ตอนที่แล้วTWO Chapter 178 การบ่มเพาะแมลงพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 180 ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ

TWO Chapter 179 สี่แสนหมู่


TWO Chapter 179 สี่แสนหมู่

ในความเป็นจริง สินทรัพย์ส่วนบุคคลของทุกคนจะได้รับการจัดทำหมวดหมู่ และกลายเป็นตัวเลข สำหรับการจะใช้ตัวเลขเหล่านี้อย่างไร รัฐบาลสหพันธ์ยังไม่ได้เปิดเผยใด

ในตอนเช้า โอหยางโชวโทรหาเสี่ยวเยว่ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการรับสมัครเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ของปูเธอ

จากที่ปู่เธอได้สรุปไว้ เขาได้ติดต่อกับนักวิทยาศาสตร์ 20 คน ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ พวกเขาทั้งหมดอยู่ในภูมิภาคต้าหลี่ และเสี่ยวเยว่ได้พาพวกเขาไปสำรวจรอบๆ เพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของเกมส์

นอกจากนี้ โอหยางโชวยังได้ถามเสี่ยวเยว่ เกี่ยวกับตระกูลขุ่ยที่อยู่ในต้าหลี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิกิริยาของพวกเขา หลังจากที่ขุ่ยหยิงหยูหายตัวไป

หลังจากอัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลาง โอหยางโชวก็มีความสามารถมากพอจะติดต่อกับตระกูลขุ่ย เนื่องจากเสี่ยวเยว่อยู่ในต้าหลี่ เขาจึงต้องการให้เธอช่วยเขาในเรื่องนี้

ในช่วงบ่าย ซ่งเจี๋ยได้โทรหาโอหยางโชว

เหรียญเปลี่ยนขั้นทหาร และข้อความของโอหยางโชว ประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ การแต่งงานของซ่งเจี๋ยและหยวนผิงได้ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

หลังจากที่ซ่งเจี๋ยรู้ข่าว เธอก็ชื่นชมโอหยางโชว แล้วรีบโทรกลับหาเขาในทันที

เมื่อถึงตอนค่ำ โอหยางโชวก็ออนไลน์ตามปกติ

หลังจากเสร็จสิ้นการบ่มเพาะ โอหยางโชวก็ออกจากคฤหาสน์ของลอร์ด มุ่งหน้าไปทางตะวันออก ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ แม้ว่ากำแพงจะยังไม่เสร็จ แต่การจัดการพื้นที่ต่างๆก็พร้อมแล้ว

โรงผลิตของฝ่ายธนูและหน้าไม้, โรงผลิตของฝ่ายคลังอาวุธ, โรงผลิตอาวุธ และโรงเล่นแร่แปรธาติ ได้ตั้งอยู่ในเขตตะวันออก

โอหยางโชวเดินเข้าไปที่โรงผลิตของฝ่ายธนูและหน้าไม้ หัวหน้าฝ่ายและผู้จัดการโรงผลิต เป็นช่างทำธนูขั้นสูง หวู่เผิง เขาเข้ามาต้อนรับโอหยางโชว แล้วกล่าวด้วยความนับถือว่า “คำนับนายท่าน!”

ในสมัยก่อน คนที่เป็นช่างฝีมือนั้น มีสถานะทางสังคมที่ต่ำมาก ดังนั้น พวกเขาจึงมีความเคารพในตัวเองต่ำ และให้ความเคารพลอร์ดของพวกเขาสูงมาก บางที อาจจะมีเพียงหัวหน้าฝ่ายคลังอาวุธ อย่างช่างตีเหล็กขั้นมาสเตอร์ หวังเถาเท่านั้น ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วถามว่า “หัวหน้าหวู่ ทางฝ่ายสร้างกลไลหน้าไม้ได้เท่าใดแล้ว?”

โครงสร้างของหน้าไม่แย่งออกเป็น 3 ส่วน, แขน, คันธนู และกลไก แขนส่วนใหญ่จะทำมาจากไม้, คนธนูจะถูกติดไว้ตรงส่วนหน้าของแขน และกลไกจะถูกติดตั้งที่ด้านหลังของแขน

กลไกของหน้าไม้ที่โอหยางโชวกล่าวถึง คำส่วนที่สำคัญที่สุดของหน้าไม้

ส่วนใหญ่จะทำมาจากทองแดง แต่ก็สามารถทำจากเหล็กได้ ด้านหน้าของ ‘ฟัน’ ใช้สำหรับแขวนสายและเชื่อมโยงกับไกยิง มันยังแกะสลักที่มุม ทำเป็นพิสัยยิง คล้ายกับปืนในสมัยใหม่ และเมื่อมองระยะของเป้าหมาย ผู้ใช้สามารถปรับมุมมองของภาพ เพื่อเพิ่มความแม่นยำได้

ที่ด้านล่างของแขนเป็นไกยิง ที่ใช้สำหรับยิงลูกศรออกไป

เมื่อผู้ใช้ยิง พวกเขาจะดึงไกยิงที่เชื่อมต่อกับฟัน ซึ่งมันจะบังคับให้ฟันจมลง แล้วปล่อยสายที่มีลูกศรอยู่ออกไป ลูกศรที่ถูกยิงออกไปจะมีความเร็วสูงมาก

20 วันก่อน หลังจากที่อัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลางได้ไม่นาน โอหยางโชวก็เข้ามาเยี่ยมชมโรงผลิตของฝ่ายธนูและหน้าไม้อย่างกะทันหัน เขาบอกให้พวกเขาให้ความสำคัญกับการสร้างกลไกของหน้าไม้ และสร้างพวกมันให้ได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ชุด

พวกเขามีความสงสัยกับคำสั่งแปลกๆของลอร์ดของพวกเขา แต่หวูเผิงไม่ได้ถามอะไร และทำตามที่เขาสั่งอย่างเคร่งครัด

กลไกของหน้าไม้ มันหาวัสดุในการทำได้ง่าย นอกจากนี้ มันยังเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะทำมัน เพียงแค่มีหินและเหล็กก็เพียงพอแล้ว แตกต่างจากธนูและหน้าไม้ ที่ต้องมีหลายปัจจัย และต้องใช้วัสดุต่างๆจำนวนมาก เช่น สายธนู เขาสัตว์ และหนังสัตว์ ดังนั้น อัตราการผลิตพวกมันของพวกเขาจึงมีจำกัด และไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากนัก ในขณะที่ฝ่ายธนูและหน้าไม้ยังต้องดูแลการสร้างธนูและหน้าไม้ พวกเขาสามารถสร้างกลไกของหน้าไม้ ได้เพียงวันละ 500 ชุดเท่านั้น จนถึงปัจจุบัน จึงสร้างเสร็จเพียง 10,000 ชุดเท่านั้น

หลังจากโอหยางโชวฟังรายงานนี้ เขาก็ไม่พอใจอย่างมาก “หัวหน้าฝ่ายหวู่ เจ้าต้องทำให้เร็วกว่านี้ เจ้าสามารถลดการสร้างธนูและหน้าไม้ลงได้ เนื่องจากเรายังไม่มีความต้องใช้มากนักในตอนนี้”

“เข้าใจแล้วขอรับ!” หวู่เผิงพยักหน้า

โอหยางโชวเดินออกจาโรงผลิตของฝ่ายธนูและหน้าไม้ แล้วเดินไปยังโรงผลิตของฝ่ายคลังอาวุธที่อยู่ข้างๆ

จนถึงวันนี้ ฝ่ายคลังอาวุธได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาเป็นเวลา 3 เดือนครึ่งแล้ว ในช่วงเดือนที่ 5 หลังจากที่จัดตั้งได้ 2 เดือน ฝ่ายคลังอาวุธได้ส่งชุดเกราะหมิงหวง 50 ชุด ไปให้กองพันทหารม้า และชุดเกราะปูเหริน 100 ชุด ไปให้กองพันทหารราบ

ชุดเกราะทั้ง 2 มีบทบาทอย่างมาก ในระหว่างสงครามโจวหลู่ และมันทำให้ทุกคนตกใจมาก

ในเวลาเดียวกัน ชุดเกราะบางส่วนก็ได้รับความเสียหายจากสงคราม โดยชุดเกราะที่เสียหาย จะถูกส่งกลับมาให้ฝ่ายคลังอาวุธ เพื่อให้พวกเขาทำการซ่อมแซม จากนั้น ก็จะส่งกลับไปให้ทหารอีกที

หลังจาก 2 เดือนแห่งความยากลำบากในการจัดการ ช่างฝีมือในฝ่ายคลังอาวุธก็ค่อยๆมีมากขึ้น จนถึงปัจจุบัน มีช่างตี่เหล็กขั้นมาสเตอร์ 1 คน, ช่างตีเหล็กขั้นสูง 4 คน, ช่างตีเหล็กขั้นกลาง 20 คน และช่างตีเหล็กขั้นต้น 150 คน แล้วยังมีช่างตัดเย็บขั้นมาสเตอร์ 1 คน, ช่างตัดเย็บขั้นสูง 1คน, ช่างตัดเย็บขั้นกลาง 5 คน และช่างตัดเย็บขั้นต้นอีก 10 คน

กลุ่มคนเหล่านี้ ได้รับเงินเดือนรวมกัน สูงถึงเดือนละ 340 เหรียญทอง มากกว่าค่าใช้จ่ายของ 1 กองพันเสียอีก นอกจากนี้ นี่ยังไม่รวมค่าที่ปรึกษาของมู่ฉิงซีอีก

หลังจากเสร็จสิ้น ผลลัพธ์ก็เริ่มแสดงออกมา ตั้งแต่เดือนที่ 5 พวกเขาก็สามารถสร้างชุดเกราะหมิงกวงได้จำนวน 150 ชุด/เดือน และชุดเกราะปูเหรินได้จำนวน 200 ชุด/เดือน และส่งพวกมันไปให้กรมทหารผสม และกองพันแนวหน้า

ด้วยความเร็วนี้ เมื่อสิ้นเดือนที่ 7 กองพันแนวหน้าก็จะมีอุปกรณ์ครับครัน เมื่อสิ้นเดือนที่ 6 กองพันที่ 1 ของกรมทหารผสมจะมีอุปกรณ์ครับครัน และกองพันที่ 2 จะได้รับอุปกรณ์ครบครันในกลางเดือนที่ 9

ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ ความเร็วในการผลิตของพวกเขาจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ประการแรก พวกเขาได้เลือกชาวเมืองที่อาจจะกลายมาเป็นช่างตีเหล็กได้ทั้งหมดแล้ว พวกเขาจึงจะหาเพิ่มจากผู้อพยพที่จะเข้ามาใหม่ได้เท่านั้น, ประการที่สอง อุปทานของเหมืองแร่ได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว

มีเฉพาะเหมืองแร่ของเมืองซานไห่เท่านั้น ที่ผลิตเหมืองแร่เหล็กให้กับโรงผลิต เพื่อใช้สร้างทวนและดาบถัง, ฝ่ายธนูและหน้าไม้ เพื่อสร้างกลไลของหน้าไม้ และฝ่ายคลังอาวุธ เพื่อสร้างชุดเกราะ ตอนนี้ พวกเขาได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าจะเพิ่มคนงานเหมืองแร่มากกว่านี้ มันก็ไม่มีพื้นที่ให้คนงานทำงานแล้ว

ทางออกเดียวก็คือ หาแหล่งแร่แห่งใหม่ในดินแดน

เดินออกจากโรงผลิตของฝ่ายคลังอาวุธ โอหยางโชวกลับไปที่คฤหาสน์ของลอร์ด และจัดการกับปัญหาด้านการบริหาร

…………………………………………………………………………..

ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา เฟิงฉิงหยางและตี่เฉินก็ประสบความสำเร็จในการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1 เมืองหานตานได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้ล้มเหลวเมื่อครั้งก่อน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

ด้วยเหตุนี้ ในภูมิภาคจีน จึงมี 7 ดินแดนแล้ว ที่เข้าสู่เมืองขนาดกลาง เหลือที่ว่างอีกเพียง 3 ที่เท่านั้น ใน 10 อันดับแรกของภูมิภาคจีน

ไม่ว่าจะเป็นซีอ๋องป้า, ซาโพจุ่น, เพียวหลิงฮวน, หวู่ฟู่ หรือแม้แต่ซุ่นหลงเตียนเซว่ ทุกคนยังมีโอกาส

5 ดินแดนนี้ได้รับพิจารณาว่าเป็นกลุ่มที่ 3 เมื่อเทียบกับกลุ่มแรกอย่างเมืองซานไห่ และกลุ่มที่ 2 แล้ว พวกเขายังคงไม่พร้อมในระยะเวลาสั้นๆนี้ พวกเขายังไม่มีความมั่นใจในการยื่นคำร้องขออัพเกรด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมืองหินและเมืองซุ่ยหลง พวกเขายังไม่ได้ผ่านข้อกำหนดทั้งหมดเลย

สถานการณ์ของซาโพจุ่นเป็นไปตามที่โอหยางโชวคาดไว้ ใน 6 ทรรราชย์แห่งหานตาน เขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด กลุ่มอำนาจของพวกเขามีจุดอ่อนมาก เมื่อทรัพย์สินทั้งหมดถูกแช่แข็ง เพื่อนและคู่ค้าทั้งหมดของพวกเขาก็ไม่สนใจพวกเขา ทำให้พวกเขาเหมือนจะถูกทิ้ง

ซาโพจุ่นและคนของเขาต่อสู่ได้ดี อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการจัดการดินแดน พวกเขายังคงบกพร่องอยู่มาก

ในช่วงสัปดาห์นี้ เมืองฉิวซุ่ยเปล่งประกายมากที่สุดในดินแดน เพราะเผ่าคนเถื่อนภูเขาขนาดกลาง 1 เผ่า และเผ่าขนาดเล็ก 4 เผ่า ได้ตัดสินใจที่จะอพยพลงมา นั่นหมายความว่า เผ่าที่ลังเลก่อนหน้านี้ ได้ตัดสินใจที่จะอพยพลงมาจากภูเขาแล้ว ซึ่งทำให้เมืองฉิวซุ่ยมีผู้อพยพเข้าถึง 14,000 คน

ตอนนี้ จากเผ่าคนเถื่อนภูเขาทั้งหมดที่เข้าร่วมกับเมืองซานไห่ รวมเผ่าซวนเหนียวแล้ว เหลือเผ่าขนาดกลาง 2 เผ่า และเผ่าขนาดเล็กอีก 4 เผ่า ที่ยังอยู่บนภูเขา

นอกจากเผ่าซวนเหนียวและเผ่าขนาดเล็กอีก 3 เผ่า ที่ได้ส่งคนมาทำงานในเหมืองแร่หลางซานแล้ว เผ่าขนาดกลางและเผ่าขนาดเล็กที่เหลือ ยังคงดื้อรั้นและยังไม่ตัดสินใจในเวลาสั้นๆนี้

การมาถึงของคนเถื่อนภูเขาจำนวนมาก ทำให้ประชากรเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จนเมืองฉิวซุ่ย ต้องอัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 2 และเจ้าเต๋อเสี้ยนก็ได้รับตำแหน่งผู้ปกครองเมืองฉิวซุ่ยอย่างเป็นทางการอีกด้วย

เจ้าเต๋อเสี้ยนทะเยอทะยาน เขาได้เตรียมแผนที่จะจัดเตรียมพื้นที่เพาะปลูกมากถึง 400,000 หมู่

โดยเขาวางแผนที่จะเตรียมพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 380,000 หมู่ เพื่อให้ขนาดของพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 หมู่

จากค่าเฉลี่ย 10 หมู่/คน พื้นที่เพาะปลูก 400,000 หมู่ จะต้องมีเกษตรกรมากถึง 40,000 คน ตอนนี้ พวกเขามีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงคนเถื่อนภูเขาที่เป็นมือใหม่ด้านการเกษตร หากไม่รวมเด็กและคนชรา จำนวนก็จะน้อยลงไปอีก

ถ้าใครมองมุมนั้น ตัวเลข 400,000 คงจะดูโอ้อวดและบ้าบิ่น

ในความเป็นจริง เจ้าเต๋อเสี้ยนได้ทำการคำนวนไว้แล้ว เมืองฉิวซุ่ยถูกจัดตั้งด้วยเหรียญระดับเงิน ซึ่งมีอัตราการอพยพเข้า เพิ่มขึ้น 40% นั่นหมายความว่า จะมีผู้อพยพเข้าสูงถึง 280 คน/วัน และ 8,400 คน/เดือน

หลังจากนี้ ยังมีเวลาอีก 1 เดือน กว่าจะถึงฤดูเพาะปลูกข้าวในต้นเดือนที่ 8 ตราบที่พวกเขาผ่านครึ่งเดือนของการดิ้นรนและยากลำบากไปได้ ประชากรของเมืองฉิวซุ่ยก็จะเพิ่มมาเป็น 40,000 คน ในกลางเดือนที่ 9

จากที่เขาเห็น การฝ่าฟันสำหรับครึ่งปีหลังของการผลิตธัญพืชนั้นคุ้มค่า เนื่องจากเขาได้ทำการคำนวณที่ชัดเจนแล้ว โอหยางโชวจึงไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไม่เห็นด้วยกับเขา

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด