ตอนที่แล้วเล่ม 1 ตอนที่ 7 : สมุนปีศาจ (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 1 ตอนที่ 8 : ตายซะ! (2)

เล่ม 1 ตอนที่ 8 : ตายซะ! (1)


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

เล่ม 1 ตอนที่ 8 : ตายซะ! (1)

“พวกนี้ไม่มีอะไรมีค่าพอจะเอามาใช้ได้เลยนะ”

“ถึงงั้นก็เถอะ แต่กว่าจะได้พวกมันมาจากแถวนั้นก็ไม่ง่ายเลยนะ”

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ...”

เจ้าของร้านกำลังเกาศีรษะ

“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าอุดหนุนร้านเราด้วยดีเสมอมา งั้นข้าเสนอให้ 5 เหรียญทองกับอีก 40 เหรียญเงินแล้วกัน”

“ก็อย่างที่พูดเมื่อกี้นั่นแหละ ขอผมสัก 5 เหรียญทองกับอีก 50 เหรียญเงินเถอะครับ”

“เอ่อ เจ้านี่เงินไม่กระเด็นออกจากกระเป๋าเลยนะ เอาแบบนั้นก็ได้”

“ต้องแบบนั้นแหละครับ”

อาร์คหัวเราะคิกคักขณะเก็บเงิน

ในนิวเวิร์ลด์ แม้จะเป็นร้านค้าที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน พวกเขาก็ยังรับซื้อและขายในราคาที่แตกต่าง ราคานั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและจำนวนในตลาด มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นถึงมักจะมองหาร้านค้าที่ยอมจ่ายให้พวกเขามากขึ้นแม้เล็กน้อย แต่ว่า อาร์คนั้นรู้จักเพียงแค่ร้านเดียวขณะที่ออกล่าในพื้นที่เมืองแจ๊คสัน

เป็นเพราะประสบการณ์ที่เขาได้รับจากหมู่บ้านฮารันในช่วงครึ่งเดือน ทำให้เขารู้ว่าจะมีโบนัสหากเขาสะสมความสัมพันธ์กับเจ้าของร้านนานพอ

ในช่วงแรกนั้นอาจจะเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณจะได้รับเงินอีก 10% ยามที่ขายของ เมื่อคุณเป็นลูกค้าชั้นดี คุณก็จะได้รับส่วนลดอีก 10% อีกทั้ง ถ้าหากซื้อไอเทมที่เจ้าของร้านแนะนำขึ้นมา มันก็มีโอกาสที่จะได้รับส่วนลดมากถึง 30% เลยทีเดียว

ข้อมูลราคาพวกนี้รู้กันเพียงแค่ในหมู่พ่อค้ากับผู้เล่นจำนวนหนึ่งเท่านั้น

“ถ้าต้องการเงิน แทนที่จะขายของไร้ประโยชน์ ทำไมไม่ขายถุงมือแมวนั่นเสียล่ะ? ข้าให้ราคาดีเอาเรื่องเลยนะ”

ถ้าหากเขาคุ้นเคยกับเจ้าของร้าน บางครั้งเจ้าของร้านก็อาจจะออกปากถามการซื้อของด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณเรื่องพวกนี้ทำให้อาร์คพอจะรู้มูลค่าของไอเทมอยู่บ้างแม้ว่าตนจะไม่เคยซื้อขายกับผู้เล่นด้วยกันเลยก็ตาม

“ไม่ล่ะครับ ไว้มาใหม่นะครับ”

อาร์คตัดบทสนทนาพร้อมกับเดินออกไปจากร้าน

“สะสมไว้ได้เยอะเลยทีเดียว”

อาร์คทำทีโยนกระเป๋าเล่นขณะที่เดินไปมาบนถนน

ในตอนที่เขาออกจากหมู่บ้านฮารันนั้นมีเงินราว 60 เหรียญทอง แต่ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ตอนนี้เขามีเงินเก็บถึง 120 เหรียญทองแล้ว

รายจ่ายส่วนใหญ่ของผู้เล่นในนิวเวิร์ลด์ส่วนมากจะหมดไปกับอาหารเสบียงและค่าซ่อมแซม กล่าวคือ อาร์คมีความเป็นไปได้ที่จะเก็บหอมรอมริบได้มากกว่าเพราะเขาไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อหาวัตถุดิบในการทำอาหาร อีกทั้งค่าซ่อมแซมอาวุธก็ได้รับส่วนลดจากช่างตีเหล็กส่วนตัวของท่านลอร์ด

ทว่า ช่วงเวลาที่จะได้รับสิทธิพิเศษเช่นนั้นกำลังจะหมดสิ้นลง

“ดูเหมือนจะได้เวลาไปจากเมืองแจ๊คสันแล้วสินะ”

ด้วยการล่าในป่าแห่งเงา ในที่สุดอาร์คก็เลเวลเพิ่มขึ้นจนถึง 30 ทั้งหมาป่าเน่าและซอมบี้ต่างก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ค่าประสบการณ์เขากระเตื้องขึ้น แม้ว่าค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากพวกกูลจะยังพอใช้ได้ แต่พวกมันก็มีน้อย อีกอย่าง เขายังไม่อาจล่ายมทูตที่เลเวล 50 ได้ ดูเหมือนจะดีกว่าถ้าเขาย้ายพื้นที่การออกล่าและมองหาภารกิจใหม่ทำ

“ก่อนอื่น เรายังมีทักษะที่ต้องเรียน”

นั่นก็คือทักษะการซ่อมแซม

โรงตีเหล็กในเมืองแจ๊คสันมีแค่ห้าแห่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเอ็นพีซีผู้เชี่ยวชาญการสอนทักษะซ่อมแซม

แต่เขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน

เพราะพวกเขาไม่ได้เดินเตร่ไปพร้อมกับติดป้ายชื่อว่าเป็นเอ็นพีซีผู้เชี่ยวชาญเสียหน่อย สำหรับผู้เล่นนั้นต้องตระเวนออกตามหาพวกเขาและสนทนาหาข้อมูลกับพวกเอ็นพีซีอื่นไปทีละคน

แต่อาร์คเป็นใคร?

‘เรามีเวลาให้เสียแบบนั้นหรือไงกัน?’

“เฮ้โทมัส ไม่เจอกันนานนะ”

ขณะที่อาร์คโบกมือ นายทหารที่เพิ่งผ่านไปพลันเดินเข้ามาใกล้เขา

“อาร์ค ไม่เห็นเจ้าหลายวัน กลับมาเมื่อไหร่กันเนี่ย?”

“ก็ไม่นาน นี่นายรู้จักช่างตีเหล็กในเมืองที่พอจะสอนทักษะการซ่อมแซมได้บ้างไหม?”

“หมายถึงนอร์ตันเหรอ? ข้ารู้จักเขานะ ไปทางนั้นแล้วข้ามสะพานไป โรงตีเหล็กแห่งแรกที่เจอนั่นแหละ แล้วนี่จะไปเรียนวิธีการซ่อมแซมงั้นเหรอ? ถ้าไปที่ปราสาทตาเฒ่าคอร์นก็ช่วยซ่อมให้เจ้าถูกอยู่แล้วนะ และถึงเจ้าจะเรียนวิธีการซ่อมแซมไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้ซ่อมแซมพวกมันได้อย่างราบลื่นหรอก ทางที่ดีให้ตาเฒ่าคอร์นช่วยจะดีกว่านะ”

“คิดว่าหลังจากนี้ไม่กี่วันจะออกเดินทางไปพื้นที่ห่างไกลน่ะ ในเมื่อมันน่าจะดูยากลำบาก ก็เลยอยากเรียนเอาไว้ตั้งแต่ที่ยังทำได้”

“พื้นที่ห่างไกล?”

โทมัสพยักหน้าขณะมองเขาด้วยความเศร้า

“ก็นะ เจ้าไม่ใช่คนเมืองนี้ อย่าลืมไปกล่าวลาท่านลอร์ดก่อนออกเดินทางด้วยล่ะ อย่าลืมไปหาพวกเราด้วย ตกลงนะ?”

“แน่นอน”

อาร์คโบกมือให้เหล่าทหารและหันกลับมุ่งหน้าไป

ท่ามกลางสายตาผู้เล่นที่อยู่ในพื้นที่ พวกเขาเผยสีหน้างงงวยออกมา

ส่วนที่น่าสนใจที่สุดคือ เหล่าทหารไม่เคยเป็นมิตรกับผู้เล่น พวกเขาเห็นว่าการคงอยู่ของพวกผู้เล่นนั้นจะสร้างปัญหาให้เมืองด้วยซ้ำ ไม่เคยมีผู้เล่นคนใดได้ยินว่าทหารจะชวนผู้เล่นไปพบเจอที่ค่ายทหารมาก่อน

จะมีก็แค่คนเดียวคืออาร์ค ซึ่งเป็นผู้มีความสนิทสนมกับท่านลอร์ด

จะยังไงก็ตาม อาร์คไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของเหล่าผู้เล่นอยู่แล้ว แม้จะเพียงน้อยนิด แต่อาร์คก็เป็นคนที่อยากสนิทสนมกับเอ็นพีซีมากกว่า

‘เอาล่ะ เราจะได้เรียนสิ่งที่ต้องการแล้ว หวังว่ากระเป๋าเราคงไม่เบาลงมากนะ’

อาร์คผ่อนลมหายใจออกมาจากปาก

เป็นที่เข้าใจกันว่าการจะเรียนทักษะจากเอ็นพีซีผู้เชี่ยวชาญจะเป็นต้องใช้เงิน หลังจากที่หาข้อมูลในกระดานข่าวอยู่นาน ค่าเรียนทักษะซ่อมแซมคือ 20 เหรียญทอง การซ่อมแซมไม่ได้สำเร็จเพียงแค่ใช้ทักษะ มันยังมีวัสดุเฉพาะที่ต้องใช้กับทักษะซ่อมแซมอีกราคา 10 เหรียญทอง สำหรับอาร์คแล้ว เขาต้องจ่ายถึง 30 เหรียญทองเพื่อซื้อชุดซ่อมแซมโลหะ ชุดซ่อมแซมหนัง และชุดซ่อมแซมผ้า

รวมทั้งหมดแล้วเขาต้องใช้จ่ายกว่า 50 เหรียญทองถึงจะสามารถใช้ทักษะซ่อมแซมได้

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่คิดเรียนมันในช่วงเริ่มต้น แม้ว่ามันจะเป็นทักษะที่มีประโยชน์ก็ตาม

‘แต่นี่มันก็เงินเก็บของเราเลยนะ...’

ภายในของเขายังคงร่ำร้องที่ต้องเสียถึง 50 เหรียญทองที่อุตส่าห์เก็บสะสมมา

ทว่า ถ้าหากเขาต้องออกเดินทาง ทักษะซ่อมแซมนั้นแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ผู้เล่นจำเป็นต้องมีถ้าหากคิดจะออกไปล่า

ถ้าผู้เล่นต้องมองหาโรงตีเหล็กทุกครั้งที่อยากซ่อมอุปกรณ์ ผลลัพธ์ก็คือต้องใช้จ่ายเงินจำนวนหนึ่ง ถ้าหากพวกเขาเกิดบังเอิญลืมซ่อม ความเสี่ยงที่อุปกรณ์สวมใส่แตกหักก็มี บางสิ่งนั้นสำคัญยิ่งกว่าสำคัญ ในเมื่อมันสำคัญก็ยิ่งเสียค่าซ่อมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะในฮารันหรือแจ๊คสันก็ตาม

“เข้ามาก่อน สนใจอยากได้อะไรล่ะ?”

เมื่อเขาเข้ามาในโรงตีเหล็ก ชายวัยกลางคนที่มีหนวดยาวพลันเดินเข้ามาหา

“ผมมาเพราะได้ยินว่านายช่างสามารถชี้แนะเทคนิคการซ่อมได้น่ะครับ”

“เจ้าอยากเรียนเทคนิคการซ่อมงั้นหรือ?”

“ครับ”

“เจ้าคิดถูกแล้ว เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่นักผจญภัยจะต้องการเรียนเทคนิคการซ่อม มันไม่มีอะไรแย่ไปกว่าภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกถ้าหากอุปกรณ์สวมใส่เกิดสภาพย่ำแย่ในระหว่างเดินทาง ขอข้าดูมือเจ้าหน่อย”

นอร์ตันคว้ามือของอาร์คพร้อมกับเพ่งพินิจมอง

ไม่ช้า เขาส่ายศีรษะไปมา

“น่าเสียดายนะ ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่สามารถเรียนเทคนิคการซ่อมแซมได้”

“เรียนไม่ได้?”

“ดูเหมือนเจ้ายังไม่รู้อะไร เทคนิคการซ่อมแซมไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถเรียนรู้ได้นะ”

นอร์ตันชี้มือไปยังชายคนหนึ่งที่กำลังเหวี่ยงค้อนอยู่ในโรงตีเหล็ก ไม่เหมือนกับเอ็นพีซี เขาใส่ชุดที่ดูแล้วเหมือนจับมาใส่กันมั่ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นผู้เล่น

สำหรับทักษะซ่อมแซม มันไม่ใช่ทักษะที่จะเรียนรู้ได้เพียงแค่เพราะมีความรู้ มันต้องมีการชี้แนะเป็นการส่วนตัวจากเอ็นพีซีเพื่อที่จะได้รับมันมา ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะยอมจ่ายเงินเพื่อที่จะได้เรียนทักษะ

“เหมือนกับคนนั้น เพื่อที่จะจัดการเครื่องมือได้อย่างคล่องแคล่ว เจ้าต้องมีทั้งพละกำลังและประสบการณ์ ถ้าหากเจ้าเหวี่ยงค้อนโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย เจ้าก็ทำได้เพียงแค่ทุบตีอุปกรณ์สวมใส่จนพัง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงสอนอัศวินให้มีประสบการณ์จัดการกับโลหะ สอนประสบการณ์รับมือกับหนังและผ้าให้กับพ่อค้าและนักแปรธาตุ กระทั่งว่าผู้อื่นคิดที่จะเรียน พวกเขาก็ยังไม่อาจทำได้ดีนัก”

‘นี่หมายความว่าทักษะซ่อมแซมเกี่ยวกับข้อจำกัดอาชีพ?’

ใจอาร์คพลันดิ่งวูบ

ทักษะที่อาร์คมีทั้งหมดนั้นได้รับมาโดยอัตโนมัติ หรือไม่ก็เรียนพวกมันมาผ่านทางภารกิจ เช่นนั้นแล้ว เขาจึงไม่เคยคิดเลยว่ามันมีโอกาสที่อาชีพจะเป็นข้อจำกัดในการเรียนทักษะ

แม้ว่าบางครั้งเขาจะเห็นข้อกำหนดว่าทักษะอะไรที่ไม่เหมาะสมบ้างในกระดานข่าว เขาก็คิดเพียงแค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับความพิเศษเฉพาะตัวของอาชีพ

แต่สำหรับทักษะซ่อมแซมที่เขาพิจารณาแล้วว่ามันจำเป็นอย่างแท้จริง แต่ดันกลับติดข้อจำกัดของอาชีพ...

ฉับพลันอาร์คนึกย้อนไปถึงเหล่าผู้เล่นที่เปิดร้านค้าในหมู่บ้าน

‘เสื้อผ้าจ้า ให้เราตัดชุดเกราะหนังให้ได้นะ’

‘ถ้าต้องการอาวุธที่เป็นโลหะใหม่ก็เข้ามาดูกันก่อน’

พวกเขาต่างก็แสดงจุดยืนในการทำธุรกิจอย่างชัดเจน

อาร์คแค่นเสียงขณะมองผู้เล่นที่ได้รับทักษะการซ่อมเหล่านั้น

แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะแพงน้อยกว่าโรงตีเหล็ก แต่มันจำเป็นด้วยหรือที่ต้องไปจ่ายเงินให้ผู้อื่นยกระดับทักษะของตัวเอง? เช่นกัน ถ้าหากเขาต้องการประหยัดเงิน เขาก็ต้องเรียนมันด้วยตัวเอง... นั่นคือสิ่งที่เขาคิด

แต่ตอนนี้เขาเข้าใจสถานการณ์แล้ว

สำหรับผู้เล่นที่มีความเหมาะสมจะเรียนทักษะซ่อมแซม พวกเขาไม่มีอิสระในการเลือก แม้ว่าเขาจะชอบอาชีพผู้เดินทางแห่งความมืด แต่ก็ต้องเกิดความเสียใจขึ้นอีกครั้ง

‘บ้าจริง เราไม่คิดมาก่อนเลยว่าการไม่เลือกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ประชิดจะเลวร้ายขนาดนี้!’

“งั้นคุณจะบอกว่าถ้าหากอุปกรณ์ของผมพังระหว่างที่ออกล่า มันไม่มีทางอื่นที่จะซ่อมแซมได้เลย?”

“จากที่เห็น เจ้าเป็นมือใหม่สินะ มานี่สิ” นอร์ตันกล่าวขณะผายมือให้อาร์คเดินเข้าไปในโรงตีเหล็ก

“ถ้าหากการซ่อมแซมเป็นไปได้เพียงแค่พูด โรงตีเหล็กของข้าคงเจ๊งไปนานแล้ว ในเมื่อพวกที่เรียนเทคนิคการซ่อมไปสามารถมาเปิดร้านแข่งกับข้าด้วยราคาที่ถูกลงได้”

“ก็จริง”

“รายได้แท้จริงของโรงตีเหล็กคือสิ่งนี้ ถ้าหากเจ้ามีสิ่งนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่ได้”

นอร์ตันชี้มือไปยังสินค้าที่วางอยู่มุมหนึ่ง มันเป็นกล่องที่มีป้ายเขียนเอาไว้ว่า ‘กล่องเครื่องมือ’ กระทั่งมือใหม่ก็ใช้งานได้

“ตราบเท่าที่เจ้ามีกล่องเครื่องมือนี้ มันก็เป็นไปได้ที่จะซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่ถึงห้าครั้ง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม โดยปกติแล้วมันจะเอาไว้ใช้กับพวกอุปกรณ์สวมใส่ทั่วไป สำหรับพวกของหรูหรือของวิเศษ ก็ต้องใช้กล่องเครื่องมือหรูหราถึงจะซ่อมพวกที่มีระดับหายากได้ แน่นอน เจ้าสามารถซ่อมแซมอุปกรณ์ทั่วไปได้ด้วยกล่องเครื่องมือหรูหราได้ แต่ใครจะทำแบบนั้นล่ะจริงไหม อา เจ้าอยากลองไหมล่ะ? น้ำมันกับหินลับพวกนี้มีผลลัพธ์ช่วยทำให้อาวุธและชุดเกราะเพิ่มประสิทธิภาพช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วยนะ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ?”

แต่ว่า ราคาของกล่องเครื่องมือมัน...

แม้จะพิจารณาเรื่องที่ว่ากล่องเครื่องมือสามารถซ่อมแซมได้ห้าครั้ง แต่ราคาของมันก็แพงกว่าเป็น 1.5 เท่าหากเทียบกับค่าซ่อมที่โรงตีเหล็ก ยิ่งไปกว่านั้น อุปกรณ์สวมใส่ของอาร์คยังมีที่เรียกว่าอุปกรณ์สวมใส่วิเศษอีก อีกทั้งยังมีจำพวกหายาก

แม้เขาจะซื้อมันมาสักอย่างละกล่องและเก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็น แต่นั่นเขาก็ต้องจ่ายออกไปถึง 35 เหรียญทอง

ถ้าหากเขาต้องใช้จ่ายเงินมากมายเช่นนี้ทุกครั้งที่ใช้การซ่อมแซมไปครบห้าครั้ง เรื่องพวกนี้ก็ทำเอาเขาแทบเป็นลมได้เหมือนกัน

‘จะบอกให้เราใช้จ่ายเงินที่อุตส่าห์เก็บมาอย่างยากลำบากโดยง่ายแบบนี้ก็เพื่อค่าซ่อมแซมเนี่ยนะ?”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตระหนักได้ว่า นิวเวิร์ลด์มันขูดเลือดขูดเนื้อ

ขณะที่เล่นเกมอยู่นั้นก็ไม่ใช่ว่าจะต่อสู้โดยไม่คิดหน้าคิดหลังได้ กระทั่งการออกล่าก็ยังต้องใช้เงิน ถ้าหากเกิดเหตุขึ้นอย่างคุณตายหรืออุปกรณ์สวมใส่ค่าความทนทานหมดสิ้นลงแล้วล่ะก็ มันก็ต้องยิ่งใช้เงินอีกหลายเท่า ยิ่งไอเทมที่ดียิ่งขึ้นก็ยิ่งใช้เงินมากขึ้น

อาร์คไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้เล่นจะต้องมีความยากลำบากถึงเพียงนี้

เขาได้รับส่วนลด 30% จากหมู่บ้านฮารันและเมืองแจ๊คสันมาโดยตลอด รวมทั้งที่ได้รับส่วนลดครึ่งราคาการซ่อมแซมจากปราสาทท่านลอร์ดด้วย เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาคิดมากเรื่องค่าซ่อมแซมเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจความรู้สึกของผู้เล่นที่อยากจะประหยัดค่าซ่อมแซมแม้จะเป็นแค่ครึ่งเหรียญก็ตาม

‘ถ้าหากออกไปล่าแล้วไม่ได้ไอเทมอะไรติดไม้ติดมือมา พวกเขาคงต้องยากลำบากกระทั่งว่าจะหาขนมปังสักอันมากินแน่’

เพราะแบบนั้น เขาจึงไม่อาจที่จะใช้อุปกรณ์สวมใส่ทิ้งขว้างเพราะค่าซ่อมแซม ด้วยอาการน้ำตาแทบซึม อาร์คต้องใช้จ่ายเงินออกด้วยอาการสั่นเทิ้ม ทว่า เขาไม่อาจที่จะหักห้ามตัวเองกับเรื่องนี้ได้

‘มันไม่ควรเป็นแบบนี้ กับเราเนี่ยนะที่จะยอมจ่ายเงินที่อุตส่าห์เก็บมา...!’

ในความเป็นจริง ไม่เคยมีงานพาร์ทไทม์ใดที่อาร์คไม่เคยทำมาก่อน

ตั้งแต่ร้านขายของชำจนกระทั่งขายตรงตามบ้าน เขารู้ทุกอย่างบนสมรภูมิแห่งธุรกิจ ถ้าหากมันจะมีสิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้จากงานพวกนั้น มันก็คงเป็นการถามราคาของที่อยากจะได้นั่นแหละ

ต่อรอง ต่อรอง และต่อรอง อย่างน้อยที่สุดยามที่เจ้าของร้านออกปาก ยามนั้นหมายถึงเขาพลาดแล้ว คุณสามารถที่จะต่อราคาให้สมน้ำสมเนื้อได้

“พอจะลดราคาให้ได้ไหมครับ?”

“อย่าพูดอะไรแบบนั้นน่า เป็นเพราะมีคนกลุ่มนึงมาซ่อมแซมตัดราคาถึงครึ่งในแถบนี้ ข้าก็ต้องกินต้องใช้นะ คิดจะบอกให้ข้าอดตายหรือไงกัน?”

“แต่ผมไม่ค่อยมีเงินนี่ครับ...”

อาร์คพยายามเผยสีหน้าอนาถาออกมา

แต่มันไม่คุ้มค่าความพยายามเลยสักนิด

“ข้าไม่อาจพิจารณาคนที่เป็นนักเดินทางอย่างเจ้าได้หรอกนะ เอาล่ะ ถ้าหากเจ้าซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง ข้าจะลดให้หน่อยก็แล้วกัน”

“จำนวนหนึ่ง? แล้วนั่นมันหมายถึงจำนวนเท่าไหร่กันครับ?”

“ว่าอะไร? ถ้าเจ้าซื้อสัก 100 กล่อง ข้าจะให้ส่วนลด 5% ให้ก็แล้วกัน บางครั้งก็มีพ่อค้าหรือนักเดินทางที่ต้องการประหยัดเงินโดยการซื้อแบบนี้เหมือนกัน ถ้าหากเจ้าไม่มีเงิน ทำไมไม่ลองซื้อแบบนี้ดูล่ะ”

ดวงตาอาร์คทอประกาย แต่เป็นเพราะความรู้สึกที่สิ้นหวังอยู่พลันถูกจัดประกายด้วยกลิ่นของเงินตรา

“เข้าใจแล้วครับ ไว้มาใหม่นะครับ”

อาร์คเร่งร้อนออกจากโรงตีเหล็ก

แน่นอนว่าเขาคงไม่คิดที่จะไปรวมตัวกับพวกผู้เล่น เขาไม่มีความมั่นใจพอที่จะทำแบบนั้น และถึงแม้ว่าเขาจะรวมพวกผู้เล่นมาเพื่อรับส่วนลดได้ แต่ 5% ของ 30 เหรียญทองก็แค่ 1 เหรียญทองกับอีก 50 เหรียญเงินเท่านั้น ส่วนลดนี้มันน้อยเกินไปหากเทียบกับที่เขาต้องลงแรง แต่อาร์คนั้น ไม่สิ สำหรับอาร์คแล้วมันมีวิธีการอื่นที่เขาสามารถใช้ได้อยู่

‘มันเป็นไปได้ มันมีหนทางอยู่ เรามั่นใจว่าโรงตีเหล็กส่วนตัวของท่านลอร์ดก็ต้องมีไอ้กล่องนี่อยู่เหมือนกัน นั่นหมายความว่าเราสามารถซื้อกล่องอุปกรณ์จากที่อื่นได้ ไม่มีกฎอะไรระบุเอาไว้เสียหน่อยว่าเราจะเป็นพ่อค้าคนกลางไม่ได้’

ไม่ช้า อาร์คก็ออกมาหาท่านลอร์ดตัวน้อย

จากนั้น ด้วยท่าทีอับจนหนทางและสีหน้าน่าเวทนา เขาถึงกับร้องออก “ท่านลอร์ด!”

“เหตุใดท่านมีสภาพเช่นนี้ล่ะ? ได้ยินมาว่าท่านจะออกเดินทางไปพื้นที่อื่นไม่ใช่หรือ แต่แล้วทำไมถึงมีสีหน้าท่าทางเช่นนั้นกัน?”

“ก็คิดจะไปแหละครับ แต่ว่า มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่อาจรับมือได้ เช่นนั้นจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากท่านลอร์ด”

“ปัญหาหรือ? ถ้าหากข้าช่วยอะไรท่านได้ก็บอกมาได้เลย”

‘หึหึหึ เสร็จเราล่ะ’

อาร์คเผยรอยยิ้มพิมพ์ใจพร้อมพูดกล่าวออกอย่างรวดเร็ว

“ที่จริงผมคิดจะออกเดินทางไปยังที่ไกลแสนไกลกับผู้ร่วมเดินทางที่รู้จักกัน จึงต้องซื้อหาของใช้ที่จำเป็น แต่บังเอิญว่าผมเกิดซื้อของมาผิดเป็นจำนวนมาก จากนั้น ผมพยายามที่จะยกเลิกการสั่งซื้อในสิ่งที่รู้ตัวว่าทำพลาดไป แต่แล้วเจ้าของร้านกลับไม่สนและโยนเรื่องราวให้ผมต้องแบกรับ เพื่อนร่วมทีมที่ได้ยินเรื่องเช่นนั้นต่างก็กล่าวโทษจนหนีหายไป... อา!”

“นี่พวกเขาทอดทิ้งเพื่อนร่วมทีมและจากไปเพราะเรื่องเช่นนี้? นี่พวกเขาไม่มีความรู้สึกซื่อสัตย์เลยหรืออย่างไรกัน!”

ดังคาด ท่านลอร์ดพลันเป็นเดือดเป็นร้อนแทน

“ท่านไม่อาจกล่าวเช่นนั้น ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง”

“ก็ท่านใจดีเช่นนี้ อย่างแรกเลยท่านควรไปจัดการ... ไม่สิ ไม่เป็นไร พูดไปตอนนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ เอาล่ะบอกข้ามา ที่จริงแล้วท่านคิดสั่งอะไรจนเกิดความผิดพลาดขึ้น?”

“เป็นกล่องเครื่องมือพกพาครับ”

ขณะที่อาร์คตอบรับ ท่านลอร์ดกลับเผยรอยยิ้มอ่อนออกมา

“อา โชคยังดี ถ้าหากเป็นของพวกนั้นข้ายังพอช่วยเหลือได้”

“ครับ? จากท่านลอร์ด?”

“ใช่แล้ว โรงตีเหล็กภายในปราสาทนั้นแม้ว่าจะไม่สามารถสร้างกล่องเครื่องมือพกพาได้ แต่ทุกครั้งที่มีการเดินทาง มันจะเป็นสิ่งที่พวกเราซื้อหาแยกมาต่างหาก นี่ก็ได้เวลาพอดี คลังอุปกรณ์ของเรากำลังขาดแคลนจนคิดที่จะซื้อหาพวกมันมา ข้าจะจัดหากล่องทั่วไปและหรูหราอย่างละหนึ่งร้อยกล่อง ให้ท่านไปพบกับเจ้าของร้านได้เลย เรื่องค่าใช้จ่ายนั้นไม่ต้องกังวล”

“หากท่านทำเช่นนั้น ผมก็รู้สึกไม่สบายใจนัก...”

“อย่าได้คิดมาก ไม่ใช่ข้าพูดเอาไว้หรือ? ข้าจะช่วยท่านหากท่านต้องการความช่วยเหลือน่ะ”

“ขอบคุณมากครับ!”

ท่านลอร์ดหนุ่มพลันส่งเอกสารยืนยันเงินจำนวน 2,500 เหรียญทองมาให้

ค่าสถานะใหม่ที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นพลันมีเสียงดนตรีแสดงความยินดีดังขึ้นมา

ท่านได้รับค่าสถานะใหม่

=====

ศาสตร์แห่งการสื่อสาร (+5) : ท่านสามารถประสบผลลัพธ์ได้ด้วยการเจรจา ยิ่งทักษะนี้สูงส่งมากขึ้น ท่านก็ยิ่งง่ายที่จะเกลี้ยกล่อมเป้าหมาย และทำให้ท่านได้รับผลประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น

ค่าสถานะพิเศษไม่สามารถเพิ่มได้โดยวิธีปกติ และจะเพิ่มก็ต่อเมื่อท่านต่อรอง เจรจา หรือเกิดการซื้อขายพิเศษขึ้น

=====

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด