ตอนที่แล้วตอนที่1:เมืองหลัวหยาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่3:ดาบแทงค์เทเลอร์

ตอนที่2 :ร้านขายอาวุธฉีฟาง


“เงินจำนวนมาก...จากชายอ้วนคนนั้น..ช่างน่าสนใจ.”

มองไปที่เงินในมือของเขา,จางมู่ถึงกับตกใจ.เขาตรวจกระเป๋าสตางค์ครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วถอนหายใจ.

ในกระเป๋าสตางค์มีแค่เงินในนั้น;ซึ่งมันมีอยู่สามพันหยวน.

จางมู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ.ชายอ้วนคนนั้นไม่ได้ใส่บัตรประชาชนหรือบัตรธนาคารในกระเป๋าสตางค์ของเขา.จางมู่จำได้ว่าชายอ้วนคนนั้นแค่เมินเฉยแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย.

ชายอ้วนคนนั้นไม่ได้สนใจอะไร.

อย่างไรก็ตาม,จางมู่ไม่มีเวลามากพอที่จะคิดต่อ.เขาไม่มีเวลาจริงๆในตอนนี้.แต่อย่างไรก็ตาม,เงินนั้นมีจำนวนเพียงพอ,ซึ่งหมายความว่าแผนของเขาจะสามารถดำเนินต่อไปได้.

ขณะที่ผู้คนกำลังมองจางมู่ด้วยความประหลาดใจ,เขาก็วิ่งตรงไปยังทิศทางที่แน่นอน.ถ้าไม่มีใครรู้เหตุผลคงคิดว่าเขาเป็นโจร.มันไม่ได้เป็นเพราะจางมู่ลังเลที่จะใช้บริการแท็กซี่แต่เป็นเพราะเสื้อผ้าของเขามอมเมมเกินไป.ไม่มีคนขับคนไหนเต็มใจที่จะพาเขาไป.

หลังจากสิบนาทีต่อมา,จางมู่วิ่งปราดเข้าไปภายในซอยอย่างรวดเร็ว,เขาก้มตัวไปข้างหน้าวางมือบนเข่าและหอบเอาอากาศเพื่อหายใจ.แม้ว่าเขาจะมีร่างกายที่แข็งแรงและอ่อนเยาว์,แต่เขาก็ใช้ความเร็วทั้งหมด เขาแทบจะใช้พลังของเขาจนหมดเกลี้ยง.จางมู่เงยหน้าขึ้นพักหนึ่งแล้วค่อยๆมองหาป้ายร้าน.

ร้านขายอาวุธฉีฟาง.

นั้นไง.มันน่าจะเป็นที่นี้.

โชคดี,ร้านนี้มีชื่อเสียงในอนาคต เมื่อเขาพูดถึงเมืองหลัวหยางกับพ่อค้าที่เขารู้จัก,พวกเขามักจะพูดถึงชายที่เรียกว่า“ทหารของพระราชา” ดังนั้น จางมู่จึงจำได้ว่ามีผู้ที่ทรงพลังอยู่ในเมืองที่เขาอาศัยอยู่.

จางมู่สูดหายใจเข้า,ทรงจัดทรงผมและเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง.เขากำลังจะได้เห็นคนที่เป็นตำนาน,แม้แต่จางมู่ก็ไม่สามารถหยุดความรู้สึกกังวลใจของเขาได้.

จางมู่เดินผ่านประตูไม้เก่า.เนื่องจากความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนา,เขามองไปรอบ ๆ ห้อง.

มีสมุดบัญชีไม่กี่เล่มและกล่องอาหารกลางวันวางกระจายอยู่บนโต๊ะและมีขวดเบียร์ว่างเปล่าจำนวนมากวางอยู่กับพื้น.

ร้านทั้งร้านว่างเปล่าและไม่มีอาวุธให้เห็น.มันแตกต่างจากจินตนาการของจางมู่เล็กน้อย.เขารู้สึกผิดหวังนิดหน่อย.

จางมู่ไม่เห็นใครภายในห้อง.เขาเดินเพียงไม่กี่ก้าวจากนั้นเขาก็เห็นประตูที่มีม่านสีฟ้าจากมุมห้อง.เขาคิดว่าเจ้าของร้านน่าจะอยู่ในห้อง,เขาจึงตะโกนไปที่ประตู.

“เฮ้,เจ้าของร้านอยู่ไหม?”

เจ้าของร้านน่าจะได้ยินเสียงของเขา.หลังจากนั้นไม่นาน,ก็มีเสียงกรอบแกรบของเสียงฝีเท้าที่ไม่หนักมาก,และแขนสีดำที่กำลังยกม่านขึ้น.

ร่างที่สูงและกำยำของชายวัยกลางคน! เจ้าของร้านสูงกว่าจางมู่ประมาณครึ่งหัว.ดวงตาของเขาจ้องไปที่จางมู่ ทำให้เขารู้สึกกดดัน.อย่างไรก็ตาม,หลังจากดูอย่างละเอียดแล้วพบว่าเจ้าของร้านไม่ได้โกนหนวดมาเป็นเวลานานและดูรุงรัง.

เจ้าของร้านวัยกลางคนมองมาที่จางมู่ขึ้นลง.เขาเห็นเสื้อผ้าที่สกปรกของจางมู่ จากนั้นดวงตาที่สดใสของเขาก็จางลง,แต่มันก็เห็นไม่ชัด.

เขาพูดกับจางมู่ด้วยเสียงหนักแน่น,“ว่าไงน้องชายมีอะไรให้ช่วยไหม”

จางมู่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปของชายวัยกลางคน,แต่เขาไม่สนใจ.เขารู้ถึงสารรูปของเขา.โชคดีมากที่เจ้าของร้านไม่ได้ถือว่าเขาเป็นคนขอทานและขับไล่เขาออกไป.

เขาพยักคิ้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร้านและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าอยากซื้อดาบ"

“ดาบ?”

เจ้าของร้านวัยกลางคนแสดงให้เห็นถึงขี้เล่นและจ้องมาที่จางมู่ในความเงียบ.

เจ้าของร้านเข้าใจว่าจางมู่นั้นจริงจัง.แม้ว่าจางมู่จะสกปรก แต่เขาไม่กลัวที่จะจ้องตากับเขา.ทันใดนั้น เจ้าของร้านเริ่มเปลี่ยนความคิดและจ้องมองหน้าของชายหนุ่ม.

“ทุกคนที่เข้ามาเรื่องดาบคือแขกของข้า.ข้าชื่อเซเหลียง,เจ้าของร้านของดาบทำด้วยมือ.ดาบแบบไหนล่ะที่เจ้าชอบ?”

หลังจากที่เจ้าของร้านถาม,จางมู่ไม่ได้ตอบคำถามโดยทันที,แต่เขามีคำถามที่ต้องการจะถามกับเจ้าของร้านตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในร้าน.

“ท่านเซเหลียง,เพื่อนของข้าบอกว่าข้าสามารถซื้อดาบคุณภาพดีได้จากท่าน.ทำไมที่นี้จึงไม่มีดาบอยู่ในร้าน? หรือว่าพวกมันขายหมดแล้ว?

เจ้าของร้านแสดงให้เห็นถึงความลำบากใจบนใบหน้าของเขา.เขายิ้มเล็กน้อยและพูดว่า“น้องชาย,มันไม่ได้สนุกสำหรับข้านัก.ทุกวันนี้,น้อยคนนักที่จะชอบสะสมดาบ.แม้ว่าบางคนหนุ่มสาวต้องการซื้อดาบเพื่อตกแต่งบ้านของพวกเขา,พวกเขาก็ไม่ซื้อดาบที่ทำด้วยมือ แต่สั่งดาบที่ทำจากเครื่องจักรผ่านทางอินเทอร์เน็ต”

ด้วยความใจจริง,ร้านของข้าไม่ได้รับคำสั่งซื้อมาตลอดทั้งเดือน.ข้าเอาดาบทั้งหมดไปไว้ในห้องใต้ดินแล้วเพราะในเหตุนี้ข้าไม่จำเป็นต้องปิดร้าน แม้ว่าข้าจะพักอยู่ในห้องของข้า.หลังจากนั้น,ใครจะรู้ว่าเมื่อไรจะมีแขกใหม่เข้ามา?

จางมู่ถอนหายใจด้วยอารมณ์ในใจ.ไม่เหมือนกับที่เขาจินตนาการ,เจ้าของร้านไม่ได้เป็นคนชอบกดขี่เหมือนที่เพื่อนของเขาบอก,แต่เขามีความซื่อสัตย์มากและมีอัศธยาศัยดี.เขาไม่ได้คุยโวถึงตัวเขาเอง แต่กลับเยาะเย้ยตัวเองด้วยซ้ำ.

แต่อย่างไรก็ตาม,สิ่งนี้ไม่ได้เป็นแปลกใจเท่าไรผู้ที่อยู่รอดได้ในภัยพิบัติในอนาคตจะต้องเต็มไปด้วยประสบการณ์.นั้นมันไม่ได้น่าตกใจเท่ากับที่รู้ว่าเจ้าของร้านจะเปลี่ยนจิตวิญญาณของเขาไปเป็นคนละคนกับสภาพแวดล้อมนั้น.ผู้คนที่ต่อสู้ที่ด้านล่างของสังคม,แต่ยังคงเต็มไปด้วยความคิดแง่บวกที่หาได้ยากยิ่ง.

แน่นอนว่าจางมู่รู้อยู่แล้วดาบที่ทำด้วยเครื่องจักรนั้นดีก็จริง,แต่ราคาของมันแพงชะมัด.นอกจากนั้น,เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาซื้อได้จากที่ไหน.

สำหรับดาบที่ทำด้วยเครื่องจักรนั้นมันจะไม่แพงกว่าดาบที่ทำด้วยมือ...พวกมันมีเพียงรูปร่างที่สะดุดตา,รูปร่างภายนอกนอกและพลังในการสังหารของมันด้อยกว่าดาบที่ทำด้วยมือ.

หลังจากนั้น,พ่อค้าทุกๆร้านก็จะยกยอกันเอง.

จางมู่ไม่พยายามที่หาโอกาสตัดราคา,แต่เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ท่านเซเหลียง,อย่าถ่อมตัวไปเลย.ข้าได้รับการแนะนำมาจากเพื่อนคนหนึ่ง.ข้าเชื่อมั่นในฝีมือของท่าน.นอกจากนี้,ดาบที่ทำด้วยมือไม่มีลักษณะเด่น แต่สามารถนำไปใช้ได้.แม้ว่าพลังในการสังหารที่สูงไม่จำเป็นสำหรับโลกในอนาคต,แต่สิ่งนี้เป็นธรรมเนียม.ส่วนตัวข้า,ข้าชื่นชมท่านในการรักษางานฝีมือนี้อย่างซื่อสัตย์.”

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของจางมู่,ดวงตาของท่านเซเหลียงก็สว่างขึ้น.คำพูดของจางมู่กระทบกระเทือนจิตใจของเขาโดยตรง ทำให้เขารู้สึกว่าพบกับเพื่อนสนิทในทันที.

“น้องชาย,ขอบคุณสำหรับการปลอบใจ.ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว.เอาล่ะ,น้องชายข้าลืมถามชื่อเจ้าไปเลย.

“จางมู่.ชื่อของข้าชื่อจางมู่.”

“จางมู่...จางมู่หรอช่างเป็นชื่อที่ดี!”

เซเหลียงกระซิบ,แล้วก็หัวเราะอย่างหนัก,“น้องชายจาง,มาเข้าประเด็นกันดีกว่า.ดาบประเภทไหนที่เจ้าต้องการ? จะเอาดาบที่ทำเสร็จแล้วหรือว่าดาบสั่งทำพิเศษ? ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าทำดาบสั่งทำพิเศษให้แก่เจ้า,ตอนนี้ข้าไม่มีคำสั่งซื้อมา,ดังนั้นข้าต้องการเพียงสามวันเท่านั้นที่จะทำให้เจ้า.”

จางมู่ขมวดคิ้ว,“สามวัน...ข้ากำลังเร่งรีบ,ดังนั้นข้าไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น.โปรดขายดาบที่พร้อมใช้งานให้กับข้า.”

“โอเคร.ตามข้ามา,”เซเหลียงหันหลังและเดินกลับไปที่ห้อง.จางมู่ก็ตามเขาไปทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด