ตอนที่แล้วเล่ม 1 ตอนที่ 9 : หญิงสาวทั้งสอง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 1 ตอนที่ 9 : หญิงสาวทั้งสอง (3)

เล่ม 1 ตอนที่ 9 : หญิงสาวทั้งสอง (2)


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

เล่ม 1 ตอนที่ 9 : หญิงสาวทั้งสอง (2)

จัตุรัสเต็มไปด้วยกระดานข่าวที่แปะเอาไว้ซึ่งใบปลิวมากมาย ทั้งรับสมัครเข้ากิลด์ โฆษณา... และกระทั่งใบปลิวค่าหัวก็ยังมี

ถ้าหากผู้เล่นฆาตกรก่อเรื่องชั่วเอาไว้มาก ท่านลอร์ดหรือไม่ก็เอ็นพีซีหัวหน้าทหารยามจะมาลงใบปลิวประกาศจับเช่นเดียวกัน

ตามปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของเอ็นพีซีที่จะจัดการ แต่ก็มีผู้เล่นที่ต้องการล่าพวกอาชญากรเช่นเดียวกัน เป็นเพราะพวกเขาสามารถได้รับไอเทมวิเศษมาได้ง่ายยิ่งกว่าไปจัดการบอสมอนสเตอร์เสียอีก

ทว่า ใบปลิวที่อาร์คกำลังมองดูอยู่นี้แตกต่างออกไป

จดหมายข่าว : ใบปลิวเหล่านี้ในนิวเวิร์ลด์เป็นที่รู้จักกันในฐานะหนังสือพิมพ์ระดับภูมิภาค ข่าวการค้นพบพื้นที่แห่งใหม่ ข้อมูลโดยสรุปของดันเจี้ยน หรืออีเวนท์ที่จัดขึ้นในหมู่บ้านจะถูกเขียนเอาไว้

อาร์คที่ในใจคิดไปจากเมืองแจ๊คสันถ้าหากเลเวลเพิ่มขึ้นอีกสัก 1~2 ระดับ เขาวางแผนที่จะเลือกที่สักแห่งในภูมิภาคแห่งนี้เพื่อออกเดินทางผจญภัย ในเมื่อมันไม่มีภารกิจอะไรให้เขารับได้อีก เขาจึงเริ่มหันมาตัดสินใจเป้าหมายการเดินทง

จากนั้น เขาพลันได้ยินเสียงดัง “ว้าว” มาจากด้านหนึ่งของเมือง

เมื่อเขาหันไปมอง ฝูงชนกำลังรวมตัวกันอย่างหนาแน่นที่จัตุรัส

“โห คนพวกนั้นเป็นพวกกลุ่มที่เข้าไปท้าทายวงกตแห่งทาร์ซ่า?”

“ได้ยินว่าเป็นภารกิจความยากระดับ C++ ด้วยนี่?”

“บ้าไปแล้ว กระทั่งภารกิจระดับ E ฉันยังไม่เคยได้รับเลย”

“ต่อให้ได้รับมาจริงพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เลเวลมันแตกต่างเกินไป”

“ดูอุปกรณ์ของพวกเขาสิ ทุกคนต่างก็มีไอเทมระดับวิเศษ กระทั่งระดับหายากยังมี”

“เฮ้อ เมื่อไหร่พวกเราจะได้ใส่พวกมันบ้างนะ”

“ดูนั่นสิ ท่านอลัน!”

ฝูงชนที่พูดคุยกันให้ความสนใจไปยังด้านหนึ่ง

บุคคลที่กำลังเข้ามาใกล้กำลังกลายเป็นที่สนใจ เขาเป็นอัศวินที่กำลังขี่ม้าขาว ด้วยความหล่อเหลาของอัศวินพร้อมผมสีทองที่พลิ้วไหว รวมถึงชุดเกราะที่สวมใส่อยู่นั้นเงาแวววาวจนสามารถบอกได้เลยว่าเป็นไอเทมหายากตั้งแต่ครั้งแรกที่มอง การมาถึงของเขาแทบพรากทุกลมหายใจของทุกคนไป

“เหมือนจะมีคนบอกว่าท่านอลันเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘อัศวินศักดิ์สิทธิ์’ ที่เป็นหนึ่งในอาชีพลับแล้วนะ”

อัศวินศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในอาชีพที่รู้กันว่าเป็นอาชีพลับ

“เพราะงั้นเองสินะถึงได้มีกองทหารที่ดูเหมือนเป็นเอ็นพีซี”

“โห ดูไอเทมที่พวกเขาใส่สิ นิวเวิร์ลด์เพิ่งเริ่มเปิดทำการได้ไม่นานเองนะ...”

“พวกเขาอ้างว่าเริ่มเล่นเกมหลังเกมเปิดราวหนึ่งเดือน ช้ายิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”

“อุปกรณ์สวมใส่ของผู้คนในปาร์ตี้รอบกายเขาก็ไม่ใช่เล่นเลย”

การทำภารกิจความยากระดับ ++ นั้นจำเป็นต้องรวบรวมหลายปาร์ตี้เข้าด้วยกัน มันไม่อาจสำเร็จได้ด้วยเพียงแค่ปาร์ตี้เดียว

โดยปกติแล้วก็จะมีเพียงแค่ผู้เล่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของภารกิจ บางครั้งก็จะมีเอ็นพีซีเข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับตัวละครที่มีชื่อเสียงมากมายอย่างอัศวินศักดิ์สิทธิ์ มันมีโอกาสที่เอ็นพีซีจะเข้าร่วมสูงเลยทีเดียว

‘อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ลือกันนั่นสินะ’

แม้ว่าอาร์คจะเคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตา ขณะที่อาร์คในตอนนี้พึงพอใจกับอาชีพผู้เดินทางแห่งความมืดของตน ในตอนแรกนั้นอาร์คเองก็อยากที่จะได้รับอาชีพลับสายนักรบเช่นนี้มากกว่า

นับได้ว่ายังดี ไม่ว่าสิ่งที่ได้รับมาจะเป็นอะไร แต่การค้นพบภารกิจอาชีพลับนั้นราวกับงมเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว

ขณะที่อาร์คเหม่อมองฝูงชน หนึ่งในฝูงชนพลันเริ่มเข้ามาใกล้เขา

เป็นนักเวทสาวที่สวมใส่ชุดคลุมสีดำ ฮู้ดของเธอสวมใส่จนปิดเหลือแต่คางให้เห็น

“นายใช่คุณคิมฮยอนอูหรือเปล่า?”

สีหน้าแข็งทื่อพลันปรากฏบนใบหน้าของอาร์ค

เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครสักคนที่เรียกเขาด้วยชื่อจริงในเกม อีกทั้งยังไม่ใช่ใครสักคนที่เขาเคยรู้จัก

นอกจากนี้ยังเป็นผู้หญิงอีก? เขานึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร

“ก็ใช่... เธอเป็นใคร?”

“อา ฉันเดาถูกสินะ ฉันคิดว่าเป็นนายเพราะมีใบหน้าที่คล้ายกันน่ะ”

“เธอรู้จักฉันด้วย?”

นักเวทสาวถอดฮู้ดที่ปกปิดใบหน้าออกมา

อาร์คหยีตามอง นักเวทคนนี้เป็นสาวเผ่าเอลฟ์ เขามั่นใจว่านี่เป็นตัวละครที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แต่เธอกลับคุ้นมาก แต่มันก็ยังไม่พอให้เขานึกออกได้ว่าเธอเป็นใคร

ขณะที่อาร์คเงยหน้าขึ้น เธอพลันยิ้มเขินอายออกมา

“อา ดูเหมือนจะจำฉันไม่ได้สินะ ก็นะ ฉันเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปพอสมควรเลย”

ในที่สุดอาร์คก็นึกออกหลังได้เห็นรอยยิ้มของเธอ

“อ๋า! หรือจะเป็นคนที่เจอตอนสัมภาษณ์?”

“ใช่แล้ว ฉันคังมีซู เอ้านี่ ในเกมฉันชื่อ ลาริเอ็ตเต้”

“อา ตัวละครของฉันชื่ออาร์คน่ะ”

อาร์คเร่งร้อนโค้งศีรษะให้เป็นการทักทาย

เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่อาจจดจำใบหน้าเธอได้ ที่จริงอาร์คนึกถึงเธอขึ้นมาหลายครั้ง ไม่ กล่าวตามตรงคือคิดถึงเธออยู่บ่อยครั้ง เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกยินดีกับผู้หญิงสักคนที่เผยความสนใจในตัวเขาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยอีกทั้งยังเคยให้กำลังใจแก่เขา โดยเฉพาะในเมื่อเธอเป็นหญิงสาวผู้งดงามราวกับไอดอลคนหนึ่ง แต่ก็เท่านั้น อาร์คไม่คิดหวังว่าจะได้มีโอกาสพบเจอกับเธออีกครั้ง

แต่การพบเจอกันในที่แห่งนี้ด้วยอะไรก็ตามแต่ อีกทั้งเธอยังจดจำเขาได้และเข้ามาพูดคุยอีก...

“เธอเริ่มเล่นเป็นเอลฟ์เหรอ?”

“ใช่ แปลกไปหน่อยเนอะ ว่าไหม?”

“ไม่หรอก เหมาะมากเลยล่ะ”

มันไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง มีคนเพียงน้อยนิดที่จะเหมาะกับภาพลักษณ์ของเอลฟ์

ขณะที่อาร์คกล่าวชม ลาริเอ็ตเต้ที่โดนชมก็เริ่มเผยความแดงก่ำที่ใบหู

“ดูเหมือนเธอจะเข้าร่วมการบุกจู่โจมครั้งนี้ด้วยสินะ”

“ใช่ ที่จริงเลเวลของฉันยังไม่พอหรอก แต่ที่เข้ามาได้เพราะคนรู้จักเชิญให้ไปด้วยน่ะ”

“เธอเลเวลเท่าไหร่เหรอ?”

“ถึงจะได้คนรู้จักช่วยเอาไว้เยอะ แต่ฉันยังเลเวลแค่ 50 เอง”

ลาริเอ็ตเต้ตอบกลับมาด้วยสีหน้าเขินอาย

อาร์คสำลัก

“หะ-ห้าสิบ?”

“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า?”

“เอ่อ ไม่หรอก เลเวลของเธอสูงกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลยล่ะ”

“แล้วอาร์คนิมเลเวลเท่าไหร่กันเหรอ?”

“ฉันเพิ่งเลเวล 35 เอง...”

ขณะที่อาร์คตอบกลับด้วยเสียงดังราวกับมดตะโกนใส่พื้นดิน ลาริเอ็ตเต้เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา จากนั้นเธอจึงส่ายหน้าออกด้วยสีหน้าผิดหวัง

“ฉันขอโทษที่ต้องพูดเช่นนี้นะ แต่อาร์คนิม นั่นออกจะน้อยเกินไป ที่จริงแล้ว ในหมู่ผู้เข้าสมัคร ฉันนั้นเลเวลค่อนข้างไปทางต่ำแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่เลเวลจะอยู่ที่ประมาณ 70 และกลุ่มปาร์ตี้จู่โจมในครั้งนี้ ผู้นำอย่างอลันนิมเองก็เป็นผู้เข้าสมัครเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้เลเวลของเขาสูงมากกว่า 75 เสียอีก กล่าวตามตรงนะ เลเวลของอาร์คนิมนั้น...”

กระทั่งเขาไม่ได้ยินส่วนที่เหลือ เขาก็พอจะเดาคำพูดเหล่านั้นได้ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาเลยทีเดียวที่จะผ่านการทดสอบของโกลบอลเอ็กซอร์ทได้ เขารู้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินต่อหน้าโดยตรงมันก็คล้ายดูดพลังชีวิตของเขาไป

จากนั้น อัศวินที่ขี่ม้าขาวพลันเริ่มเข้ามาใกล้ลาริเอ็ตเต้จากทางด้านหลัง เป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์อลันนั่นเอง

“ลาริเอ็ตเต้นิม กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”

“เจอคนรู้จักน่ะ ก็เลยคุยด้วยกันนิดหน่อย”

“คนรู้จัก?”

อลันมองสำรวจอาร์คตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยดวงตาคล้ายไม่สบายใจนัก

“อาร์คนิมเองก็เป็นผู้สมัครงานเช่นเดียวกัน”

“เช่นนั้นเลเวลของนายคงไม่มีปัญหาสินะ ภารกิจที่เรากำลังจะไปทำครั้งนี้ค่อนข้างยากเอาเรื่องเลยทำให้เราขาดคนอยู่ งั้นก็ดีเลย สนใจเข้าร่วมการบุกจู่โจมกับพวกเราไหม?”

“ไม่ อาร์คนิมน่ะ...”

ลาริเอ็ตเต้อ่านสีหน้าของอาร์คขณะที่กระซิบกล่าวกับอลัน ขณะที่เธอทำเช่นนั้น ดวงตาของอลันพลันทอแสงวูบหนึ่งแห่งความเหยียดหยันออกมา...

“โอ้ แต่ละคนก็มีสถานภาพแตกต่างกันไป ขอตัว”

อลันหันม้ากลับราวกับไม่มีอะไรที่น่าสนใจอีก

“เอาล่ะ ลาริเอ็ตเต้นิม พวกเราไปกันเถอะ”

“อา งั้นฉันไปก่อนนะ พยายามเข้า”

ลาริเอ็ตเต้จ้องมองอาร์คด้วยดวงตาขมขื่นก่อนที่จะหันจากไป ความรู้สึกของอาร์คว่างเปล่าขณะที่มองดูแผ่นหลังของเธอ เขารู้สึกได้ว่าความหวังของตนนั้นกำลังเดินจากไปพร้อมกับเธอ

ที่จริง อาร์คเพิ่งรู้สึกพึงพอใจกับตนเองไม่กี่วันมานี้เอง

เขาได้รับอาชีพผู้เดินทางแห่งความมืด จากนั้นก็แก้แค้นอันเดลที่เลเวลสูงล้ำกว่าตนเอง ไม่นานมานี้เขายังได้รับภารกิจที่มีทางเลือกลับจนได้รับรางวัลดังที่เขาต้องการมา ดูเหมือนทุกสิ่งมันจะเป็นไปอย่างราบลื่น

เขากระทั่งคิดว่าเขายังพอที่จะมีโอกาสผ่านการทดสอบของทางโกลบอลเอ็กซอร์ท

แต่ท้ายที่สุด ทั้งหมดเป็นเขาคิดไปเอง

คู่ต่อสู้ของอาร์คอย่างผู้เข้าสมัครคนอื่นต่างกำลังออกไปทำภารกิจระดับความยาก C++ ในสถานที่อันสูงส่งเกินจินตนาการ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาและอาร์คนั้นมันช่างกว้างใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้

ถูกแล้ว เขาพอประมาณตนเองได้แล้ว

ไม่เหมือนกับพวกเขา อาร์คไม่ได้พยายามลงทุนลงแรงไปกับการเล่นเกมทั้งวัน ด้วยการลงแรงที่เกินกว่าผู้อื่นจึงเกิดความแตกต่างอันกว้างใหญ่ขึ้น อีกทั้งเขายังต้องเสียเวลาไปสองสัปดาห์ในหมู่บ้านฮารัน มันจึงยิ่งทำให้ความแตกต่างมากขึ้นไปอีก

เขารู้ เขารู้อยู่แล้ว แต่ว่า...

‘บ้าจริง ทำไมถึงรู้สึกแย่ขนาดนี้กัน’

ความรู้สึกพ่ายแพ้พลันท่วมท้นออกมา

ไม่ใช่เพราะเขาโดนผู้เข้าสมัครอื่นทอดทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง แต่สายตาเหยียดหยันของอลันนั้น รวมถึงลาริเอ็ตเต้ที่ตามอีกฝ่ายไปต่างหาก

ขณะที่เขานึกย้อนภาพเหตุการณ์ อาร์คพลันรู้สึกว่าตนสูญเสียลาริเอ็ตเต้ให้กับอลันไป นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม แต่นิวเวิร์ลด์นั้นเป็นเกมที่สมจริงยิ่งกว่าความเป็นจริง เช่นนั้นความรู้สึกพ่ายแพ้ของเขาจึงยิ่งรุนแรงมากกว่าครั้งใด

เขาไม่อยากที่จะแพ้อีกต่อไปแล้ว

ไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม!

* * *

 

‘หากเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่’

หลังจากได้เห็นอลันนำกองปาร์ตี้จู่โจม ฮยอนอูไม่อาจสลัดความตึงเครียดทิ้งไปได้

เมื่อครั้งที่หัวหน้าฝ่ายวางแผนฮามย็องอูบอกกล่าวคำพูดเอาไว้ในโถงสัมภาษณ์ ที่กล่าวเอาไว้ว่าพวกเขาไม่ได้ดูเพียงแต่เลเวล ทว่า เลเวลนั้นแท้จริงแล้วเป็นตัวเลขอันเที่ยงแท้ภายในเกม

ผู้เล่นเลเวลสูงจะสามารถล่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงขึ้นได้ นั่นทำให้มีโอกาสได้รับไอเทมที่ดีมากยิ่งขึ้น พวกเขาจะยิ่งขยับขยายกองกำลังออกไปทั่วภูมิภาค อีกทั้งพวกเขายังได้รับภารกิจระดับความยากที่ค่อนข้างสูง ท้ายที่สุดแล้ว เลเวลมันก็เป็นมูลค่าอันแท้จริงของทุกสิ่ง

โดนทิ้งเอาไว้ด้านหลังนั่นก็หมายถึงความล้มเหลวในการทดสอบ

เขาต้องตามให้ทัน มันเป็นหนทางเดียวที่จะอยู่รอด

‘มีวิธีไหนไหมนะที่จะเพิ่มเวลาเล่นเกมได้?’

เป็นเช่นเดิม ปัญหาคือเวลา

เขามั่นใจว่าตนสามารถตามทันได้หากสามารถทุ่มเทสมาธิกับเกมด้วยเวลาที่ทัดเทียมกับผู้เล่นอื่น ทว่า ฮยอนอูนั้นสามารถลงทุนเวลาได้เพียงแค่หกชั่วโมงต่อวัน เขายอมลดเวลานอนให้น้อยลงและยอมต่อสู้กับความเหนื่อยล้าเท่าที่กระทำได้

กล่าวตามตรง เขาไม่ได้คาดหวังการทดสอบของโกลบอลเอ็ทซอร์ทมากนัก

เขายังคงคิดเช่นนี้กระทั่งถึงตอนนี้ แต่ทว่า ถ้าหากเขาพลาดการทดสอบไป เขาก็จะไม่ได้เล่นนิวเวิร์ลด์อีก เขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังผ่านไปหนึ่งหรือสองเดือน ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาจะไม่สามารถพบเจออาร์คได้อีก มันเป็นตัวละครที่เขาบากบั่นปั้นมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก ความพยายามของเขาทั้งหลายจะกลายเป็นสูญเปล่า

‘และเจ้าอลัน!’

ยังไม่ลืมว่าอาร์คนั้นได้รับความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธอย่างสาหัส

อาร์คก็คือฮยอนอู ดูถูกอาร์คนั้นไม่ต่างอะไรกับดูถูกฮยอนอู ถ้าหากเขาสามารถทำได้ เขาอยากที่จะยกระดับเลเวลของตนเองราวคนบ้าเพื่อไปฉีกกระชากอลันดังเช่นที่ทำกับอันเดล จากนั้นจะหัวเราะใส่หน้าอีกฝ่ายที่หาเรื่องเขา

แต่ทว่า เขาก็ไม่อาจยอมละทิ้งความเป็นจริงเพื่อเกมได้

แม้ว่าเงินที่ทางโกลบอลเอ็กซอร์ทจ่ายให้เขาจะมากพอก็ตาม แต่มันไม่พอสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของเขาในกรณีที่เขาไม่ทำงานเพิ่ม กระทั่งตอนนี้ ความเป็นจริงที่ว่าเงินที่เขาได้รับจากร้านค้า และงานพาร์ทไทม์อีกสาม รวมกับเงินที่ได้รับจากโกลบอลเอ็กซอร์ทนั้นมันเพียงพอแค่เสมอตัว

‘ถึงแบบนั้นก็เถอะ เราจะเพิ่มหนี้อีกไม่ได้...’

ด้วยความที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มันไม่มีที่ทางให้เขากระดิกเพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรได้

‘ครึ่งปี! ไม่สิ อย่างน้อยก็ไม่กี่เดือน มันไม่มีทางที่จะทำให้เราทุ่มเทไปกับการเล่นเกมได้เลยหรือไง?’

จากนั้น ข่าวคราวที่เขาได้เห็นมาเมื่อไม่กี่วันก่อนพลันผุดขึ้นมาในใจ

มันเป็นเรื่องของการซื้อและขายไอเทมภายในเกม ตอนนี้มันคือสิ่งที่เขาคิด เขาจำได้ว่าได้ยินเรื่องราวของผู้คนที่ได้รับเงินมหาศาลจากการขายไอเทมภายในเกม

ตอนนี้การซื้อขายไอเทมนับเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้ว ในตอนนี้ไอเทมสามารถซื้อขายได้อย่างอิสระในตลาด ฮยอนอูจำได้ว่าครั้งที่ยังเรียนอยู่ ตอนนั้นเขายังได้รับเงินจำนวนหนึ่งมาจากการขายไอเทมภายในเกมออนไลน์ ตอนนั้นเขาไม่มีภาระเรื่องค่าครองชีพ แต่ไอเทมในเกมนั้นสามารถกลายเป็นเงินได้จริง

สำหรับเกมอย่างนิวเวิร์ลด์ ไอเทมนั้นแน่นอนว่ายิ่งต้องขายได้แพงมากกว่า

‘หรือบางทีเราควรขายไอเทมและใช้เงินจากการขายพวกมันเพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่? อืม ด้วยเลเวลของเราตอนนี้ ไอเทมที่เราสามารถได้รับนั้นไม่อาจนับเป็นเงินได้มากนัก แต่ว่า... นิวเวิร์ลด์เป็นเกมที่เพิ่งเปิดใหม่ ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการไอเทมที่เราได้รับด้วยเลเวลตอนนี้ ใช่แล้ว ลองดูสักตั้งก็แล้วกัน’

ฮยอนอูหาและเข้าไปยังเว็บไซต์ประมูลราคาแห่งหนึ่งที่เขาเคยใช้งานเมื่อนานมาแล้ว

ดังคาด การประมูลไอเทมของนิวเวิร์ลด์นั้นกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่เขาค้นหารายการสินค้าอยู่นั้น สายตาพลันเหลือบไปเห็นราคาของในตลาดจนแทบทำเอาเขากรามค้าง

“อะ-อะไรเนี่ย? นี่มันราคาไอเทมในเกมจริง?”

ไอเทมในนิวเวิร์ลด์นั้นสามารถขายได้ด้วยราคาที่เกินจะจินตนาการถึง

ตอนที่ฮยอนอูเล่นเกมออนไลน์ ช่วงราคาที่ขายได้ก็อยู่หลักสิบล้านวอน แต่นั่นคือราคาไอเทมของผู้เล่นชั้นแนวหน้า

ทว่า นิวเวิร์ลด์นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

ราคาของหนึ่งเหรียญทองมีค่าประมาณหนึ่งหมื่นวอน และดาบวิเศษที่เลเวล 20-30 นั้นสามารถขายได้อย่างน้อยหลักล้านวอน

*ผู้แปล : 1,000,000 วอน มูลค่าเทียบเท่า 30,000 บาท*

สำหรับระดับหายากและระดับยูนิค*นั้นจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะ มูลค่าของมันอยู่ในช่วงตั้งแต่หลายแสนจนถึงสิบล้านวอน

*ยูนิค หมายถึง มีจำนวนจำกัด อาจถึงระดับชิ้นเดียวในโลก*

แน่นอนว่าไอเทมนั้นมีมูลค่าของมัน แต่ในโลกของฮยอนอูที่อดมื้อกินมื้อเพื่อประหยัดเงินสักพันวอนนั้น มันไม่อาจจินตนาการใฝ่ฝันได้ถึง

‘หนึ่งเหรียญทองเทียบเท่าหนึ่งหมื่นวอน... งั้นราคากล่องเครื่องมือที่เราได้รับมาวันนี้ก็เทียบมูลค่าได้สองล้านวอน!’

มันทำเขาตกตะลึงอย่างแท้จริง

‘บางทีไอเทมที่เรามีก็อาจขายได้ราคาสูงเหมือนกัน?’

หลังการพิจารณา ฮยอนอูได้ส่งผ้าคลุมสีชาดแห่งความฝันเข้าประมูล มันเป็นไอเทมเลเวล 20 มันเป็นไอเทมระดับยูนิคที่มีความสามารถเต็มเปี่ยมสำหรับฉวยโอกาสจากคู่ต่อสู้

มันนับเป็นสมบัติหวงแหนของฮยอนอู แต่ไอเทมอื่นที่เขาถือครองก็ไม่น่าจะมีราคามากพอให้ขายได้ จากนั้น ราวกับกองเพลิงที่ลุกโชน ด้วยเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีคนประมูลนับร้อยต่างเข้ามาแข่งกันประชันราคา หลังผ่านไปชั่วโมง ราคาในตอนนี้พุ่งขึ้นไปสูงถึงสี่ล้านวอนเป็นที่เรียบร้อย

มันทัดเทียมได้กับค่าจ้างสองเดือนของฮยอนอูและค่ารักษาพยาบาลกว่าครึ่งเดือนเลยทีเดียว

มันน่าเหลือเชื่อยิ่ง

‘บ้าไปแล้ว ที่ผ่านมาเรามัวทำอะไรอยู่กัน?’

กระทั่งว่ามันเป็นระดับยูนิค แต่มันก็จำกัดที่เลเวล 20 และต้องโดนคำสาปด้วย

แต่นี่สี่ล้านวอนในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ! เขากระทั่งไม่กล้าจินตนาการถึงเลยว่าไอเทมเพียงชิ้นเดียวจะให้ราคาสูงถึงขนาดนี้

ทว่า ฮยอนอูก็ตระหนักได้ว่าความจริงไม่ง่ายเช่นนั้น

แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเพราะผู้สมัครเข้าทำงานของโกลบอลเอ็กซอร์ท

อันเดลก็เช่นกัน คุณไม่อาจดื่มโพชั่นฟื้นฟูราวกับดื่มน้ำได้หากไม่มีเหมืองเงินเหมืองทอง พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับเงินตรา ไม่ว่าจะยังไง สำหรับฮยอนอูแล้ว สถานการณ์เช่นนี้นับได้ว่าเป็นแสงส่องสว่างชี้ทางให้เลยทีเดียว

‘นี่ไง นี่ไงเล่า!’

หนทางที่จะทำให้เขาเล่นเกมได้!

‘เราสามารถหาเงินจากเกมได้!’

หลังจากที่พบช่องทาง เขายิ่งรู้สึกโกรธยิ่งนักที่ตนไม่รู้เรื่องราวจนถึงตอนนี้

การประมูลจบลงแล้ว ผ้าคลุมสีชาดแห่งความฝันถูกขายออกไปที่ราคาสี่ล้านห้าแสนวอน

เขายังเปิดประมูลชุดเกราะโลหะยกเซ็ตของอันเดลด้วย เป็นเพราะค่าพลังป้องกันมันดีเอาเรื่องนั่นเอง แม้มันจะมีข้อจำกัดหลายอย่างสำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นอาชีพนักรบ อีกทั้งมันยังเป็นเกราะที่ไม่ได้หรูหราอะไร ท้ายที่สุดแล้วจึงถูกขายออกไปที่ราคาสองล้านห้าแสนวอน

แม้ว่าเขาจะเสียดายที่ต้องขายพวกมันไป แต่เขาก็คิดแทนว่านี่คือการลงทุน

ถ้าหากเขาสามารถลงสมาธิกับเกมได้ตลอดทั้งวัน มันก็ไม่มีอะไรให้น่าเสียดาย

ด้วยการขายผ้าคลุมและชุดเกราะของอันเดล ค่ารักษาพยาบาลสองเดือนนั้นตกอยู่ในมือของเขาแล้ว อีกทั้งยังมีเหลืออีกนิดหน่อยให้เขาสามารถใช้เล่นเกมได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมากไปอีกสองเดือน ถ้าหากเขาสามารถทำเงินได้เช่นนี้ เขาอาจจะสามารถซื้อเครื่องเกมมาเล่นเองได้สักวันหนึ่ง

กระทั่งว่าเขาไม่ผ่านการทดสอบ ถ้าหากเขายังสามารถเล่นนิวเวิร์ลด์ต่อได้ เขาก็จะสามารถทำเงินได้

‘เอาล่ะ มาลองกันสักตั้ง!’

นี่เป็นครั้งแรกที่ฮยอนอูตั้งใจมุ่งมั่นเส้นทางอาชีพเกมเมอร์

วันถัดมา เงินจำนวนเจ็ดล้านวอนได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของเขา

เมื่อฮยอนอูยืนยันจำนวนเงินคงเหลือในบัญชี เขาจึงออกไปที่ร้านค้า เจ้าของร้านก่นด่าสาปแช่งที่เขาไม่โผล่หน้ามาทั้งสัปดาห์ จากนั้น ฮยอนอูจึงยื่นจดหมายลาออกอย่างสุภาพและเร่งร้อนออกมาจากร้าน

ฮยอนอูไม่ใช่คนที่มีสัมพันธ์ฉันท์มิตรเหลือมากนัก เขาจึงไม่ต้องรู้สึกเสียดายอะไรที่ต้องทำเช่นนี้

ถ้าหากจะมีคนหนึ่งที่เขาเสียดาย ก็คงเป็นเพื่อนร่วมงานอย่างฮเยซอน ฮเยซอนไม่เคยที่จะลืมยิ้มให้เขาแม้เธอต้องเผชิญความยากลำบากของทางบ้านเช่นเดียวกับฮยอนอู แต่ว่าฮยอนอูที่ไม่เคยให้ความใส่ใจผู้อื่นเลยนั้นกลับเห็นเธอเป็นน้องสาวคนหนึ่ง

แม้ว่าจะไม่ดีนัก แต่เขาก็อยากที่จะอธิบายสถานการณ์ของตนเองให้เธอได้ฟัง

“เธอต้องหัวเราะแน่เลยถ้าพี่จะบอกว่าลาออกไปเล่นเกม แต่นี่มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพี่”

“แต่นี่มันกะทันหันเกินไป”

ฮเยซอนเผยใบหน้านองน้ำตา

“อย่าเศร้าไปน่า แม่ของพี่ก็อยู่โรงพยาบาลใกล้ ๆ นี่เองนะ ตอนที่พี่จะไปโรงพยาบาลจะมาซื้อเครื่องดื่มที่นี่แล้วกัน แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นก็โทรหาพี่ได้ตลอดนะ ไม่ว่าจะหนูหรืออะไร พี่จะช่วยเราจับพวกมันโยนออกไปให้พ้นเอง”

“หนู...” ฮเยซอนหัวเราะคิกคักขณะพึมพำกับตัวเธอเอง “ได้ค่ะ แต่เรื่องนั้น... ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”

ฮเยซอนดูแปลกไปราวกับเธอสลัดทิ้งแล้วซึ่งความกังวล

“แต่ว่านะพี่ชาย ถ้าหากพูดถึงเกมแล้ว สำหรับพี่ก็คงเป็นนิวเวิร์ลด์ใช่ไหมคะ?”

“ใช่แล้วล่ะ”

“ได้ค่ะ งั้นไว้เจอกันที่นั่นแล้วกันค่ะ”

“ว่าอะไร? เธอเล่นนิวเวิร์ลด์แล้ว? ในเกมชื่ออะไรล่ะ?”

“ความลับค่ะ ไว้หนูจะไปหาพี่นะ ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่” ฮเยซอนตอบกลับด้วยรอยยิ้มงดงาม

* * *

 

“หึหึหึ”

เสียงหัวเราะดังก้องอยู่ภายในป่าแห่งเงา

บุคคลที่มีค้างคาวและกะโหลกศีรษะเคียงข้าง พร้อมออร่าชั่วร้ายแห่งความโลภที่ปลดปล่อยออกมานี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากอาร์ค

นี่ไม่ใช่อาร์คคนเดิมอีกต่อไป ปณิธานแรงกล้ากำลังเผยออกมาอย่างมีชีวิตชีวาบนใบหน้าของอาร์ค มันเปลี่ยนไปแล้ว นับตั้งแต่วันนี้อาร์คได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่โดยยึดอาชีพเกมเมอร์

“เจ้านายทำไมถึงมีท่าทีแบบนี้ล่ะ? นี่มันน่ากลัวไปนะ”

เจ้าค้างคาวสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอาร์คไปในทางน่ากลัวขึ้นจนร่างสั่น

“หุบปาก แกเตรียมตัวไว้ให้ดี นับจากนี้จะไม่มีการพัก เจ้าค้างคาวไปสำรวจพื้นที่ซะ หาสถานที่ที่มีมอนสเตอร์รวมตัวกันอยู่เยอะ ๆ”

“ระ-รับทราบ”

ด้วยดาบที่ชี้ขึ้น ท่าทีของอาร์คตอนนี้ที่มีต่อป่าแห่งเงาราวกับคนบ้าคนหนึ่ง

“รอก่อนเถอะอลัน! สักวันฉันจะให้แกมาคุกเข่าต่อหน้าให้ได้!”

ทั่วทั้งป่าแห่งเงาโดนขุดราก ก่อนหน้านี้เขาได้จากไปเพราะคิดว่ามันจำเป็นต้องใช้กลุ่มขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้เขากลับมาอีกที่นี่อีกครั้งเพราะมีมอนสเตอร์อยู่ชุกชุม อีกทั้งยามที่เขาพบมันสักตัวหนึ่ง ดวงตาของเขาแทบจะทอแสงสว่างวาบออกมา

นี่ไม่นับว่าบ้าคลั่ง แต่เป็นความโลภที่ชโลมไปทั่วทั้งดาบของเขาขณะฟาดฟันลงใส่ทั้งซอมบี้และกูลอย่างไม่อาจยั้ง เท่านั้นยังไม่พอ เขายังคว้าเอาวัตถุดิบทำอาหารทุกชนิดในพื้นที่จนถึงขนาดที่ว่าป่าแห่งนี้เหี้ยนเตียน

‘เราไม่อาจต่อว่าอะไรเรื่องอาชีพได้อีก ในเมื่อเราเลือกมันมาเอง เราก็ต้องใช้อาชีพนี้ให้ดีที่สุด และเมื่อมันดีขึ้น เราจะสามารถใช้ความสามารถเต็มร้อยของอาชีพพิเศษนี้ได้!’

อาร์คไม่ยอมเสียเวลาแม้เพียงนาที

ถ้าหากเขาจะพักชั่วครู่ก็เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิต และทันทีที่เขาทำอาหารเพื่ออยู่รอดออกมาก็จะโยนพวกมันให้ปีศาจอัญเชิญกิน

“ชะ-ช่วยด้วย! หยุดเถอะเจ้านาย!”

ทั้งเจ้าค้างคาวและกะโหลกต่างกรีดร้องออกมา ทว่าอาร์คไร้ซึ่งความปราณี มันเป็นเพราะค่าสถานะของปีศาจอัญเชิญที่เพิ่มขึ้นมันก็หมายถึงอาร์คจะแข็งแกร่งขึ้น

ยามที่เขาได้รับอุปกรณ์สวมใส่ที่ดร็อปจากมอนสเตอร์ เขาจะซ่อมแซมมันอย่างต่อเนื่องด้วยการเวทมนตร์ฟื้นคืนจนกระทั่งค่าความทนทานเหลือเพียงแค่หนึ่ง เพื่อที่จะประหยัดเงินแม้เพียงสักเล็กน้อย มันจำเป็นต้องเพิ่มทักษะเวทมนตร์ฟื้นคืนเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงทักษะอื่นก็ด้วยเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะทักษะไหน ถ้าหากเขายกระดับมันขึ้น เขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหรือช่วยลดค่าใช้จ่ายให้เขาได้มากขึ้น

และมันเป็นเหตุผลที่จะช่วยยกระดับชีวิตของเขาให้ดียิ่งขึ้นด้วย

“มอบค่าประสบการณ์มา! มอบเงินมา! มอบไอเทมมา!”

ขณะที่อาร์คออกล่าราวบ้าคลั่ง มอนสเตอร์อันเดตทั้งหลายราวกับคิดหลีกเลี่ยง ในขณะที่แรงจูงใจของเขาท่วมล้นกระทั่งไม่ปล่อยหลุดรอดแม้ศีรษะของเหล่าอันเดต เพียงพริบตาเขาได้ปลดปล่อยระเบิดแห่งโทสะออกมา อาร์คกลับกลายเป็นศัตรูที่แสนอันตรายต่อป่าแห่งนี้ไป

หลายวันผ่านไปด้วยการล่าเช่นนี้ ในที่สุดมอนสเตอร์ที่น่ากลัวก็ปรากฏตัวขึ้น บอสระดับกลางจะปรากฏตัวเมื่อสังหารเหล่าอันเดตไปจำนวนหนึ่ง เป็นยมทูต ยมทูตที่ร่างเริ่มเด่นชัดกำลังเข้ามาใกล้เขา มันมากับเสื้อคลุมสีดำที่โบกสะบัดพร้อมกับเหวี่ยงเคียวขนาดยักษ์เข้าใส่

“เจ้าถึงกับกล้าสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ของข้า!”

เสียงร้องต่ำพลันสั่นสะท้านป่าแห่งเงา

แม้ว่ามันจะดูน่ากลัว แต่ทว่ามันที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นคือค่าประสบการณ์มากมายมหาศาลในสายตาของอาร์ค

หลังผ่านการออกล่าอย่างไม่หยุดในป่าแห่งเงา เลเวลของอาร์คเพิ่มขึ้นเป็น 39 แล้ว ด้วยโบนัสค่าสถานะ 20% ที่จะเพิ่มขึ้นในความมืด เขาในตอนนี้แทบไม่ต่างอะไรกับผู้เล่นเลเวล 40 ปลาย ๆ

ด้วยระดับทักษะของเขาที่โหมกระหน่ำยกระดับขึ้นมา ทำให้ทักษะต่อสู้ด้วยดาบและมือตอนนี้เข้าถึงขั้นกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กระทั่งว่ายมทูตที่เป็นมอนสเตอร์เลเวล 50 เขายังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัวมัน

“อย่าเสียเวลาพูดมาก เข้ามา!”

“หึหึหึ เผชิญหน้ากับผู้เฝ้าประตูแห่งยมโลกเช่นข้า ไอ้เด็กน้อย เจ้าไม่ได้ตายดีแน่!”

ยมทูตพุ่งเข้าหาอาร์คอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเหวี่ยงเคียวยักษ์ของมัน

อาร์คที่หลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังอยู่ในระยะโจมตีประชิดจึงใช้คมดาบแห่งความมืดสวนกลับ

เสียงระเบิดดังกึกก้อง ยมทูตเริ่มที่จะชักเท้ากลับ

ขณะเดียวกัน เจ้าค้างคาวและกะโหลกต่างก็โรมรันจากด้านข้างของยมทูต

เจ้าค้างคาวและกะโหลกแยกด้านกัน เป็นเพราะจำนวนอาหารที่พวกมันจะได้กินนั้นขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากการต่อสู้

“แค่ก แก...!”

ขณะที่ยมทูตเริ่มซวนเซ อาร์คพลันใช้เนตรแห่งแมว

พลังชีวิตของยมทูตปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของมันพร้อมกับจุดสีแดงที่ปรากฏบนร่างกาย พวกมันคือจุดอ่อนที่ถูกพบเห็นโดยเนตรแห่งแมว

ปะ-ปะ-ปะ-ปัง!

ขณะที่เขารัวการโจมตีใส่จุดสีแดง พลังชีวิตของยมทูตก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อพลังชีวิตลดลงเหลือเพียงครึ่ง ออร่าสีดำพลันเริ่มทะลักออกมาจากร่างของยมทูต

“จงหวาดกลัวความตาย!”

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด