ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 156 ความลึกลับของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 158 ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 157 วิญญาณจันทร์สีเลือด


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 157 วิญญาณจันทร์สีเลือด

วันที่สองในหอตำรา

บนแผ่นหยกขาวปรากฏเคล็ดลับการหลอมรวมของ...

วิญญาณจันทร์สีเลือด!

มันอาศัยวิญญาณจันทร์กระจ่างกับวิญญาณแก่นโลหิตในการหลอมรวมเป็นวิญญาณระดับสาม

เมื่อมันถูกกระตุ้นใช้งาน ดาบแสงจันทร์จะส่องแสงสีเลือดที่มีขนาดใหญ่เท่ากับใบหน้ามนุษย์ หากร่างกายของคนผู้หนึ่งถูกกรีดเฉือนโดยมัน เลือดของพวกเขาจะไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง

"เป็นสิ่งนี้" ฟางหยวนกวาดตามองและจดจำเคล็ดลับต่างๆเกี่ยวกับมันเอาไว้ในใจ จากนั้นเขาจึงหลับตาลงและท่องมันออกมาอีกครั้งเพื่อทดสอบความจำ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มันจึงประทับอยู่ในใจของเขาอย่างครบถ้วนโดยไม่มีข้อผิดพลาด

เปรียบเทียบกับวิญญาณจันทร์สีทอง วิญญาณจันทราเยือกแข็ง หรือวิญญาณภาพลวงจันทราที่เป็นวิญญาณทั่วไป วิญญาณจันทร์สีเลือดถือเป็นวิญญาณนอกรีตและชั่วร้ายมากกว่า

เคล็ดลับการหลอมรวมของวิญญาณสามชนิดแรกมีข้อความบันทึกไว้นับแสนตัวอักษร แต่วิญญาณจันทร์สีเลือดกลับมีเพียงไม่กี่พันตัวอักษรเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าในประวัติศาสตร์ของตระกูลแสงจันทร์มีผู้ใช้วิญญาณเลือกหลอมรวมวิญญาณชนิดนี้เพียงหยิบมือ

พลังโจมตีของวิญญาณจันทร์สีเลือดอยู่ในค่าเฉลี่ย มันมีระยะโจมตีสิบเมตร สำหรับผลกระทบของบาดแผลเลือดไหล มันถูกพิจารณาว่าไม่มีประโยชน์มากนัก

ผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งถึงห้ามีพลังวิญญาณที่ค่อนข้างจำกัด พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้นานนัก ดังนั้นบาดแผลเลือดไหลในช่วงเวลาสั้นๆระหว่างการต่อสู้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขา โดยเฉพาะผู้ใช้วิญญาณสายรักษา พวกเขายังสามารถรักษาบาดแผลชนิดนี้ได้ระหว่างการต่อสู้อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นวิญญาณจันทร์สีเลือดยังมีข้อบกพร่องใหญ่อยู่อีกหนึ่ง

ช่วงเวลาไม่กี่วันของแต่ละเดือนจะมีเลือดไหลซึมออกมาจากวิญญาณสีเลือดเป็นเหตุให้พลังโจมตีในช่วงเวลานั้นลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสาม

แต่มันยังมีข้อดีที่ฟางหยวนชอบ

นั่นก็คืออาหารของมัน

มันไม่ต้องกินกลีบดอกกล้วยไม้จันทรา แต่มันกินเลือด...เลือดสดๆ

แม้มันจะต้องการเลือดปริมาณมาก แต่กลับไม่จำกัดว่าต้องเป็นเลือดของสิ่งมีชีวิตชนิดใด ในทะเลทรายทางภายตะวันตกของทวีปอาจมีปัญหา แต่สำหรับขอบชายแดนทางภาคใต้ มันเต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่มากมาย

การสังหารพวกมันเพื่อสกัดเลือดออกมาเป็นเรื่องง่ายดายอย่างมาก กล่าวได้ว่าอาหารของวิญญาณจันทร์สีเลือดมีอยู่ทุกที่ในเขตดินแดนทางภาตใต้แห่งนี้

'สิ่งที่ข้าต้องทำเป็นลำดับถัดไปคือหลอมรวมวิญญาณจันทร์สีเลือด' ฟางหยวนตัดสินใจแล้ว

ขั้นตอนและสิ่งจำเป็นในการหลอมรวมถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของเขาเรียบร้อยแล้ว ในมือของเขามีวิญญาณจันทร์กระจ่าง แต่วิญญาณแก่นโลหิตยังหาได้ยากเล็กน้อย

วิญญาณแก่นโลหิตถือเป็นสมบัติล้ำค่าชนิดหนึ่งเพราะมันสามารถเติมเลือดให้แก่ผู้ใช้วิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียเลือดได้ในพริบตา

ซ่งเจียงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต้องการวิญญาณแก่นโลหิตมากที่สุด

เพราะมันสามารถจับคู่กับวิญญาณผีดิบและช่วยลดผลข้างเคียงได้เป็นอย่างดี มันจะทำให้เขาอยู่ในสภาพผีดิบได้ยาวนานมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบย้อนกลับอย่างเฉียบพลัน

เขาทำได้ดีในฐานะผู้ใช้วิญญาณระดับสองและมีสถานะค่อนข้างสูง แต่กระทั่งเขาตาย เขาก็ไม่เคยครอบครองวิญญาณแก่นโลหิต

ในห้องลับ ฟางหยวนมองไปยังวิญญาณสมุดบันทึกอีกครั้ง

ยังมีเวลาเหลือในวันนี้ จากสิบห้านาที เขาใช้เวลาไปเพียงห้านาที ดังนั้นจึงเหลือเวลาอีกสิบนาที

วิญญาณสมุดบันทึกสีส้มเก็บเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสี่เอาไว้ ขณะที่วิญญาณสมุดบันทึกสีม่วงเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับห้า

ผู้ครอบครองวิญญาณเหล่านี้คือผู้อาวุโสหอตำราของแต่ละรุ่น แต่ตระกูลเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องอาหารของพวกมัน

วิญญาณสามารถถูกใช้งานโดยผู้อื่นตราบเท่าที่เจตจำนงในตัวมันยอมรับ

เจตจำนงที่แฝงอยู่ในวิญญาณสมุดบันทึกเหล่านี้เป็นของผู้อาวุโสหอตำรา ฟางหยวนเป็นผู้อาวุโสคนใหม่ของตระกูล ดังนั้นเขาจึงได้รับอนุญาตให้ใช้งานพวกมันโดยผู้อาวุโสหอตำรา

แต่ผู้อาวุโสหอตำราย่อมไม่คิดว่าฟางหยวนครอบครองพลังอำนาจที่สามารถเปิดสมุดบันทึกสีส้มและสีม่วง เพราะโดยปกติแล้วแม้ฟางหยวนจะส่งพลังวิญญาณเข้าไป มันก็จะไม่ตอบสนอง

ในความเป็นจริงแม้แต่วิญญาณที่อยู่ตามธรรมชาติ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถปรับแต่งได้โดยง่าย

ราชาอสูรอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เนื่องจากวิญญาณที่อยู่ในร่างของราชาเหล่านั้นอนุญาตให้พวกมันหยิบยืมพลังอำนาจ สำหรับมนุษย์ มันมีสถานการณ์พิเศษที่คล้ายคลึงเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ตำนานของคางคกกลืนกินแม้น้ำที่ให้ความช่วยเหลือคนธรรมดาเช่นเจียงฟาน

แน่นอนว่าฟางหยวนสามารถใช้กลิ่นอายของวิญญาณกาลเวลาเพื่อปรับแต่งวิญญาณสมุดบันทึก แต่การทำเช่นนั้นมันไม่คุ้มค่ากับผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับหากถูกตรวจพบ

'แท้จริงแล้ว เคล็ดลับที่มีค่าที่สุดไม่ใช่เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสี่หรือห้าเหล่านี้ ย้อนกลับไป วิญญาณแสงจันทร์ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งรุ่นแรกของตระกูล โดยพื้นฐานหลังจากผ่านระยะเวลาหลายร้อยปี มันย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง' ฟางหยวนคิด

การหลอมรวมวิญญาณคือการยกระดับวิญญาณให้สูงขึ้น ขณะที่การสลายวิญญาณคือการย้อนกลับที่ทำให้วิญญาณลดระดับลง

ระหว่างกระบวนการหลอมรวมหรือสลายตัว มันอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง

วิญญาณแสงจันทร์ไม่ใช่วิญญาณที่มีอยู่ตามธรรมดา แต่มันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในกระบวนการสลายวิญญาณโดยผู้นำตระกูลรุ่นแรก

โลกใบนี้มีวิญญาณกลายพันธุ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์อยู่มากมาย กระทั่งประสบการณ์ห้าร้อยปีของฟางหยวนก็ยังมีความรู้เกี่ยวกับพวกมันอยู่น้อยมากหากเปรียบเทียบกับระบบนิเวศทั้งหมด

ในแต่ละตระกูล พวกเขามักครอบครองวิญญาณที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองอยู่หนึ่งชนิดหรือมากกว่านั้น

นี่เป็นแนวทางในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตระกูลของพวกเขา

ตระกูลแสงจันทร์มีวิญญาณแสงจันทร์ ตระกูลซ่งมีวิญญาณความแข็งแกร่งของหมี ตระกูลไป่มีวิญญาณวายุ เป็นเช่นเดียวกันกับตระกูลอื่นๆ

เหตุผลก็คือหากพวกเขาใช้วิญญาณทั่วไปที่รู้จักกันเป็นอย่างดี พวกเขาจะถูกจัดการอย่างง่ายดาย

รากฐานของตระกูลแสงจันทร์ก็คือกล้วยไม้จันทราที่สามารถผลิตหินวิญญาณ ถัดมา วิญญาณที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองเป็นสิ่งป้องกันไม่ใช่ศัตรูเข้าใจพวกเขามากนัก สุดท้าย สายเลือดและสายสัมผัสเป็นห่วงโซ่ที่จะผูกมัดสมาชิกตระกูลให้เป็นหนึ่งเดียว

ดังนั้นวิญญาณระดับหนึ่ง วิญญาณแสงจันทร์ จึงไม่สามารถถูกมองข้าม เคล็ดลับในการสลายวิญญาณคือสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับสี่หรือห้า

แต่เคล็ดลับการสร้างวิญญาณแสงจันทร์จะถูกเก็บไว้โดยผู้นำตระกูลเสมอ นอกจากผู้นำตระกูล ผู้อาวุโสระดับสูงของแต่ละรุ่นก็มีสิทธิ์ล่วงรู้เช่นกัน ในเวลาเดียวกันวิญญาณสมุดบันทึกที่เก็บความลับเรื่องนี้เอาไว้จะถูกเก็บซ่อนเอาไว้อย่างดี

ชัดเจนว่าฟางหยวนไม่สามารถหาเคล็ดลับนี้จากที่นี่

'เคล็ดลับนี้มีคุณค่ามาก หากข้าได้รับมันก่อนจะออกไปจากหมู่บ้าน นั่นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ข้าจะไม่มุ่งมั่นกับมันมากเกินไป' ฟางหยวนมีแผนการอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว

ในขั้นต้น เขาวางแผนที่จะก่อตั้งองค์กรหรือกองกำลัง เคล็ดลับการสร้างวิญญาณแสงจันทร์ไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่หากได้ครองครอบมันย่อมดีกว่า

'อย่างไรก็ตามเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณจันทร์สีเลือดและวิญญาณระดับสามอื่นๆคือสิ่งที่ข้าต้องการ''

แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม แต่วิญญาณที่เขาครอบครองยังไม่ใช่วิญญาณระดับสามทั้งหมด นี่ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขาถูกจำกัด

'ข้ามีวิญญาณปีกสายฟ้ากับวิญญาณเกราะนภา ดังนั้นข้าต้องปรับแต่งวิญญาณจันทร์สีเลือดที่ใช้ในการโจมตี และวิญญาณระดับสามประเภทอื่นๆ แต่มันยังไม่ใช่เรื่องง่าย'

ผู้ใช้วิญญาณทั่วไปสามารถพึ่งพาตระกูล ด้วยความร่วมมือของสมาชิกตระกูล พวกเขาจำเป็นต้องครอบครองวิญญาณเพียงสามหรือสี่ดวง

แต่สำหรับฟางหยวนที่ต้องการผจญภัยในโลกภายนอกเพียงลำพัง เขาจำเป็นต้องครอบครองวิญญาณหกดวงเป็นอย่างน้อยเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

ด้วยประสบการณ์ของเขา ฟางหยวนต้องมีวิญญาณที่ใช้ในการโจมตี ป้องกัน รักษา เก็บของ ตรวจสอบ และวิญญาณที่ช่วยสนับสนุนการเคลื่อนไหว ด้วยคุณสมบัติทั้งหกประการ มันเพียงพอที่จะช่วยเหลือเขา

ด้านการโจมตี วิญญาณจันทร์สีเลือดถูกพิจารณาว่าแทบไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ ด้านการป้องกัน เขามีวิญญาณเกราะนภา สำหรับการเคลื่อนไหว เขาครอบครองวิญญาณปีกสายฟ้า แม้มันจะค่อนข้างมีประโยชน์แต่มันยังต้องใช้พลังวิญญาณจำนวนมาก

เกี่ยวกับการรักษาตัว วิญญาณโสมเก้าชีวิตถือว่าค่อนข้างไร้ประโยชน์ ทั้งหมดก็คือมันเป็นเพียงวิญญาณระดับสอง ความสามารถในการรักษาของมันไม่ถือว่าโดดเด่น ประโยชน์ที่ฟางหยวนได้รับจากมันมีเพียงการขายใบไม้แห่งชีวิต กล่าวได้ว่ามันคือต้นเงินต้นทองของเขา

แต่หลังจากฟางหยวนออกเดินทาง แม้เขาจะสามารถสร้างใบไม้แห่งชีวิต แต่หากไม่มีผู้ซื้อ มันก็ไร้ความหมาย

สำหรับการตรวจสอบ เขามีวิญญาณหญ้าใบหูปฐพี แม้มันจะเป็นวิญญาณระดับสอง แต่มันมีระยะการทำงานที่ค่อนข้างกว้าง ดังนั้นฟางหยวนยังสามารถใช้งานมันได้ต่อไป

ด้านวิญญาณเก็บของ ฟางหยวนไม่มีวิญญาณประเภทนี้ แต่มันกลับเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อเขาออกเดินทางเพียงลำพัง ทรัพยากรเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มีมันแล้วเขาจะเก็บอาหารของวิญญาณ หินวิญญาณ หรือสิ่งของต่างๆไว้ที่ใด ด้วยเหตุนี้มันจึงถือเป็นหนึ่งในวิญญาณพื้นฐานที่นักผจญภัยจะต้องมีไว้ในการครอบครอง

ก่อนที่ฟางหยวนจะสามารถรวบรวมวิญญาณพื้นฐานที่จำเป็นเหล่านี้มาได้ เขาจะยังไม่ออกไปจากหมู่บ้าน

'วิญญาณเก็บของ เงื่อนไขแรกคือความจุ มันต้องสามารถเกิดอาหารและหินวิญญาณ ถัดมา อาหารของมันต้องหาง่าย สุดท้าย มันจะดีที่สุดหากสามารถยืดอายุวัตถุดิบ แต่กระทั่งบนป้ายแสดงรายการทรัพยากรของทั้งสามตระกูลก็ไม่ปรากฏวิญญาณที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ดูเหมือนว่าข้าต้องอาศัยอิทธิพลของสกุลซื่อเพื่อบีบให้ตระกูลนำมันออกมา'

เมื่อครบเวลาสิบห้านาที ฟางหยวนจึงเดินออกไปตามเส้นทางลับขณะเดียวกันเขาก็ยังครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ

"ทักทายท่านฟางหยวน" ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนยืนอยู่ด้านนอกและดูเหมือนกำลังรอเขาอยู่

"ท่านคือ?"

คนผู้นั้นเผยรอยยิ้ม "ข้าคือซื่อซ่ง ผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาลคนปัจจุบัน"

"เป็นท่าน" ได้ยินสถานะของคนผู้นี้ ฟางหยวนจึงเริ่มสำรวจอย่างใกล้ชิด

ซื่อซ่งมีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม กลิ่นอายของเขาค่อนข้างมั่นคง เช่นเดียวกับฟางหยวน เขาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูล แต่การบ่มเพาะของเขาอยู่ในระดับสามขั้นกลาง

หลังจากฟางหยวนทำให้เหยาจี้ร่วงหล่นลง ซื่อซ่งผู้นี้จึงได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาลเป็นการชั่วคราว แต่ภรรยาของเขาเป็นฝ่ายเหยาจี้ ดังนั้นนี่จึงถือเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองของอวี๋โป้เพื่อรักษาความสมดุลของฝ่ายต่างๆเอาไว้

"นี่คือหินวิญญาณสามร้อยก้อนที่ตระกูลจะมอบให้แก่ผู้อาวุโสเป็นประจำทุกสัปดาห์ ข้าทราบว่าท่านอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงนำมันมามอบให้กับท่านด้วยความปรารถนาดี ข้าคิดว่าท่านคงไม่คิดมากเรื่องที่ข้านำมันมาให้ท่านโดยตรงในครั้งนี้" ซื่อซ่งกล่าวพร้อมกับยื่นถุงเงินให้กับฟางหยวน

'ชายผู้นี้...' ฟางหยวนชำเลืองมองถุงเงิน

ปกติแล้วผู้อาวุโสของตระกูลจะได้รับหินวิญญาณจากหัวหน้าฝ่ายของตน แต่ซื่อซ่งกลับสามารถนำมันมาให้เขา ดังนั้นการกระทำนี้จึงมีความนัยซ่อนเร้นบางอย่าง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ซ่อนอยู่ ฟางหยวนกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีมากกว่าไม่ดี

"กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ข้ามาพบท่านฟางหยวนในครั้งนี้เพราะต้องการความช่วยเหลือจากท่าน"

เพียงไม่นาน ซื่อซ่งก็เริ่มกล่าวเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา

"ท่านต้องการให้ข้าส่งมอบโสมเก้าชีวิตใช่หรือไม่?" ฟางหยวนถามอย่างรู้ทัน