ตอนที่แล้วMGE.164 – การเข้าสู่โลกใต้พิภพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMGE.166 – การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในเมืองของเหล่าดาร์คเอลฟ์

MGE.165 – บุกโจมตีป้อมปราการงูปีศาจ


165 – บุกโจมตีป้อมปราการงูปีศาจ

ดินแดนมากมายมีเหล่าเทพคอยคุ้มครอง เทพเหล่านั้นมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกของวอร์ล็อค เนื่องจากมาดินแดนมากมายถูกรุกรานโดยกองทัพโกเลมจักรกลของราชวงศ์วอร์ล็อคที่ 6

ถ้าหยางเฟยส่งกองทัพจักรกลไปยังดินแดนอื่นตั้งแต่แรก ผลลัพธ์คือเขาจะกลายเป็นศัตรูของดินแดนนั้นทันที ถ้าหากชนะก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่หากเขาแพ้ นั่นหมายความว่ากองทัพจักรกลทั้งหมดของเขาจะถูกทำลาย ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา หยางเฟยยังไม่สามารถไปท้าทายเหล่าเทพได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นศัตรูของทุกดินแดน

หยางเฟยได้ตระหนักถึงโครงสร้างความแข็งแกร่งของทวีปทูรันโด ดังนั้นหลังจากที่สร้างฐานบัญชาการเคลื่อนที่เสร็จ เขาสามารถเริ่มบุกโลกใต้พิภพได้อย่างจริงจัง

หลังจากที่กองทัพจักรกลได้เคลื่อนตัวเข้าสู่โลกใต้พิภพได้เดินทางมาไกลหลายสิบกิโลเมตร ป้อมปราการขนาดใหญ่และดูทรงพลัง มีกำแพงสูง 100 เมตรและมีหอคอยวอร์ล็อค  5 ชั้นอยู่ทั้งหมด 9 แห่ง ประจำการอยู่เหนือกำแพงเมืองด้านหน้าหยางเฟย

ใจกลางป้อมปราการงูปีศาจขนาดยักษ์ มีหอคอยพลังงานสูง 500 เมตรตั้งอยู่ รัศมีแสงถูกปลดปล่อยออกมาจากด้านบนหอคอยปกคลุมไปทั่วป้อมปราการงูปีศาจแห่งนี

ในความมืดอันไร้ที่สิ้นสุดของโ,กใต้พิภพ ป้อมปราการงูปีศาจเปรียบเสมือนไข่มุกที่มีแสงสุกสกาวเฉิดฉายแสงออกมา ยิ่งไปกว่านั้น แสงที่ปลดปล่อยออกมาจากป้อมปราการงูปีศาจมีระยะจำกัดที่ 500 เมตรจากด้านนอกของป้อมปราการงูปีศาจ พื้นที่นอกเหนือจากนั้นเต็มไปด้วยความมืดสนิท ในขณะเดียวกันแมลงพิษต่างๆในโลกใต้พิภพไม่ได้ถูกดึงดูดจากแสงไฟเหล่านี้

มีมนุษย์ทั่วไปจำนวนมากอาศัยอยู่ในป้อมปราการงูปีศาจ ต้องขอบคุณหอคอยพลังงานที่สามารถทำให้มนุษย์เหล่านั้นมีชีวิตอยู่ในป้อมปราการงูปีศาจได้โดยไม่ล้มป่วยและตายไปเสียก่อน

ด้วยความรู้มหาศาลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างๆและพลังอำนาจต่างๆทำให้วอร์ล็อคสามารถสร้างป้อมปราการงูปีศาจสำหรับเหล่ามนุษย์ในโลกใต้พิภพที่แสนอันตรายได้

“ศัตรูบุก!! ศัตรูบุก!!”

กองทัพจักรกลของหยางเฟยเพิ่มเดินทางมาถึงป้อมปราการงูปีศาจ ตามมาด้วยเสียงก้องกังวานต่างๆในป้อมปราการ

นักรบดาร์คเอลฟ์ที่แข็งแกร่งเริ่มประจำการที่ป้อมปราการงูปีศาจอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งถืออาวุธไว้ในมือด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

“ศัตรูบุก!! พวกมันมาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”

เบเวอร์ลีลอบตื่นตระหนก เธอรีบเปลี่ยนชุดเป็นชุดคลุมนักบวชหญิงและถือคทาไว้ในมือก่อนจะวิ่งไปยังกำแพงของป้อมปราการงูปีศาจ

ในบรรดาดาร์คเอลฟ์ ผู้นำทั้ง 13 เผ่าพันธุ์คือนักบวชหญิง ผู้นำสูงสุดคือนักบวชหญิงชั้นสูง โดยไม่คำนึงถึงมาก่อนว่าพวกเธอจะเคยเป็นพ่อมด วอร์ล็อคหรือดรูอิด เมื่อพวกเธอได้รับตำแหน่งผู้นำ พวกเธอจะกลายเป็นนักบวชหญิง มิเช่นนั้นจะไม่ได้รับการยอมรับจากเทพธิดาลอธ และไม่สามารถกลายเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์ได้

ในโลกใต้พิภพของทวีปทูรันโด  เผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่นับถือเทพเจ้าเป็นผู้ปกครองสูงสุด

ทันทีที่เบเวอร์ลีปีนขึ้นมาบนกำแพง เธอมองไปยังกองทัพจักรกลระดับ 8 ที่เดินมาอย่างหนาแน่น เธอรู้สึกหนาวเย็นในจิตใจ

“ทำไมโกเลมจักรกลถึงมีมากขนาดนี้?”

เบเวอร์ลีไม่ได้กลัวหุ่นยนต์รบระดับ 8 แม้ว่าพวกมันจะมี 100 ตัว เบเวอร์ลีมั่นใจว่าสามารถทำลายพวกมันได้ แต่ถ้าพวกมันมี 1,000 ตัว เบเวอร์ลียังมั่นใจว่าสามารถทำลายพวกมันลงได้และได้รับชัยชนะด้วยอาวุธป้องกันเมืองจากป้อมปราการงูปีศาจ

อย่างไรก็ตาม จำนวนของหุ่นยนต์รบระดับ 8 ที่อยู่ด้านนอกป้อมปราการนั้นมันมีจำนวนมากเกินไป เบเวอร์ลีแอบใจเสียเบาๆ

ท่ามกลางเสียงเคลื่อนพลของหุ่นยนต์รบมากมายมหาศาล มีเสียงร้องเรียกบอกให้พวกเขายอมแพ้ “ข้าคือหยางตี้ เป็นหนึ่งในผู้บัญชาการกองทัพจักรกลทั้ง 10 ของเมืองเหล็กไหล ภายในป้อมปราการงูปีศาจ พวกเราจะไว้ชีวิตหากพวกเจ้ายอมแพ้และเข้าร่วมกับเมืองเหล็กไหลได้ทันที แต่หากพวกเจ้าขัดขืน จะไม่มีใครรอดชีวิตไปได้”

“ไอ้เมืองเหล็กสนิมกิน พวกเราไม่ยอมแพ้หรอก! ลงนรกไปซ่ะ!!”

เบเวอร์ลีคำรามออกมาอย่างฉุนเฉียว ร่างกายเธอหายไปและขึ้นไปชั้นบนสุดของกำแพงเมือง เธอง้างสมบัติลับระดับ 3 คันธนูแยกดวงดาวและเล็งไปที่หยางเฟย เธอเร่งพลังวิญญาณและปลดปล่อยลูกศรทันที

ลำแสงสีเขียวเข้มราวกับดาวตกพุ่งตรงมาหาหยางเฟย ท่ามกลางกองทัพหุ่นยนต์ที่คอยคุ้มกันอยู่

พลโล่ระดับ 8 ด้านหน้าหยางเฟยยกโล่ในมือของพวกมันออกมาปละปลดปล่อยบาเรียป้องกันขึ้นด้านหน้าหยางเฟย

เมื่อลูกธนูสีเขียวเข้มปะทะเข้ากับบาเรียป้องกันของพลดาบระดับ 8 มันสามารถทะลุทะลวงบาเรียเข้าไปและปะทะเข้ากับโล่อัลลอยด์ มันฉีกกระชากพลโล่ออกเป็นชิ้นๆ มันส่งให้หุ่นยนต์ลอยกระเด็นออกไปและร่วงลงสู่พื้น

ฉากตรงหน้าเรียกเสียงเชียร์จากกำแพงเมืองได้มหาศาล เสียงสรรเสริญของเหล่าดาร์คเอลฟ์ดังกระหึ่มขึ้นมา

สีหน้าของเบเวอร์ลีซีดลง ดวงตาที่งดงามของเธอจ้องไปด้วยความหวาดกลัว ลูกธนูของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของเธอ ตั้งใจจะทะลวงผ่านพลโล่ 10 นายและสังหารหยางเฟย แต่ลูกธนูของเธอกลับทะลวงผ่านพลโล่ระดับ 8 ได้เพียงตัวเดียว พลังป้องกันที่แข็งแกร่งของพลโล่ได้เกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้มาก

หยางเฟยหัวเราะเยาะออกมา “โง่!”

ร่างของพลโล่ระดับ 8 ที่ถูกเบเวอร์ลียิงเริ่มกระตุกและยืนขึ้นอีกครั้งพร้อมกับลูกธนูที่ยังติดอยู่บนร่าง ตราบเท่าที่ไมโครชิพควบคุม,เตาปฏิกรณ์พลังงานและส่วนประกอบหลักอื่นๆไม่ได้ถูกโจมตี แม้แต่จะถูกโจมตที่หัว มันก็ยังไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อพลโล่

หลังจากที่มองเห็นการยืนขึ้น ดวงตาของเหล่าดาร์คเอลฟ์บนกำแพงเมืองของป้อมปราการงูปีศาจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง กำลังใจของพวกเขาหดหายไปทันที

เบเวอร์ลีไม่ได้เป็นเพียงผู้บัญชาการป้อมปราการงูปีศาจเท่านั้น แต่ยังมีพลังอำนาจแข็งแกร่งที่สุดในป้อมปราการงูปีสาจอีกด้วย ความแข็งแกร่งของเธอเทียบเท่ากับวอร์ล็อคมนุษย์ระดับ 3 การโจมตีเต็มกำลังจากผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงไม่สามารถจัดการโกเลมจักรกลได้แม้แต่ตัวเดียว ยิ่งไปกว่านั้น โกเลมจักรกลด้านล่างยังมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นตัว ช่องว่างเหล่านี้ทำให้กองทัพของเธอสิ้นหวังเอาง่ายๆ

หยางเฟยโบกมืออีกครั้งและพูดเสียงเรียบ “บุก!”

ดวงตาสีแดงของพลดาบร่างสัตว์จำนวนมากเปล่งแสงออกมา แผ่นดินสั่นสะเทือนขึ้นจากการวิ่งของพลดาบในร่างสัตว์ทั้ง 30,000 นาย

“ยิงธนู! ยิงธนู!!”

เหนือกำแพงเมืองของป้อมปราการ ห่าฝนธนูนับไม่ถ้วนถูกยิงลงมาใส่ร่างของพลดาบ ลูกธนูเหล่านั้นแฉลบออกไปจากการปะทะกับบาเรียป้องกัน

เหล่าดาร์คเอลฟ์ที่เชี่ยวชาญธนูซึ่งเป็นที่อิจฉาและเป็นที่หวาดกลัวของเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในตอนนี้กลับไร้ประโยชน์ เมื่อพบกับบาเรียป้องกันของพลดาบ พวกมันถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีของหยางเฟย

หลังจากที่เห็นสถานการณ์ตรงหน้า ใบหน้าที่งดงามของเหล่าดาร์คเอลฟ์เปลี่ยนไป ดวงตาที่งดงามของพวกเขาเริ่มหวาดกลัว

เบเวอร์ลีตะโกนออกมา “เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้า ใช้เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้า!!”

เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้าที่ทำจากต้นไม้แห่งแสงถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่งดงามนับไม่ถ้วนฝังด้วยหินเวทมนตร์ระดับสูง 36 ก้อนถูกขยับขึ้นมาไว้เหนือกำแพงเมือง

เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้า เป็นหนึ่งในอาวุธสงครามที่ทรงมากที่สุดของเหล่าดาร์คเอลฟ์ เมื่อมันถูกใช้งาน พวกมันสามารถสร้างบาดแผลสาหัสหรือสามารถสังหารได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับวอร์ล็อคชั้นสูง แต่เนื่องจากการผลิตมันยุ่งยากมากเกินไป ป้อมปราการงูปีศาจจึงมีเพียง 20 เครื่อง

จอมเวทย์ดาร์คเอลฟ์ 20 คนยืนอยู่ด้านหลังเครื่องยิงใบมีดบาริสต้า พวกเขาเริ่มร่ายเวทย์และชี้ไปที่เครื่องยิงบาริสต้า เกิดลำแสงพุ่งไปยังเครื่องยิงใบมีดบาริสต้า

หินเวทมนตร์ระดับสูงทั้ง 36 ก้อนที่ฝังอยู่บนเครื่องยิงใบมีดบาริสต้าเริ่มปลดปล่อยพลังของพวกมันออกมา เปิดประกายแสงสว่างวาบออกมาจากเครื่องยิงบาริสต้าทั้ง 20 เครื่องและตัดร่างของพลดาบร่างสัตว์ที่กำลังวิ่งเข้ามา

ใบมีดเงาทั้ง 20 ชิ้นได้พุ่งตัดผ่านบาเรียป้องกันและตัดผ่านครึ่งร่างของพลดาบในทันที ใบมีดแต่ละอันสามารถตัดผ่านร่างพลดาบได้อย่างน้อย 10 นาย

พลกาบในร่างสัตว์กว่า 200 นายถูกผ่าครึ่งร่างในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่แลกด้วยหินเวทมนตร์ระดับสูง 720 ก้อนเป็นการตอบแทน

เมื่อหยางเฟยเห็นภาพตรงหน้า ดวงตาของเบาเบิกกว้างและเผยรอยยิ้มออกมา “มีอาวุธสงครามที่แข็งแกร่งจริงๆ ข้าต้องการพวกมัน!”

อาวุธสงครามอย่าง เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้า ด้วยพลังทำล้างสูงของพวกมัน หยางเฟยยิ่งสนใจพวกมันมากขึ้นไปอีก ในดินแดนอื่นๆ หุ่นยนต์เหล่านี้จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับเทพ ขณะที่อาวุธสงครามอย่าง เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้านั้นสามารถดึงดูดความสนใจของผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นได้

หลังจากที่เห็นของที่เขาต้องการ หยางเฟยหยุดสั่งการพลปืนใหญ่ได้ยิงถล่มศัตรู แต่กลับให้พลดาบให้บุกไปอย่างบ้าคลั่งตรงไปยังเครื่องยิงใบมีดบาลิสต้าทันที

เครื่องยิงใบมีดบาลิสต้าเพิ่งยิงไปได้เพียง 2 ครั้งและผ่าร่างของพลดาบไปมากกว่า 500 นาย และพลดาบที่เหลือเข้าประชิดกำแพงของป้อมปราการงูปีศาจได้

ในขณะนั้น เบเวอร์ลีโบกมือที่งดงามของเธอ และโปรยผงเวทมนตร์ปลุกพลังไปตามลม ก่อนที่จะโรยลงบนเถาวัลย์โลหิตทมิฬที่เกาะอยู่บนกำแพง

เถาวัลย์โลหิตทมิฬเป็นพืชที่ทรงพลังของตระกูลของเบเวอร์ลี ตระกูลคาร์ทแมน ใช้เวลา 500 ปีในการเลี้ยงดู เมื่อถูกโรยด้วยผงเวทมนตร์ปลุกพลัง พวกมันวิวัฒนาการกลายเป็นต้นไม้อสูรแห่งความมืด

ทันใดนั้น เถาวัลย์โลหิตทมิฬที่ยังไม่วิวัฒนาการเริ่มตวัดเถาวัลย์โจมตีไปยังเหล่าพลดาบที่กำลังปีนขึ้นมา

พลดาบหลายร้อยนายถูกจัดการด้วยต้นไม้อสูรแห่งความมืดที่กลายร่างมาจาเถาวัลย์โลหิตทมิฬ ด้วยพลังอำนาจของมัน บาเรียป้องกันของพลดาบมากมายถูกทำลาย ร่างจักรกลของพวกมันบิดเบี้ยวและชิ้นส่วนกระจัดกระจาย

เบเวอร์ลีถอนหายใจเล็กน้อย ต้นไม้อสูรแห่งความมืดเป็นหนึ่งในอาวุธสงครามที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูล เมื่อปลดปล่อยพวกมันออกมา แม้แต่กองทัพที่ทรงพลังยังยากที่เอาชนะป้อมปราการแห่งนี้ได้

หลังจากที่เห็นภาพตรงหน้า เหล่าดาร์คเอลฟ์ที่อยู่เหนือกำแพงเมืองต่างยิ้มและถอนหายใจ

“จัดการมันซ่ะ!” หยางเฟยมองไปยังต้นไม้อสูรแห่งความมืดที่ทำให้เกิดความหายนะมากมายในกองทัพของเขาและพูดอย่างเย็นชา

******************************************************************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด