ตอนที่แล้วTWO Chapter 174 ด่านเจิ้นหนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 176 เมืองขนาดกลางระดับ 2

TWO Chapter 175 เมืองขนาดกลางเป่ยไห่


TWO Chapter 175 เมืองขนาดกลางเป่ยไห่

3 วันต่อมา คือวันที่ 9 เดือนที่ 6 เมืองหงส์สาบสูญได้ประสบความสำเร็จในการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1 ลำดับที่ 3 ของภูมิภาคจีน

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 6 วันที่ 11 ในขณะที่โอหยางโชวออนไลน์ตามปกติ ก็มีเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นจานหลาง ในการเป็นลอร์ดคนที่ 4 ของภูมิภาคจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1 รางวัลพิเศษ : คะแนนการกุศล 1,600 แต้ม”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นจานหลาง ในการเป็นลอร์ดคนที่ 4 ของภูมิภาคจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1 รางวัลพิเศษ : คะแนนการกุศล 1,600 แต้ม”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นจานหลาง ในการเป็นลอร์ดคนที่ 4 ของภูมิภาคจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1 รางวัลพิเศษ : คะแนนการกุศล 1,600 แต้ม”

ตามที่คาดไว้ เมืองโลหิตสีชาดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ได้ประสบความสำเร็จในการอัพเกรดอย่างรวดเร็ว

เมื่อถูกกระตุ้นโดยจานหลาง ไป๋ฮัวไม่สามารถต้านทานแรงกระตุ้นได้ และตัดสินใจยื่นคำร้องก่อนกำหนด 3 วัน ซึ่งหมายความว่า พวกเธอจะป้องกันการโจมตีจากพวกผู้บุกรุก หลังจากเมืองหงส์สาบสูญเพียบ 7 วันเท่านั้น

เป็นเหตุให้หวังหยวนเฟิงที่เพิ่งจะกลับมาจากเมืองหงส์สาบสูญ ต้องถูกส่งไปยังเมืองสอดคล้องต่อในทันที เพื่อช่วยพวกเขาฝึกฝนทหารให้ใช้เครื่องยิงหน้าไม่ได้

ธนาคาร 4 สมุทรสาขาเมืองมู่หลานได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ มู่หลานเยว่ได้กูเงิน 1,000 เหรียญทอง ในนามของเมืองมู่หลาน เพื่อขยายกองทัพ และสร้างกำแพงเมือง ส่วนที่เหลืออีก 1,000 เหรียญทอง ถูกปล่อยให้ประชาชนในเมืองกู้ยืม สำหรับการซื้อร้านค้าและโรงผลิตของพวกเขา

ในวันเดียวกันนี้ เมืองเป่ยไห่ได้มาถึงชีดจำกัดสูงสุดของประชากรที่ 10,000 คน และได้อัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลางอย่างเป็นทางการ การอัพเกรดของเมืองสาขาไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องและรับการทดสอบจากระบบ ตราบเท่าที่พวกเขาผ่านข้อกำหนด พวกเขาก็จะสามารถอัพเกรดได้ทันที

หลังจากอัพเกรดเมืองเป่ยไห่แล้ว  โอหยางโชวก็แต่งตั้งกู่ซิวเหวินเป็นผู้ปกครองเมืองเป่ยไห่ในวันเดียวกันนั้น โอหยางโชวกำหนดให้อำนาจการบริหารของเขา เทียบเท่ากับเจ้ากรมของเมืองหลัก

ก่อนที่จะอัพเกรด ผู้ดูแลเมืองสาขาต่างจะไม่มีตำแหน่ง และอำนาจในการบริหารของพวกเขา ก็จะยังไม่ได้รับการยืนยัน

ใช้โอกาสนี้ โอหยางโชวจัดการรูปแบบของเมืองสาขาใหม่ เจ้ากรมและผู้ปกครองของเมืองขนาดกลางระดับ 1 ขึ้นไป จะอยู่ภายใต้ลอร์ดโดยตรง โดยลอร์ดจะไม่เข้าไปแทรกแซงเมืองสาขาของผู้ปกครอง และเขาจะต้องรายงานทุกอย่างให้กับกรมการบริหารในเมืองหลักทราบ

อำนาจการปกครองของเมืองสาจา มีระดับต่ำกว่าเมืองหลัก นั่นหมายความว่า เจ้ากรมทั้ง 4 ในเมืองสาขาจะมีอำนาจเทียบเท่าหัวหน้าฝ่ายในเมืองหลัก และหัวหน้าฝ่ายของพวกเขา ก็เทียบได้กับรองหัวหน้าฝ่ายของเมืองหลัก เงินเดือนของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับอำนาจการบริหารจัดการของพวกเขา ไม่ใช่ตำแหน่งของพวกเขา

ในเวลาเดียวกัน โอหยางโชวได้ขีดเส้นในโครงสร้างการบริหารของเขาอย่างชัดเจน เมืองสาขาจะไม่มีกรมกิจการทหาร และจะมีเพียงฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหารเท่านั้น ธนาคารของพวกเขาก็จะถูกควบคุมโดยสาขาหลักของธนาคาร 4 สมุทร กรมคลังวัสดุของพวกเขาก็จะไม่มีฝ่ายนาเกลือ และฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหารจะอยู่ภายใต้กรมคลังวัสดุของพวกเขา

หลังจากอัพเกรดเมืองเป่ยไห่แล้ว กองทัพเรือเป่ยไห่ก็ได้จัดตั้งกองพันทหารเรือที่ 3 โดยมีหลี่ไห่เป็นายพันอย่างเป็นทางการ ในเวลาเดียวกัน โอหยางโชวก็ส่งจดหมายให้เผ่ยตงหลาย ทำการคัดเลือกทหารสำหรับกองพันทหารเรือที่ 4 เมื่อพร้อมแล้ว ก็ให้แจ้งให้เขาทราบในทันที

เมื่อกองทัพเรือเป่ยไห่ขยายออกไปถึง 4 กองพัน และมีทหารถึง 2,000 นาย พวกเขาก็จะโจมตีเกาะพระจันทร์และกลุ่มโจรสลัดฉลามดำ เพื่อถอนรากฟันที่เป็นพิษนี้ออก

หลังจากเสร็จสิ้นการจัดการเรื่องเมืองเป่ยไห่ โอหยางโชวก็ออกจากสำนักงานของเขา และไปยังส่วนหลังของคฤหาสน์

ในเวลานั้น ปิงเอ๋อกำลังเล่นกับเขี้ยวดำอยู่

เขี้ยวดำในตอนนี้ได้โตเต็มที่แล้ว และมันก็แข็งแรงและน่ากลัว มันมีกล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแรง สูง 75 เซนติเมตร และหนัก 55 กิโลกรัม

ขนของมันสวยงาม และมีคุณภาพสูง เปล่งประกายระยิบระยับในอากาศ

ลูกหมาป่าดำฉลาดและว่องไว บางครั้ง มันก็พยายามที่จะหยอกล้อกับเจ้าของของมัน เขี้ยวดำที่น่าสงสารถูกทิ้งไว้โดยโอหยางโชว การมาถึงของปิงเอ๋อก็เหมือนกับทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ เธอชอบมันมาก และมักจะนำมันมาอยู่ข้างๆเธอ เพื่อที่จะได้เล่นกับมันได้ตลอด เธอยังให้อาหารมัน ด้วยอาหารดีๆหลากหลายประเภท

“พี่ชาย!” เมื่อปิงเอ๋อเห็นโอหยางโชว เธอก็อ้าแขนกว้างแล้ววิ่งไปหาเขา

โอหยางโชวอุ้มเธอขึ้นมา เขายิ้ม แล้วถามว่า “เด็กน้อย เบื่อหรือไม่?”

ปิงเอ๋อส่ายหัวและหัวเราะคิกคัก “ไม่ไม่ ปิงเอ๋อพบว่ามันสนุกมากกว่าที่โรงเรียนอีก”

โอหยางโชวคิดกับตัวเอง ‘เด็กน้อยนี่คงไม่เบื่อแน่นอน ในดินแดน เธอเป็นดั่งเจ้าหญิง และเธอก็เป็นที่ต้อนรับในทุกๆที่ กู่สานเหนียงมักจะเชิญเธอไปยังภัตตาคาร และทำขนมมากมายให้เธอ ฉิงเอ๋อก็ทำชุดให้เธอมากกว่า 10 ชุดแล้ว’

แม้แต่โรงไม้ก็ไม่เว้น ผู้จัดการของพวกเขาติดค้างโอหยางโชว เมื่อหลู่กวงจี้ได้ยินว่า เธออายุเพียง 8 ขวบ เขาก็ได้ทิ้งงานในมือ เพื่อทำของเล่นไม้ให้กับเธอ

เนื่องจากการประกาศการอพยพก่อนกำหนด 6 เดือน และเดือนนี้ก็เป็นวันหยุด ดังนั้น รัฐบาลสหพันธ์จึงตัดสินใจเพิ่มวันหยุด โดยโรงเรียนในเกมส์ จะเริ่มเปิดเรียน ในวันที่ 1 เดือนที่ 9

เมื่อปิงเอ๋อรู้ว่า เธอมีเวลาเล่นถึง 3 เดือนเต็ม เธอก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“เด็กน้อย เดี่ยวพี่ชายจะพาไปขี่ม้า โอเคมั้ย?” โอหยางโชวรู้สึกผิดเล็กน้อย สำหรับครึ่งเดือนที่ผ่านมา เพราะเขาได้ใช้เวลากับเธอน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอมีความเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“จริงหรือ?” ปิงเอ๋อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“แน่นอน”

“เย้ ไปขี่ม้ากัน!”

โอหยางโชววางเธอลง แล้วจูงมือเธอ เดินไปที่คอกม้า ในตอนนี้ คอกม้าได้ถูกย้ายไปที่อาคารหวู่หยิงแล้ว

เขาจึงเดินเข้าไปในกลุ่มทหารที่กำลังฝึกฝนอยู่ในลานของอาคาร พวกเขาเป็นสมาชิกของกองร้อยทหารองครักษ์ ทั้งหมด 100นาย

พวกเขาทั้งหมดหยุด และโค้งคำนับเขา

โอหยางโชวโบกมือโบกมือให้พวกเขาแล้วเดินต่อไป

เมื่อเห็นโอหยางโชว นายกองหวังเฟิงก็รีบวิ่งมาหาเขาทันที “นายท่าน!”

โอหยางโชวพยักหน้า “หวังเฟิง ข้าต้องการจะพาปิงเอ๋อออกไปข้างนอก ให้ใครบางคนนำม้าออกมา”

“ขอรับนายท่าน!”

โอหยางโชวหันไปรอบๆ และเดินไปที่ประตูคฤหาสน์ของลอร์ด

หลังจากนั้นไม่นาน คนเลี้ยงม้าก็จูงม้าฉิงฟู่ของโอหยางโชวออกมา พร้อมกับมีทหารองครักษ์ตามมาด้วย 4 นาย พวกเขาสวมชุดเกราะหมิงกวง และมีอุปกรณ์ครบครัน

โอหยางโชวรับบังเหียนมา และใช้สายตามองไปที่ทหารองครักษ์ทั้ง 4 เพื่อเป็นการถามพวกเขาว่า กำลังจะทำอะไร

ผู้นำของพวกเขาฉลาด เขาตอบในทันทีว่า “เรียนนายท่าน ท่านนายกองพวกให้พวกเราคอยติดตามนายท่าน และปกป้องท่านขอรับ”

โอหยางโชวพยักหน้า หวังเฟิงรอบคอบจริงๆ โอหยางโชวไม่ต้องการทำลายแผนของเขา และกล่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า “จะมาก็ได้ แต่จำไว้ว่า อย่าเข้ามาใกล้จนเกินไป”

“ขอรับนายท่าน!”

โอหยางโชวหันกลับมา แล้วอุ้มปิงเอ๋อขึ้นไปบนหลังม้า หลังจากนั้น เขาก็ขึ้นม้าและกอดเธอไว้ที่ด้านหน้าเขา เมื่อเขากำลังจะออกไป เขี้ยวดำก็วิ่งออกมา

“อ๊า ดำน้อย เจ้าต้องการที่จะตามพวกเรามาหรือ?” นั่นคือชื่อที่ปิงเอ๋อเรียกเขี้ยวดำ

เขี้ยวดำยอมรับชื่อโง่ดังกล่าว มันดูไม่มีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของหมาป่าดำเลย มันวิ่งมาทางปิงเอ๋อ แล้วเห่า 2 ครั้ง ที่ด้านหลังของมัน หางกำลังแกว่งไปมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

ปิงเอ๋อเข้าใจมัน เธอหันมามองโอหยางโชว แล้วกล่าวว่า “พี่ชาย ให้ดำน้อยมากับเราด้วยนะ!”

เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาจึงพยักหน้าตกลง

ปิงเอ๋อยิ้มอย่างมีความสุข แล้วตะโกนว่า “ดำน้อย ไปกันเถอะ!”

ในขณะที่อยู่ในเมือง โอหยางโชวก็ขี่ม้าอย่างช้าๆ เมื่อชาวเมืองเห็นลอร์ดของพวกเขา พาน้องสาวของเขาออกมา พวกเขาก็คำนับเขาตลอดทางที่เขาเดินผ่าน

โอหยางโชวพยักหน้าตอบรับพวกเขา และออกจากประตูเมืองด้านทิศตะวันตก เข้าไปในเขตทุรกันดาร

กำแพงเมืองชั้นที่ 2 กำลังถูกก่อสร้าง ไม่ไกลจากประตูเมืองด้านทิศตะวันตกมากนัก โอหยางโชวไม่ต้องการรบกวนพวกเขา และขี่ม้าลึกเข้าไปในเขตทุรกันดาร

ด้านหน้าของเขาเป็นที่ราบลุ่ม โอหยางโชวปล่อยให้ม้าของเขาวิ่งอย่างอิสระ เขี้ยวดำสามารถวิ่งได้ทันความเร็วของม้าฉิงฟู่ มันทำให้โอหยางโชวรู้สึกทึ่งมาก

ปิงเอ๋ออยู่บนหลังม้า และอยู่ในอ้อมกอดของเขา เมื่อเห็นทิวทัศน์รอบๆ เธอก็หัวเราะอย่างร่าเริง

หลังจากนั้นไม่นาน โอหยางโชวก็เงยหน้าขึ้น เห็นภูเขาเล็กๆ เขาจำได้ว่า ที่นั่นเป็นที่ตั้งของวัดฉิงหยาง

เนื่องจากเป็นเรื่องบังเอิญ โอหยางโชวจึงตัดสินใจไปเยี่ยมวัดและเก่อหยาน

หลังจากที่เขาและปิงเอ๋อลงจากหลังม้า เขาก็ส่งม้าให้ทหารองครักษ์ดูแล และเดินเข้าไปเคาะที่ประตูวัด

ไม่นานจากนั้น ประตูก็เปิดออก และเด็กชายอายุ 12-13 ปี ก็น้องคำนับโอหยางโชว แล้วถามว่า “ท่านเป็นใครหรือ? แล้วท่านมาที่วัดทำไม?”

ก่อนที่โอหยางโชวจะตอบ ทหารองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังก็ตะโกนว่า “โอหัง! นี่คือท่านลอร์ดนะ!”

โอหยางโชวหยุกเขา เขาไม่ต้องการจะตำหนิเด็ก เพราะเขาอาจจะไม่รู้เป็นเรื่องปกติ “นักบวชน้อย เก่อหยานอยู่ไหนหรือ?”

นักบวชน้อยกว่าว่าจะถูกตำหนิ แต่หลังจากเห็นว่าท่านลอร์ดไม่ได้ตำหนิเขา เขาก็ผ่อนคลาย แล้วกล่าวอย่างสุภาพว่า “ท่านอยู่ข้างใน โปรดตามข้ามา”

โอหยางโชวพยักหน้า เขาบอกให้ทหารองครักษ์รอด้านนอก แล้วจับมือปิงเอ๋อเดินตามนักบวชน้อยไป นี่เป็นครั้งแรกที่โอหยางโชวเดินเข้ามาในวัดฉิงหยาง มันมีพื้นที่สีเขียว และเต็มไปด้วยก้อนอิฐสีเขียว, ต้นไม้ และพืชพันธ์ต่างๆอยู่ทุกๆที่ ให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและสดชื่น โอหยางโชวพยักหน้า นี่เป็นสถานที่ที่ดี สำหรับการปลูกฝังคำสอนจากพระคัมภีร์

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด