดุได้รีบส่งคนงานและคนเหมืองไปยังแหล่งแร่เหล็กแหล่ใหม่ในทันที

เมืองแร่แห่งใหม่นี้ ห่างจากแม่น้ำมิตรภาพเพียง 10 กิโลเมตร ดังนั้น แร่เหล็กจากเหมืองแห่งใหม่นี้ จะถูกขนส่งทั้งจากทางบกและทางน้ำ โดยเริ่มจากไช้ม้าไม้วัวไม้ขนส่งไปยังริมน้ำ แล้วใช้เรือขนส่งพวกมันต่อไปยังท่าเรือเมืองซานไห่

ในตอนนี้ เมืองซานไห่จึงไม่มีปัญหาการขาดแคลนแร่เหล็กอีก

โอหยางโชวตอบสนองการค้ากับชนเผ่าเร่ร่อนเพิ่มเติมอีก โดยธัญพืชจะถูกขายในราคา 2 เท่าของตลาด ที่ราคา 20 เหรียญทองแดง/หน่วย แร่เหล็กขายในราคา 3 เท่าของตลาด ที่ราคา 300 เหรียญทองแดง/หน่วย

จริงๆแล้วโอหยางโชวไม่ได้เอาเปรียบชนเผ่าเร่ร่อนมากนัก

เนื่องจากราคาธัญพืชในตอนนี้เริ่มผันผวน ในปลายเดือนที่ 8 ราคาของมันก็จะทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าเขายังขายธัญพืชในราคาตลาดที่ 10 เหรียญทองแดง/หน่วย เขาก็คงจะขาดทุน

สำหรับแร่เหล็ก มันเป็นสินค้าควบคุม เพื่อที่จะขายมัน แน่นอนว่าเขาจะต้องเพิ่มราคา เมืองซานไห่ไม่ใช่เมืองที่มั่งคั่งเหมือนคนรวย ดังนั้น พวกเขาจะไม่ขายมันให้กับชนเผ่าเร่ร่อนในราคาถูกๆแน่นอน

โอหยางโชวได้แสดงถึงความใจกว้างของเขา โดยการไม่เรียกเก็บภาษีใดๆ เมื่อได้รับอนุญาติจากโอหยางโชว โจวไห่เฉินก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมืองมิตรภาพและกรมคลังวัสดุ ได้ร่วมมือกันในการขนส่งแร่เหล็กไปยังท่าเรือเมืองมิตรภาพ และส่งพวกมันไปยังตลาด

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 8 วันที่ 10 เมืองซุ่นหลงได้รับการบุกโจมตีของผู้บุกรุก

โอหยางโชวไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อดูการต่อสู้ แต่เขาอยู่ในดินแดนของเขา เพื่อจัดการงานของรัฐบาล

เมื่อเวลา 18.00 น. เสียงประกาศจากระบบก็ดังขึ้นที่หูของเขา

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นซุ่นหลงเตียนเซว่ สำหรับการเป็นลอร์ดคนที่ 10 ของภูมิภาคจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1, คะแนนการกุศล : 400 แต้ม!”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นซุ่นหลงเตียนเซว่ สำหรับการเป็นลอร์ดคนที่ 10 ของภูมิภาคจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1, คะแนนการกุศล : 400 แต้ม!”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นซุ่นหลงเตียนเซว่ สำหรับการเป็นลอร์ดคนที่ 10 ของภูมิภาคจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1, คะแนนการกุศล : 400 แต้ม!”

ประกาศดังกล่าวไม่ได้เป็นที่สนใจใดๆในหมู่ผู้เล่น แต่ประกาศต่อมาจากระบบ ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นในทันที

“ประกาศจากระบบ : ภูมิภาคจีนประสบความสำเร็จในการอัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางครับ 10 ดินแดน เปิดใช้งานระบบสมรภูมิ สมรภูมิที่ 2 - สงครามมู่เย่ จะเริ่มอย่างเป็นทางการในอีก 3 วันจากนี้, คำแนะนำ : สงครามมู่เย่เป็นสงครามไม่บังคับ เฉพาะผู้เล่นที่มีดินแดนระดับเมืองขนาดเล็กขึ้นไปเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วม”

เมื่อเทียบกับสงครามครั้งแรก - สงครามโจวหลู่ ผู้เล่นเริ่มคุ้นเคยกับสงครามมากขึ้น สงครามครั้งแรกได้พิสูจน์ให้ผู้เล่นรู้แล้วว่า สมรภูมิเป็นเกมส์การเดิมพันที่เป็นไปตามกฎแห่งป่า

สำหรับกองกำลังที่แข็งแกร่งเช่นเมืองซานไห่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะทำกำไรและได้รับประโยชน์มากที่สุดจากมัน แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไป ความพยายามของอาจจะไม่คุ้มค่า หากพวกเขาเข้าร่วมสงคราม กองกำลังของพวกเขาที่มีเล็กน้อยและมีคุณภาพต่ำ จะไม่สามารถยังคับทิศทางของสงครามได้ แต่จะกลายเป็นเพียงอาหารให้กับผู้เล่นคนอื่นๆกลืนกิน

ลอร์ดบางคนที่มีความทะเยอทะยาน ได้นำกองกำลังของเขา 100 นาย เข้าร่วมสงคราม ซึ่งจบด้วยการสูญเสียทั้งหมด และได้รับค่าตอบแทนเป็นคะแนนการกุศลเพียงหลักร้อยแต้ม การลงทุนและผลตอบแทนของพวกเขา มีสัดส่วนที่ขัดแย้งกันมาก

ดังนั้น ไม่ว่าจะมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้หรือไม่ แต่ละคนต่างก็มีความคิดแตกต่างกันออกไป

ณ ขณะนี้ เมืองขนาดเล็กในภูมิภาคจีนมีมากกว่า 1,000 แห่ง ไม่มีใครรู้ว่าทำไม ผู้เล่นลอร์ดถึงยินดีจะเข้าร่วมในท้ายที่สุด

แน่นอน สำหรับสมาชิกในพันธมิตรซานไห่ นั่นไม่ได้เป็นคำถามที่พวกเขาต้องคิดเลย

ซุ่นหลงเตียนเซว่ได้รับการแสดงความยินดีจากพันธมิตรของเขาในช่องพันธมิตร เมื่อมีประกาศจากระบบเพิ่มเข้ามา เขาตกใจและกล่าวติดตลกว่า “สงครามมู่เย่ มันถูกเรียกมาโดยข้างั้นหรือ? เมื่อเป็นเช่นนั้น ระบบก็ควรจะให้รางวัลอื่นๆกับข้าอีกนะ?”

“เงียบไปเลยเจ้าเด็กน้อย!” กงเฉิงซีหงุดหงิด

“ฮ่าๆ สิงโตน้อย เจ้าอิจฉาข้าหรือ?” ซุ่นหลงเตียนเซว่บางครั้งก็ทำตัวต่างไปจากปกติ

“.....” กงเฉิงซีส่งเส้นประ เพื่อแสดงถึงความคิดเห็นของเขา

“โอ้ใช่ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้รับคะแนนการกุศลแล้ว” มู่หลานเยว่เป็นคนที่มีความสุขที่สุด เธอรู้สึกท้อแท้กับคะแนนการกุศลในก่อนหน้านี้

“หวู่ยี่ ท่านจะเลือกฝ่ายใดในครั้งนี้?”

สงครามมู่เย่เป็นเรื่องที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ‘การกบฎของราชาหวู่ต่อทรราชย์โจว’ ราชาหวู่แห่งราชวงศ์โจว นำพันธมิตรของเขา บุกเข้าไปทำสงครามครั้งสุดท้ายกับราคาโจวแห่งราชวงศ์ซางที่เมืองมู่เย่ ราชาโจวแห่งราชวงศ์ซาง ตี้สิน พิชิตเผ่าหลี่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และตกยี่ทางตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าเขาจะได้รับชัยชนะทั้งหมด แต่ความก้าวร้าวของเขาที่เกิดจากการไปรุกรานผู้อื่น ก็นำมาซึ่งความคัดแย้งกับพันธิมิตรและชนชั้นสูง ในที่สุด มันก็นำมาสู่การล่มสลายของราชวงศ์ซาง

นี่เป็นคำอธิบายของสงครามมู่เย่

อย่างไรก็ตาม โอหยางโชวมีความคิดที่แตกต่าง หลังจากที่เขาอ่านและค้นคว้า ในสายตาของเขา สงครามถูกตกแต่งมากเกินไป โดยลัทธิขงจื้อ การกบฎของราชวงศ์โจวต่อราชวงศ์ซาง และการตายของราชาโจวแห่งราชวงศ์ซาง เป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบของการก่อกบฎต่อผู้ปกครองและการสังหารราชา มันไม่มีความยุติธรรมและความชอบธรรมใดๆ

สงครามมู่เย่เต็มไปด้วยเลือด ความขมขื่น และโศกนาฏกรรม มันไม่ใช่อะไรที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ ที่กล่าวว่า มันเป็นสงครามการกบฎของผู้คนต่อราชาโจว พวกเขาพึ่งพาศีลธรรมอันสูงส่ง และได้รับชัยชนะในสงคราม โดยยังกล่าวอีกว่า ‘ไม่มีเลือดติดอยู่บนดาบของบุรุษ’ แต่หลังจากสงครามจบ กองทัพของราชาโจวถูกสังหารทั้งหมด พวกเขายังเผาและปล้นทรัพย์สินเมืองเจ้าเก่อ ภาพลักษณ์ของความรุ่งโรจน์ไม่เหลือให้เห็นแม้แต่น้อย

เหตุผลเดียวที่มันได้รับการตกแต่งในหนังสือประวัติศาสตร์ เป็นเพราะการครอบงำทางวัฒนธรรมและอุดมการณ์ของลัทธิขงจื้อ พวกเขายกย่องศิลปะขงจื้อทั้ง 6 อย่างมาก รวมทั้งระบบและเจตนารมณ์ของราชวงศ์โจว ดั้ง มารยาทของผู้ดีและสุนทรีย์ ดังนั้น ในโลกที่ถูกครอบงำโดยลัทธิขงจื้อ ขงจื้อจะตกแต่งให้ราชวงศ์โจวเป็นศูนย์รวมของความยุติธรรม ความชอบธรรม และความเมตตากรุณา

ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อนุญาติให้มีการบันทึกความจริงในสงคราม ดังคำกล่าวที่ว่า ‘คำสอนของลัทธิคือประกาศิตสวรรค์’ สำหรับสงครามมู่เย่ที่แท้จริง มันเป็นสงครามที่ทำให้เลือดนองแผ่นดินและประชาชน

ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดพวกเขาจึงทำลายประวัติศาสตร์ของราชาโจวและยังประนามเขา

ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร โอหยางโชวก็ไม่ได้สนใจมัน เขาสนใจเพียงแต่ผลประโยชน์ของเขาเท่านั้น เขากล่าวว่า “ข้าจะเลือกฝ่ายราชวงศ์ซาง”

“อ๊า?” มู่หลานเยว่ประหลาดใจ

ไป๋ฮัวถามทันที “หวู่ยี่ ท่านกำลังพยายามจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์หรือ?”

“ถูกต้อง!” โอหยางโชวตอบตรงๆ

ในสงครามครั้งแรก - สงครามโจวหลู่ ชุ่นเซิ่นจุนและจานหลางได้ใช้เลือดและพลังทั้งหมดของพวกเขา แสดงให้ผู้เล่นลอร์ดเห็นถึงความยากลำบากในการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของสงคราม

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ โอหยางโชวปล่อยให้ทุกคนคิดด้วยตัวเอง

“หวู่ยี่ ท่านแน่ใจแล้วหรือ?”

แน่นอนว่าโอหยางโชวไม่กล้าโอ้อวดมากเกินไป “เกี่ยวกับสมรภูมิ ไม่มีใครรู้ว่าไกอาจะอนุมานอย่างไร ดังนั้น ถ้ากำลังถามข้าเกี่ยวกับโอกาสในการชนะสงคราม ข้าไม่สามารถรับประกันได้ แม้ว่าข้าจะทำการบ้านมาแล้ว มันก็ยังคงมีความไม่แน่นอนอื่นๆอีก”

โอหยางโชวกล่าวเช่นนั้น เพราะในชีวิตที่แล้วของเขา เขาไม่ได้เข้าร่วมในสงครามมู่เย่ เขามีความเข้าใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสงครามในครั้งนี้

“การบ้าน?” ไป๋ฮัวตระหนักถึงคำกล่าวของเขา เธอจึงถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น “หวู่ยี่ ท่านหมายความว่า ท่านรู้เรื่องสงครามครั้งนี้มาก่อนแล้วงั้นหรือ?”

โอหยางโชวหัวเราะและส่ายหัว “แน่นอนว่าไม่ ข้าไม่ใช่พระเจ้านะ มันเกี่ยวกับสมรภูมิ สงครามโจวหลู่ในครั้งแรก สามารถบอกเราได้ว่า สงครามที่ไกอาเลือกนั้น เป็นสงครามที่สำคัญในแต่ละยุคหรือราชวงศ์ เมื่อคิดเกี่ยวกับ 3 ราชา 5 จักรพรรดิ สงครามต่อมาย่อมเป็นสงครามสมัยราชวงศ์ซาง ในช่วงเวลานั้น มีสงครามใดสำคัญไปกว่าสงครามมู่เย่อีกหรือ? เพราะงั้น ข้าจึงคาดเดาว่า สงครามครั้งต่อไป ที่ไกอาจะเลือก จะต้องเป็นสงครามนี้ แต่ข้าก็ไม่ได้มั่นใจมากนัก นั่นคือเหตุผลที่ข้าเก็บไว้กับตัวเองมาจนถึงตอนนี้”

คำกล่าวของเขามีความจริงและเท็จผสมกันอย่างละครึ่ง เขาชี้ให้เห็นถึงอนุกรมและรูปแบบที่ไกอาใช้เลือกสมรภูมิ และในเวลาเดียวกัน เขาก็ปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่า เขารู้เพราะเขากลับมาเกิดใหม่

ไป๋ฮัวลดความสงสัยของเธอลง เธอยิ้มแล้วกล่าวว่า “หวู่ยี่ ข้ามีความเชื่อมั่นในการตัดสินใจของท่าน และข้าก็จะเลือกฝ่ายราชวงศ์ซางเช่นกัน”

“ข้าจะเชื่อฟังพี่ชายหวู่ยี่” มู่หลานเยว่คิดอย่างเด็กน้อยที่ชั่วร้าย เธอจะไม่ปล่อยผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดของเธอแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะโอหยางโชว เธอก็คงไม่ได้รับรางวัลใหญ่จากสงครามโจวหลู่

โอหยางโชวหัวเราะและส่ายหัวอีกครั้ง “ข้าจะกล่าวเหมือนคราวที่แล้ว ไม่มีข้อผูกมัดใด ที่จะให้สมาชิกในพันธมิตรต้องอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ข้ามีคำขอเดียว ข้าต้องการให้การตัดสินใจของข้าเป็นความลับในหมู่พวกเรา ข้าไม่ต้องการให้ชุนเซิ่นจุนและคนอื่นๆทั้งหมดเลือกฝ่ายตรงข้าม เพราะการดำรงอยู่ของข้า”

คำกล่าวของเขาทำให้ทุกคนหัวเราะ เหตุผลก็ง่ายๆ ถ้าพวกเขาเลือกฝ่ายเดียวกับโอหยางโชว ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตำแหน่งตัวแทนผู้เล่นจะต้องถูกมอบให้กับโอหยางโชวแน่ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ

“ข้าคิดว่ามันคงฉลาดที่ได้เดินตามท่าน” เฟิงฉิวฮวงกล่าวต่อ

“ทำตามพี่ใหญ่ แล้วไปเลี้ยงฉลองกัน” คำกล่าวของกงเฉิงซีสั้นๆง่ายๆ

สุดท้ายก็เหลือเพียงซุ่นหลงเตียนเซว่ เขาได้เลือกฝ่ายที่แตกต่างกับคนอื่นๆในครั้งก่อน เขาทำให้ความสามารถของฉินฉีอ๋องต้องสูญเปล่า แลัส่งผลให้รางวัลของเขาแย่กว่าไป๋ฮัว

เมื่อต้องจ่ายด้วยราคาที่ขมขื่น ในที่สุด เขาก็เรียนรู้จากบทเรียน และกล่าวว่า “ข้าจะตามพี่ใหญ่!”

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด