ตอนที่แล้วTXV – 156 ผู้สมรู้ร่วมคิด !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 158 ความจริงปรากฏ !

TXV 157 – วายร้าย !


TXV 157 – วายร้าย !

 

          “น้องเหล่ย” เซี่ยเหล่ยกลายเป็นน้องเหล่ยในเวลาไม่นาน ชางฮ่วยหลานพูดอย่างใจดีว่า “หน้าหนาวใกล้ถึงแล้ว ฉันจะให้จิงถักเสื้อหนาวไหมพรมให้นะ”

 

          ถักเสื้อไหมพรม?เซี่ยเหล่ยรู้สึกประหม่ามาก “ขอบคุณ ขอบคุณครับแต่ผมไม่ค่อยได้ใส่กลัวว่าจะเป็นการรบกวนครับ”

 

          ชางฮ่วยหลานพูดว่า “ไม่เป็นปัญหาหรอกเดี๋ยวให้จิงถักให้เสื้อสเว็ตเตอร์ไหมพรมใส่แล้วอบอุ่นนะ”

 

          “ถักตั้งแต่ตอนนี้... ไม่เร็วไปหรอ ?” เซี่ยเหล่ยยังคงประหม่าอยู่เขาไม่กล้าปฏิเสธเธอไปตรงๆ.......

 

          “ไม่หรอก” ชางฮ่วยหลานตัดสินใจแน่วแน่ “นี่ก็ฤดูใบไม้ร่วงแล้วถ้าไม่ถักตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่ทันใส่ตอนหนาวนะ”

 

          หนิงจิงทำหน้าเจื่อนมานานเช่นกันเธอส่งสายตาไปหาชางฮ่วยหลานแล้วขยับปากบอกว่า ‘หนูทำไม่ได้’

 

          ชางฮ่วยหลานขยิบตาให้หนิงจิง เป็นการเตือนให้ทำตามที่แม่สั่ง

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้สังเกตเห็นแม่ลูกคู่นี้กำลังส่งสัญญาณหากัน เขากำลังหมกหมุ่นกับเรื่องในใจ ‘เราไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี้แล้วจะทำยังไงให้ได้ออกก่อนดีเมื่อไหร่จู้งเหว่ยจะมาเนี่ย’

         

          “จิง พาน้องเหล่ยไปวัดตัวที่ห้องแม่นะ” ชางฮ่วยหลานสั่ง

 

          หนิงหยวนฮ่ายพูดเสริมว่า “จิง รีบๆไปซะ”

 

          “หนู...” หนิงจิงแอบหน้าแดงเธอสับสน ใจนึงก็อยากไปอีกใจก็ไม่อยากไป

 

          เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นแทรกพอดี

 

          “ใครมารึ” ชางฮ่วยหลานเดินไปที่ประตู ใครกันจะมาที่บ้านหนิงจิงเวลานี้

 

          เซี่ยเหล่ยใช้ตาซ้ายส่องทะลุประตูกันขโมยเขาเห็นเหยี่ยนเหวินเฉียนยืนอยู่

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนใส่ชุดสูทสีขาวสูงโปร่งและหล่อเหลามีออร่า เขาถือช่อกุหลาบสีแดงและยิ้มหวานรอให้ประตูเปิด

 

          เซี่ยเหล่ยคิดแผนในใจว่า ‘พอเหยี่ยนเหวินเฉียนเข้ามาเราจะได้มีข้ออ้างขอตัวกลับ’

 

          ชางฮ่วยหลานเปิดประตูมาเจอกับเหยี่ยนเหวินเฉียนแล้วทำหน้าเซ็งๆไม่ยินดียินร้ายอะไร “คุณเองหรอ ?”

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนยิ้มให้เธอ “สบายดีไหมคุณป้า จิงอยู่บ้านไหมครับผมอบากชวนเธอไปดูหนัง”

 

          ชางฮ่วยหลานตอบว่า “จิงอยู่บ้านแต่ว่าเธอไม่ค่อยสบาย”

 

          “ไม่สบาย? ขอผมไปเจอเธอได้ไหมครับ” เหยี่ยนเหวินเฉียนมีสีหน้ากังวล

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนอยากจะเข้าไปข้างในแต่ชางฮ่วยหลานยืนขวางประตู เธอพูดกับเขาว่า “นี่มันก็ดึกแล้ว กลับไปเถอะ”

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนไม่ใช่คนโง่เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ชางฮ่วยหลานเล่าจึงพยายามชะเง้อมองข้างในบ้าน เขาเห็นเซี่ยเห่ลยนั่งอยู่กับหนิงจิงที่โซฟาเขารู้สึกอัปยศในใจแล้วควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เขาชี้นิ้วใส่เซี่ยเหล่ยและตะโกนว่า “เซี่ยเหล่ย! ออกไปเดี๋ยวนี้”

 

          เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วกลับทันที เขาไม่ได้โกรธเหยี่ยนเหวินเฉียนแต่แค่กลัวว่าหนิงเหยี่ยซานกับสือจิงชิวที่อยู่ใกล้ๆกันจะได้ยินสองคนนั้นเหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่างเป็นการส่วนตัวสองคนนั้นไม่มีทางเชื่อว่าเซี่ยเหล่ยจะบังเอิญอยู่แถวๆนี้อย่างแน่นอน !

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนพูดเยาะเย้ยว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมตอนนี้ถึงเอาเซี่ยเหล่ยมาเทียบกับผม คุณจะเสียใจที่จับคู่หนิงจิงกับมันเธอเป็นคนไม่ใช่สินค้าหนิงจิงควรมีชีวิตเป็นของตัวเอง”

 

          “แก....” ชางฮ่วยหลานตกใจมาก เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดขนาดนี้

 

          เซี่ยเหล่ยเดินไปที่ประตูบ้านแต่หนิงจิงดึงแขนเสื้อเซี่ยเหล่ยรั้งเขาไว้ จากนั้นน้ำตาไหลรินอย่างช้าๆ เธอขอร้องว่า “เซี่ยเหล่ยอย่ามีเรื่องกันตรงนี้เลย ฉันขอร้อง”

 

          เซี่ยเหล่ยอยากจะกระทืบเหยี่ยนเหวินเฉียนแต่เขาไม่ต้องการจะเห็นหนิงจิงเจ็บปวดใจ อีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้นแค่หนิงจิงมีพ่อแม่แบบนี้ก็โชคร้ายมากแล้วหากเขามีเรื่องกับเหยี่ยนเหวินเฉียนเสียงดังอีก คนอ่อนไหวอย่างหนิงจิงต้องสะเทือนใจมากแน่ๆ

 

          “เอ่อ ผมไม่คิดจะทะเลาะกับเขาหรอกพอดีเพื่อนผมรออยู่ ขอตัวนะครับ” เซี่ยเหล่ยพูดดักไว้ก่อนหนิงจิงค่อยๆปล่อยมือออกแต่เธอยังคงร้องไห้อยู่

 

          “เซี่ยเหล่ย ออกไปซะ” เหยี่ยนเหวินเฉียนยืนค้ำประตูอยู่เขาคำรามต่อว่า “มึงทำให้กูต้องออกจากเหวี้ยนเทียน กูจะชำระความกับมึงวันนี้

 

          เซี่ยเหล่ยเพ่งมองเหยี่ยนเหวินเฉียนเขาจำได้ว่าเหยี่ยนเหวินเฉียนมีทักษะยูโด สายดำขั้น 8 จึงทำตัวมั่นหน้าได้ขนาดนี้แต่เขาไม่ได้ระวังตัวเองเลย เสียงโวยวายเมื่อกี้ทำให้หนิงเหยี่ยซานและสือจิงชิวเดินออกมาดูด้วย

 

          “เซี่ยเหล่ย?” สือจิงชิวทำหน้าประหลาดใจ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ?”

 

          หนิงเหยี่ยซานไม่รอให้เซี่ยเหล่ยพูดอะไรเขาเดินมาหาเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดว่า “มีปัญหาอะไรกัน ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ ไม่กลัวถูกหัวเราะเยาะหรอ ?”

 

          เขาพูดเหมือนจะช่วยให้ความขัดแย้งลดลงแต่เซี่ยเหล่ยรู้สึกว่ามันเป็นการเยาะเย้ยมากกว่าเพราะว่ามีแค่เขาที่เรียนจบแค่ระดับมัธยมปลายส่วนคนอื่นเรียบจบปริญญาตรีกั้นทั้งนัน

 

          “ประธานหนิง” เหยี่ยนเหวินเฉียนกล่าวทักทายแต่หนิงเหยี่ยซานทำเป็นไม่สนใจ   

 

          “อืม” หนิงเหยี่ยซานทำหน้าเฉยๆใส่เขาหันมาพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า “เซี่ยเหล่ยคุณมาที่นี่ได้อย่างไร”

 

          หนิงจิงรีบตอบแทนเซี่ยเหล่ยว่า “ฉันเป็นคนชวนเซี่ยเหล่ยมาที่บ้านเองค่ะ” หนิงเหยี่ยซานและสือจิงชิวได้ยินคำตอบแล้วมีสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น

 

          เซี่ยเหล่ยมองหาจู้งเหว่ยแต่เขาก็ยังมาไม่ถึงเสียทีแล้วเขาใช้ตาซ้ายมองไปที่หนิงเหยี่ยซานแล้วเห็นเม็มโมรี่การ์ดเสียบในเครื่องอ่านการ์ดที่กระเป๋ากางเกงของเขา

 

          “เซี่ยเหล่ยมองหน้าผม คุณไม่คิดจะทักทายบ้างหรอ” หนิงเหยี่ยซานทำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่

 

          เซี่ยเหล่ยพูดนิ่งๆตอบว่า “ประธานหนิง คุณเองก็ไม่อยากเจอผมแล้วอยากให้ผมทักทายคุณหรอ ? มารยาทเล็กๆน้อยๆมันไม่จำเป็นหรอก”

 

          ชางฮ่วยหลานแตะแขนเซี่ยเหล่ยเบาๆเธอไม่อยากให้เขาพูดแบบนี้กับหนิงเหยี่ยซาน

 

          หนิงเหยี่ยซานเหลือบมองเห็นพอดีเขาย่นคิ้วขึ้น “ฮ่วยหลาน ผมไม่ได้บอกหรอว่าอย่าให้หนิงจิงพาพวกคนถ่อยมาที่บ้าน”

 

          “พี่.... คือว่า” ฮ่วยหลานอายจนพูดอะไรไม่ออกหนิงเหยี่ยซานทำคุณงามความดีให้ครอบครัวหลายอย่างจะไปต่อว่าเขามันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดี

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนแอบยิ้มที่มุมปากเขาพูดขึ้นว่า “ป้าครับ ประธานหนิงปกติดีกับทุกคนหากผู้ประธานหนิงไม่ช่วยเขาไว้ เขาคงไม่มีวันนี้หรอกถ้าเขามีโอกาสคงจะไปแย่งลูกค้าของผู้ประธานหนิงจะให้หนิงจิงไปข้องเกี่ยวกับคนแย่ๆแบบนี้หรอ ?”

 

          ชางฮ่วยหลานและสามีของเธอได้แต่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรตอบ

 

          หนิงจิงพยายามจะแก้ตัวให้เซี่ยเหล่ยแต่เธอหันไปเจอสีหน้าของหนิงเหยี่ยซานเลยปิดปากเงียบ ตอนนี้เซี่ยเหล่ยเหมือนเหลือตัวคนเดียวคนอื่นๆไม่กล้าหือกับหนิงเหยี่ยซานทั้งนั้น

 

          แม้ว่าเขาจะโดนเยาะเย้ยและต่อว่าเซี่ยเหล่ยยังยิ้มเขาพูดว่า “ประธานหนิง คุณพูดไม่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆตอนนั้นคุณทำออเดอร์ไม่ทันเวลาหากไม่มีผม ตำแหน่งบอร์บริหารที่คุณมีอยู่คงไม่เสถียรแบบนี้หรอกผมทำเงินให้คุณตั้ง 1ล้านหยวน โดยไม่ขออะไรเลย ผมไม่คิดว่าที่ผมช่วยคุณไปจะทำให้คุณไม่สำนึกบุญคุณอะไรเลย”

 

          “ฮ่าๆ.....” หนิงเหยี่ยซานยิ้มเยาะและชี้หน้าเซี่ยเหล่ย “มึงนี่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ คนอย่างหนิงเหยี่ยซานไม่มีวันให้คนอย่างมึงมาช่วย ? ตลกชะมัด มึงเอาอะไรมาคิด !”

 

          เซี่ยเหล่ยถอนหายใจ “ประธานหนิง ผมให้เกียรติคุณนะเราไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงแบบนี้เลย”

 

          หนิงเหยี่ยซานพูดดูถูกเขาว่า “ตอนนี้มึงกลัวหรือว่าเสียใจ ?”

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนพูดแทรกว่า “ประธานหนิง อย่าไปใจอ่อนกับมัน คนบางคนก็ทำตัวเป็นหมาจนตรอกถ้าคุณให้อภัยมันตอนนี้สักวันมันจะกลับมาแว้งกัดคุณอีก !”

 

          “ผมไม่ได้ตาบอด คนเลวๆไม่สมควรได้รับโอกาสเป็นครั้งที่สอง” หนิงเหยี่ยซานหันไปหาชางฮ่วยหลานเขาพูดห้วนๆว่า “อย่าให้มันมาเหยียบที่นี่อีก !”

 

          ชางฮ่วยหลานยืนนิ่งแล้วพยักหน้าโดยไม่รู้ตัวแล้วหนิงหยวนฮ่ายรีบพูดว่า “เซี่ยเหล่ยไปเถอะแล้ว... อย่ามาที่นี่อีก”

 

          เซี่ยเหล่ยส่ายหัวอย่างเซ็งๆ “ครับ”

 

          หนิงจิงร้องไห้เงียบๆเธอกัดปากจนเลือดออกอยู่ดีๆเธอทนไม่ไหวแล้วตะโกนขึ้นว่า “ฉันเกลียดทุกคน!” แล้วเธอรีบวิ่งเข้าบ้านไป

 

          ชางฮ่วยหลานพูดทันทีว่า “เหวินเฉียน มองอะไรล่ะไม่รีบตามจิงไปล่ะ”

 

          เหยี่ยนเหวินเฉียนจับช่อกุหลาบอย่างแผ่วเบา เขามองเซี่ยเหล่ยด้วยสายตาของผู้ชนะเหมือนกับเขาเป็นอัศวินที่ชนะศึกแล้วชนะใจสาวอีกด้วย เขาชนะเซี่ยเหล่ยทุกด้านในช่วงเวลานี้

 

          “เซี่ยเหล่ย ออกไปซะ” หนิงเหยี่ยซานเอยปากไล่ด้วยน้ำเสียงรำคาญเต็มที่

 

          สิ่งที่ทำให้เซี่ยเหลี่ยยืนกังวลอยู่ไม่ใช่หนิงเหยี่ยซานแต่เป็นทีมของบูรพาอุตสาหกรรมที่จะมาศึกษาพิมพ์เขียวเครื่องจักรอัจฉริยะแล้วเตรียมผลิตไม่มีใครอยากให้เจ้าของมาอยู่ใกล้สิ่งที่ถูกขโมยไปหรอก..........

 

          เซี่ยเหล่ยมองไปที่ทางเข้าชุมชนมีรถสีดำกำลังขับมาที่นี่ จู้งเหว่ยกำลังจะถึงแล้ว แต่มันไม่ทำให้เขาสบายใจมากขึ้นเลย

 

          ติดตามตอนต่อไป........

         

         

 

         

 

                   

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด