ตอนที่แล้วตอนที่ 105 ถึงเมืองเซี่ยกง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 107 ตัวตนที่แท้จริง

ตอนที่ 106 การโจมตีที่ถนนเซี่ย


 

 

ถนนเซี่ยไม่ใช่ชื่อถนนจริงๆ มันคือชื่อของตลาดกลางคืนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซี่ยกง

ตลาดกลางคืนที่ตั้งอยู่ใจกลางมีทางแยกที่มากกว่า10สาย ถนนไม่ได้กว้างเกินไปและคราคร่ำไปด้วยผู้คนยามดึก

ร้านค้ามักจะเปิดตอน5โมงเย็นและจะมีสีสันสดใสยามค่ำคืน

หลิน ฮวงและหลิน ซินกำลังเดินจากโรงแรมและพวกเขาก็มาถึงตลาดกลางคืนตอน6โมงครึ่ง ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดแล้ว

โคมไฟสีแดงถูกแขวนไว้บนถนนในแบบฉบับของชาวจีน

 

“โคมไฟสวยจังเลย!”หลิน ซิน ร้องเสียงดัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นภาพเช่นนี้และมันเป็นสิ่งใหม่สำหรับเธอ

“ไปหาอาหารกินกันก่อนเถอะและค่อยเดินเล่นหลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว”หลิน ฮวงแนะนำ พวกเขายังไม่ได้กินอาหารเย็นเพราะพวกเขารอที่จะมากินอาหารที่นี่

 

หลิน ฮวง และหลิน ซินถูกดึงดูดด้วยหลายสิ่งที่แปลกใหม่ทันทีที่พวกเขามาถึงถนนเซี่ย นอกเหนือจากอาหาร มีของเล่นและอุปกรณ์ที่น่าสนใจจำนานมาก และมีแม้กระทั่งการแสดงริมถนน

มีคนไม่กี่คนในฝูงชนที่เหลือบตามามองหลิน ฮวงขณะที่เขาเดินไปรอบๆ ทันใดนั้น พวกเขาก็หันหน้ามาและเดินมาทางเขาช้าๆ

หลิน ฮวงสัมผัสได้ทันทีว่ามีบางสิ่งแปลกๆเกิดขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่ดีรอบตัวเขา แต่ทว่า เขาไม่อาจระบุได้ว่ามันมาจากทิศทางไหน

จากนั้น เขาก็สังเกตเห็นร้านเครื่องแต่งกายที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา เขาดึงหลิน ฮวงไปในทางนั้นและพวกเขาก็หลบเข้าไปในร้าน ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในร้าน เขาก็อัญเชิญไป่ออกมา

 

“พี่คะ เกิดอะไรขึ้น?”หลิน ซินถาม เธอคุ้นเคยกับไป่และเธอรู้ดีว่าเมื่อมันปรากฏตัวออกมาก็หมายถึงมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น

“ไม่มีอะไรจร๊ะ พี่เพียงแค่จะเลือกชุดให้ไป่”หลิน ฮวงตอบ จากนั้นเขาก็หยิบเสื้อคลุมที่มีฮู้ดในร้านและสวมมันให้กับไป่

 

มันเข้ากับไป่ได้พอดีและผมสีขาวสะดุดตาของเขาก็ถูกบดบังด้วยเสื้อคลุม

 

“เจ้าของ ผมจะซื้ออันนี้”หลิน ฮวงกล่าวกับเจ้าของร้าน ชี้ไปที่เสื้อคลุมที่ไป่กำลังสวมอยู่ จากนั้นเขาก็จ่ายเงินและออกจากร้าน

 

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน มันก็ยังคงมีหลายคนที่แต่งกลายแปลกๆในโลกนี้ ไม่มีใครสังเกตว่าไป่กำลังใส่เสื้อคลุมในที่ร้อน

ทันทีที่หลิน ฮวงเดินออกจากร้าน กลุ่มชายฉกรรจ์ก็เดินเข้าใกล้เขาทันที

แต่ทว่า จู่ๆลำแสงสีเขียวก็สว่างวูบตรงหน้าพวกเขาและพวกเขาก็หายไป

ความเร็วของแสงสีเขียวมันเร็วเสียจนผู้คนรอบๆไม่อาจสังเกตเห็นถึงบางสิ่งแปลกๆที่กิดขึ้น และไม่ทันสังเกตเช่นกันว่ามีคนหายไป

 

“หืม?ตาฝาดงั้นหรอ?”ผู้ที่เดินผ่านไปมาพึมพำด้วยความสับสนจากแสงสีเขียว

 

เมื่อเดินออกจากร้านเสื้อผ้า หลิน ฮวงก็รู้สึกไม่สบายใจ จิตสังหารที่เขาสัมผัสได้ก่อนหน้านี้หายไปแล้ว

 

“เด็กหนุ่มผู้นี้ค่อนข้างตื่นตัว แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงนักล่าระดับเหล็ก เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากนักล่าระดับเงิน”ชายวัยกลางคนคิดกับตัวเองและยิ้ม เขายืนอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น เขามีผมยาวจนถึงเอวและสวมเสื้อคลุมสีเขียว เขาดูดีและมีบุคลิกแปลกๆที่ทำให้เขาดูแตกต่างจากคนอื่นรอบตัวเขา แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นถึงการดำรงอยู่ของเขา

หลิน ฮวงไม่ลดการป้องกันของเขาลงแม้ว่าจิตสังหารที่เขาสัมผัสได้ก่อนหน้าจะหายไปแล้ว เขายืนประกบทางซ้ายของหลิน ซินขณะที่ไป่ยืนอยู่ทางขวาของเธอ หลิน ซินกำลังเดินอยู่ระหว่างพวกเขา

 

“พี่คะ ไปร้านนั้นกัน!”หลิน ซินร้องอย่างเริงร่าและชี้ไปที่ร้านบาร์บีคิว

"ได้สิ" เขากล่าว หลายคนกำลังรอคิวอยู่แม้ว่าร้านจะพึ่งเปิด

"ก่อนหน้าหนูได้อ่านรีวิวของร้านนี้มาก่อนแล้ว และมันบอกว่านี่เป็นสูตรอาหารที่สืบทอดมานานกว่าสามชั่วคน อยู่มานานกว่า50ปี" หลิน ซินบอกกับหลิน ฮวง

"พี่รู้ว่าร้านนี้มีชื่อเสียงเพราะคิวมันยาวตั้งแต่เปิดร้าน " หลิน ฮวงตอบและพยักหน้า ขณะที่เขาต่อคิวกับหลิน ซิน

 

ทันใดนั้นหลิน ฮวงก็รู้สึกไม่สบายใจอีกครั้งเมื่อเข้าแถว เขารับรู้ถึงจิตสังหารอีกครั้ง

มันแออัด และหลิน ฮวงไม่สามารถกำหนดทิศทางของจิตสังหารได้ เขารู้สึกได้เพียงแค่ว่าคนๆนั้นกำลังเข้าใกล้เขามา

เขาวิตกและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีที่กำลังเข้ามา ในทันใดนั้นเอง จิตสังหารก็หายไปอีกครั้ง

 

"มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะเป็นภาพหลอนในครั้งนี้!" หลิน ฮวงคิดกับตัวเอง เขาแน่ใจว่ามีจิตสังหาร  อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าทำไมพวกมันจึงหายไปอย่างกะทันหัน  เขามีความรู้สึกว่าคนที่ตั้งใจจะฆ่าเขาอย่างเงียบๆจู่ๆก็หายไปทันที

 

ที่มุมหนึ่งของอาคารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหลิน ฮวง ชายในชุดสูทก็โทรไปหาใครบางคน

 

 

"เจ้านาย ทีมที่สองถูกฆ่าตายแล้ว จนถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเลย ... " ทันทีที่ชายในชุดสูทพูดจบประโยค ชายคนหนึ่งที่อยู่ในเสื้อคลุมสีเขียวก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง

 

"คุณคือ ... " ชายในชุดสูทร้องอุทาน  เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักชายชุดคลุมเขียว

"ฉันอยากจะพูดคุยกับเจ้านายของแก แกยังไม่คู่ควรพอที่จะให้ฉันสนใจ " ชายในชุดเขียวกล่าวด้วยรอยยิ้มที่หยาบคาย

"นั่นใคร?" เสียงต่ำดังมาจากอุปกรณ์สื่อสาร

"เขาคือ ... " ชายในชุดสูทหยุดพูดทันทีที่หมาป่าสีเขียวขนาดเล็กกึ่งโปร่งใสปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่งและรัดคอเขา

"เราจะได้พบกัน และแกจะรู้ว่าฉันคือใคร" ชายที่สวมชุดสีเขียวกล่าวอย่างนิ่งสงบ เมื่อเขารู้ว่าชายคนนั้นกำลังฟังอยู่

"แน่นอน ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าแกเป็นใคร ผู้สร้างปัญหา" เจ้านายตอบหลังจากหยุดชะงักไปสักพัก

"เอาล่ะ พากันที่หอนาฬิกา เจอกัน" ชายชุดคลุมเขียวกล่าว

 

เมื่อวางสาย หมาป่าตัวเล็กกึ่งโปร่งใสก็ตัวใหญ่ขึ้น มันอ้าปากและกลืนชายในชุดสูทเข้าไป

อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสองเมตรต่างก็ไม่สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มันดูราวกับว่าชายในชุดสูทและชายในชุดคลุมเขียวกำลังล่องหนอยู่

ทันทีที่เท้าของชายในชุดคลุมเขียวสัมผัสกับพื้น ร่างของเขาก็กลายเป็นลำแสงสีเขียว ในไม่ช้า เขาก็มาถึงหอนาฬิกาที่ใกล้กับถนนเซี่ย

เขาเงยหน้าขึ้นเห็น ชายคนหนึ่งในชุดคลุมสีดำกำลังยืนอยู่ที่ด้านบนของหอนาฬิกา หมวกได้บดบังใบหน้าเขาและเขาไม่สามารถมองเห็นมันได้ชัดเจน

 

"โอ้ เป็นคุณ เฟิง จ้าวหราน" ชายในชุดคลุมดำทักทายเขา ขณะที่เขาจำได้ในทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

"แกไม่รู้สึกร้อนที่ใส่ชุดเช่นนั้นในหน้าร้อนงั้นหรือ?" เฟิง จ้าวหราน ถามและยิ้มอย่างชาญฉลาด

"ตระกูลเล้งกำลังปกป้องสารเลวน้อยนี่?" ชายในชุดคลุมสีดำไม่สนใจคำถามของเขาและถามต่อ

"ฉันอยู่ที่นี่แล้ว แกคิดยังไงล่ะ?" เฟิง จ้าวหราน ยักไหล่ของเขา

 

"ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลเล้งคืออะไร?" ชายในชุดคลุมสีดำถาม

"ฉันอยากจะถามแกเหมือนกัน คนที่ตายไปนั้นเป็นเพียงคนไม่สำคัญ ถึงอย่างนั้นทำไมคนระดับหลุดพ้นถึงได้ถูกส่งมาเพื่อฆ่าเด็กน้อยระดับเหล็ก? หรือว่าเขามีสถานะลับอยู่กันแน่?”  เฟิง จ้าวหราน ถามและลูบคางของเขาอย่างสับสน

“เช่นนั้น ไม่ว่าจะยังไงตระกูลเล้งก็จะเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ใช่ไหม?” ชายในชุดคลุมสีดำไม่สนใจคำถามอีกครั้งและถามกลับ

"ฉันได้รับคำสั่งให้ฆ่ามือสังหารทุกคน!" เขาเริ่มใช้ทักษะของเขาในทันทีเมื่อพูดจบประโยค

เขาโบกมือของเขาและฝูงหมาป่ายักษ์สีเขียวก็ปรากฏตัวออกมาและพุ่งไปทางชายในชุดคลุมสีดำ

 

"เฟิง จ้าวหราน แกต้องการที่จะต่อสู้?" ชายในชุดคลุมสีดำตะโกนใส่เขา ดาบยาวสีเลือดตัดผ่านท้องฟ้ามุ่งไปทางหมาป่ายักษ์ จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นลำแสงสีแดงเข้มและพุ่งออกไป

"หึ หนีเร็วเสียจริง" เฟิง จ้าวหราน พึมพำอย่างผิดหวัง จากนั้นเขาก็โบกมือของเขาอีกครั้งและฝูงหมาป่ายักษ์สีเขียวก็หายตัวไป จากนั้นเขาก็เดินไปที่ถนนเซี่ยช้าๆ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด