ตอนที่แล้วTXV – 153 ของมันต้องมี !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 155 การแลกเปลี่ยนในยามราตรี !

TXV – 154 ความอึดอัดที่ยากจะอธิบาย....


TXV – 154 ความอึดอัดที่ยากจะอธิบาย....

 

         ทั้งสองคนลงจากรถ BMW รุ่น M6 พวกเขาดูเหมือนเป็นคู่รักกันมากๆจากที่ท่าความสนิทสนมของพวกเขาทั้ง 2 เขา

 

         "คุณคือลูกสาวของอาจารย์หลาง ใช่มั้ย? รถสวยมากเลย "

 

         " แน่นอน...... มีหนุ่มหล่อคนนึงซื้อให้ฉันหน่ะ"

 

         "ได้ข่าวมาว่าแฟนของเธอมีบริษัทเป็นของตัวเองด้วยหนิ !"

 

         "จริงๆก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่นะ บ้านผมมีลูกสาวที่กำลังทำงานตอนนี้เธอเช่าห้องอยู่ไม่ได้อยู่บ้านเป็นหลักเธอทำงานอีกสัก 10 ปีก็ไม่มีทางที่จะได้ชับรถหรูแบบนี้หรอก"

 

         จะพูดอะไรก็ได้เพราะเธอไม่ได้สนใจอยู่แล้วตอนนี้เธอมีความสุขดีและทุกคนก็มองเธอในแง่ดีกันทั้งนั้นเพราะเธอเป็นคนที่อัธยาศัยดี

 

         ทื่ระเบียงชั้น 5 หลางเฉิงชุนจิบชากุหลาบม่วงแล้วมองไปที่หลางซือเหยาที่อยู่กับเซี่ยเหล่ยที่กำลังเดินออกมาจากรถหรู

 

         หลางซือเหยาเปิดประตูและจอดของขวัญชิ้นใหญ่ที่ได้จากเซี่ยเหล่ยภายในบ้าน...

 

         "อาจารย์ ผมซื้อใบชามาให้คุณ" เซี่ยเหล่ยพูด

 

         หลางเฉิงชุนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นว่า "ใบชาอะไรหล่ะ? ก่อนหน้านี้เวลลาที่คุณซื้อมาผมก็ไม่ได้กินมันเลยนะ ทีหลังไม่ต้องหรอกนะมันสิ้นเปลืองเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตหากต้องอยู่คนเดียวมันลำบากหรือไม่หากแต่งงานมีเลี้ยงลูก มีหลานเลี้ยงหลานเถอะมันก็ต้องใช้เงินเยอะอยู่เหมือนกัน

 

         เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างงุ่มง่ามก่อนหน้านี้เขาเคยกังวลเรื่องแต่งงานหรือเลี้ยงลูกเหมือนกันแต่ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลแล้ว.......

 

         หลางซือเหยาพูดว่า " พ่อ เหล่ยก็เหมือนลูกหลานจะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ไง"

 

         "เอาล่ะ ไม่พูดละ" หลางเฉิงชุนแล้วเขาก็พูดต่อว่า "ซื้อรถแล้วงั้นเหรอ?"

 

         เซี่ยเหล่ยพยักหน้า "ด้วยอาชีพที่ทำอยู่ตอนนี้เราต้องใช้มัน "คำพูดนี้เป็นคำพูดที่หลางซือเหยาสอนให้เขาพูด

 

         "รถคันนั้นมันสวยหรูหราและน่าสนใจมากเท่าไหร่กันหล่ะ?" หลางเฉิงชุน ถาม

 

         เซี่ยเหล่ยกำลังจะบอกราคาแต่หลางซือเหยารีบชิงตอบไปก่อนว่า "151,000"

 

         "ทำไมมันแพงอย่างนั้นหล่ะ?" หลางเฉิงชุนมีท่าทางประหลาดใจมาก

 

         เซี่ยเหล่ยมองไปที่หลางซือเหยาด้วยท่าทางที่ว่าเธอหลอกพ่อของตัวเองงั้นเหรอ

 

         หลางซือเหยายิ้มแล้วพูดว่า "เซี่ยเหล่ยเป็นเจ้าของบริษัทต้องออกไปข้างนอกเพื่อคุยเรื่องธุรกิจต้องเจอคนมากมายมันเป็นเหมือนหน้าตาของบริษัท เมื่อเป็นเช่นนี้มันจึงไม่แพงเลยสำหรับหน้าที่การงานที่ทำอยู่ตอนนี้

 

         "อืม...ดีแล้วแหละที่คิดได้ว่าไม่ได้ซื้ออย่างฟุ่มเฟือย" หลางเฉิงชุนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

         หลางซือเหยากล่าวว่า "ฉันจะไปที่ครัวเพื่อเตรียมอาหาร คุยกันไปก่อนนะ"

 

         หลางเฉิงชุนรู้สึกประหลาดใจเมื่อมองไปที่ลูกสาวของเขาเอง ก่อนหน้าที่เซี่ยเหล่ยจะมาอยู่ที่บ้านด้วยเธอเป็นคนที่กินอะไรง่ายๆไม่จำเป็นต้องไปเตรียมอะไรเลย แต่วันนี้เธอจะไปเตรียมอาหารอย่างนั้นเหรอ?

 

         "อาจารย์ เรื่องการประชุบระดับนานาชาติที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง? “เซี่ยเหล่ยจำเรื่องนี้ได้และพูดขึ้นมา

 

         หลางเฉิงชุนพูดว่า "ได้จดทะเบียนให้แล้วแต่ต้องรอประมานสองเดือน เตรียมตัวให้พร้อมหล่ะ"

 

         " ลู่เชิง พูดว่าต้องการที่จะสู้ด้วยเหมือนกัน เขาต้องการให้ผมพาคุณไปจริงๆแล้วอีกอย่างต้องการให้คุณไปแต่คุณคงจะยุ่งมากจนลืมเรื่องนี้ไปด้วยเหมือนกัน" หลางเฉิงชุนกล่าว

 

         เซี่ยเหล่ยพูดว่า "เมื่อถึงเวลาผมก็พร้อมที่จะไปแสดงให้ดูแน่นอนครับ"

 

         หลางเฉิงชุน ได้ยิ้มแล้วพูดว่า "ดีแล้ว" จู่ๆเขาก็มีคิดอะไรได้ขึ้นมาแล้วพูดว่า "เพื่อนของผมบอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีดาราหนังเป็นลูกครึ่งจีนอเมริกัน เขาชื่อว่าบรูซลี (Little Dragon Li) เขาเป็นรุ่นที่สามของโรงเรียนดั้งเดิมคือหวิงชุนเพื่อนของผมบอกว่าเขาวางแผนที่จะเข้าร่วมการประชุมนี้ด้วย และมันอาจจะต้องเกิดการเปรียบเทียบเป็นแน่"

 

         "ไม่ใช่ว่าบรูซลี (Little Dragon Li) ตายไปเมื่อ70 ปีที่แล้วงั้นเหรอ? ทำไมยังมีการสืบทอดมาหล่ะ? ผมก็เคยดูหนังของเขานะแต่นั่นเป็นเพียงหนังเท่านั้นไม่ใช่เหรอ? "เซี่ยเหล่ยพูด

 

         "ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจในรายละเอียดเท่าไหร่ เพื่อนก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดยิบย่อยอะไรมากนัก" หลางเฉิงชุนตอบ

 

         เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า "บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดตอนนี้ตัวเขามีชื่อเสียงอย่างมาก อาจารย์ ผมไม่ได้กังวลอะไรแม้แต่น้อยกับตัวเขาแม้ว่าเขาจะขอให้ผมไปสู้ ผมก็จะ............แต่ก็ช่างเหอะเรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว !"

 

         หลางเฉิงชุนยกชาขึ้นดื่มแล้วพูดว่า "ผมไม่ได้กังวลอะไรหรอก เพราะเป้าหมายของศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่การมีชื่อเสียงหรอก "

 

         เซี่ยเหล่ยพยักหน้าแสดงท่าทางเห็นด้วยกับคำพูดเมื่อกี้แล้วพูดว่า" อาจารย์พูดถูกแล้ว"

 

         จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากครัวเป็นเสียงขอ หลางซือเหยา  ตะโกนมาว่า" เหล่ย มาช่วยหน่อย"

 

         "อาจารย์ ผมจะไปช่วยเธอ"เซี่ยเหล่ยพูดแล้วเดินไปที่ห้องครัว

 

         ในห้องครัวหลางซือเหยาสวมผ้ากันเปื้อนและกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารที่หัวของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอต้องการให้เซี่ยเหล่ยมาที่อ่างล้างแล้วพูดว่า "ช่วยฉันล้างพริกไทยหน่อย ฉันต้องการใช้มันในการทำอาหาร"

 

         "อืม" เซี่ยเหล่ยพูดแล้วเดินไปที่อ่างล้าง

 

         ห้องครัวมีขนาดเล็กหลางซือเหยายืนอยู่หน้าเตาแก๊สด้านหลังของเธอมีช่องเล็กน้อยเพื่อให้เดินผ่านได้ เซี่ยเหล่ยพยายามเดินผ่านช่องตรงนั้นและในตอนนั้นเองก็มีน้ำมันกระเด็นมาโดน หลางซือเหยาทำให้เธอสะดุ้งและถอยหลังไปชนกับเซี่ยเหล่ย ทำให้เซี่ยเหล่ยกระเด็นไปติดกำแพงโดยมีหลางซือเหยาทับอยู่แต่ยังไม่ได้ล้มลงไป

 

         ด้านหลังเป็นกำแพงด้านหน้าเป็นก้นของหลางซือเหยา จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็ไม่กล้าขยับไปไหน มันเป็นล็อคที่อ่อนนุ่มและสมบูรณ์จนทำให้เซี่ยเหล่ยไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียวเขารู้สึกร้อนจากภายในความรู้สึกของเขาเหมือนกับว่าโดนไฟฟ้าช็อต พวกเขารีบผลักตัวออกไปกันคนละทางแต่บังเอิญใจตรงกันเลยทำให้พวกเขากระแทกกันอีกครั้ง พวกเขาหน้าแดงทั้งสองคน

 

         พวกเขาพยายามที่จะไปกันคนละทางแต่ก็ยังไม่ได้เพราะทั้งคู่ใจตรงกันขยับไปทางเดียวกันตลอด.......

 

         ยังคงเป็นแบบนั้นอยู่หลายครั้งจนเซี่ยเหล่ยต้องพูดขึ้นว่า "อย่าขยับ

 

         ใบหน้าของหลางซือเหยาในตอนนี้แดงมากแต่เธอก็พูดขึ้นว่า"ฉันจะอยู่เฉยๆ คุณรีบขยับออกไป"

 

         เซี่ยเหล่ยดันตัวออกไปด้านข้างในที่สุดพวกเขาก็แยกตัวออกจากกันได้ เซี่ยเหล่ยถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา......

 

         หลางซือเหยาก็ถอนหายใจอย่างโลงอกอย่างเงียบๆแต่จริงๆแล้ว หลางซือเหยา ก็แอบมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยหางตาจากนั้นไม่นานก็มีรอยยิ้มเล็กๆปรากฎขึ้นที่มุมปากของเธอ

 

         แต่ทันใดนั้นในครัวก็ได้มีกลิ่นเหม็นไหม้ขึ้นมาพร้อมควันโขมง

 

         หลางเฉิงชุนที่กำลังดื่มชาอยู่ในห้องรับแขกเห็นควันโขมงไปรอบๆ ก็รีบวิ่งมาดูที่ห้องครัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นซึ่งก็เห็นควันเต็มไปหมด เขามองไปที่ลูกสาวของเขากับเซี่ยเหล่ยกำลังวุ่นวายกันอยู่ในครัวแล้วพูดว่า "ทำอะไรกันหน่ะ? ทำลังทอดปลากันอยู่งั้นเหรอ "

 

         ทั้งเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยามองไปที่หลางเฉิงชุนเป็นตาเดียวกัน

 

         หลางเฉิงชุนกลับออกไปหลังจากที่เห็นว่ากำลังทอดปลาอยู่หลางซือเหยายิ้มกลับมาแล้วพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า "ถ้าพ่อมาเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขาจะต้องทำโทษเราทั้งคู่แน่ๆเลยใช่มั้ย?"

 

         เซี่ยเหล่ยคิดภาพตามแล้วพูดขึ้นว่า "ไม่รู้สิ"

 

         จู่ๆบรรยากาศก็เริ่มแปลกๆพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย เขาทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากแล้วกลับคิดไปว่าหากเมื่อกี้ไม่ได้เกิดควันขึ้นมาซะก่อนจะเป็นยังไงกัน.....

 

         หลางซือเหยาได้ปิดตาแล้วนึกภาพย้อนกลับไปด้วยความตื่นเต้นและคิดในใจว่า "เขาต้องจูบฉันเขาต้องจูบฉัน ...... "

 

         ในขณะเดียวกันนั้นเซี่ยเหล่ยกำลังเตรียมใบผักชีฝรั่งและใบกระเจี๊ยบอยู่เหลือบไปเห็นท่าทางของหลางซือเหยาแล้วพูดขึ้นว่า "คุณเป็นอะไรไปหน่ะ ทำตัวเหมือนแมวเชียว

 

         หลางซือเหยา สะดุ้งขึ้นมาแล้วมองไปที่เซี่ยเหล่ย

 

         จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขิ้น เซี่ยเหล่ยได้รับโทรศัพท์จากฉิงเสวียง

 

         "ที่บริษัท ได้มีคนพยายามจะเข้ามาขโมยของที่ห้องทำงานอีกแล้ว ฉันกำลังตามเขาอยู่และดูว่าเขาจะไปที่ไหนบางทีเราอาจจะได้อะไรมาก็ได้นะ "เสียงของฉิงเสวียงดังมาจากปลายสาย

 

         เซี่ยเหล่ยตอบว่า "ดีผมจะไปทันทีคุณส่งมาเป็นข้อความก็ได้“เซี่ยเหล่ยหันกลับไปพูดกับหลางซือเหยาและหลางเฉิงชุน ว่า”อาจารย์ หลางซือเหยา  ผมมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำผมขอตัวก่อนนะ"

 

         "อะไรสำคัญ?" ในสายตาของหลางซือเหยาแสดงออกถึงความผิดหวังเพราะเธอคิดว่าจะมีเหตุการณ์โรแมนติคและมีความสุขในคืนนี้แต่ฉิงเสวียงดันโทรมาซะได้.....

 

         เซี่ยเหล่ยพูดว่าเรื่องสอดแนมการค้าของบริษัทแล้วยังพูดต่อว่า "ผมจะต้องรีบไป"

 

         "ต้องการให้ฉันไปด้วยไหม?" หลางซือเหยาพูด

 

         เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า "ไม่จำเป็นหรอกเพราะมีฉิงเสวียงช่วยอยู่แล้ว"

 

         หลางซือเหยาพูดย้ำเตือนกับเซี่ยเหล่ยว่า "ระวังตัวด้วยนะ"

 

         เซี่ยเหล่ยพยักหน้าแล้วพูดว่า "อาจารย์ ผมไปก่อนนะ"

 

         หลางเฉิงชุนพูดว่า "อย่าไปทำอะไรที่เกินตัวหล่ะ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้"

 

         "ผมจะจำไว้..." เซี่ยเหล่ยพูดก่อนออกไป

 

         หลังจากเซี่ยเหล่ยเดินไปแล้ว หลางเฉิงชุนมองไปที่หลางซือเหยาแล้วถามออกไปด้วยรอยยิ้มว่า "ลูกคิดอย่างไรหล่ะ?

 

         "ฉันคิดว่า ...... เรื่องของบริษัท " จู่ๆใบหน้าเธอก็แดงขึ้นเล้กน้อย

 

         "ไม่ต้องเฉไฉ..." หลางเฉิงชุนพูดด้วยรอยยิ้ม" ลูกก็เหมือนกับแม่นั่นแหละ เวลาโกหกพ่อจะดูออก"

 

         "พ่อ...!" หน้าของหลางซือเหยาแดงขึ้นอีก

 

         หลางเฉิงชุนพูดว่า "คนอื่นๆเขาก็พูดกันอย่างเปิดเผยแต่ทำไมลูกไม่ทำให้มันชัดเจนหล่ะ?"

 

         หลางซือเหยาพูดว่า "พ่อ...ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จะรู้สึกเหมือนกับผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ที่ทั้งอายและไม่กล้า มันก็ยากที่จะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน......."

 

         "เซี่ยเหล่ยเองก็เป็นผู้ชายขี้อายถ้าเขาไม่พูดหล่ะลูกจะทำยังไง?" หลางเฉิงชุนพูด

 

         "พ่อ...เรื่องนี้ปล่อยให้ฉันจัดการเองหรือพ่อกลัวว่าฉันจะไม่ได้แต่งงาน?" หลางซือเหยาพูด

 

         หลางเฉิงชุนพูดตอบไปว่า "เอาบ่ะ พ่อจะไม่พูดแล้วแต่เซี่ยเหล่ยเป็นเด็กที่มีเสน่ห์และเป็นคนดีเมื่อเป็นแบบนี้ก็มีหลายคนชอบเขาเหมือนกันใช่มั้ย? ถ้าลูกไม่รีบทำอะไรในตอนนี้สุดท้ายลูกอาจจะต้องมาเสียใจนะ "

 

         "พอแล้ว...ฉันไม่ฟังแล้ว!" หลางซือเหยารีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนของเธอด้วยความขุ่นเคือง เธอล้มลงนอนบนเตียงแล้วคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ที่เกิดในห้องครัว

 

         บนท้องถนนที่มีแสงสลัวในตอนกลางคืน มี BMW M6 จอดอยู่ในความคิดของ เซี่ยเหล่ยก็คิดกลับไปคิดถึงเรื่องในห้องครัว ขาที่สวยงามของหลางซือเหยา ก้นที่โดดเด่นของเธอด้วยท่าทางและบรรยากาศในตอนนั้นทำให้เขาเกือบที่จะ....

 

         จู่ๆก็มีข้อความเข้ามาโทรศัพท์ของเซี่ยเหล่ย

 

         ฉิงเสวียงได้ส่งข้อความมาให้เขาแล้วว่า ‘ฉันจะไปที่ร้านกาแฟคนที่น่าสงสัยกำลังจะไปที่นั่น’

 

         จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เหยียบคันเร่งลงไปที่รถ BMW รุ่น M6 ทำให้มันออกตัวอย่างเร็วมากจนมีเสียงดังเกิดขึ้นบนท้องถนน......

 

         เขารู้ว่าร้านกาแฟนี้อยู่ที่ไหนเขาจำได้ไม่เคยลืมเพราะมันเป็นร้านกาแฟที่เขาเคยเจอพ่อของเขานั่นเอง

 

         ที่ร้านกาแฟ "เป็นเธองั้นเหรอ?” จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็คิดว่าเธอคนนั้นคือสือจิงชิว

 

ติดตามตอนต่อไป..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด