ตอนที่แล้วบทที่ 48 การโจมตีของฐานดงซัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 50 วิกฤต

บทที่ 49 การบาดเจ็บ


บทที่ 49 การบาดเจ็บ

เมื่อมองไปที่คนนั้น หลินเฟิง ก็ต้องตกใจเขาไม่คิดว่าเขาจะได้เจอกับชายคนที่ชนรถเขาในฐานะหนานซาน

“เขาเป็นคนจากฐานดงซัน”

มีความคิดเห็นไม่มากในเมื่อเขากระโดดขึ้นมาบนกำแพงทางทิศของฐานดงซัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเฟิงวู เห็นหลินเฟิงบนกำแพงเขาก็เอ่ยปากถาม

“นายเป็นนักล่า ?”

ขณะที่ หลินเฟิง รู้ว่าฐานจางหลางถูกโจมตีโดยฐานดงซันเขาไม่ได้ซ่อนความผันผวนของพลังงานอีกต่อไปเมื่อเขาพบกับอันตรายเขาสามารถดึงพลังออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นเรื่องปกติที่เฟิงวูจะเห็นว่าหลินเฟิงเป็นนักล่า

หลินเฟิงไม่ได้พูดเพียงแต่พยักหน้าอีกฝ่ายเป็นนักล่าระดับสูงจะโกหกไปก็ไม่มีความหมาย

“คุณเป็นของฐานจางหลาง?”

เฟิงวูตั้งคำถามต่อ

“เมื่อก่อนอาจใช่แต่ตอนนี้ วูฟ พยายามที่จะทำร้ายฉันนั้นฉันจึงทิ้งฐานจางหลางไป”

หลินเฟิงฉีกเจลเปลี่ยนแปลงออกเผยให้เห็นรูปลักษณ์เดิมของเขาแม้จะเป็นการพบกันครั้งแรกที่ฐานหนานซานแต่หลินเฟิงไม่แน่ใจว่าฟงวูจะจำเขาได้อยู่ไหม

นอกจากนี้ที่หลินเฟิงพูดก็ไม่ใช่เรื่องโกหกเขาเป็นส่วนหนึ่งของฐานหนานซานแล้ว

เมื่อเฟิงวู เห็นรูปลักษณ์ของหลินเฟิงเขาก็จำได้ว่าเคยพบกันมาก่อนที่ฐานหนานซาน เฟิงวู จ้องเข้าไปในตาของหลินเพิงเพื่อจะดูว่าเขาโกหกหรือไม่

สำหรับเฟิงวูเขาสามารถฆ่านักล่าระดับ4ได้อย่างง่ายดายแม้ว่านักล่าระดับ 4 ไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นนักล่าดับสูงแต่ก็ยังถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของฐานจางหลางมีนักล่าระดับ4ไม่มากนักถ้าขาดไปกำลังต่อสู้ก็จะลดลง

“คุณสามารถไปได้แล้วศัตรูของฐานจา่งหลางก็เหมือนเป็นเพื่อนของเรายินดีต้อนรับถ้าคุณจะไปเยี่ยมชมที่ฐานดงซันในอนาคตในเวลานั้นน้องสาว 5  คนนี้จะส่งคนมาปฎิบัติคุณ”

หลังจากเฟิงวูกล่าวในลักษณะแบบสาวน้อยน่ารักแล้วเขายังกระพริบหลิ่วตาให้กับหลินเฟิงทำให้ท้องไส้ของหลินเฟิงปั่นป่วน

หลินเฟิง ไม่ต้องการอยู่ต่อหน้านักล่าระดับสูงเมื่อฝ่ายนึงไม่ได้ขัดขวางเขาจึงรีบไป

ความผันผวนของพลังงานของผู้ชายที่อ้างตัวเป็นน้องสาว 5 นั้นรุนแรงมากความผันผวนของเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นระดับนักล่าที่สูงกว่าระดับ 5 หลินเฟิง ไม่ต้องการกระตุ้นเขา

ฐานจางหลางกำลังต่อสู้อยู่แต่รถของหลินเฟิงดันอยู่ในที่จอดรถทางเข้าฐานถ้าเขาพยายามเอารถออกมาเดี๋ยวนี้ก็เท่ากับเป็นการเปิดเผยตัวจากทั้งสองฝ่าย

ฐานดงซันและฐานจางหลางต่อสู้กันเป็นระยะเวลานานโดยใช้อาวุธปืนทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บประมาณ 300 คนจำนวนนี้ประกอบไปด้วยผู้คุ้มกันฐานธรรมดาซึ่งตอนนี้นักล่ายังไม่มีส่วนร่วมในการสู้รบ

หลินเฟิงอยู่ห่างจากฐานประมาณ 50 เมตรทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอย่างหนัก หน่วยแรกอยู่ห่างจากกำแพงเพียง 500 เมตรเท่านั้นหลินเฟิงค่อยๆเข้าใกล้ลานจอดรถและดูสถานการณ์จากระยะไกลฐานหนานซานอยู่ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตรนอกจากนี้ยังเป็นเวลากลางคืนเขาอาจจะถึงฐานหนานซานพรุ่งนี้เย็นถ้าเดินไป

ฐานดงซานเข้ามาในระยะ 300 เมตรแล้วจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นและนักล่ากำลังจะแสดงบทบาทออกมา นักล่าเกือบ 200 คนจากฐานดงซันกระจายตัวและจู่โจม นักล่าจากฐานจางหลางรีบวิ่งออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้าสู่ฐานได้

เพราะสองฝ่ายมีสัญลักษณ์ของตัวเองซึ่งง่ายต่อการจดจำเพื่อป้องกันไม่ให้โดนลูกหลงกันเองระยะห่าง 300 เมตรใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีสำหรับนักล่าทั้งสองฝ่ายที่จะปะทะกัน หลินเฟิงใช้โอกาสนี้นำหลิงเทียนไปที่จอดรถเขารีบขึ้นรถและสตาร์ทเครื่องเร่งหน้าไปทางฐานหนานซานทันที

คนทรยศ!

นักล่าระดับ 6 ที่อยู่บนกำแพงเห็นรถออกจากฐานเขาไม่ต้องคิดมากและสันนิษฐานว่ามันจะต้องเป็นคนที่ทรยศถ้าเป็นพวกคนธรรมดาจะซ่อนตัวอยู่ในบ้านของเขาในเวลานี้คนที่ขับรถออกไปได้อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่หลบหนีจากหน้าที่โดยไม่ต้องพูดอะไรนักล่าระดับ 6 เอาปืนออกมาจากผู้เฝ้าที่อยู่ข้างๆแล้วเล็งไปที่รถของหลินเฟิงและยิงกระสุนซุ่มยิงออกไปอย่างไรก็ตามในเวลานั้นหลินเฟิงบังเอิญหักเลี้ยวขวาทำให้กระสุนปืนพุ่งผ่านหน้าต่างรถและยิงไปโดนที่หลิงเทียนที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆเขา

หลินเฟิงได้ยินเสียงกระจกรถแตกและเสียงร้องของหลิงเทียนเมื่อเขาหันศีรษะไปดูเขาพบว่าหน้าอกหลิงเทียนเต็มไปด้วยเลือดอยู่บนเสื้อสีเทาของเขา

“เชี่ย!”

ณ จุดนี้หลินเฟิงอยู่ห่างจากฐานจัจางหลาง 500 เมตรและหลิงเทียนได้รับบาดเจ็บซึ่งหมายความว่ามีคนจงใจยิงพวกเขานอกจากนี้หรือหลิงเทียนยังเป็นนักล่า กระสุนธรรมดาไม่สามารถทำให้เกิดความเสียหายได้ซึ่งหมายความว่าเป็นกระสุนไรเฟิลหนักซุ่มยิงจึงทำให้เกิดการได้รับบาดเจ็บ

และไม่ต้องจำเป็นต้องบอกว่าใครเป็นคนยิงเพราะเขามาจากฐานจางหลางและทิศทางที่เขาขับรถไปฐานดงซันไม่สามารถมองเห็นได้

“วูฟ.. แกกับฉันอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกแล้ว”

หลิยเฟิงเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วมุ่งไปยังฐานหนานซาน หลิงเทียนได้รับบาดเจ็บหลินเฟิงจึงรู้สึกกังวลถ้าเขาเข้าไปรักษาที่ฐานจางหลาง วูฟ อาจจะไม่ปล่อยพวกเขาออกมาเขาสาบานในใจว่าครั้งต่อไปถ้าเขากลับมาที่ฐานจางหลางอีกจะถึงเวลาเอาคืนแน่

ในขณะที่ขับรถ หลินเฟิง หยิบขวดยาปฏิชีวนะออกมาจากนาฬิกาและบอกให้หลิงเทียนใช้มันแม้ว่ายาปฏิชีวนะจะไม่สามารถเติมเต็มเลือดที่สูญเสียไปได้แต่ก็สามารถป้องกันอาการอักเสบของแผลได้จัดการบาดเจ็บของหลิงเทียนดูเหมือนว่ากระสุนจะเข้ามาจากด้านหลังแล้วทะลุออกทางหน้าอกด้านขวา

หลิงเทียนมีความอดทนมากเขาไม่ร้องโวยวายออกมาเพียงแต่หน้าซีดอยู่เงียบๆ

“เป็นเด็กที่เข้มแข็ง”

หลินเฟิงชมเขาในใจ

รถเพิ่มความเร็วอย่างรวดเร็วเนื่องจากกรณีฉุกเฉินหลินเฟิง ใช้ความเร็วสูงสุดในการวิ่งไปยังฐานหนานซาน

หลินฟงใช้นาฬิกาของเขาในการแจ้งดงงูและโดยูจินให้ออกมาแล้วเขาขับรถไปรับที่บ้านเช่าหลินเฟิงไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อนเขาจึงเรียกดงวูกับโดยูจินเนื่องจากดงวูเคยมีประสบการณ์มาแล้ว 3 ปีเขาควรมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องบาดเจ็บบ้าง ส่วนโดยูจินเป็นผู้หญิงเธอควรจะมีความระมัดระวังมากกว่าหลินเฟิง

“นี่คือใคร? เกิดอะไรขึ้น?”

บาดแผลที่ได้ไม่ใหญ่มากนักแต่หลังจากผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมงหน้าอกของหลิงเทียนก็เต็มไปด้วยเลือดนอกจากนี้จากการสูญเสียเลือดมากหลิงเทียนจึงตกอยู่ในอาการโคม่า

“เขาเป็นผู้ติดตามของฉัน ตอนนี้ไม่ต้องถามมาก เราต้องรีบไปโรงพยาบาล”

หลินเฟิงยังไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระในตอนนี้เขารีบเร่งไปโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ