ตอนที่แล้วบทที่ 14: ดาบอสนีวายุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16: เจ้าเล่ห์เพทุบาย

บทที่ 15: เคล็ดวิชาอสนีวารี


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

บทที่ 15: เคล็ดวิชาอสนีวารี

เจ้าอ้วนกำลังรวบรวมความคิด เพราะไม่รู้ว่าควรจะเรียนเคล็ดวิชาวิเศษดีหรือไม่ จึงคิดว่าสามารถทำมันได้เพียงครั้งเดียว มีการบันทึกเคล็ดวิชาของเวทย์มนต์ที่มีมากเกินไป สิ่งเหล่านี้เป็นกฎระเบียบของเวทย์สายฟ้าที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามสภาพของเจ้าอ้วนในตอนนี้นั้น แน่นอนว่ามันจะต้องหาอาจารย์สักคนมาดูแล

ดังนั้นเมื่อได้ข้อสรุปสำหรับการตอบกลับข้อกังขาของชายชรา เจ้าอ้วนจึงพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา “ท่านได้ยินมิผิด ข้าต้องการเคล็ดวิชาสายฟ้าในระดับที่สูงหรือดีกว่านั้น! ท่านอย่าได้กล่าววาจาว่าหอเก็บสมบัติแห่งนี้มิมีแผ่นหยกที่มีบันทึกเคล็ดวิชาเกี่ยวกับสายฟ้าเลย?”

เจ้าอ้วนได้กล่าวอ้างถึงชื่อเสียงของหอเก็บสมบัตินี้เสียแล้ว ถ้าหากเขาทำเสื่อมเสียชายชราผู้นี้จะนอนตายตาหลับได้อย่างไร? เขาจึงรีบตอบกลับในทันที “ท่านลูกค้า หอเก็บสมบัตินั้นมีสามสาขาแต่มีเพียงสาขาเดียวเท่านั้นที่ดีที่สุด ซึ่งทั้งให้ความบันเทิงต่าง ๆ แก่ผู้เชี่ยวชาญที่มาเยี่ยมเยือน ถ้าหากเรื่องนั้นทางเรายังสามารถตอบสนองความต้องการได้ แล้วเหตุได้กันเล่าแค่แผ่นหยกสายฟ้าแผ่นเล็ก ๆ นั้นเราจักหามามิได้?”

“ถ้าหากว่าท่านมีมันอยู่ ได้โปรดจงหยิบมาให้ข้าดูเถิด!” เจ้าอ้วนตอบกลับ

ชายชราครุ่นคิดอยู่เพียงครู่แล้วตอบกลับ “ท่านลูกค้า ตามที่ข้าเคยได้รู้มาร้านของเรามีแผ่นหยกที่บันทึกเคล็ดวิชาอสนีวารี ข้าสามารถนำมาให้ท่านได้ทุกเมื่อ.. แต่ว่า”

“ท่านติดขัดตรงไหนหรือ?” เจ้าอ้วนถามกลับอย่างทันที

“แต่สินค้านี้ไม่ใช่ของเรา มันถูกวางขายโดยผู้คนอื่นในร้านของเรา เจ้าของสิ่งนั้นเพียงต้องการแลกกับหยกไฟกายสิทธิ์! และถ้าหากว่าท่านไม่มีมันแล้วล่ะก็ ข้าเกรงว่าท่านจะมิได้วิชาสายฟ้ากลับไป” ชายชรากล่าว

“หยกไฟกายสิทธิ์งั้นรึ?” เจ้าอ้วนรู้สึกหงุดหงิดพร้อมถามต่อ “มันคืออะไร? ท่านสามารถบอกข้าเกี่ยวกับมันได้หรือไม่? ข้าอาจจะมีมันอยู่ก็ได้!”

เมื่อชายชราได้ยินดังนั้น เขาแทบจะล้มทั้งยืนในคราเดียวกัน พร้อมคิดในใจ ‘เจ้ายังไม่รู้เลยว่ามันคือสิ่งใด แต่เจ้าพ่นออกมาได้อย่างไรว่าอาจจะมีมันอยู่? นี่คือวัสดุที่ผู้เชี่ยวชาญระดับจินดันยังได้แต่ใฝ่ฝันว่าจะมีมันในครอบครอง ถ้าหากว่าเด็กใหม่อย่างเจ้าที่เพิ่งเข้าสู่การฝึกตนนั้นสามารถมีมันในครอบครองแล้วล่ะก็! พระอาทิตย์คงจักต้องขึ้นทางตะวันตกกระมัง!’

แม้ว่าชายชราจะรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แต่มันก็ดีที่เขาระงับมันไว้ได้ หลังจากที่ทุกคนได้เข้ามาเป็นลูกค้าแล้ว เขาไม่สามารถที่จะทำเรื่องให้หอเก็บสมบัติเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ มิฉะนั้นอาจจะไม่มีลูกค้ามาที่ร้านของเขาอีกต่อไป เขาจึงไม่มีทางเลือกได้แต่เก็บงำความโกรธนั้นไว้ในใจ เขาเค้นความอดทนที่มีทั้งหมดออกมาพร้อมกับค่อยๆอธิบาย “หยกไฟกายสิทธิ์ เป็นหยกที่สูงที่สุดของหยกไฟ โดยธรรมชาติมันจะขึ้นตามรอบ ๆ ภูเขาไฟและทำการค้นหาเป็นไปได้ยากมาก แม้ว่ามันจะเป็นหยกแต่ลักษณะของมันนั้นอ่อนนุ่ม สีแดงนั้นเต็มพื้นที่ทั่วทั้งตัวของมัน เป็นวัสดุคุณภาพสูงที่ใช้ในการปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์ที่มีมนต์ขลังของธาตุไฟ ถ้าหากเจ้าครอบครองชิ้นใหญ่เท่าลูกวอลนัทนี้ ข้าสามารถตัดสินใจที่จะขายเคล็ดวิชาสายฟ้าให้กับท่าน ถ้าหากว่าท่านไม่มี ท่านก็ควรจากไปและไปทำในสิ่งที่ท่านต้องการจะทำเสีย”

เช่นเดียวกันเมื่อชายชรากล่าวออกมาแบบนี้ เขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นปราณจิตวิญญาณในรูปแบบของไฟในห้อง ในขณะที่เขาเงยศรีษะขึ้นมา เขามองเห็นว่าเจ้าอ้วนที่อยู่ตรงข้ามกับเขามีวัสดุขนาดเท่ากับไข่อยู่ในมือ สีแดงสนิท

“หยกไฟกายสิทธิ์!!!” ชายชราร้องอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในหอสมบัตินี่มาหลายปี เขามีความรู้มากมาย โดยธรรมชาติด้วยรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว เขาก็สามารถจำแนกวัตถุได้ทันที เขาได้จ้องเขม็งไปยังวัตถุนั้นจนกระทั่งสายตามืดดับไป

ชายชราพูดออกมาด้วยความตกใจ “ท่าน ท่านรู้ได้อย่างไรว่ามันอยู่แห่งหนใด?”

“เรื่องนั้นมันสำคัญงั้นรึ?” เจ้าอ้วนจ้องไปที่ชายชราทันที ชายชราจึงหยุดปากเพียงแค่นั้น

ชายชราตระหนักได้ทันทีว่าเขากำลังทำผิดกฎเข้าเสียแล้ว ตามหลักเกณฑ์แล้วนั้นไม่ว่าสินค้าจะมาจากที่ใด มันจะต้องไม่ถูกถามถึงสถานที่นั้นเด็ดขาด ชายชราฉีกยิ้มพร้อมกับขอโทษเจ้าอ้วนในทันที “ขออภัย ข้าขออภัยท่านด้วยจริง ๆ ข้าพูดบางอย่างผิดไป ถ้าหากเป็นเช่นนี้แล้ว ได้โปรดรอข้าสักครู่ ข้าจะรีบกลับมา!” หลังจากพูดจบ ชายชราก็รีบยืนขึ้นพร้อมเดินออกไป

เจ้าอ้วนยืนขึ้นพร้อมกับยิ้มและพยักหน้า ขณะที่เขาเห็นว่าชายชรากำลังเดินออกไป เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะมาทำร้ายเขาเพียงเพราะต้องการสมบัติของเขาเพราะเพียงแค่หยกไฟกายสิทธิ์ แม้ว่ามันจะเป็นสมบัติของชนชั้นกลาง แต่ว่าถ้าหากกับหอเก็บสมบัติแห่งนี้แล้ว คุณค่าของมันก็ไม่ได้มากมายนัก น่าเสียดายที่ชื่อเสียงของมันไม่ได้มากมายขนาดนั้น

อย่างที่คาดการณ์ไว้เพียงไม่นาน ชายชราเดินกลับมาพร้อมกับกล่องไม้ เขาวางกล่องไม้ลงอย่างเบามือ มันยาวประมาณสามนิ้วอยู่ข้างหน้าของเจ้าอ้วน เขายิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “คุณลูกค้า ท่านสามารถดูมันได้ตอนนี้เลย”

“อือ!” เจ้าอ้วนเปิดกล่องไม้แล้วดึงหยกสีฟ้ายาวหนึ่งนิ้วออกมาจากกล่อง เมื่อสัมผัสกับหยกรู้สึกได้ถึงความเย็นที่แผ่ออกมา ให้ความรู้สึกที่ราบเรียบ เต็มไปด้วยลายแกะสลักมากมาย สิ่งของชิ้นนี้ดูคล้ายเป็นของยุคโบราณกาล เจ้าอ้วนใช้จิตวิญญาณของเขาเข้าไปตรวจสอบมัน เขาพบกับหญิงวัยกลางคนอยู่ใกล้กับทะเลสาป ที่แห่งนั้นมีสายฟ้าควบแน่นอยู่จำนวนมาก ในเวลาเดียวกัน มีเสียงผู้หญิงกำลังบรรยายสิ่งต่าง ๆ พร้อมคำอธิบายขึ้นมาข้าง ๆ เพื่อบรรยายที่ได้จดบันทึกไว้ เห็นได้ชัดเจนว่านี่คือเคล็ดวิชาอสนีวารี

เจ้าอ้วนไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือพอที่จะมานั่งพินิจพิจารณา หลังจากที่พบว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติ เขาดึงจิตวิญญาณของเขากลับมา พร้อมกับวางแผ่นหยกลงในกล่องไม้ตามเดิมและกล่าวต่อว่า “หยกชิ้นนี้ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด แต่ว่าหยกไฟกายสิทธิ์ที่ข้าเสนอให้ท่านนั้นมีขนาดเท่ากับไข่ สิ่งขนาดที่ท่านร้องขอคือเมล็ดถั่ว เห็นได้ชัดว่ามันใหญ่กว่ากันมากนัก!”

“อ่า เอ่อ ใช่แล้ว ข้าเข้าใจดี ข้าจะมิหาประโยชน์จากท่านแน่นอน ถ้าหากว่าท่านยังมีสิ่งอื่นที่ต้องการอยู่ ข้าจะจัดการเตรียมมันเพื่อท่าน แต่ถ้าหากไม่มีสิ่งใดที่ท่านต้องการ ข้าสามารถชดเชยได้ด้วยการจ่ายเป็นหินจิตวิญญาณให้กับท่าน หรือว่าจะให้ข้าคืนหยกไฟกายสิทธิ์ที่เหลืออยู่ก็ย่อมได้!”

“ประเสริฐยิ่งนัก!” เจ้าอ้วนพยักหน้าอย่างพอใจ พร้อมพูดออกไปว่า “ข้าคิดว่า ข้ายังต้องการของบางสิ่ง”

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าอ้วนรู้สึกพึงพอใจเมื่อเดินออกมาจากหอเก็บสมบัติ ในเวลานี้อาจจะกล่าวได้ว่าการเดินทางครั้งนี้ของเขานั้นสุดแสนจะคุ้มค่าเสียเหลือเกิน สิ่งของในมิติของเขานั้นมีอีกมากมายหลายรายการ ทั้งวิธีการฝึกฝนพลังธาตุไม้ ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายเท่าใดนัก สิ่งนี้เขาใช้จ่ายมาเพื่อเจ้าลิงน้อย นอกจากนี้ยังมีเกราะระดับต่ำ ชุดใยแมงมุมที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องร่างกายได้อย่างดี มันถูกสวมใส่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าของเขา เจ้าอ้วนชอบจะปกปิดสิ่งเหล่านี้ไว้ เพื่อไม่ให้มันย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้กับตัวเขาเอง

นอกเหนือจากนั้นเจ้าอ้วนยังได้ยันต์ระดับกลางถึงสิบอัน และ ยันต์ระดับต่ำถึงร้อยอัน ยันต์คือเวทย์มนต์ที่ถูกผนึกไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้คาถาใด ๆ แต่ก็สามารถใช้มันด้วยการขว้างมันออกไปได้ทันที ยันต์เกรดต่ำนั้นถูกสร้างขึ้นจากนักฝึกตนพลังระดับเซียนเทียน ขณะที่ยันต์ระดับกลางถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างระดับปฐมภูมิ หินจิตวิญญาณก้อนหนึ่งสามารถซื้อยันต์เกรดต่ำได้ แต่ยันต์ระดับกลางนั้นจะต้องใช้หินหลายสิบก้อน แต่ว่าการใช้หินจิตวิญญาณไปนับร้อย ผู้ฝึกตนพลังระดับเซียนเทียนนั้นไม่สามารถจ่ายมันออกไปได้ ดังนั้นในตอนนี้เจ้าอ้วนจึงมีสิทธิ์ที่จะท้าทายหวางซุง กับ หานหลิงเฟิงได้แล้ว!

เขากำลังค่อย ๆ หยิบสินค้าในมิติ ค่อย ๆ เก็บมัน เจ้าอ้วนยกยิ้มขึ้นมาพร้อมคิดในใจ ‘ข้านี่แหละคือบิดาของเจ้า คิดว่าข้าจะไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้งั้นรึ ข้านี่แหละที่จะใช้หินจิตวิญญาณที่ข้ามีนั้นทุบพวกเจ้าจนสามารถส่งพวกเข้าไปสู่วาระสุดท้าย ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่าเจ้าพวกเด็กในสังกัดของเจ้านั้น จะรับมือกับยันต์ที่ถูกวาดโดยผู้สร้างระดับปฐมภูมิอย่างไร!!!”

หลังจากที่เขาได้ซื้อทุกอย่างตามที่ต้องการแล้ว เจ้าอ้วนก็มิได้รีบร้อนจะกลับแต่อย่างใด ก่อนอื่นเขาต้องหาสถานที่ที่มีอาหาร เสร็จแล้วเขาจึงกลับเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อนจากอาการเหนื่อยล้า จากนั้นเขาก็ได้เข้าประตูเคลื่อนย้าย และกลับไปพร้อมกับความโกรธเต็มกระเพาะอาหาร!

ผู้ดูแลประตูเคลื่อนย้ายเมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนนั้นได้กลับมาสู่สำนักเสวียนเทียนแล้ว สีหน้าของพวกเขาทั้งหมดล้วนแต่ตกอยู่ในสภาวะตกใจ ทุกคนทราบดีว่าการเดินทางไปกลับนั้นใช้หินจิตวิญญาณถึงสี่สิบก้อน สำหรับผู้ฝึกตนพลังระดับเซียนเทียน นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยเลย นี่เพียงครึ่งวันเท่านั้นเขาก็กลับมาแล้ว หรือเขาคิดว่าเขามีหินจิตวิญญาณมากเกินไปจนไม่รู้ว่าจะใช้มันที่ไหน?

เขาไม่สนใจว่าบุคคลเหล่านั้นจะรู้สึกกับเขาอย่างไร เจ้าอ้วนรีบออกจากหอคอยลอยฟ้า เขาเร่งรีบขึ้นดาบบินที่ใกล้พังเต็มแก่ของเขามุ่งหน้าสู่หุบเหวเทียนโกวทันที

ในครานี้ในใจของเจ้าอ้วนมีแผนที่แตกต่างออกไปจากเดิม เขาไม่ได้จงใจปิดบังตัวตนของเขาอีกต่อไป เขาบินผ่านคนรับใช้บางคนเพื่อให้ทุกคนสังเกตุเห็นเขาโดยง่าย เนื่องจากนี่คือเวลาเที่ยงผู้ฝึกตนมักจะฝึกตนอย่างสันโดษ มีเฉพาะเหล่าทาสเท่านั้นที่ยังคงทำงานกันอยู่ เจ้าอ้วนจึงไม่ได้กังวลว่าจะมีผู้ใดตามเขาไปถึงถ้ำในหุบเขา เขาจงใจที่จะให้เหล่าทาสพวกนั้นไปแจ้งข่าวกับหวางซุงว่าเขากลับมาแล้วเท่านั้น เพื่อที่จะล่อให้ หวางซุงนั้นออกมา

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เจ้าอ้วนก็กลับมาถึงถ้ำในหุบเหวเทียนโกว เขาเห็นว่าเจ้าลิงนั้นหลบซ่อนตัวอยู่ภายใน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ครึ่งค่อนวัน แต่ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าถูกแยกออกจากกันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน และเมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนกลับมาแล้ว เจ้าลิงนั้นตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ เขาตะโกนออกมา “พี่น้องอ้วน ท่านกลับมาแล้ว!?”

“อือ!” เจ้าอ้วนตอบพร้อมกับวิ่งเข้าไปหา เขาเอายาอายุวัฒนะที่เขาจับจ่ายใช้สอยมาเพื่อเจ้าลิงนั้นออกมา พร้อมกับโบกมือและพูดว่า “เจ้าลิง เจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน นี่เป็นยาคุณภาพสูง มันจะเชื่อมกระดูกของเจ้าให้กลับไปใช้งานได้ดังเดิม!” ขณะที่เขากำลังพูดนั้น มือของเขาก็กำลังเริ่มใช้ยานั่นกับเจ้าลิง

เจ้าลิงกำลังเพลิดเพลินกับความชุ่มชื้นของยารักษาโรค เขายื่นมือมาจับพร้อมกับพูดว่า “พี่น้องอ้วน ท่านปฏิบัติต่อข้าดีเหลือเกิน!”

“เราคือพี่น้องกัน หยุดกล่าววาจาเกี่ยวกับเรื่องนี้เสีย!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง

“อือ!” เจ้าลิงเช็ดน้ำตาของเขา พร้อมกับถามออกมาอย่างใคร่รู้ “พี่น้องอ้วน ในเมื่อยามที่ท่านออกไปข้างนอกนั่น ท่านได้พบกับหวางซุงหรือไม่?”

“ข้ามิได้พบกับหวางซุง แต่ข้าพบกับหานหลิงเฟิง ยัยผู้หญิงชั่วร้าย! นางประเคนลูกไฟให้ข้ากินนับสิบลูก ถ้าหากไม่มีความจริงที่ว่าข้านั้นมีทักษะที่ดีเลิศแล้วล่ะก็ข้าก็คงละลายหายไปเพราะนาง!” เจ้าอ้วนพูดออกมาอย่างเดือดดาล “หนี้แค้นที่ข้าฝากไว้นั้น ข้าจะกลับไปเอาคืนให้ได้!”

“อ่า หานหลิงเฟิง? ข้าได้ยินว่านางนั้นมีพรสวรรค์แบบธาตุคู่ นั่นคือธาตุน้ำกับธาตุไฟ แถมคนอื่น ๆ ในสาวกก็ยังชื่นชมว่านางนั้นงดงามเหลือเกิน เมื่อใดที่นางเข้าสู่ระดับสิบ จะมีผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายแห่กันมาเพื่อดูแลนาง แม้แต่พวกสิ่งของบำรุงร่างกายต่าง ๆ นางยังได้รับมันเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้อื่น!” เจ้าลิงถามต่ออย่างกังวล “พี่น้องอ้วน ท่านคงมิได้ไปหยาบคายเพื่อกระตุ้นนางใช่หรือไม่?”

“ข้าหาได้ชักชวนนางไม่! นางต่างหากที่เป็นฝ่ายชักชวนข้าก่อน! เจ้าลูกพี่ลูกน้องหวางซุงนั่นเสนอรางวัลเป็นหินจิตวิญญาณสิบก้อนให้เป็นรางวัล แล้วนางบังเอิญมาพบเจอข้าเสียพอดี หินแค่สิบก้อนนั้นทำให้นางไล่ล่าข้า บ้าเอ๊ย!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างมีอารมณ์ “แม้ว่านางนั้นจะงดงามถึงเพียงใด ข้าก็มิอาจจะปล่อยให้นางอยู่ดีมีสุขได้!”

“พี่น้องอ้วน เหตุใดท่านถึงจะไม่ปล่อยนางไป? ตอนนี้นางก้าวหน้าไปถึงเซียนเทียนระดับสี่แล้ว แต่ท่านเพิ่งจะเข้าสู่ระดับเซียนเทียนเท่านั้น!” เจ้าลิงน้อยพยายามพูดจาเตือนสติเจ้าอ้วน “ทำไมจะไม่น่ะเหรอ ? ก็พวกเราไม่ใช่ฝ่ายหาเรื่องนางก่อนเสียหน่อย แต่เจ้ากลับที่จะเลือกกบดานอยู่ที่นี่อีกหลายปีแทนหรือไง?”

“หึหึ” เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาอย่างชั่วช้าพร้อมกล่าวต่อว่า “เจ้าลิงเอ๋ย จงฟังข้าเถิด ใครก็ตามที่ข้าคนนี้ต้องการจะดูแลแล้วล่ะก็มักจะได้รับการดูแลอย่างสาสม”

เมื่อเจ้าลิงน้อยได้ยินคำพูดนั้นจากปากเจ้าอ้วน เขานั้นไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ก่อนดี แม้ว่าเจ้าอ้วนนั้นจะดูเป็นคนง่าย ๆ และดูซื่อสัตย์ แต่เขาก็ดูร้ายลึก เมื่อตอนที่พวกเขายังเด็ก พวกเขานั้นอ่อนแอและไม่สามารถเอาชนะพวกที่มารังแกข่มเหงได้ ดังนั้นจึงถูกทุบตีอยู่ตลอดเวลา แต่เจ้าอ้วนนั้นมักจะกลับไปแก้แค้นเสมอ ไม่สนวิธีการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโรยยาระบาย ปล่อยงูพิษออกจากเตียงของคนผู้นั้น หรือไปทำลายธุระของผู้อื่นในยามค่ำมืด ทำให้คนอื่นนั้นถูกต่อว่าเป็นประจำ และอีกมากมาย เจ้าอ้วนนั้นมีความสามารถในการแก้แค้นอย่างแท้จริง ยกเว้นครั้งสุดท้ายที่เขาถูกจับได้ในตอนจบ ถูกจับได้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเหตุใดถึงโดนจับได้ แต่หลังจากวันนั้นเขาก็หยุดการกระทำเหล่านั้น และมามุ่งมั่นที่จะฝึกฝน เจ้าลิงนั้นรู้สึกได้ว่าเจ้าอ้วนคนที่เข้มแข็งคนนั้นได้กลับมาแล้ว

แต่ว่าคนที่เขากลับมาดูแลคือปุถุชนคนธรรมดา และในตอนนี้เจ้าอ้วนกำลังเผชิญหน้ากับเหล่าผู้มีพลังที่แข็งแกร่ง เจ้าลิงน้อยอดกังวลไม่ได้ จึงถามออกไปอีกครั้ง “พี่น้องอ้วน ท่านจะทำมันจริง ๆ หรือ?”

“แน่นอน! ข้ามั่นใจว่าข้ามีความสามารถ!” เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างสบายใจ พร้อมกล่าวต่อ “ข้าจะออกไปเล่นกับพวกมันสักหน่อย เจ้าจงไปพักผ่อนซะ แล้วข้าจะรีบกลับมา!” หลังจากพูดจบ เจ้าอ้วนก็โบกมือพร้อมลุกออกไปพร้อมความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ณ ลานกว้างที่ดูสะอาดตา ผู้มีพลังสามคนนั่งอยู่ในศาลา สภาพแวดล้อมนั้นเต็มไปด้วยดอกบัวที่รายรอบ มีสายลมอ่อน ๆ พัดเอากลิ่นหอมของดอกไม้โชยไปทั่วอาณาบริเวณ ราวกับว่าพวกเขากำลังนั่งอยู่ในสรวงสวรรค์

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด