ตอนที่แล้วTWO Chapter 150 ไม่ถอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 152 การโจมตีเมืองของผู้บุกรุก ตอนที่ 2

TWO Chapter 151 การโจมตีเมืองของผู้บุกรุก ตอนที่ 1


TWO Chapter 151 การโจมตีเมืองของผู้บุกรุก ตอนที่ 1

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 5 วันที่ 20 ณ เมืองซานไห่

เมื่อแสงแรกกของตอนเช้าส่องลงมาที่เมืองซานไห่ สัตว์ร้ายได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น และเปิดเผยเขี้ยวของพวกมัน อยู่ในเขตทุรกันดารที่เงียบสงบ

กองพันทหารเรือที่ 1 แห่งเมืองเป่ยไห่ ได้มาถึงจุดเชื่อมระหว่างคูเมืองและแม่น้ำมิตรภาพแล้ว เพื่อคอยสกัดไม่ให้ผู้บุกรุกใช้การโจมตีทางน้ำได้

ทหารจากกองพันต่างๆ ได้เข้าประจำตำแหน่งที่ตนเองรับผิดชอบ ภายใต้การนำของผู้บัญชาการของพวกเขา พวกเขารู้ดีว่า วันนี้มีการสู้รบที่สำคัญรอพวกเขาอยู่

ในส่วนด้านหลังของคฤหาสน์ มู่ฉิงซีเดินไปรอบๆ ซึ่งแตกต่างจากความสงบตามปกติของเธอ “พี่สาว ท่านคิดว่าพี่ใหญ่จะหยุดการโจมตีของผู้บุกรุกได้หรือไม่?”

ขุ่ยหยิงหยูนั่งอยู่ในศาลา หยิบชาที่สีฉินเพิ่งจะต้มให้และชิบมันช้าๆ แล้วกล่าวอย่างสงบว่า “เขาสามารถทำได้อย่างแน่นอน เจ้าเคยเห็นพี่ใหญ่ล้มเหลวมาก่อนหรือไม่?”

ในความเป็นจริง ขุ่ยหยิงหยูก็กังวลเช่นกัน แต่ในฐานะพี่สาว เธอไม่สามารถแสดงมันออกมาได้

“อื้ม ก็ข้าก็ยังคงกังวลอยู่ดี พี่ใหญ่โง่คนนั้นไม่ยอมให้พวกเขาออกไปข้างนอกเลย” ดูผิวเผินเหมือนมู่ฉิงซีกำลังบ่น แต่ลึกๆแล้ว เธอเข้าใจการกระทำของเขา

การโจมตีของผู้บุกรุก แย่กว่าการโจมตีของสัตว์ร้ายมาก ถ้ากำแพงถูกทะลวง เมืองซานไห่ก็จะถูกบุกรุกเข้ามาในทันที ด้วยเหตุนี้ เพื่อความปลอดภัยของพวกเธอ เขาจึงไม่ได้มอบหน้าที่อะไรให้พวกเธอทำ และสั่งให้พวกเธอรอเขาอยู่แต่ในคฤหาสน์เท่านั้น

โอหยางโชวได้เชิญหลินเยว่ จากศูนย์ศิลปะการต่อสู้ มาประจำการที่คฤหาสน์ของลอร์ด และให้เขานำลูกศิษย์ของเขามาอยู่ที่นี่ชั่วคราว เพื่อทำหน้าที่เป็นองครักษ์

เมื่อเวลา 7.30 น. ในตอนเช้า เฟิงฉิวฮวง, ไป๋ฮัว, ซุ่นหลงเตียนเซว่, มู่หลานเยว่ และกงเฉิงซี ได้ปรากฎตัวที่ประตูเทเลพอร์ตของเมืองซานไห่

โอหยางโชวที่สวมอุปกรณ์ครบครันไปต้อนรับพวกเขา การมาเยี่ยมชมเมืองซานไห่ในครั้งนี้ ก็เพื่อเตรียมความพร้อมและรับประสบการณ์ สำหรับการอัพเกรดดินแดนของพวกเขาในอนาคต

เหตุผลที่พวกเขาทั้ง 5 ได้มารวมตัวกันก็เพราะมู่หลานเยว่

เมื่อเธอรู้ว่าเมืองซานไห่กำลังจะรับการโจมตีของผู้บุกรุก เธอก็บ่นในช่องพันธมิตรว่า เธอต้องการจะเข้าร่วมชมความสนุก

เธอยังเด็ก ไร้เดียงสาและน่ารัก ดังนั้น เธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากนัก เกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้กล่าวออกมา ว่ามันจะสร้างปัญหาให้กับโอหยางโชวหรือไม่

โอหยางโชวชื่นชมความซื่อตรงที่เป็นธรรมชาติของเธอ หลังจากที่พิจารณาเล็กน้อย เขาก็เห็นด้วย และเมื่อเขาได้อนุญาติเธอแล้ว เขาก็ได้เชิญคนอื่นๆมาร่วมชมด้วยเช่นกัน

จากทั้ง 5 คนนี้ มีเพียงเฟิงฉิวฮวงเท่านั้นที่ยังไม่เคยมาเมืองซานไห่ ตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เขาจึงไม่มีเวลาพอที่จะพาเธอไปทัวว์

หลังจากอออจากประตูเทเลพอร์ต โอหยางโชวก็พาพวกเขาไปที่หอคอยด้านทิศตะวันตก ขุนพลซีและเจ้าซีฮู ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการป้องกันด้านนี้ได้มาถึงแล้ว

ธงของเมืองซานไห่กระพือไปตามสายลใที่พัดผ่าน ภาพมังกรทองส่องแสงภายใต้แสงอาทิตย์ ทหารเมืองซานไห่ได้รวมตัวกับภายใต้ธงนี้ เพื่อปกป้องดินแดนของพวกเขา

…………………………………………………………………………..

เวลา 8.00 น. มองเห็นควันลอยขึ้นจากระยะไกล ทุกคนรู้ได้ในทันทีว่า ผู้บุกรุกกำลังจะมาถึง

ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้นในหูของโอหยางโชว

“แจ้งเตือนระบบ : การทดสอบการโจมตีเมืองซานไห่ของผู้บุกรุก ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว  มีจำนวนผู้บุกรุกเข้ามาโจมตี 6,700 คน ผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่โปรดเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ”

โอหยางโชวตะโกนในใจตัวเอง ‘6,700 คน มากกว่าเมืองอิสระถึง 200 คน ระบบคงตัดสินใจว่าเมืองซานไห่ได้ทำลายค่ายโจรจำนวนมาก ดังนั้น พวกเขาจึงถูกจัดให้มีผู้บุกรุกเข้ามาโจมตีเป็นจำนวนมากหรือ? น่าปวดหัวจริงๆ’

กองทัพที่บุกมาเคลื่อนตัวมาข้างหน้า และปรากฎตัวขึ้นที่ที่ราบทางตะวันตก เมื่อพวกเขาอยู่ห่างออกไป 3 กิโลเมตร พวกเขาก็หยุด และเริ่มตั้งค่าย

พวกเขามีผู้นำ 3 คน ผู้นำหลักคือ ฮัวต้า เขาเป็นผู้บังคับบัญชา ผู้บุกรุกชั้นสูง 2,000 คน และผู้บุกรุกทั่วไป 3,000 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นพลเดินเท้า, ผู้นำคนที่สอง คือ เฮยฉี เขาเป็นผู้บัญชาการผู้บุกรุกชั้นสูง 1,000 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นพลม้า และผู้นำคนที่สาม คือ ฮัวหลิว เขาเป็นผู้บัญชาการโจรสลัด 700 คน

คนที่ปรากฎตัวที่ที่ราบทางตะวันตกคือ ฮัวต้า และเฮยฉี ส่วนฮัวหลิว เขาได้นำโจรสลัด 700 คน ของเขา มุ่งหน้ามาทางแม่น้ำมิตรภาพ

หลังจากตั้งค่าย เฮยฉีได้เข้าไปที่เต็นท์ของฮัวต้า แล้วถามว่า “พี่ใหญ่ เราจะต่อสู้ในศึกนี้เช่นไร?”

ฮัวต้าเป็นชายวัยกลางคน อายุ 35 ปี เขาดูน่าเกรงขามมาก และเขาก็ดูไม่เหมือนผู้นำของผู้บุกรุก มีเพียงพี่น้องในค่ายของเขาที่รู้ว่า เขาเป็นคนที่โหดร้ายและป่าเถื่อนแค่ไหน

ฮัวต้าขมวดคิ้ว “เจ้าก็เห็นอยู่ว่าเมืองนี้ไม่ง่าย ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีกำแพงที่สูงใหญ่ พวกเขายังมีคูเมืองอยู่รอบๆอีกด้วย”

เฮยฉีหยักหน้า “ถูกต้อง ข้าไปสำรวจรอบๆ และพบว่า เราสามารถโจมตีได้จากทางด้านตะวันตกนี้เท่านั้น สำหรับด้านอื่นๆ มันเป็นเรื่องยากจริงๆ ข้าคิดว่าข้าศึกเองก็คิดเช่นนั้น และเพิ่มการป้องกันของพวกเขาที่นี่ การโจมตีเมืองนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก”

ฮัวต้าส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “ในศิลปะสงคราม ข้าเสียก็คือขอดี เนื่องจากศัตรูจัดการเช่นนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องคิดมาก และมุ่งเน้นกองกำลังทั้งหมดของเราไปที่ประตูด้านทิศตะวันตกของพวกเขา ข้าไม่เชื่อว่าพี่น้อง 6,000 คน ของเรา จะไม่สามารถทะลวงประตูโง่นั้นได้”

“พี่ใหญ่ช่างฉลาดยิ่งนัก!”

“นอกจากนี้ เจ้าจงกระจายคำสั่งออกไป บอกพวกพี่น้องเราให้รวบรวมอาวุุธปิดล้อม และพาคนส่วนหนึ่งไปยังคูเมือง เพื่อเริ่มต้นสร้างสะพานลอยน้ำ” ฮัวต้ากล่าว

เฮยฉีมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยคๆถาม “พี่ใหญ่ ท่านบอกข้าว่า จะมุ่งเน้นให้กองกำลังของเราโจมตีที่ประตูด้านทิศตะวันตก แล้วทำไมถึงต้องส่งคนไปสร้างสะพานลอยน้ำด้วยเล่า?”

ฮัวต้าหัวเราะ “เราก็แค่ใช้เล่กลเล็กน้อย เราจะทำให้ลวงเป็นจริง และจริงเป็นลวง แม้ว่าเราต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่การโจมตีประตูด้านทิศตะวันตก แต่เราก็ไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาเห็นถึงความตั้งใจของเราได้ เมื่อพวกเขาเห็นพวกเราสร้างสะพาน พวกเขาก็จะเริ่มต้นป้องกันประตูด้านทิศเหนือ ด้วยเหตุนี้ เราก็จะสามารถลดกำลังป้องกันในประตูด้านทิศตะวันตกของพวกเขาได้”

เฮยฉีมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ เขากล่าวว่า “พี่ใหญ่ฉลาดจริงๆ ตกลง ข้าจะกระจายคำสั่งออกไปตามนั้น”

ฮัวต้าโบกมือให้เขาออกไป และหัวเราะ “ไปเถอะ”

นอกเต็นท์ เหล่าผู้บุกรุกได้เริ่มรวบรวมอาวุธปิดล้อม ซึ่งมีทั้ง บันได, หอคอยเคลื่อนที่, เครื่องยิงลูกหิน และเครื่องกระทุ้ง

ถ้าโอหยางโชวได้เห็นทั้งหมดนี้ เขาก็คงจะตกใจมากแน่ ระบบโกงอย่างมาก ที่ให้ผู้บุกรุกสามารถครอบครองอาวุธปิดล้อมเฉพาะเช่นนี้ได้

ประการแรก บันไดของพวกเขาไม่ได้เป็นบันไดแบบง่ายๆ มันมีล้อและสามารถผลักดันได้ง่าย มันยังมีทั้งโล่แตะตะขอสำหรับเกี่ยว

เครื่องยิงลูกหินเป็นอาวุธที่ใช่ในการปิดล้อม ผู้ที่ควบคุมพวกมันต้องมีมากกว่า 10 คน เพื่อที่จะรั้งเชือกก่อนที่เครื่องจะพร้อมยิงลูกหิน

แม้ว่าสงครามจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ประตูด้านทิศตะวันตกของเมืองซานไห่ก็ยังคงเงียบสงบมาก พวกผู้บุกรุกยังคงเตรียมตัวอยู่ พวกเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะโจมตีมากนัก

การปะทะครั้งแรกเกินขึ้นที่แม่น้ำมิตรภาพ

ฮัวหลิวได้นำโจรสลัก 700 คน และเรือรบมากกว่า 10 ลำ มุ่งหน้ามายังจุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำมิตรภาพและคูเมือง ทำให้พวกเขาได้พบกับกองทัพเรือแห่งเมืองเป่ยไห่

เรือรบเมิ่งชง 5 ลำ ของกองทัพเรือ ใช้รูปแบบ 1-2-2 เพื่อปกป้องแม่น้ำมิตรภาพอย่างสมบูรณ์ เรือธงของเผ่ยตงหลายอยู่ด้านหน้าสุด เมื่อเขาเห็นพวกโจรสลัด เขาไม่ลังเล และสั่งให้โจมตีในทันที

ในยุคที่เรือรบไม่ได้มีดินปืนและปืนใหญ่ มันมีวิธีการรบเพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น คือ นักธนูจะยิงส่วนกันไปมา หรือไม่ทหารก็จะกระโดดลงบนเรือของศัตรูและต่อสู้กัน

นับต้องแต่มีการจัดตั้งฝ่ายธนูและหน้าไม้ ธนูและหน้าไม้ของกองทัพเมืองซานไห่ก็มีคุณภาพดีกว่าของผู้บุกรุก ดังนั้น พวกเขาจึงใช้ประโยชน์จากช่วงระยะการยิงที่ไกลกว่า โจมตีพวกโจรสลัด ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนอง การโจมตีของกองทัพเรือเป็นดังฝนลูกศรที่ลอยไปยังเรือรบของพวกโจรสลัด

เรือของพวกโจรสลัด เป็นเพียงเรือขั้นต้นเท่านั้น และมันไม่ได้มีการป้องกันมากนัก พวกเขาจึงรับการโจมตีส่วนใหญ่โดยตรงและไม่อาจจะป้องกันตัวเองได้ ดังนั้น หลังจากที่รับการโจมตีจากฝนลูกศรไม่กี่รอบ พวกโจรสลัดก็เริ่มเสียหายอย่างรุนแรง

ฮัวหลิวเป็นคนกล้าหาญ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ เขาไม่ได้สั่งให้ถอย แต่สั่งให้เพิ่มความเร็ว และโจมตีสวนกลับในทันที

พวกโจรสลัดเหล่านี้ล้วนเป็นคนชั่วร้าย พวกเขามุ่งหน้ามายังเรือรบของกองกัพเรือในทันที

เผ่ยตงหลายได้อาศัยอยู่ในค่ายโจรสลัดมาเป็นเวลานาน และกองกำลังส่วนมากในกองทัพเรือ ก็เป็นเชลยจากค่ายโจรสลัด พวกเขาจึงเข้าใจพวกโจรสลัดเป็นอย่างดี

มองไปยังเรือโจรสลัดที่กำลังพุ่งเข้ามา เผ่ยตงหลายไม่ได้ตื่นตระหนก เขายังงสั่งให้ทุกคนยิงต่อไป และเมื่อถึงระยะยิงของพวกโจรสลัด เขาก็สั่งให้เคลื่อนเรือไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ จะสามารถมองเห็นประโยชน์จากเรือรบเมิ่งชงได้อย่างชัดเจน  ก่อนที่พวกโจรสลัดจะทันได้มีปฏิกิริยา หรือรบก็มาปรากฎอยู่ด้านหน้าพวกเขาแล้ว

เรือรบเมิ่งชงแข็งแกร่งมาก มันชนเรือของพวกโจรสลัดพังเป็นชิ้นๆ ขณะที่พวกเขากำลังตื่นกลัว เผ่ยตงหลายก็สั่งให้ทหารเริ่มกระโดดไปที่เรือของพวกโจรสลัด

ทหารในกองทัพเรือเป่ยไฟ่เปลี่ยนขั้นมาจากโจรสลัด หลังจากผ่านการฝึกอบรม พวกเขาก็เหนือกว่าพวกโจรสลัดมาก และอีกอย่าง เรืบรบเมิ่งชงบรรจุทหารได้ถึง 100 นาย ในขณะที่เรือรบของพวกโจรสลัด สามารถบรรจุโจรสลัดได้เพียง 60 คน เท่านั้น

ดังนั้น ในการสู้รบ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณหรือคุณภาพ กองทัพเรือเป่ยไห่ต่างก็ได้เปรียบ

แม่น้ำมิตรภาพมีความกว้างเพียง 35 เมตร จึงไม่สามารถเคลื่อนเรือรบมาพร้อมกันได้ ดังนั้น แม้ว่าพวกโจรสลัดจะใช้ประโยชน์จากจำนวนเรือ แต่จำนวนที่ได้เข้าปะทะกับเรือรบเมิ่งชง กับมีไม่มากนัก

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กองทัพเรือเป่ยไห่ก็ทำลายเรือโจรสลัดที่อยู่แนวหน้าไปแล้ว 5 ลำ โจรสลัดที่อยู่ด้านหลังเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี พวกเขาก็เริ่มล่าถอย และหนีเอาชีวิตรอด

เผ่ยตงหลายไม่ได้สั่งให้ไล่ตาม เขาสั่งให้เก็บกวาดเรือรบทั้ง 5 ลำที่ถูกทำลาย

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด