ตอนที่แล้วบทที่ 47 การมอบหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 49 การบาดเจ็บ

บทที่ 48 การโจมตีของฐานดงซัน


บทที่ 48 การโจมตีของฐานดงซัน

เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างฐานดงซันและฐานจางหลางไม่ดีมันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่พวกเขาจะโจมตีฐานอย่างไรก็ตามหลินเฟิงไม่คาดคิดว่าฐานดงซันจะโจมตีในเวลานี้

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในโลกใบนี้หลินเฟิงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าฐานดงซันมีนักล่ามากกว่า 200 คนเมื่อเทียบกับฐานจางหลางไม่ว่าจะเป็นระดับหรือตัวเลขพวกเขายิ่งใหญ่กว่าฐานจางหลางมากหลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของไซเรนพลเรือนหยิบอาวุธขึ้นมาแล้วมุ่งหน้าไปยังกำแพงเพื่อต่อต้านอย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้ยินแต่ละที่ตะโกนบอกว่ามันเป็นการรุกรานของฐานดงซันทุกคนก็รีบวิ่งกลับบ้าน

การต่อสู้ระหว่างฐานกับคลื่นซอมบี้ มันต่างไปอย่างสิ้นเชิงมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพลเรือนแต่อย่างใดในยุคที่เลวร้ายพลเรือนไม่สนใจว่าผู้นำของตนจะเป็นใครพวกเขาสนใจแค่ชีวิตความเป็นอยู่เท่านั้นเองตราบใดที่มีความปลอดภัยของตัวเองเขาไม่สนใจเรื่องอื่นสงครามระหว่างฐานจะปลอดภัยที่สุดถ้าพวกเขาได้อยู่บ้านของตัวเอง

หลินเฟิงไม่สามารถกลับไปที่เขาเช่าไว้ในฐานได้เขาไม่แน่ใจว่าคนของวูฟจะคอยเฝ้าอยู่หรือไม่และสำหรับการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ความแข็งแกร่งของหลินเฟิงยังไม่เพียงพอหลินเฟิงต้องนำหลิงเทียนไปหาสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่จะเกิดขึ้นด้านนอกของฐานมีรถบรรทุก 50 คันจอดอยู่ห่างออกไป 10 ไมล์รถบรรทุกคันเต็มไปด้วยอาวุธจากฐานดงซันนอกจากนี้พวกเขาทั้งหมดยังเป็นนักล่า

“คราวนี้เราต้องยึดฐานจางหลางได้อย่างแน่นอน”

มีคนลงมาจากรถบรรทุก5คนและเดินมาด้านหน้าโดยชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงกลางมองไปที่ฐานขณะที่พูดเรื่องนี้กับ4คนข้างหลัง

“แจ้งให้ทุกคนทำตามแผน”

ในกลุ่มรถบบรทุกด้านหลังของเขาชายคนหนึ่งยกนาฬิกาขึ้นมาและส่งการลงไป

………….

ในศูนย์กลางฐานผู้คนในวิลล่าเริ่มออกมาจากวิลล่าที่ใหญ่ที่สุด”

“ถามดงซันเหลือคนไม่กี่คนไว้เพื่อปกป้องฐานของพวกเขาส่วนที่เหลือมาอยู่ที่นี่หมด”

ภายในห้องวิลล่าผู้ช่วยระดับ 6 ของวูฟให้ข้อมูลกับเขา

“ตอนนี้พวกมันคิดจริงๆหรือจะเข้ายึดฐานของฉันได้ ฉันจะแสดงให้มันเห็นว่าการตัดสินใจของพวกมันนั้นผิดคุณรู้ไหมว่าผู้นำของฐานดงซัน ที่มาในครั้งนี้มีกี่คน”

ฐานดงซันมีผู้นำอยู่ 5 คนแต่ละคนมีชื่อของตัวเองหลังจากที่เข้าสู่โลกที่เลวร้ายพวกเขาทั้งหมดเปลี่ยนชื่อของพวกเขาหลังจากที่จัดตั้งฐาน 5 ชื่อของพวกเขาเรียนไปจากเฟิงอี้ ไปจนถึงเฟิงวู ตามอายุของพวกเขา

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผู้นำทั้งหมดของฐานดงซันเป็นนักล่าระดับ 7 แค่เพียงคนใดคนนึงก็สามารถสู้กับวูฟได้ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ว่าฐานจางหลางมีอาวุธหนักพวกเขาอาจถูกยึดไปนานแล้ว

“ไม่แน่ใจครับ คนของเราไม่ได้แทรกซึมอยู่กับนักล่าของพวกเขา”

ผู้ช่วยตอบวูฟ

ในตอนนี้ วูฟไม่แน่ใจถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายโอกาศที่เขาจะชนะสงครามในครั้งนี้น้อยมากด้านฐานดงซันมีนักล่าระดับ 7 ถึง 5 คนเมื่อเทียบทางด้านของเขาที่มีนักล่าระดับ 6 เพียง 2 คนเท่านั้นความแตกต่างห่างไกลกันมาก

“แจ้งทุกคนให้เตรียมพร้อมตั้งแต่ที่พวกมัน กล้าที่ โจมตีเราพวกเราก็จะทำให้มันรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้”

วูฟลุกขึ้นแล้วกล่าวถ้อยคำกล้าหาญ

ด้านนอกฐานมีรถบรรทุกจำนวน 50 คันขับมาที่ทางเข้าของฐานจางหลางไม่มียุทธวิธีใดๆ

ในสงครามระหว่างฐานความสนใจมุ่งไปที่ความแข็งแกร่งใครพวกเยอะกว่าก็จะชนะรถบรรทุกหยุดลงห่างจากฐานประมาณ 1 กิโลเมตรและมีเกือบ 1,000 คน พร้อมอาวุธเดินตามจากนั้นรถบรรทุกก็เริ่มเคลื่อนที่ทางและมุ่งหน้ามายังทางเข้าของฐานส่วนพวกเจ้าหน้าที่เดินตามหลัง

บนกำแพงทางด้านของฐานจางหลางทางเข้าทั้งหมดมีเจ้าหน้าที่และนักล่ารวมแล้วเกือบ1000คนพร้อมที่จะปกป้องฐาน

“ยิง!”

เมื่อศัตรูเข้ามาใกล้ฐานอยู่ห่างออกไป 800 เมตรนักล่าระดับ 6 ที่อยู่บนกำแพงก็คำสั่ง

ภายใต้คำสั่งของผู้ช่วยของวูฟพลซุ่มยิง 100 กระบอกถูกยิงออกไปโดยปกติแล้วพวกเขาจะใช้ในเวลาที่มีคลื่นซอมบี้เท่านั้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้กับมนุษย์เมื่อฐานจางหลางเริ่มยิงคนจากฝั่งดงซัน ก็เริ่มยิงเช่นกันอย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับฐานดงซัน การยิงปืนของฐานจางหลางก็ยังน้อยกว่าอยู่ดี

“ฝั่งตรงข้ามมีคนซุ่มยิงอย่างน้อย 300 คน !”

เมื่อได้เห็นเหตุการณ์นักล่าดับ 6 รู้สึกขุ่นเคือง

เมื่อเสียงปืนดังขึ้นผู้คนจะทั้งสองฝ่ายก็ลดลงอย่างรวดเร็วขณะที่ฐานดงซันมีรถบรรทุกเพื่อป้องกันพวกเขาทําให้การบาดเจ็บน้อยลงขณะที่ทีมฐานดงซันอยู่ห่างจากฐานจางหลางประมาณ 600 เมตรทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บอย่างน้อยร้อยคนแล้ว

“รถถังเตรียมยิ่ง!”

เมื่อผู้ช่วยด้านบนกำแพงของฐานจางหลางเห็นเหตุการณ์ปัจจุบันเขาออกคำสั่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเท่านั้นจุดนี้ฐานดงซันจะได้เปรียบฐานจางหลางถ้าไม่ใช้อาวุธหนักจำนวนผู้บาดเจ็บจะต้องเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ทีมของฐานดงซันห่างจากฐานจางหลางมากเกินไปมาถึงจุดนี้เครื่องยิงจรวดไม่ประสบผลเท่าไหร่นักโชคดีที่ฐานจางหลางมีรถถังในเวลานี้

มีเสียงดัง 2 ครั้งรถถังที่อยู่บนกำแพงยิงกระสุนปืนออกไปเข้าสู่ทีมของฐานดงซัน

รถ 2 คันระเบิดอย่างไรก็ตามนักล่าที่อยู่บนรถไม่ได้รับผลกระทบอะไร

“เยี่ยม!”

เมื่อเห็นรถถังยิงเป้าหมายได้อย่างถูกต้องผู้ช่วยนักล่าระดับ 6 รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นอย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจในขณะนั้นเสียงดังมาจากระยะไกล

“ระวังรอบๆ”

เมื่อผู้ช่วยคิดถึงอะไรบางอย่างได้เขาก็ตะโกนออกมาทันทีในเวลาเดียวกันกระสุนหลายสิบนัดจากฐานดงซันก็บินขึ้นและทะลุไปบนกำแพงที่อยู่เหนือประตูฐาน

ก็เหมือนคำพูดของเขาจะสายเกินไปบางคนไม่สามารถรับรู้ได้ทันเวลานักล่าระดับล่างได้รับบาดเจ็บแต่ปืนดังกล่าวไม่สามารถทำร้ายนักล่าที่อยู่เหนือระดับ 3 ขึ้นไปได้

“ไม่รู้ว่าใครโง่กันแน่พี่ให้คนทั้งหมดอยู่บนกำแพง”

3 กิโลห่างจากฐานจางหลางมีสำนักงานชั่วคราวของฐานดงซัน เฟิงอี้ กล่าว

“ฐานจางหลางมีรถถังเราจะทำยังไงดีโชคดีที่รายละเอียดการเดินทางของเราถูกเก็บเป็นความลับไม่งั้นสายลับของพวกมันคงจะรู้ว่าเราก็เอารถถังมาด้วยถ้าพวกมันรู้มาก่อนเราคงไม่สามารถบรรลุผลได้”

ทุกคนหัวเราะ เมื่อเฟิงเอ่อ กล่าว

เป็น เฟิงเอ่อ ที่กล่าวว่าฐานจางหลางเป็นฐานขนาดเล็กเพราะมีประชากร 50000 คนจึงมีรถถัง 2 คันแต่ฐานดงซันเป็นฐานขนาดกลางและมีคนมากกว่าแสนคนฐานดงซันจึงมีรถถังถึง 8 คันและปืนเลเซอร์อยู่หลายตัวอย่างไรก็ตามการฝึกอบรมคนสำหรับขับรถถังเป็นเรื่องยากเพราะฉะนั้นในเวลานั้นมีบางคนที่รู้วิธีการใช้งานน้อย

ก่อนที่ฐานดงซันจะโจมตีเขาได้ส่งทีมรถถังมาก่อนอย่างลับๆนอกจากนักล่าระดับสูงที่รู้เรื่องนี้แล้วเรื่องนี้เป็นความลับที่คนอื่นไม่รู้

เรื่องของฐานดงซันโจมตีฐานจางหลางเป็นที่รู้จักกันดีขณะที่พวกเขาส่งคนจำนวนมากมาโจมตีฐานจางหลางพวกเขาไม่อาจนำอาวุธหนักของตัวเองมาได้เพื่อใช้ป้องกันฐานของเขาเองอย่างไรก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายในช่วงสงครามครั้งนี้ เฟิงอี้ ได้สั่งให้ทีมรถถังออกจากฐานมาอย่างลับลับรถถังถูกเก็บไว้ในถ้ำบนภูเขานอกจากนักล่าระดับสูงไม่มีใครรู้ว่ามันหลบอยู่ที่ไหนคนสอดแนมฐานอื่นก็ไม่สามารถรู้ตำแหน่งของอาวุธหนักของฐานดงซันได้

“ฉันต้องการให้จำนวนผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดแต่สำหรับฐานจางหลางมันก็ต้องรับความเสียหายอย่างมากที่สุด”

เมื่อมองผ่านกล้องส่องทางไกล เฟิงอี้ ประกาศเรื่องนี้

“น้อง 3น้อง 4 น้อง 5 ดำเนินการตามแผน”

…………..

เมื่อได้ยินเสียงปืนมาจากที่ไกลๆ หลินเฟิง แอบดูเขาไม่คิดว่าสงครามระหว่างฐานจะเหมือนสงครามสมัยใหม่และคิดว่ามีเพียงนักล่าไม่กี่คนเท่านั้นที่มีส่วนร่วมเขาคาดไม่ถึงว่าจะใช้อาวุธรุนแรงขนาดนี้

“ดูเหมือนว่าเราต้องหาที่หลบและเมื่อคืนนี้ผ่านพ้นไปเราจะออกไป”

เพื่อหลีกเลี่ยงจากสงครามและหลีกเลี่ยงจากฐานจางหลางหลินเฟิงตั้งใจจะใช้ประโยชน์ในช่วงสงครามนี้

เขาหยิบเชือกจาก ซุปเปอร์มาเก็ตที่ยาวประมาณ 10 เมตรและใส่ไว้ในนาฬิกาของเขาตามความสูงของกำแพงฐานไม่น่าจะเป็นปัญหาหลิงเทียนไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้าเท่านั้นในเวลานั้นหลิงหนานซานได้บอกหลิงเทียนแล้วว่าให้เชื่อฟังหลินเฟิงไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม

เมื่อมาถึงกำแพงด้านหนึ่งของฐานจางหลางหลินเฟิง เห็นว่าบนกำแพงมีเจ้าหน้าที่และนักล่าอยู่หลายแห่งแม้ว่าการรบหลักจะอยู่ที่ทางเข้าของฐานแต่กำแพงด้านอื่นๆก็ยังคงเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน

การกำจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นปัญหาสำหรับหลินเฟิงเขาไม่ต้องการที่จะฆ่าคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างไรก็ตามบนกำแพงมีคนมากกว่า 1 โหลและมีนักล่าในหมู่พวกเขาหลินเฟิงสังเกตเห็นว่านักล่าอยู่ในระดับ 3-4 ดังๆการที่จะออกไปโดยไม่ถูกจับเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที

มีเงากระโดดขึ้นบนกำแพงนอกฐานจางหลางเหวี่ยงมีดกำจัดเจ้าหน้าที่และนักล่าหลายคน

“มันเป็นเขา”

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของคนคนนั้นหลินเฟิงก็นึกออกทันทีว่าเคยเห็นคนนี้มาก่อนเขาคือชายหนุ่มที่สวมชุดสีฟ้าที่เรียกตัวเองว่าน้อง 5 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตที่มาชนเขาในฐานหนานซานอย่างไรก็ตามเมื่อหลินเฟิงมองไปที่ชายหนุ่มที่สวมเสื้อสีฟ้าเขาก็สังเกตเห็นหลินเฟิงเช่นกัน