ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 168 มนุษย์หมาป่าสายฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 170 ธรรมะสุดขั้ว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 169 ค้นหาเส้นทาง


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 169 ค้นหาเส้นทาง

ไป่หนิงปิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาสูดหายใจอย่างรุนแรงและดูบ้าคลั่ง

เมื่อฟางหยวนไปถึง ทั้งคู่กลายเป็นตกตะลึง

โชคชะตาคือสิ่งลึกลับ เมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังเป็นศัตรูที่ต้องการเข่นฆ่า แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องทำงานร่วมกันเพื่อหาทางรอด

ร่วมมือกับไป่หนิงปิง?

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายชั่วร้ายราวกับเจ้านรก 'แม้ไป่หนิงปิงจะบ้าคลั่งและรู้ชะตากรรมของตน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขายอมแพ้ต่อชีวิต'

ความปรารถนาที่จะมีชีวิตเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

เพราะไป่หนิงปิงต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวบนชะตากรรมที่ไร้ทางออก มันจึงบ่มเพาะบุคลิกที่ชั่วร้ายและบ้าคลั่งของเขาให้เติบโตขึ้น

ในโลกใบนี้ไม่มีศัตรูที่ถาวร ดังนั้นการทำงานร่วมกับไป่หนิงปิงจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ฟางหยวนจะโน้มน้าวเขาได้อย่างไร?

"ฮ่าฮ่าฮ่า ฟางหยวน เป็นเจ้าจริงๆ" ไป่หนิงปิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "การตายเคียงข้างเจ้าก็ถือเป็นจุดจบที่น่าสนใจ"

"น่าสนใจ?" ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง เขามีความคิดบางอย่างแล้ว

แต่ในจังหวะนี้หมาป่าสายฟ้าบางตัวกลับลอบจู่โจมเขา แต่ฟางหยวนเพียงสะบัดแขนส่งดาบสีทองฟาดพวกมันให้ลอยกลับหลังไป

ตอนนี้ขาของตะขาบทองคำทำลายล้างแตกหักไปบางส่วน พลังของมันลดลงอย่างมากและสามารถใช้ทุบตีราวกับเป็นอาวุธทื่อๆเท่านั้น

"ท่ามกลางแรงกดดันจากคลื่นหมาป่า ไม่ใช่ว่าการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายของเราจะสนุกสนานมากขึ้นงั้นหรือ?" ฟางหยวนเข้าไปใกล้ไป่หนิงปิงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แพขนตาของไป่หนิงปิงเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นทันที เขาไม่คิดว่าฟางหยวนจะบ้าคลั่งได้ยิ่งกว่าเขา

แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่เขาคาดหวัง หากทัศนคติของฟางหยวนอ่อนแอกว่านี้และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อหลบหนี เขาจะรู้สึกรังเกียจและฆ่าฟางหยวนด้วยตัวของเขาเองที่นี่เดี๋ยวนี้

โลกเป็นเช่นนี้ บางคนหากใจดีกับพวกเขา พวกเขาจะยิ่งรังเกียจและพาล มีเพียงการแสดงทัศนคติที่เหนือกว่าเท่านั้นจึงจะได้รับการเคารพ

"หากเจ้าต้องการตาย ข้าก็จะทำให้เจ้าสมความปรารถนา" ไป่หนิงปิงหัวเราะและปลดปล่อยจิตสังหารออกมาจากดวงตา

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นก่อนกล่าวด้วยถ้อยคำของปีศาจเฒ่าที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ "มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้เพียงหนึ่งร้อยปี มันไม่ต่างจากความฝันที่จบลงอย่างรวดเร็ว แล้วพวกเขามีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด มันไม่ใช่เพียงการเดินทางเท่านั้นแต่มันยังรวมไปถึงการเป็นพยานให้กับบางสิ่งที่น่าสนใจ แม้นข้าจะไม่อยากตาย แต่ข้าก็ไม่กลัวตาย เพราะข้าอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับข้าแล้ว แม้ข้าจะตายก็ไม่รู้สึกเสียใจ"

นี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของฟางหยวน

ตั้งแต่คนผู้หนึ่งถือกำเนิด ผู้ใดจะสามารถมีชีวิตได้ตลอดกาล?

กระทั่งผู้ใช้วิญญาณระดับเก้าหรือมนุษย์คนแรก แม้พวกเขาจะมีชีวิตต่อไปได้อีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่ตลอดไป สุดท้ายพวกเขาก็จะถูกทำลายในที่สุด

ดังนั้นความตายจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม้ฟางหยวนจะตายในวินาทีถัดไป เขาก็จะไม่เสียใจ

เพราะเขาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อเป้าหมายของเขาแล้ว เขาทุ่มเทและใช้ชีวิตทั้งหมดไปเพื่อมันแล้ว

มีเพียงการมองข้ามชีวิตและความตาย คนผู้หนึ่งจึงจะได้รับอิสระอย่างแท้จริง

ได้ยินเรื่องนี้ ร่างของไป่หนิงปิงถึงกับสั่นสะท้าน

เขาเคยคิดว่าตนเองไม่เกรงกลัวต่อความตาย แต่เขายังไม่เคยรู้สึกถึงอิสระภาพและไม่เคยรู้สึกสบายใจ ในความเป็นจริงเขาไม่เคยรู้จักความตายและไม่สามารถปล่อยมือจากชีวิต

เขาหวาดกลัว เขาตกเป็นทาสของชีวิตและความตาย

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ความผิดของเขาเพราะเขายังเด็กเกินไป หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้จำเป็นต้องสัมผัสด้วยตนเอง พวกเขาจึงจะสามารถตรัสรู้

แต่ตอนนี้คำพูดของฟางหยวนทำให้เขาพบเส้นทางสายใหม่ที่ไกลเกินกว่าสิ่งที่เขากำลังดิ้นรน

"เป็นพยานให้กับสิ่งที่น่าสนใจ...อยู่บนเส้นทางของตนเองเรียบร้อยแล้ว...ไม่เสียใจหากต้องตาย?" ไป่หนิงปิงพึมพำก่อนจะเปิดปากถาม "เส้นทาง...เส้นทางใด?"

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น "ทุกคนมีเส้นทางของตน ข้าไม่สามารถบอกเจ้าเกี่ยวกับเส้นทางของข้า แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรเกี่ยวกับเส้นทางของเจ้า?"

ในโลกใบนี้มีผู้คนมากมายที่ไม่สามารถค้นหาเส้นทางของตนเองตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา ขณะที่บางคนเดินอยู่บนเส้นทางของตนและพยายามเดินไปข้างหน้าแม้จะเป็นเส้นทางที่มืดมิดก็ตาม

ดวงตาสีฟ้าของไป่หนิงปิงส่องประกายขึ้น

"เส้นทาง...ถูกต้อง ข้าต้องหาเส้นทางของข้า!"

หัวใจของไป่หนิงปิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับความเข้าใจสิ่งใหม่

เขาเหมือนชายที่ต้องการข่มขืนหญิงสาวแต่ทำไม่เป็น อย่างไรก็ตามวันหนึ่งเขากลับพบวิธีการที่ถูกต้องอย่างกะทันหัน

ไป่หนิงปิงไม่มีเส้นทางของตนและไม่สามารถหาคำตอบในชีวิตทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า

ฟางหยวนไม่สามารถหาคำตอบให้กับเขา แต่สามารถชี้แนะและให้ความหวัง

"ข้ารู้สึกว่าข้าจะต้องพบเส้นทางของข้าเร็วๆนี้" ไป่หนิงปิงกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น

เขามองไปยังฟางหยวนและกล่าวอย่างมีความหมาย "ในที่สุดข้าก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างเรา เจ้าอยู่บนเส้นทางของตนเอง แต่ข้ายังหามันไม่พบ"

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "ฟางหยวน หากเจ้าต้องการต่อสู้ ข้าพร้อมเสมอ แต่ตอนนี้พวกเราต้องร่วมมือกัน ข้ามีวิญญาณดวงตาสายฟ้า อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ข้าสามารถมองเห็นได้เพียงสามสิบเก้า หลังจากหนีไปได้ พวกเราจะต่อสู้กันอีกครั้งในวันหนึ่ง สามารถทำงานร่วมกับศัตรู นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจหรอกหรือ?"

"โอ้ แล้วข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?"

"ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าเชื่อ เจ้าสามารถเชื่อข้าหรืออาจจะไม่ เจ้าสามารถหักหลังข้าและลอบโจมตีข้าได้ตลอดเวลา ฮ่าฮ่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้า" ไป่หนิงปิงยักไหล่และเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

ฟางหยวนหรี่ตามองไป่หนิงปิง

เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อคำพูดของบางคน แต่มันจะกลายเป็นเรื่องง่ายหากพวกเขาเข้าใจความคิดของฝ่ายตรงข้าม ในความเป็นจริงนี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของฟางหยวน

"เอาล่ะ ตกลง" ฟางหยวนลูบตะขาบน้อยของเขาก่อนกล่าวต่อ "แต่เจ้าจงระวังการลอบโจมตีของข้าตลอดเวลา"

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" ไป่หนิงปิงยกมุมปากขึ้นก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหว

ด้วยวิญญาณดวงตาสายฟ้า ไป่หนิงปิงสามารถมองเห็นทุกสิ่งในรัศมีห้าสิบเมตร แต่ด้วยหมอกควันสีดำที่หนาทึบ มันจำกัดความสามารถของเขาให้เหลือเพียงสามสิบก้าวเท่านั้น แต่นี่ยังถือว่าดีกว่าฟางหยวน

อย่างไรก็ตามวิญญาณดวงตาสายฟ้ายังไม่สามารถทำให้ไป่หนิงปิงเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด นั่นเป็นเหตุให้เขาวิ่งเข้าไปหาฝูงหมาป่าเป็นครั้งคราว

ตรงข้ามกับฟางหยวนที่มีหญ้าใบหูปฐพี เขาไม่สามารถมองเห็นแต่ได้ยินเสียง

ด้วยหญ้าใบหูปฐพี มันทำให้เขารับรู้สถานการณ์ได้ในรัศมีสองถึงสามร้อยก้าว ฟางหยวนสามารถเคลื่อนไหวไปด้วยการพิจารณาเสียงต่างๆ แต่นั่นก็ทำให้เขาเดินชนต้นไม้หรือก้อนหินอยู่หลายครั้ง

แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างดวงตาสายฟ้าของไป่หนิงปิงและหญ้าใบหูปฐพีของฟางหยวน มันจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

"ทิศใต้ ไปทางนั้นแล้วจะพบหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล" ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายขึ้น

"ไม่ มันมีหมาป่าอยู่มากเกินไป พวกเราต้องอ้อมไป" รากโสมงอกออกมาจากใบหูของฟางหยวน

"ฮ่าฮ่า เช่นนั้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างไร?" ไป่หนิงปิงเลียริมฝีปากของตนเอง

ฟางหยวนส่งรากโสมติดต่อกับพื้นพิภพและตั้งใจฟัง

ในช่วงเวลานี้ หมาป่าที่พุ่งเข้ามาถูกฆ่าโดยไป่หนิงปิงทั้งหมด

ฟางหยวนเร่งกล่าวต่อ "มีช่องว่างอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่พวกเราต้องรีบไปก่อนที่ช่องว่างจะถูกเติมเต็ม"

"ตกลง ไปคว้าโอกาสนั้น" ไป่หนิงปิงกล่าวแต่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวทันที

เขายังเฝ้าระวังฟางหยวน เขาไม่กล้าเดินหน้าและเปิดโอกาสให้ฟางหยวนลอบโจมตี

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อไป่หนิงปิง

ในที่สุดพวกเขาจึงเริ่มออกเดินทางเคียงบ่าเคียงไหล่แต่เว้นระยะห่างระหว่างกันเอาไว้ห้าก้าว

หมาป่าสายฟ้าเห่าหอนและต้องการฆ่าพวกเขา

แต่ด้วยความร่วมมือของดวงตาสายฟ้ากับหญ้าใบหูปฐพี คนทั้งสองจึงสามารถหลบเลี่ยงศัตรูที่แข็งแกร่งและเดินหน้าต่อไป

นี่คือผลลัพธ์ของความร่วมมือ

หากไป่หนิงปิงและฟางหยวนทำงานเพียงลำพัง พวกเขาจะถูกปิดล้อมโดยฝูงหมาป่าอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขากลายเป็นง่ายดายและแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

หลังจากชั่วครู่ พวกเขาจึงได้พบกับแสงแดดที่สาดส่องอีกครั้ง

"ฮ่าฮ่า พวกเราออกมาได้ในที่สุด" ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงดัง

ฟางหยวนมองย้อนกลับไปและเห็นม่านหมอกสีดำปกคลุมไปทั่วหุบเขา

ภายในหมอกควัน เสียงกรีดร้อง เสียงเห่าหอน และเสียงระเบิดยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าผู้นำตระกูลทั้งสองยังต่อสู้อยู่อย่างดุเดือด

"การทำงานร่วมกับเจ้าเป็นเรื่องที่น่าพอใจจริงๆ" ไป่หนิงปิงเผยรอยยิ้มบาง

"ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน" ฟางหยวนยกมุมปากขึ้น

แต่ในวินาทีต่อมาดวงตาของทั้งสองกลับส่องประกายขึ้นอย่างกะทันหัน

ดาบน้ำแข็ง!

ตะขาบทองคำทำลายล้าง!

ดาบน้ำแข็งตัดผ่านอากาศลงมาด้วยประกายแสงอันเย็นเยียบ

ตะขาบทองคำทำลายล้างพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกับเสียงกรีดร้องของสายลม

"ปัง!"

ดาบน้ำแข็งปะทะรอยแผลเดิมบนร่างของตะขาบทองคำแต่มันก็หักสะบัดลงทันทีหลังจากนั้น

ฟางหยวนกับไป่หนิงปิง ทั้งคู่กระโดดถอยหลังออกไปขณะที่ดวงตาของพวกเขายังเต็มไปด้วยจิตสังหาร

ความร่วมมือชั่วคราวของพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นศัตรู

เส้นผมสีดำของฟางหยวนเต้นรำอยู่กลางอากาศ ขณะที่ชุดคลุมสีขาวของไป่หนิงปิงสะบัดไปตามแรงลม ทั้งสองมีบางสิ่งที่เหมือนกันมาก นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขากลายเป็นศัตรูโดยธรรมชาติ

ดวงตาคู่สีดำมืดกับดวงตาสีฟ้าใสจ้องมองกันราวกับมีสายฟ้ายิงออกมาปะทะกันกลางอากาส

เป็นเพียงเวลาหลังจากนั้นที่จิตสังหารของพวกเขาค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆ

'ฮืม นี่เป็นเพียงคนที่กำลังจะตาย แม้จะไม่มีการแทรกแซงจากข้า สวรรค์ก็จะเอาชีวิตเขาไปในที่สุด ตอนนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่ไป่หนิงปิงแต่เป็นบัวสมบัติสวรรค์ มีโอกาสสูงมากที่มนุษย์หมาป่าสายฟ้าจะบุกโจมตีหมู่บ้าน ดังนั้นข้าต้องชิงลงมือก่อน' ฟางหยวนวิเคราะห์สถานการณ์

ไป่หนิงปิงพึมพำกับตนเอง "เส้นทาง...ไม่เสียใจ...ถูกต้อง แม้แต่มนุษย์คนแรกยังต้องตาย มนุษย์เกิดมาย่อมต้องตายทุกคน ดังนั้นตราบเท่าที่ข้าสามารถมีชีวิตที่น่าสนใจ แล้วข้ายังต้องสนใจความตายงั้นหรือ?"

คิดได้เช่นนี้ ดวงตาของเขาจึงส่องประกายขึ้นด้วยความรู้สึกตรัสรู้

"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าพบเส้นทางของตนเองในที่สุด นั่นคือการเป็นพยานให้กับความหลักแหลมของโลกใบนี้ ฟางหยวน เราจะต่อสู้กันในวันอื่น ข้าหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น ความตายของเจ้าจะทำให้ข้ามีชีวิตชีวามากขึ้น"

หลังจากกล่าวจบคำ ไป่หนิงปิงจึงได้จากไปอย่างรวดเร็ว

แม้ร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผล ใบหน้าจะปกคลุมไปด้วยเขม่าควันและมีแขนเพียงข้างเดียว แต่แผ่นหลังของเขากลับยืดตรงราวกับกระบี่ ตอนเขาไม่หลงทางอีกต่อไป

เพราะเขาพบเส้นทางของตนเองเรียบร้อยแล้ว!