ตอนที่แล้วTWO Chapter 131 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 5
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 133 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 7

TWO Chapter 132 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 6


TWO Chapter 132 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 6

****(หมายเหตุ : จากนี้ จะไม่เรียกเซิร์ฟจีนนะครับ จะเรียกว่า ภูมิภาคจีน)

เมื่อโอหยางโชวออกมาจากพระราชวัง เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 16.00 น. แล้ว เขากำลังคิดเกี่ยวกับความคืบหน้าของค่าย โอหยางโชวออกจากเมือง แล้วกลับไปที่ค่าย ตอนนี้ ค่ายได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ด้วยความพยายามของทหารทั้ง 2,000 นาย กำแพงไม้ของค่ายได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้านบนของกำแพง มีทหารคอยลาดตระเวณ ที่มุมทั้ง 4 ของค่ายมีหอธนู นอกจากนี้ ข้างหน้าด้านในยังมีแถวของม้า 2 แถว เมื่อทหารในค่ายเห็นโอหยางโชวเดินเข้ามา พวกเขาก็รีบคำนับในทันที โอหยางโชวยิ้มตอบ มันทำให้เหล่าทหารอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

เดินเข้าไปในค่าย เต็นท์ทั้งหมดถูกตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้ว ในพื้นที่ต่างๆ ท่อระบายน้ำก็ถูกขุดเสร็จแล้วเช่นกัน

โอหยางโชวส่งม้าของเขาให้หวังเฟิง แล้วเดินเข้าไปที่เต็นท์ใหญ่ตรงกลาง ในเต็นท์ มีผู้เล่นแปลกหน้า 20 คน มันทำให้เต็นท์ดูแคบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นโอหยางโชวเดินเข้ามา พวกเขาทั้งหมดก็ยืนขึ้น และกล่าวต้อนรับเขา โอหยางโชวพยักหน้า ยิ้ม และกล่าวตอบทุกคน เขายังไม่ลืมที่จะทักทายไป๋ฮัว และเฟิงฉิวฮวง

ไป๋ฮัวช่วยเขาจากสถานการณ์ เธอยิ้มให้เขา แล้วกล่าวว่า “หวู่ยี่ ให้ข้าแนะนำผู้เล่นทั้ง 20 คนนี้นะ พวกเขาได้รับการคัดเลือกจากเฟิงหวู่และข้า พวกเขาเห็นด้วยว่า ในสงคราม พวกเขาจะให้พวกเราเป็นผู้นำ”

โอหยางโชวตะลึง และเข้าใจคำกล่าวของไป๋ฮัวในทันที ผู้เล่นเหล่านี้ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ และไม่ชอบเฟิงฉิวฮวง ที่ยินดีเข้าร่วมกับพันธมิตรซานไห่อย่างเปิดเผย คนเหล่านี้ต้องการยืมสถานะของเขาในฐานะตัวแทน เพื่อให้ได้แนวทางริเริ่ม เฉพาะในสงครามเท่านั้น ที่พวกเขาจะทำตามคำสั่งของเขา ก่อนหน้านั้น ทุกคนจะทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ แม้แค่ค่ายของพวกเขาก็จะไม่อยู่ในที่เดียวกัน

โอหยางโชวเงียบ ราวกับว่าการประเมินของเขาก่อนหน้านี้เป็นบวกมากเกินไป จีนมีคำกล่าวที่ว่า ‘ในประเทศจีนนั้น 1 ใน 4 เป็นมังกร ส่วนที่เหลือเป็นข้อบกพร่อง’ แม้ว่าคำกล่าวนี้จะเป็นการดูถูก แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่า ชาวจีนต้องการเป็นวีรบุรุษ และต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

จากที่เห็น เห็นได้ชัดว่ามีเพียงสมาชิกในพันธมิตรเท่านั้นที่น่าเชื่อถือ หลังจบสงครามครั้งนี้ ควรจะมีการเรียกประชุม เพื่อยอมรับเมืองหงส์สาบสูญเข้ามาในพันธมิตรซานไห่ เนื่องจากทัศนคติที่เด็ดเดี่ยวของเธอ โอหยางโชวจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเาธพันธมิตรที่แข็งแกร่ง

หลังจากทำความเข้าใจกับแรงจูงใจของพวกเขาแล้ว โอหยางโชวก็ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างอดทน และกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่พันธมิตรซานไห่ สำหรับรายละเอียด เราจะกล่าวถึงพวกมันในครั้งต่อไป”

ทัศนคติที่เปลี่ยนไปของโอหยางโชวเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกได้ บางคนมองอย่างอายๆ บางคนทำเหมือนไม่ได้สนใจ พวกเขาแต่ละคนต่างก็มีปฏิกิริยากันหลากหลายรูปแบบ โชคดีที่มันเย็นมากแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาทั้งหมดก็บอกลาและออกไป

หลังจากที่ส่งผู้เล่นเหล่านั้นทั้งหมดออกไปแล้ว โอหยางโชวก็กลับมาที่เต็นท์ และรวบรวมสมาชิกทั้ง 4 มา เพื่อเปิดการประชุม ทุกคนได้รายงานและพูดคุยกันเรื่องที่พวกเขาจัดการอยู่

เฟิงฉิวฮวงได้สรุปกองกำลังของผู้เล่นทั้ง 20 คน เธอกล่าวว่า “ผู้เล่นแต่ละคน มีกองกำลัง 100-200 นาย รวมทั้งหมดมี 3,500 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารโล่ดาบและทหารธนู โดยมี ทหารโล่ดาบ 2,300 นาย, ทหารธนู 700 นาย และทหารม้า 500 นาย เมื่อรวมกับกองกำลังของเรา จะมีทหารโล่ดาบ 3,000 นาย, ทหารธนูและหน้าไม้ 1,500 นาย และมีทหารม้า 1,000 นาย รวมทั้งสิ้นมีทหาร 5,500 นาย ซึ่งเป็นกองกำลังส่วนใหญ่ของฝ่ายจักรพรรดิเหลือง”

โอหยางโชวพยักหน้า เขารู้สึกไม่พอใจ และหัวเราออกมาอย่างขมขื่น “กองกำลังเล็กๆที่อยู่ในมือของคนอื่น 20 คน เมื่อถึงเวลา การสร้างอำนาจร่วมกันจะเป็นคำถามขนาดใหญ่ คนเหล่านี้อาจจะยอมรับเราในตอนนี้ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสนามรบ พวกเขาอาจจะเปลี่ยนไปและทอดทิ้งพวกเรา วิธีที่ข้ามองเห็น มีแต่ทหาร 2,000 นาย ของเราต้องสร้างอำนาจร่วมกัน ในฐานะที่เป็นผู้เล่นที่โยนคนของเขาให้กับเรา เราต้องประเมินพวกเขาและอนุญาติเฉพาะผู้ที่เชื่อใจได้เท่านั้นมาเข้าร่วมกับเรา”

ไป๋ฮัวและเฟิงฉิวฮวงพยักหน้าพร้อมกัน แล้วกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา ปล่อยเรื่องนี้ให้พวกเรา 2 คน จัดการเอง”

หันหน้าไปทางทั้ง 2 คน โอหยางโชวมีความมั่นใจอย่างมาก และเขาถามว่า “จากผู้เล่นเหล่านั้นทั้งหมด พวกเขามีขุนพลหรือนักวางกลยุทธ์จากประวัติศาสตร์หรือไม่?”

เหตุผลที่โอหยางโชวถาม เพราะเขามีเหตุผลของตัวเอง ภูมิภาคจีนมีบุคคลทางประวัติศาสตร์ระดับกษัตริย์หรือสูงกว่านั้นที่ถูกอัญเชิญโดยยันต์อัญเชิญอยู่ 20 คน โดยครึ่งหนึ่งจะถูกอันเชิญเป็นขุนพลหรือนักวางกลยุทธ์ โดยแบ่งเป็นประเภทละ 5-6 คน พันธมิตรซานไห่มี 3 คน และหวู่ฟู่คงจะมี 1-2 คน

เฟิงฉิวฮวงพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “เป็นอย่างที่ท่านคิดไว้ เมืองฉิงหยุนมีขุนพลเฉินถังเป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์”

“เฉินถัง?” โอหยางโชวนึกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเฉินถัง ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เขาได้อ่านและขวานขวายความรู้ทางประวัติศาสตร์มากมาย สำหรับขุนนางที่มีชื่อเสียงในแต่ละราชวงศ์นั้น เข้ามีความเข้าใจเป็นอย่างดี

เฉินถังเป็นขุนพลที่มีชื่อเสียงอย่างมากในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ในรัชสมัยของจักรพรรดิฮั่นหยวน เขาเป็นรองผู้บัญชาการของภูมิภาคตะวันตก เขาและกานหยานโซวได้โจมตีซีอ๋องจี้ ซึ่งเป็นผู้ต่อต้านราชวงศ์ฮั่นตะวันตกและทำให้เกิดสงครามจากภาคเหนือลุกลามมาทางใต้ พวกเขารักษาเสถียรภาพของราชวงศ์ฮั่น ก่อนจะเดินทางไกล 3,000 กิโลเมตร เพื่อโจมตีและทำลายซีอ๋องจี้

‘คนที่ดูถูกข้า ไม่ว่ามันจะอยู่ไกลแค่ไหน ข้าก็จะไปลงโทษมัน’ นี่เป็นจดหมายที่เฉินถังเขียนถึงจักรพรรดิฮั่นหยวน เขาได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการและทำงานอยู่ที่จงหลาง แล้วยังได้รับตำแหน่งมาร์ควิส โดยเขาได้เสียชีวิตลงที่ฉางอาน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คนคนนี้มีปัญหามากมาย ชื่อเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ครอบครัวของเขายากจน และเขาก็พึ่งพาขอทานในการส่งวิญญาณพ่อของเขา เมื่อวันที่พ่อของเขาเสียชีวิต เขากำลังรอการคัดเลือกพนักงานของศาล และไม่กลับบ้านไปส่งวิญญาณพ่อด้วยตัวเอง เขาล้มเหลวในฐานะลูกชาย ไม่เพียงแต่เขาไม่ได้เป็นพนักงาน แต่เขายังถูกจับและถูกขังในคุก

ในการรบที่มีเชื่อเสียงที่สุดของเขาคือการทำลายซีอ๋องจี้ เขาแกล้งทำเป็นได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิ และเคลื่อนพลโดยพลการ เขายังเป็นคนโลภและรักเงินทอง ดังนั้น เขาจึงเป็นที่ดูถูกของคนมากมาย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีด้านลบอยู่มากมาย มันก็ไม่สามารถบดบังด้านบอกของเขาทั้งหมดได้ กองทหารของเขาแข็งแกร่ง ประสบการณ์ของเขาก็กว้างขวาง ดังนั้น เขาจึงได้รับพิจารณาว่า เป็น 1 ในคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

“ถ้ามีโอกาส เราสามารถติดต่อกับเมืองฉิงหยุนได้” โอหยางโชวกล่าว เฟิงฉิวฮวงพยักหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่า เธอเข้าใจความหมายของเขา

โอหยางโชวมองกงเฉิงซี แล้วถามว่า “เจ้ามีข่าวเกี่ยวกับตี่เฉินหรือไม่?” โอหยางโชวได้สั่งให้กงเฉิงซีให้ความสนใจกับตี่เฉิน ก่อนที่เขาจะเข้าไปในเมืองจักรพรรดิเหลือง

กงเฉิงซีส่ายหัว แล้วกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า “จนถึงตอนนี้ พวกเรารู้เพียงแค่ว่า พวกเขาตั้งค่ายอยู่ทางตะวันออกของเมือง สำหรับคนที่เข้าร่วมกับพวกเขา เรายังไม่ทราบในขณะนี้ เนื่องจากเราไม่สามารถส่งข้อความได้ แม้ว่าบางคนต้องการจะเปิดเผยข่าว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก”

โอหยางโชวพยักหน้า ดูเหมือนว่าตี่เฉินจะมีคนที่มีความสามารถอยู่ข้างๆเขา พวกเขาหลีกเลี่ยงด้านเหนือและด้านใต้ของเมือง และตั้งค่ายอยู่ทางตะวันออก ตรงข้ามกับค่ายของโอหยางโชว พวกเขายังทำงานได้ดี ทำให้เก็บความลับไว้ได้ โดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้

โอหยางโชวกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเราคงต้องส่งทหารหน่วยข่าวกรองออกไปสำรวจ ถ้ายังไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไร ข้าก็ยังไม่สบายใจ ในทางกลับกัน เราต้องลาดตระเวณค่ายของเราอย่างดีที่สุด และห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกแทรกซึมเข้ามาได้แย่างเด็ดขาด”

“ถูกต้อง” กงเฉิงซีพยักหน้าตกลง

“ค่ายได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เราจะเริ่มแยกกันไปทำหน้าที่ จากข่าวที่ข้าได้รับมาในวันนี้ สงครามจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ทุกคนสามารถทำเควสต่างๆได้ มันอาจจะให้ผลที่น่าตกใจเลยล่ะ”

“หวู่ยี่ ท่านได้รับรางวัลมาบ้างแล้วใช่หรือไม่?” ไป๋ฮัวถามซอกแซก

ไป๋ฮัวเป็นคนที่มีความรู้สึกเฉียบคมมากที่สุด โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวออกมาว่า “ก็แค่ของขวัญเล็กๆน้อยๆ”

“อ๊า เรายุ่งอยู่ในค่าย แต่พี่ชายกลับไปทำเควส ลำเอียง!” มู่หลานเยว่บุ้ยปาก

“อะแฮ่ม!อะแฮ่ม!” โอหยางโชวไม่รู้จะกล่าวอย่างไรกับความไร้เดียงสาของเธอ “แรงจูงใจหลักของข้าคือการสร้างความสัมพันธ์กับ NPC สำหรับรางวัลที่ข้าได้รับมานี้ มันเป็นสิ่งที่ข้าไม่คาดคิดเช่นกัน”

มู่หลานเยว่กล่าวออกมาอย่างไม่เป็นทางการ และไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก “พี่หวู่ยี่ พรุ่งนี้พี่พาข้าได้ด้วยได้หรือไม่? อยู่แต่ในค่ายมันน่าเบื่อ”

“แน่นอน!” โอหยางโชวพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“เย้!” มู่หลานเยว่มีความสุข ราวกับเธอเป็นสุนัขจิ้งจอกน้อยที่ได้รับชัยชนะ

โอหยางโชวฝืนยิ้ม และส่ายหัว หลังจบการประชุม ทุกคนก็กลับไปที่เต็นท์ของตัวเอง และเตรียมพร้อมที่จะออฟไลน์

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด