ตอนที่แล้วบทที่ 44 กลับไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 คำแนะนำ

บทที่ 45 ชายชรา


ระยะห่างระหว่างฐานหนานซานและฐานจางหลางอยู่ประมาณ 130 กิโลเมตรซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นเนินเขาสูงทำให้การขับขี่รถไม่ค่อยสะดวกอีกอย่างเขาต้องหลีกเลี่ยงซอมบี้อีกต่างหาก

“South Mountain South, North Autumn mourns, Nan Shan valley……..”

ระหว่างที่ขับรถหลินเฟิงฮัมเพลงของเขาจากโลกเดิม

ใกล้มืดแล้วเขาพบกลุ่มล่าหลายกลุ่มหลังจาก 3 ปีผ่านไปนับตั้งแต่ช่วงที่ยุคเลวร้ายจำนวนซอมบี้ใกล้ทางหลักนั้นหายากมากเพื่อที่จะได้คริสตัลขาวพวกเขาต้องเดินลึกเข้าไปอีก

หลินเฟิงมาถึงฐานจางหลางเมื่อตอนที่ฟ้ามืดแล้วรถจอดที่หน้าฐานและเขาก็เดินเข้าไป

เจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยของจางหลางยังเข้มงวดมากกว่าเดิมมียามยืนอยู่ที่ประตูเหนือกำแพงมีนักล่าจำนวนมากอยู่ด้วย

ตั้งแต่รู้ว่าฐานดงซันต้องการโจมตีฐานความเป็นอยู่ชีวิตประจำวันของคนในฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก หลินเฟิง ยังสังเกตเห็นคนทุกประเภทเข้าและออกจากผ่านจางหลางอยู่ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบที่จะใกล้เข้ามานี้

สงครามระหว่างฐานส่วนใหญ่เพื่อแก่งแย่งแหล่งทรัพยากรไม่ค่อยส่งผลกระทบกับคนธรรมดามากนักไม่เป็นอันตรายต่อประชากรส่วนใหญ่สงครามส่วนมากเกี่ยวข้องกับนักล่าเมื่อมีการสู้รบเริ่มขึ้นประชาชนทั่วไปสามารถหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตัวเองได้ต้องขอบคุณความมืดและเสื้อผ้าที่มืดมนของหลินเฟิงทำให้เขาเดินเข้าไปในฐานได้โดยไม่มีคนสังเกต

หลินเฟิงเดินผ่านลานกว้างไปยังพื้นที่ส่วนกลางจุดหมายคือโรงพยาบาลที่ดงวูเคยเขามาครั้งหนึ่ง

แม้จะใช้ชื่อว่าโรงพยาบาลแต่มันคล้ายกับคลีนิคขนาดใหญ่มันมี 3 ชั้น แต่ละชั้นมีห้องรักษา 12 ห้องสำหรับฐานที่มีคนมากกว่า 5 หมื่นคนมันค่อนข้างเยอะพอสมควร

หลินเฟิงไม่ได้เข้าไปในโรงพยาบาลเพียงแต่เดินไปรอบรอบถึงแม้ว่าความน่าจะเป็นและวิธีการนี้เป็นกับดักของวูฟต่ำมากแต่เขาก็ไม่ต้องการเสี่ยง

มีผู้ป่วยและแพทย์ที่ใส่เสื้อสีขาวกำลังเข้าและออกจากโรงพยาบาลบางครั้งมีรถ 2 -3คัน หยุดอยู่ด้านหน้าผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพื่อรักษาความปลอดภัยของทรัพยากรหลายคนได้ต่อสู้กันและบาดเจ็บมากมายนอกเหนือจากนั้นยังขาดยารักษาโรคมากขึ้นแม้ว่าโรงพยาบาลจะมีขนาดเล็กแต่ก็มีคนจำนวนมากที่เข้ารับการรักษา

หลินเฟิงเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างเงียบๆเด็กชายตัวเล็กได้นัดพบเขาที่ชั้น 2 อย่างไรก็ตามหลินเฟิงไม่ได้เดินขึ้นไปในทันทีแต่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนก่อนค่อยๆย้ายไปยังชั้น 2

ผู้ป่วยจำนวนมากหนาแน่นมีเตียงอยู่ตามทางเดินยาเป็นสินค้าที่มีความต้องการมาก ผู้ป่วยเหล่านี้นอนรอคอยแม้กระทั่งน้ำเกลือก็ยังไม่มี  คนบาดเจ็บส่วนใหญ่ได้รับการรักษาด้วยผ้าอย่างง่ายๆที่อยู่ในกล่องปฐมพยาบาลดังนั้นประสิทธิภาพของมันจึงน้อยมากแต่ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากรักษาแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้วหลังจากช่วงยุคเลวร้าย

ขณะที่เดินผ่านเขาพบว่าส่วนใหญ่คนที่บาดเจ็บล้มตายเป็นคนธรรมดาไม่มีนักล่าอยู่ในนั้นหลังจากเดินผ่านชั้นแรกมาได้หลินเฟิงก็มาถึงชั้นที่ 2 มีความแตกต่างระหว่างผู้ป่วยชั้น 1 กับชั้นที่ 2 อย่างมากเพราะผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายแรงอยู่ที่ชั้น 2 ชั้นที่ 2 ไม่มีเตียงตามทางเดินหลินเฟิงสังเกตเห็นแต่ผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นโคม่าดูเหมือนว่าการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยธรรมดาได้รับการรักษาที่ชั้นหนึ่งในขณะที่ผู้ป่วยหนักอาการโคม่าจะอยู่ที่ชั้น 2

หลินเฟิงได้แต่ถอนหายใจ

ส่วนชั้นที่ 3 หลินเฟิงไม่ได้ขึ้นไปส่วนนี้น่าจะเป็นที่อยู่ของหมอหรือมักจะรวมถึงเหล่านักล่าที่บางครั้งได้รับบาดเจ็บมามีเพียงนักล่าไม่กี่คนที่จะบาดเจ็บคนธรรมดาไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังชั้น 3 จะมีเจ้าหน้าที่คอยหยุดพวกเขาแพทย์ที่ชั้น 3 จะให้ความสำคัญกับนักหน้าเท่านั้น

หลังจากสังเกตสถานการณ์แล้วหลินเฟิงก็เดินไปยังห้องรักษาที่เด็กชายตัวน้อยได้พูดเอาไว้เขาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยเป็นห้องเล็กๆเทียบไม่ได้กับห้องพักในโรงแรมขนาดเล็กก็ตามหลินเฟิงเห็นแค่เพียงเตียง 1 หลังและเก้าอี้ภายในห้องเท่านั้นมีชายชราอายุ 80 ปีนั่งอยู่บนเตียงและบนเก้าอี้ด้านข้างมีเด็กชายตัวน้อยอยู่ขณะที่เดินเข้าไปในห้องหลินเฟิงไม่ได้พูดอะไรสักคำชายชราและเด็กชายตัวน้อยสังเกตเห็นว่าหลินเฟิงเข้ามา

“นั้นผู้มีพระคุณใช่หรือไม่”

หลินเฟิง พยักหน้าให้กับเด็กชายตัวเล็กๆขณะที่ชายชราเปิดปากถามชายชราพยายามที่จะลุกขึ้นนั่งแต่ร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไปหลังจากที่พยายาม 2 -3 ครั้งเขาก็ต้องยิ้มอย่างอ่อนใจให้หลินเฟิง

“ฉันเคยบอกไปแล้วว่าโรคของฉันไม่สามารถรักษาได้แต่เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยฟังยังจะหาคริสตัลขาวมาที่นี่ยังต้องรบกวนน้องชายอีก”

ชายชราพูดอย่างอ่อนใจในระหว่างที่พูดเขาต้องหายใจลึกๆเพื่อพูดต่อ

“ผมคิดว่าเราควรจะเข้าเรื่องที่โทรให้ผมมาที่นี่”

หลินเฟิงไม่ได้มาที่นี้เพราะคำขอร้องของเด็กชาย

Iหลินเฟิงเติบโตโดยไม่มีพ่อแม่เขาถูกเลี้ยงดูโดยปู่ของเขา เมื่อปู่เขาจากไปหัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างหนักเขาสามารถเห็นตัวของเขาในเด็กน้อยคนนี้

“เทียนน้อยออกไปก่อนปู่มีเรื่องจะคุยกับพี่ชายคนนี้”

ชายชราไม่ตอบหลินเฟิงแต่กลับบอกให้หลานชายออกไปแทน

เมื่อเด็กชายได้ยินเขาก็ออกไป

“ถ้าคุณมีอะไรจะพูด ตอนนี้ก็พูดได้เลย”

หลินเฟิงตอบชายชรา