ตอนที่แล้วบทที่ 21 ความตื่นเต้นของหลี่ซื่อเฉียง (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 ข่าวจากพี่จี (อ่านฟรี)

บทที่ 22 หลี่ซื่อเฉียงกำลังจะออกจากงาน (อ่านฟรี)


 

 

หลี่น่าและเฝิงหยู่กำลังตั้งใจเรียนอย่างหนักที่โรงเรียน ครอบครัวของหลี่ซื่อซื่อเฉียงกำลังเกิดเรื่องใหญ่

 

"ลูกพูดอะไรนะ? ลูกต้องการลาออกจากงาน? ลูกไม่รักดี! แกรู้ไหมว่ายากแค่ไหนที่พ่อขอให้ผู้จัดการของที่ทำการไปรษณีย์รับแกเข้าทำงาน? พ่อได้มอบของขวัญและเลี้ยงอาหารค่ำเขา แต่ตอนนี้แกต้องการลาออก? " พ่อของหลี่ซื่อเฉียงชี้หน้าตัวสั่น เหมือนอยากจะตบสักฉาด

 

"พ่อรู้ไหมครับว่าหลายเดือนมานี้ผมหาเงินได้เท่าไหร่? นับหมื่น! แล้วเงินเดือนเท่าไหร่เชี่ยวที่ผมได้จากที่ทำการไปรษณีย์? ไม่ถึงร้อยหยวน เดือนๆนึ่งผมสร้างรายได้เทียบเท่าเงินเดือนทั้งปี แล้วทำไมผมยังต้องทำงานอีก? ผมลางานแค่ไม่กี่วัน แต่หัวหน้าตะโกนด่าใส่ผมต่อหน้าทุกคน! " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว

 

"แกลางานไม่กี่วัน? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเดือนนี้แกไปทำงานแค่สี่วัน มีหัวหน้าคนไหนทนได้บ้าง? ถ้าเป็นพ่อ แกโดนไล่ออกนานแล้ว! "พ่อของหลี่ซื่อเฉียงกล่าว

 

"ถ้าเช่นนั้นก็ไล่ผมออกเลย ผมไม่ต้องการที่จะทำงานที่นั่นต่อไป ไม่มีอนาคตที่จะต้องมานั่งทำงานงกๆทุกวันเป็นมนุษย์เงินเดือน! " หลี่ซื่อเฉียงตะโกน

 

"ซื่อเฉียง ลูกพูดอย่างนี้ได้อย่างไรกัน? ที่ทำงานมีปัญหาอะไรหรือไง? งานก็ไม่ได้หนักหนา แถมยังมั่นคง ในอนาคต จะได้ซื้อบ้าน " แม่ของหลี่ซื่อเฉียงยังพยายามเกลี้ยกล่อม

 

“แม่ กะอีแค่บ้านเนี่ยนะ? ตอนนี้พวกเราก็สามารถซื้อ เราสามารถซื้อบ้านที่ไหนก็ได้ในตำบล หรือแม้แต่ในเมือง!” หลี่ซื่อเฉียงกล่าว

 

"แกนี่มันดื้อด้านจริงๆ แกไม่ฟังที่พ่อพูดแล้วหรือไง? " พ่อของหลี่ซื่อเฉียงถาม

 

"พ่อ เสียวหยู่เคยพูดว่า คนจะต้องมองไปข้างหน้า เราต้องดูการพัฒนาศักยภาพของสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ณ ตอนนี้ผู้คนมากมายจะอิจฉางานที่ผมได้ทำในที่ทำการไปรษณีย์  แต่ถ้าเราสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ๆและมีรถ จะมีคนมากมายยิ่งกว่าที่จะอิจฉาพวกเรา เส้นทางนี้ดูน่าสนใจยิ่งกว่า!" หลี่ซื่อเฉียงตอบ

 

“ทรพี! พ่อรู้ว่าแกกำลังทำอะไรอยู่ แกไปที่เมืองเสิน เพื่อขายพันธบัตรรัฐบาลทุกวัน แกก็แค่เก็งกำไร!”

 

"สิ่งที่ผมทำคือธุรกิจทั่วๆไปเท่านั้น เสี่ยวหยู่ก็พูดแล้วว่านี่เป็นไปตามข้อบังคับของรัฐ มีการอนุญาตให้ซื้อและขายพันธบัตรรัฐบาลได้อย่างอิสระ และเราไม่จำเป็นต้องเสียภาษีจากสิ่งนี้ พ่อยังจำได้ฉุนซีลูกชายของลุงจ้าวได้ไหม? เขาซื้อโทรทัศน์สีขนาดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว และพ่อบอกผมว่าเขาเป็นคนมีความสามารถมาก ตอนนี้พวกเราก็ซื้อทีวีสีได้ ซื้อได้ใหญ่กว่า ดีกว่า หรือแม้แต่ทีวีที่นำเข้าจากต่างประเทศ! " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว

 

หลี่ซื่อเฉียงยังคงอ้างว่าเสี่ยวหยู่พูดอย่างนั้น เสี่ยวหยู่พูดอย่างนี้ จนทำให้พ่อของหลี่ซื่อเฉียงโมโหจนหัวแทบจะระเบิด คนในวัยยี่สิบอย่างลูกชายเขามาเชื่อฟังเด็กวัยรุ่น?

 

ปัญหานี้รู้ไปถึงครอบครัวตระกูลหยู่ เฝิงซิ่งไท่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการหว่านเมล็ดบนที่ดินของพวกเขา เขาไปที่โรงเรียนของเฝิงหยู่ และมาที่เมืองปิง  เขาจึงรับรู้ข่าวของลูกเขาในอนาคตของเขา ว่าเฝิงหยู่ยุยงให้หลี่ซื่อเฉียงใลาออกจากงานที่ทำอยู่

 

"พ่อ ผมไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ฉันไม่ได้ร้องขอเขาลาออก " เฝิงหยู่กล่าวอธิบาย

 

แน่นอน เรื่องที่หลี่ซื่อเฉียงถูกหัวหน้าตำหนิเป็นผลจากการที่ลางานบ่อยๆ แต่สาเหตุมาจากเขา เป็นเพราะเฝิงหยู่เป็นคนที่ขอให้หลี่ซื่อเฉียงเดินทางไปแลกพันธบัตรยังเมืองเสิน แต่เฝิงหยู่ไม่เต็มใจที่จะเป็นแพะรับบาป และเขาไม่ยอมรับว่านี่เป็นความผิดของเขา

 

"หุบปาก พอเราไปถึงก็จงไปขอโทษลุงหลี่ เมื่อเราไปถึงที่นั่น ลุงหลี่เป็นถึงระดับหัวหน้า เห็นไหมว่าเขาสามารถขับรถได้ และในช่วงเทศกาลวันหยุดมีคนหลายคนมอบของขวัญให้เขา? ถ้าพี่หลี่ของลูกเดินตามรอยเท้าของเขา เขาจะกลายเป็นหัวหน้าคนในอนาคตด้วยเช่นกัน " เฝิงซิ่งไท่กล่าว

 

เฝิงหยู่ตอบว่า "เป็นหัวหน้ามีอะไรดี? ลุงหลี่เป็นเพียงรองหัวหน้าเท่านั้นเอง รถหรือ? ตอนนี้พวกเราก็ซื้อได้ ในช่วงวันหยุด ลุงหลี่ก็ต้องมอบของขวัญให้หัวหน้าด้วยเช่นกัน พ่อมองดูพี่หลี่ตอนนี้สิ รายได้เดือนเดียวของเขามากกว่าเงินเดือนทั้งปี  นี่สิถึงจะเรียกว่าผู้ชนะ! "

 

เฝิงหยู่หยุดพยายามชักชวนให้พ่อเขา หลังจากเห็นพ่อของเขาโกรธจัดและจ้องเขม็งมาที่เขา อย่างไรก็ตาม เขาสะสมเงินเพียงพอแล้ว ดังนั้นเขาสามารถให้พี่หลี่หยุดชั่วคราวได้ ด้วยเงินทุนที่มีอยู่ เฝิงหยู่สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้มากขึ้น

 

ทุกคนมาที่บ้านของหลี่ซื่อเฉียง ไม่เพียงแค่ครอบครัวตระกูลหลีเท่านั้น เฝิงตันอิงก็อยู่ที่นั่นด้วย ทุกคนต่างนั่งเงียบๆ แต่พอเห็นเฝิงซิ่งไท่เข่ามา พ่อแม่ของหลี่ซื่อเฉียงยืนขึ้นเพื่อต้อนรับเขา

 

แต่หลังจากเฝิงซิ่งไท่นั่งลง ห้องก็เงียบงันอีกครั้ง เฝิงซิ่งไท่จ้องเขม็งเฝิงหยู่

 

เฝิงหยู่คิดว่ามันไม่เป็นผล ความคิดของเขาเกินกว่าคนอายุยี่สิบปี แต่ไม่มีใครเลยที่เข้าใจความคิดอันเฉียบแหลมของเขาเลย

 

เพี๊ยะ!

 

เฝิงซิ่งไท่ตบหลังศีรษะของเฝิงหยู่อย่างไร้ความปราณี ทุกคนกำลังรอคอยให้เด็กคนนี้มาขอโทษ แต่เขาก็ยังคงนั่งเพ้อละเมออยู่!

 

เด็กนี่ ไม่รู้หรือไงว่ากำลังจะทำลายความสุขของน้องพี่สาวด้วยมือของตัวเอง ครอบครัวของเขายอมรับความสัมพันธ์ระหว่างน้องพี่สาวตัวเองกับหลี่ซื่อเฉียงได้อย่างไร? เฝิงซิ่งไท่คิด

 

เฝิงหยู่มองสายตาตำหนิของพ่อ แล้วยืนขึ้น กล่าวว่า "ลุงหลี่ ป้าหลี่ เป็นความผิดของผมทั้งหมด. ฉันไม่ควรขอให้พี่หลี่มาร่วมงานกับผม พี่หลี่ พี่ควรกลับไปทำงาน  พี่จะได้ซื้อรถและซื้อบ้าน ถ้าพี่ใช้ทั้งชีวิตทำงานอย่างหนัก "

 

ตอนแรก เฝิงซิ่งไท่คิดว่าลูกชายของเขาขอโทษได้ไม่เลว แต่ทำไมเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

 

"นอกจากนี้ พี่หลี่ พี่ทำกำไรได้ 10,000หยวนจากเงินทุนที่พี่เอามาจากบ้าน เงินจำนวนนี้น่าจะเพียงพอแล้ว มากกว่าเงินเดือนสิบปีที่พี่ได้จากการทำงานในที่ทำการไปรษณีย์ ครูของผมกล่าวว่า เราควรจะพึงพอใจกับสิ่งที่มี คนอื่นๆสามารถหารายได้เป็นจำนวนมากก็เป็นเรื่องของผู้อื่น ในขณะพวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่และดูโทรทัศน์สีขนาดใหญ่ แต่พวกเราก็ยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ และดูโทรทัศน์สีดำและสีขาวได้ " เฝิงหยู่กล่าวต่อ

 

"เมื่อพี่และพี่สาวของผมมีลูก ก็ให้เขาเรียนอย่างหนัก ในอนาคต พวกเขายังสามารถทำงานที่ไปรษณีย์ได้ แม้ว่าเงินเดือนจะน้อย แต่งานก็ผ่อนคลาย เมื่อพ่อแม่คนอื่นขับรถยนต์พาลูกๆไปโรงเรียน เรายังมีจักรยานให้ขี่ไปส่งลูกๆของเราที่โรงเรียนได้ ผู้ชายไม่ควรกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ เราควรจะตั้งใจทำงานและก้าวหน้าอย่างเชื่องช้า  ส่วนเรื่องยิ่งใหญ่ ปล่อยให้คนอื่นเขาตะเกียกตะกายไปเสีย" เฝิงหยู่กล่าว

 

เฝิงหยู่ใช้ในการล้างสมองและชักชวนให้ทำงาน ไม่อย่างนั้น เขาจะสามารถหาลูกค้ามาลงทุนจำนวนมากได้อย่างไร เขามีความมั่นใจที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของทุกคนในห้องนี้ภายในคำพูดห้านาทีของเขา

 

บิดาของหลี่ซื่อเฉียงขมวดคิ้วและคิดกับตัวเองว่า "ใช่แล้ว อนาคตของซื่อเฉียงจะเป็นเช่นไรมีหากเขาทำงานในที่ทำการไปรษณีย์? ถ้าเขามีลูกในอนาคต มันก็เหมือนกับว่าเสี่ยวหยู่พูด คนอื่น ๆ กำลังส่งลูกไปโรงเรียนโดยรถยนต์ ส่วนลูกชายของเขายังคงนั่งรถจักรยานเพื่อส่งลูกไปโรงเรียน

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกชายของเขามีความคิดของตัวเอง มันดีจริงๆที่มาทำลายความตั้งใจของเขา? ถ้าเขาจะกลับไปทำงานที่ทำการไปรษณีย์ เขาสามารถทำงานสบายๆหรือเปล่า?

 

พ่อของหลี่ซื่อเฉียงถามขึ้นมาอย่างฉับพลันว่า: "ซื่อเฉียง ลูกคิดว่าอย่างไร?"

 

พอหลี่ซื่อเฉียงได้ยินคำถามของพ่อของเขา เขาเงยหน้าแล้วพูดว่า: "พ่อครับ ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้ว ผมต้องการหารายได้ เก็บเงินให้ได้จำนวนมาก พ่อและแม่จะได้มีชีวิตที่ดี ผมจะทำงานอย่างหนัก และไม่ยอมให้เฝิงตันอิงต้องทุกข์ยาก นี่อยู่ในช่วงการพัฒนาเศรษฐกิจสู่สังคมนิยม ซึ่งจะทำให้ผู้คนร่ำรวยก่อน แล้วทำไมผมจะเป็นหนึ่งในผู้คนที่ร่ำรวยนั้นไม่ได้? "

 

พ่อของหลี่ซื่อเฉียงมองไปที่ลูกชายของเขาและลูกสะใภ้ในอนาคต ในที่สุดก็ถอนหายใจ: "ตกลง พ่อจะคุยกับหัวหน้าของลูกเพื่ออนุมัติให้ลาหนึ่งปีโดยไม่จ่ายเงินเดือน ถ้าลูกทำไม่สำเร็จ ลูกก็กลับไปทำงานที่ไปรษณีย์เสีย และเลิกคิดถึงเรื่องนั้นไปได้เลย แต่ถ้าลูกสามารถทำได้จริงๆ เช่นนั้น ลูกก็สามารถลาออกจากงานที่ทำการไปรษณีย์ได้ "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด