ตอนที่แล้วตอนที่ 10 : ไล่ล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12: หลบหนีอย่างน่าสังเวช

ตอนที่ 11 : เมืองหลิงเสี่ยวเชิ่น


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

ตอนที่ 11 : เมืองหลิงเสี่ยวเชิ่น

“ไร้สาระสิ้นดี!” เจ้าอ้วนตอกกลับอย่างเกรี้ยวกราด เขามิได้โง่เขลาที่จะคิดเรื่องแค่นี้ไม่ได้ “ลิงน้อย เจ้าฟังข้านะ ไม่มีทางที่พวกนั้นจะยอมปล่อยเราไปเพียงเพราะเรายอมแพ้ และเจ้าจงจำไว้ว่าการออกไปข้างนอกนั้นหมายถึงว่าเจ้าออกไปรนหาที่ตายชัด ๆ เจ้าคงมิได้ลืมหรอกนะว่าข้าผู้นี้ได้ทำให้กานซิงน้อยนั้นไม่สามารถใช้งานได้อีกตลอดชีวิต หากเขาต้องการให้มันกลับมาเหมือนเดิมคงต้องพึ่งพายาทั้งหมดที่สวรรค์นั้นมีเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าอะไรรู้ไหม ? หมายความว่าเจ้ากานซิงนั้นจักต้องใช้ชีวิตด้วยการเป็นขันทีไปจนวันตาย!”

“โอ้สวรรค์ พี่น้องอ้วน เหตุใดท่านจึงกระทำการป่าเถื่อนได้ถึงเพียงนี้” เจ้าลิงอุทานออกมาอย่างตื่นตระหนก

“เจ้าหยุดกล่าววาจาไร้สาระเช่นนั้น ถ้าหากวันนั้นหากมิทำตัวเลือดเย็น พวกมันเหล่านั้นก็จักทำให้เจ้ากลายเป็นง่อย!” เจ้าอ้วนยังคงพูดออกมาโดยไม่หยุดความเกรี้ยวกราดลง “ข้าควรจะฆ่ามันให้ตายตกไปเสีย ! ถ้าหากไร้กฎบ้า ๆ พวกนั้นที่จะตามมาสร้างปัญหาให้กับข้าแล้วละก็ข้าคงไม่หยุดมือเพียงเท่านั้นเป็นแน่ !”

“พี่น้องอ้วน หากข้าคนนี้กลายเป็นง่อยไป ข้าก็เพียงแค่เป็นง่อย แต่ในเวลานี้ข้ากลับดึงท่านเข้ามาในปัญหาของข้าเสียแล้ว ท่านจะให้ข้าทนอยู่เฉยได้อย่างไรเล่า?” เจ้าลิงฟูมฟายเริ่มมีน้ำตาราวเด็กน้อย

“หยุดล้อเล่นกับข้าเสียที นี่เจ้าคิดว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นคือแบบไหนกันรึ? ถ้าหากข้ามิได้เจ้าคอยช่วยเหลือตอนที่ยังอยู่ในโรงครัวนั่น ข้าก็คงอดอยากปากแห้งตายตกไปนานแล้ว เมื่อใดที่เจ้าได้รับอาหารมา เจ้ากินมันไปเพียงน้อยนิดเพื่อเก็บส่วนที่เหลือไว้ให้ข้า!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “และในเวลานี้ข้าก็ได้เป็นศิษย์นอกแล้ว หากเพื่อนที่แสนดีของข้าต้องกลายเป็นง่อยไปโดยที่ข้านั้นไม่ไปเหลียวแล เจ้าคิดว่าข้ายังควรเรียกตนว่ามนุษย์อยู่ไหม ?”

“พี่น้องอ้วน…” เจ้าลิงกำลังปาดน้ำตาบนใบหน้าของเขา

“ข้าว่าในตอนนี้เราควรหยุดปากเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียที!” เจ้าอ้วนโบกมืออย่างไม่แยแสพร้อมกล่าวต่อ “กระดูกของเจ้านั้นแตกหักอย่างรุนแรง ซึ่งมันมิใช่เรื่องที่ดีนัก แต่ด้วยประสิทธิภาพของยาจิตวิญญาณนั้นจะช่วยบรรเทาให้เจ้าไม่กลายเป็นง่อย!”

“ยาจิตวิญญาณอย่างนั้นรึ” หลังจากได้ฟังดังนั้น เจ้าลิงเปรยยิ้มออกมาพร้อมพูดด้วยความขมขื่น “มันคือยาที่ผ่านการปรับแต่งของผู้มีพลังสินะ แล้วมันต้องใช้สักกี่หินจิตวิญญาณสักกี่ก้อนจึงจะเพียงพอเล่า? เราร่ำรวยกันถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ? คล้ายว่าข้าควรจะตัดมือของข้านั้นออกไปเสียดีกว่า!”

“เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ข้าคิดว่าข้ามีทางออก!” เจ้าอ้วนกล่าวเสริมให้กำลังใจเจ้าลิง “ในวันรุ่งขึ้น ข้าจะออกไปหายามาให้เจ้า และข้าจะรีบกลับมาในเร็ววัน เจ้าจะต้องรอข้าอยู่ที่นี่ห้ามออกไปด้านนอกเด็ดขาด เพราะถ้าหากเจ้าถูกจับตัวได้แล้วล่ะก็เราทั้งสองคนถึงคราต้องชะตาขาดอย่างแน่นอน”

“พี่น้องอ้วน ท่านไม่สามารถที่จะออกไปด้านนอกนั้นได้ หวางซุงและเหล่าลูกน้องของเขากำลังมองหาท่านอยู่ในทุกหนทุกแห่ง!” เจ้าลิงกล่าวออกมาอย่างวิตกกังวล “ปล่อยให้มือของข้ามันเป็นเช่นนี้เถิด ท่านมิต้องวุ่นวายมาจัดการให้ข้าหรอก!”

“ฮึ เจ้าหวางซุงนั่นมันจะมีปัญหาอะไร ถ้าหากบิดาของมันจะออกไปพบเจอ! ข้ามีเรื่องที่จะต้องสั่งสอนมันอยู่เช่นกัน!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง

“เอ่อ พี่น้องอ้วน... ท่าน” เจ้าลิงกำลังรู้สึกแปลกใจในท่าทีของเจ้าอ้วน

“เชื่อใจข้าเถอะ เจ้ามิต้องมากังวลใด ๆ กับเรื่องนี้อีกแล้ว!” หลังจากเจ้าอ้วนพูดจบ เขาก็หยิบอาหารจำนวนมากออกมาจากมิติเก็บของ และเริ่มปรุงอาหาร

ผ่านมาชั่วครู่หนึ่ง เจ้าอ้วนได้เตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าลิงน้อยนั่นมิได้มีความอยากอาหารอยู่เลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะเขาเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บสาหัส เขาจึงกินอาหารเข้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่ผ่านมาสิบวันนี้เจ้าอ้วนใส่ใจดูแลเขาดีอย่างแท้จริง เจ้าอ้วนกำลังมองไปที่เจ้าลิงน้อยอย่างใส่ใจ จนเจ้าลิงรู้สึกแปลก ๆ เลยกล่าวออกมา “พี่น้องอ้วน ท่านเคยบอกข้าว่าผู้ที่ฝึกตนนั้น สามารถกินได้น้อยกว่าแต่คงอยู่ได้นานกว่าใช่หรือไม่ ? หลังจากที่ท่านฝึกฝนเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง ?”

“ข้าก็ไม่รู้ แต่หากข้ารู้สึกหิวเมื่อใด ข้าก็จะกินมากขึ้น!” เจ้าอ้วนไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกไป เขาจึงพูดไปสุ่ม ๆ แบบนั้น พร้อมกล่าวต่อ “เอาล่ะ เจ้าควรเข้าสู่สมาธิได้แล้ว พรุ่งนี้ข้าจะออกจากที่นี่ตอนใกล้รุ่งสาง”

“อือ” เจ้าลิงหยุดการสนทนานั้นไว้พร้อมหลับตาเข้าสู่สมาธิไปพร้อมกับเจ้าอ้วน

วันถัดมา เจ้าอ้วนตื่นเข้ามาแต่เช้าตรู่พร้อมกับทำอาหารเช้าไว้สำหรับเจ้าลิง จากนั้นเขาก็ทิ้งอาหารไว้อีกนิดหน่อย และบินออกไปพร้อมกับดาบคู่ใจพัง ๆ ของเขา

หลังจากที่เจ้าอ้วนได้ออกมาจากหุบเหวโกวเทียน เขาก็ตรวจพบความผิดปกติทันที ถึงแม้ท้องฟ้าตอนนี้จะยังคงทาด้วยสีดำแต่ทว่ากลับมีดวงไฟส่องสว่างอยู่มากมายในภูเขา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าดวงไฟเหล่านั้นกำลังทำหน้าที่ค้นหาใครบางคนอยู่

เจ้าอ้วนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เขาหยุดดาบบินทันทีพร้อมร่อนลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว เพราะดาบบินนั้นจะทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจขนาดใหญ่ ถึงแม้มันจะมีความเร็วเพียงใดก็คงไม่เหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้ มันจะทำให้เขาถูกพบเจออย่างรวดเร็วเสียมากกว่า แต่ตรงกันข้ามนั้นเขาควรจะวิ่งไปในพื้นราบ แต่มันจะมีปัญหาเกี่ยวกับความเร็วอีก ทว่าในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

ถือว่าโชคยังเข้าข้างเจ้าอ้วน ซึ่งในตอนนี้เวลาคือใกล้รุ่งสาง ท้องฟ้ายังทาด้วยสีดำอยู่ ดังนั้นเจ้าอ้วนค่อย ๆ เดินเข้าไปในป่าที่อยู่ด้านหน้าซึ่งมันจะทำให้เขาไม่ถูกค้นพบอย่างง่ายดายเกินไปนัก ภูเขานั้นมีขนาดใหญ่โตนั่นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายลง ซึ่งหมายความว่าเขาจะไม่ถูกจับได้ในตอนนี้แน่นอน

จุดหมายปลายทางของเจ้าอ้วนในตอนนี้คือใจกลางของสำนักเสวียนเทียน สถานที่ใกล้ ๆ นั้นมีชื่อว่า หอคอยลอยฟ้า ถ้าหากไปถึงที่แห่งนั้นมันสามารถที่จะส่งเราออกนอกพื้นที่ได้ คอหอยลอยฟ้านั้นมิได้มีรูปร่างเป็นตึก มันเป็นเพียงชิ้นส่วนของสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างจะซับซ้อน เจ้าอ้วนเคยไปเล่นอยู่ตรงนั้นอยู่บ่อย ๆ ครั้ง เมื่อตอนยังเยาว์วัย แต่หลังจากครอบครัวของเขาได้จากไป เขาก็ไม่ได้ไปในที่แห่งนั้นอีกเลย

อย่างไรก็ตามความทรงจำในวัยเด็กของเขายังไม่ได้ถูกกาลเวลาลบเลือนไป เขายังคงมีความคุ้นเคยเส้นทางที่จะไปยังสถานที่นั้นอยู่ มีถนนอยู่หลายสายที่จะไปยังที่แห่งนั้นได้ เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะเลือกใช้ถนนเส้นหลัก ถนนที่เขาจะสามารถซ่อนตัวได้มากที่สุดก็คงจะเป็นถนนเส้นที่ติดกับภูเขาเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ความจริงในตอนนี้คือเส้นทางที่เขาเลือกไปนั้นถูกปิด เจ้าอ้วนมองไปรอบ ๆ ก็ยังคงเห็นไฟหลายดวงที่ยังคงทำหน้าที่ออกตามหาเขาอยู่ และในตอนนี้เขาได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนเรียกชื่อเขา “ซ่งจง ออกมาเดี๋ยวนี้ ข้าเห็นเจ้าอยู่ตรงนั้น!”

“เจ้าอ้วน ! พี่หวางซุงลั่นวาจาไว้ว่าหากเจ้าออกมายอมรับผิด เรื่องราวทุกอย่างจะจบลงแน่นอน ! แต่ถ้าเจ้ายังดึงดันที่จะหลบหนี พี่หวางซุงก็คงมีแต่ความเกรี้ยวกราดเท่านั้นที่จะเอาไว้ใช้ดูแลเจ้า ! น้องชาย ข้าทนไม่ไหวที่จะต้องทนเห็นเจ้าพบกับปัญหา นี่คือเหตุผลที่ข้ามาบอกให้เจ้ารับรู้ ถ้าหากเจ้าได้ยินแล้วจงรีบออกมาโดยพลัน!”

หลังจากได้ยินดังนั้น เจ้าอ้วนพยายามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต ‘เหตุใดพวกเขาถึงกล้าใช้คำพูดเช่นนี้ มันดูราวกับพวกเขากำลังร้องเรียกเด็กน้อยอย่างไรอย่างนั้น ? ช่างน่าขันยิ่งนัก นี่พวกเจ้าคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ผู้ที่ทำให้เจ้ากานซิงนั่นสูญเสียทุกอย่าง แบกรับความอัปยศอดสูไว้ตลอดชั่วชีวิตนั้นเป็นเพียงแค่เด็กอย่างนั้นหรือ ?’

หลังจากที่หลีกเลี่ยงการปะทะในเมื่อครู่แล้ว เจ้าอ้วนก็ดำเนินการตามแผนของเขาต่อไป แม้ว่าเขาจะพยายามไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะไปถึงหอคอยลอยฟ้าก่อนที่ฟ้าจะสว่าง ระยะทางนั้นอยู่ห่างไกลเกินไป ในตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะบินได้ มีเพียงต้องพึ่งขาทั้งสองของเขาเท่านั้น พร้อมกับต้องคอยหลบซ่อนผู้คนที่กำลังตามหาเขาอยู่ด้วย

จากการคาดคะเนแล้ว หากเขาได้บินมาด้วยดาบของเขา เขาสามารถมาถึงที่หอคอยลอยฟ้าก่อนที่มันจะเปิดทำการด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นยังพอรับได้

แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เจ้าอ้วนได้ถูกใครบางคนมองเห็นแล้ว ในตอนนี้เขาไม่มีเวลาเหลือให้คิดอะไรอีกแล้ว เพราะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้านั่นหมายความว่าเขาจะถูกตามล่าอย่างแน่นอน แต่หอคอยลอยฟ้านั้นก็อยู่ห่างไปอีกหลายสิบลี้

คนที่ค้นพบเจ้าอ้วนนั้นคือคนรับใช้ที่สมัยก่อนเคยเป็นเพื่อนเขา เจ้านี่รูปร่างผอมบาง แต่เขาไม่แน่ใจเพราะว่าเขามองมาจากลานกว้าง ซึ่งมีระยะทางที่ไกลพอสมควร เขามองเห็นบางสิ่งรูปร่างอวบอ้วนกำลังผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ที่ภูเขา สิ่งนั้นมันคล้ายกับเสือดาว ถ้าหากว่าเขามิได้เห็นมันแต่เพียงผู้เดียว เขาก็มิอาจเชื่อได้ว่านั่นคือเจ้าอ้วนจริง ๆ เพราะการเคลื่อนไหวของมันนั้นคล่องแคล่วและว่องไวอย่างมาก

ซึ่งแน่นอนกว่าเขาไม่ได้สนใจว่าเจ้าอ้วนจะมีทักษะหรือความสามารถอะไรเพิ่มเติม สิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือหวางซุงกำลังต้องการตัวเจ้าอ้วนอย่างมาก และเขาก็เป็นคนค้นพบเส้นทางที่เจ้าอ้วนเลือกใช้ เมื่อนึกได้เขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “เจ้าอ้วน นั่นมันเจ้าอ้วน ข้าพบเขาแล้ว ข้าพบเจ้าอ้วนแล้ว!” ขณะที่เขาตะโกนออกไป เขาก็วิ่งไปยังเส้นทางที่เจ้าอ้วนใช้อยู่ เพื่อปิดกั้นมิให้เขาผ่านไปได้

เสียงร้องตะโกนเหล่านั้นมิได้ทำให้เจ้าอ้วนสนใจ พวกเขาอยู่ห่างไกลไปหลายลี้ต่างก็พากันตื่นตระหนกเมื่อมีคนพบเจ้าอ้วนแล้ว ไม่อาจทราบได้ว่าเสียงของพวกเขานั้นมาจากใครบ้าง แต่แน่นอนว่ายกกันมาเป็นโขยงแน่นอน พวกเขาช่วยกันมองดูจากไกล ๆ เมื่อพบว่าเป็นเจ้าอ้วนอย่างแน่นอน พวกเขาก็แสดงอาการดีใจกันอย่างถึงที่สุด พวกเขาเหล่านั้นพากันวิ่งข้ามรั้วที่ปิดกั้นทางไว้ โชคดีของเจ้าอ้วนที่เหล่าชายหนุ่มพวกนี้เป็นเพียงเหล่าคนรับใช้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับเซียนเทียน และพวกเขาไม่สามารถบินได้ ทำได้เพียงแค่วิ่งด้วยขาสองข้างเท่านั้น มิอย่างนั้นแล้วเจ้าอ้วนก็คงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างมาก

เมื่อมองคนที่กำลังวิ่งเข้ามาขวางกั้นเขาอย่างร่าเริง เจ้าอ้วนรู้สึกโกรธจัด โกรธถึงขั้นที่มีไอน้ำจาง ๆ พุ่งออกมาจากศรีษะของเขา เขารู้สึกขี้เกียจเป็นอย่างมากที่ต้องมาพูดคุยเรื่องไร้สาระ จึงคิดที่จะวิ่งตัดผ่านมันไป เด็กยากจนจำนวนมากพร้อมกันกรูเข้ามาเพื่อหยุดเขา เงินจากหวางซุงทำให้พวกเขาลืมเลือนว่าเขาและเจ้าอ้วนมีช่องว่างระหว่างกันมากเกินไป จนลืมคิดว่าลูกเตะที่พวกเขาพยายามจะประเคนให้เจ้าอ้วนนั้น มันกำลังย้อนกลับมาหาพวกเขาเอง

ลูกเตะของเจ้าอ้วนนี้เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดไม่พอใจ แต่นอกจากนั้นแล้วการควบคุมของเขานับว่าดีเยี่ยม เขาผสมผสานการเตะไปวิ่งไปได้อย่างลงตัว ความแข็งแรงของเขาทำให้เขาสามารถวิ่งได้เร็วจนเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้

แต่ในตอนนี้เจ้าอ้วนอยู่ในอารมณ์ที่ครุกรุ่นจึงไม่ทันได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในความคิดของเขาตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวนั่นคือการวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดออกไปจากตรงนี้ หลังจากที่เขาเตะผู้คนที่พยายามเข้ามาปิดกั้นเส้นทางของเขาออกไปแล้ว เขาก็วิ่งอย่างสุดกำลังเพื่อไปให้ถึงหอคอยลอยฟ้า

แต่ก็ยังคงมีเหล่าคนรับใช้ชายหนุ่มที่ยังคงวิ่งตามมามิได้หยุดหย่อน ลูกเตะของเจ้าอ้วนนั้นรุนแรงและอันตรายอย่างมาก พวกเขาส่งเสียงตะโกนพร้อมกับวิ่งเข้ามาใกล้ ๆ เพียงเท่านั้น มีอีกหลายคนที่ยังคงไม่ถอดใจยอมแพ้ พวกเขากรูกันเข้ามา หวังเพียงว่าจำนวนที่มากกว่าจะขัดขวางเจ้าอ้วนไว้ได้

พวกเขาทั้งหลายต่างก็รู้ดีกว่าเจ้าอ้วนนั้นเข้าสู่ระดับเซียนเทียนแล้วแต่คงยังไม่ได้ศึกษาไสยเวทหรือศิลปะการต่อสู้ใด ๆ มากนัก ดังนั้นประสิทธิภาพในการสู้รบคงมีข้อจำกัดมากกว่าพวกเขา หากเจ้าอ้วนเชี่ยวชาญ กระทั่งว่าเป็นการโจมตีทางไสยเวทระดับต่ำ เจ้าพวกตัวบัดซบเหล่านี้คงไม่กล้ากระทั่งเข้ามาหาที่ตายเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะต่ำต้อยกว่าเจ้าอ้วน แต่การที่มีคนเจ็ดถึงแปดคนมาล้อมรอบถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความยากลำบากให้กับเจ้าอ้วนอย่างมาก คำถามในตอนนี้ก็คือเขาจะเอาชนะได้หรือไม่ และถึงแม้ว่าเขาจะทำได้แต่นั่นหมายความว่าเขาต้องเสียเวลาไปมากพอสมควร และเมื่อถึงตอนนั้นหากมีผู้เชี่ยวชาญที่ระดับมากกว่าเซียนเทียนมาถึงด้วยดาบบินแล้วล่ะก็ถึงคราวที่เจ้าอ้วนนั้นจบแห่อย่างแน่นอน

เมื่อคิดในเรื่องนี้แล้ว เจ้าอ้วนก็รู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เขาดึงดาบบินออกมาตรง ๆ และและกำลังคิดว่าจะสับใครเป็นคนแรกดี! แต่พอท้ายที่สุดแล้วเมื่อพวกเขาทั้งหลายเห็นสิ่งที่ดูคล้ายจะเป็นอันตรายอยู่ในมือของเจ้าอ้วน ต่างก็แตกตื่น วงแตกวิ่งกระจายไปคนละทิศคนละทาง

เจ้าอ้วนยืนตาค้างอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะตบหน้าผากตัวเองอย่างเจ็บใจพร้อมบ่นออกมาว่า “ทำไมเจ้าคนโง่พวกนั้นมันถึงทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าโง่ถึงเพียงนี้ ถ้าหากข้าบินหนีไปแต่แรกก็จบเรื่องจบราวแล้ว! บัดซบจริง ๆ!”

หลังจากพูดจบ เจ้าอ้วนก็รีบขึ้นบินทันทีและบินสูงเหนือศรีษะของเหล่าคนรับใช้พวกนั้น คนรับใช้ทั้งหมดอยู่ในอาการตกตะลึง คนที่พวกเขาไล่ล่ามาตลอดนั้นสามารถบินได้อย่างนั้นหรือ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะเจ้าอ้วนบนพื้นดินได้ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะคนที่ลอยตัวอยู่บนอากาศที่ไม่มีทางจับต้องตัวได้

แม้ว่าเจ้าอ้วนนั้นจะมีรูปร่างที่เทอะทะและท่าทางการบินของเขาก็ละม้ายคล้ายกับเป็ด แต่เขาก็สามารถบินได้สูงถึงหนึ่งร้อยฟุต เมื่อในตอนนี้เขาอยู่บนอากาศแล้ว เขาไม่ต้องทนรำคาญพวกเหล่าคนใช้อีกต่อไป เขาคิดเพียงว่าวันนี้เขาควรวิ่งหนีเพื่อให้มีชีวิตรอดไปก่อน ในขณะที่เขากำลังผ่อนคลายอยู่นั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนไล่หลังเขามา “จงหยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าอ้วนที่อยู่ตรงนั้น หากเขาไม่เชื่อฟังข้า ก็ต้องขออภัยด้วยหากข้าทำการใดไม่สุภาพกับเจ้า!”

เจ้าอ้วนเหลียวกลับไปมองนั่นทำให้เขาตกใจทันที ขณะนั้นเองแม่นางที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนกำลังใช้ดาบบินมุ่งหน้ามาหาเขาอยู่ แม้ว่าหญิงสาวคนนั้นจะมีความงดงามแต่เขาก็จำเรื่องราวเกี่ยวกับนางได้ดี ในสายตาของเจ้าอ้วนแล้วนั้นหญิงสาวคนนี้เปรียบเสมือนกับงูพิษ เจ้าอ้วนไม่เพียงแต่จะรู้จักนางเท่านั้น แต่เขาเคยได้ลิ้มรสฝ่ามือของนางมาก่อน!

แม่นางคนนี้มีชื่อว่า หาน หลิงเฟิง การบ่มเพาะพลังของนางเป็นแบบธาตุคู่ คือไฟกับน้ำแข็ง เมื่อเจ็ดถึงแปดปีก่อนนางได้เข้าสู่ระดับเซียนเทียน นางมักจะชอบเล่นสนุกกับเหล่าผู้คนตามปกติ เมื่อใดก็ตามที่เจ้าอ้วนได้พบนางในเวลาที่เขาเอาขยะไปทิ้ง เขาก็จะโดนนางเล่นด้วยอย่างหนักหน่วง ถ้าหากว่านางอารมณ์ดี นางจะใช้เพียงลูกบอลน้ำเพื่อทำให้เจ้าอ้วนเปียกปอนเท่านั้น แต่ถ้าหากนางรู้สึกเบื่อหน่าย นางจะใช้ลูกบอลไฟเพื่อเผาผลาญเขา ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน นางใช้ลูกบอลไฟเผาเสื้อผ้าบนตัวเขาหายไปจนหมดสิ้น พร้อมบังคับให้เขาวิ่งเป็นชีเปลือยไปรอบ ๆ ซึ่งนั่นกลายเป็นเรื่องขบขันอย่างมากในหมู่คนรับใช้ เหตุการณ์ในวันนั้นกลายเป็นบาดแผลขนาดใจที่อยู่ภายในใจของเขามาตลอด เขาเคยสาบานถ้าหากเขามีโอกาส เขาจะต้องทำลายนางอย่างแน่นอน นอกจากนี้เขายังจินตนาการไปถึงขั้นว่าจะทำให้นางผู้นี้ยอมศิโรราบอยู่ภายใต้เป้ากางเกงของเขา แต่เจ้าอ้วนก็มิได้คาดหวังเช่นนั้นในเวลานี้ ตอนนี้เขาควรจะพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้ แต่ในครานี้เขาคงได้รับความเมตตาจากนางอีกครั้งแล้ว

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด