ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 62: เฮดลี่คาว (1)

[KotB] บทที่ 61: เมอร์ดูดัน กษัตริย์แห่งเมอร์รอค (จบ)


บทที่ 61: เมอร์ดูดัน กษัตริย์แห่งเมอร์รอค (จบ)

<ท่านได้เข้าสู่ดันเจี้ยนกษัตริย์แห่งเมอร์ดูดัน>

โครงสร้างภายในถูกปรับปรุงให้กว้าง และสูงขึ้น

แต่กลิ่นเหม็นคาวที่โชยออกมาจากทุกซอกทุกมุมภายในห้อง ทำให้ทุกคนที่เข้ามาต้องปิดจมูก

“เพื่อไม่ให้เสียเวลา”

เขาสำรวจเส้นทางก่อนเป็นอันดับแรก

อันเดธทั้งหมดถูกเรียกขึ้นมาทันที

ดาร์คกูลและเหล่าผู้ล้างแค้น, พลทหารหอกเพลิง, นักเวทย์สายฟ้า, นักรบสุริยันต์อันธการ และแม้กระทั่งไฮเดกเกอร์!

“ตรวจดูรอบๆช่วยกันสำรวจเส้นทาง”

เมื่อมองไปที่อันเดธและมูยอง ดวงตาของบาลตันกับไอรีนก็ต้องเบิกกว้าง

ไฮเดกเกอร์เป็นอันเดธ ?

แม้ว่าไฮเดกเกอร์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในหมู่มนุษย์ผู้มีพลังแข็งแกร่ง แต่พลังพิเศษในการฟื้นฟูร่างกายทำให้มันเป็นคู่ต่อสู้ที่ต่อกรด้วยยากมาก

และถ้าเขาเป็นอันเดธ นั่นหมายความว่าเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นการอัญเชิญเช่นนี้

ทั้งสองไม่สามารถช่วยได้ แต่ทักษะแบบนี้มีเพียงมอนสเตอร์ระดับสูงอย่างลิซเท่านั้นที่มีมัน

แค่ลิซตัวเดียวก็สามารถทำลายเมืองขนาดกลางได้ทั้งเมือง

ต้องใช้พาราดินระดับหัวกะทิจำนวน 50-100 คนที่ได้รับพรแห่งแสงถึงจะพอปราบลิซตัวหนึ่งได้

อย่างไรก็ตามกองทัพดังกล่าวมีเพียงเมืองศักดิ์สิทธิ์มูลาลันเมืองเดียวเท่านั้น

การปรากฏตัวของลิซเพียงพอที่จะทำให้องค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลายหวาดวิตกได้

"เขาดูไม่เหมือนลิซ ? "

ชายคนที่พึ่งปรากฎตัวได้เพียงวันเดียว

เขาเป็นโดเกบิ ผมสีขาวและเขาบนหัวที่เป็นสัญลักษณ์ของราชาโดเกบิ

พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าโดเกบิสามารถกลายเป็นลิซได้

เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าที่ลิซจะช่วยมนุษย์และกลายเป็นเจ้านายของพวกเขา

"รีบตามฉันมาได้แล้ว"

มูยองหันหน้าไปพูดกับสองคนที่ยังคงติดอยู่ในภวังค์

พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะใจลอยขนาดนี้

แม้ว่าทั้งสองจะติดตามเขามาที่นี่เพื่อประสบการณ์และความแข็งแกร่ง แต่เหตุผลที่มากกว่านั้นคืออยากรู้ว่าลอร์ดของพวกเขาเป็นคนแบบไหน

และตอนนี้ตัวตนของมูยองยิ่งห่างไกลมากขึ้น

มูยองกำลังรอพวกเขาอยู่ใช่ไหม?

ดวงตาของมูยองฉายความอมหิต เป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายว่าไม่ควรทำให้เขารำคาญ

พวกเขาคิดว่ามูยองจะเต็มไปด้วยความเย็นชา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่คาดคิดว่ามูยองจะพูดคุยและยืนรอพวกเขาอยู่

" ขออภัยด้วย"

"พวกเราจะรีบตามท่านให้ทัน"

บาลตันและไอรีนตื่นขึ้นมาจากความคิดของพวกเขาและรีบเร่งฝีเท้า

แล้วมูยองก็เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อ

ในชั้นแรกไม่ค่อยมีอะไรมาก

มีแค่เมอร์รอคที่รูปร่างเหมือนกบและกับดักต่างๆที่พวกมันทำขึ้น

ภายในวันเดียวกันพวกเขาก็เดินขึ้นไปยังชั้นที่ 2

แม้ว่าดันเจี้ยนนี้จะมีอาณาเขตกว้างขวาง แต่เนื่องจากอันเดธได้แยกกันออกไปค้นหาเส้นทาง ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางได้อย่างไม่ยากลำบาก

“วันนี้เราจะพักกันที่นี่”

ชั้นที่ 2

นี่คืออาณาเขตของพวกเมอร์รอคจอมเลื้อย

เมอร์รอคจอมเลื้อยเป็นกบยักษ์ขนาด 3 เมตร พวกมันสามารถพ่นหมอกพิษออกจากปากได้

พิษที่ว่ามีผลทำให้เหยื่อของมันเป็นอัมพาต แต่มันไม่มีผลอะไรต่อเหล่าอันเดธ

มูยองหาที่สำหรับพักผ่อนได้อย่างไม่ยากเย็น

"โอ้โหท่านมีค่าความอึดที่น่าทึ่งจริงๆ"

บาลตันตามมาอย่างเงียบๆ

มีเพียงไอรีนเท่านั้นที่พยายามพูดคุยกับมูยอง

เธอสนใจมูยองเป็นพิเศษ

เธอมักชื่นชมในทุกการกระทำของเขา และไม่ได้พยายามซ่อนความตื่นเต้นของตัวเองไว้เลย

การกระทำของเธอเหมือนจะหวังได้ใกล้ชิดกับมูยองแม้เพียงสักนิดก็ยังดี แต่น่าเสียดายที่มูยองไม่ได้คิดเช่นเดียวกับเธอ

มูยองนั่งลง และเรียกยันต์ออกมา

"ดื่มมันซะ"

หมับ!

ไอรีนรับไอเทมเวทย์ที่สามารถผลิตน้ำดื่่มได้ที่มูยองปามาให้

“อาาา !” รู้สึกดีจังเลย สมกับเป็นน้ำจากท่านลอร์ด "

จากนั้นเธอก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อของตัวเอง

เธอพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อให้ดูน่าหลงใหล แต่มูยองไม่ได้สนใจเธอแต่อย่างใด

มีเพียงบาลตันเท่านั้นที่กำลังมองอยู่ ไอรีนกำหมัดของเธอแน่นราวกับจะพูดกับบาลตันว่า 'นายมองหาอะไรอยู่ไม่ทราบ'

บาลตันไอกลบเกลื่อนและเบือนหน้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าสัญลักษณ์สามารถเปลี่ยนเป็นดันเจี้ยนได้ น่าทึ่งจริงๆ”

"บางทีมันก็เกิดขึ้นได้"

"คะ ค่ะ ?"

มูยองที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยขึ้น

ไอรีนได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจ

เธอเพียงพูดลอยๆ โดยไม่หวังว่าจะได้คำตอบ

“เมืองลอยน้ำ อาณาเขตหน้าผาแห่งความสิ้นสุด หมู่บ้านแห่งรุ่งอรุณ สัญลักษณ์พวกนั้นต่างก็เปลี่ยนไปเป็นดันเจี้ยนด้วยตัวของพวกมันเอง”

“มีสถานที่แบบนั้นจริงๆเหรอ?”

เธอทำราวกับว่าได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก

เปลือกตาของมูยองขยับเล็กน้อย

"นานแค่ไหนแล้วที่ท่านได้มาถึงอันเดอร์เวิลด์นี้?"

“8 เดือน”

“ไฮเดกเกอร์คงไม่ได้ลักพาตัวท่านมาจากเกรทซิตี้ แสดงว่าท่านถูกลักพาตัวตั้งแต่เข้ามาสู่โลกนี้ใน 8 เดือนแรก?”

ไฮเดกเกอร์มักจะลักพาตัวคนจากเมืองที่ห่างไกล

พวกเขาอาจถูกลักพาตัวไปในที่ๆไม่มีคนแข็งแกร่ง

เช่นไอรีนที่ดูอ่อนแอ

พวกเขาคิดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ในอันเดอร์เวิลด์ ก่อนจะย้ายไปสู่เมืองอื่นแต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น

“ฉันค่อนข้างเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย จนกระทั่งทุกอย่างจบแบบนี้”

ไหล่ของไอรีนห้อยลง

ถ้าเป็นเวลาแค่ 8 เดือนเป็นไปไม่ได้ที่เธอไม่รู้จักเมืองที่มูยองกล่าวถึง

แต่มันดูไม่ใช่สถานที่ทั่วไป

มันเหมือนกับหมู่บ้านที่มีคนรู้จักเพียงบางคนเท่านั้น

"อืมท่านลอร์ด ท่านรู้จักสถานที่พวกนั้นได้ยังไง? "

ไอรีนรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ

มันเหมือนกับว่าเขาเป็นมนุษย์

แม้เธอจะถามเขา แต่มูยองกลับเงียบ

เขากลับเข้าสู่โหมดเดิมเหมือนก่อนหน้านี้

แต่แววตาของไอรีนเริ่มมีความตื่นเต้นมากขึ้น

เขาตอบมาแล้วหนึ่งครั้ง นั่นหมายความว่าเขามีความสนใจเช่นกัน

วันนี้ก็เช่นเคย

ถ้าพวกเขาไม่พัก พวกเขาจะสามารถไปที่ชั้นสามได้

เธอมีความรู้สึกด้านบวกยิ่งขึ้น จากการที่เขาหาสถานที่พักและน้ำดื่มให้ เนื่องจากพวกเขาเกือบจะตายจากการขาดน้ำ

เขาพยายามแสดงเป็นคนไม่ดีหรือไม่ หรือจริงๆแล้วเขามีความตั้งใจบางอย่าง

ไอรีนคิดว่าแม้เขาจะมีสายตาที่เย็นชา และทัศนคติหลายอย่างที่ต่างกัน แต่เธอก็เชื่อว่าเขาไม่ใช่คนเลวจริงๆ

“เหวอ !”

ชั้นที่สี่

พิษรุนแรงปะทุออกจากปากของเมอร์รอคสายหมอก มันกระจายไปทั่วพื้นดินและซึมซาบสู่เท้าของบาลตัน

ด้วยความรุนแรงของพิษที่ไม่เป็นรองใคร สามารถทำให้ผิวหนัง และอวัยวะเน่าเปื่อยได้ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว

พิษสีดำเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด และเริ่มละลายเนื้อของเขา

"นาย นายเป็นงบ้าง?"

ไอรีนย่อตัวลงพยายามจะสกัดสารพิษออก

และในขณะนั้น.

"หยุด!"

มูยองสังหารเมอร์รอคสายหมอกที่ซ่อนตัวอยู่ด้วยดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว

ฉั๊วะ!!!!

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็ตัดขาของบาลตันออก

“อ๊ากกก”

บาลตันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ไอรีนขมวดคิ้วแล้วหันไปทางมูยอง

"ดะ เดี๋ยว! เราอาจถอนพิษได้! ทำไมท่าน…!"

"เธอคิดว่ามีเวลามากขนาดนั้นเหรอ"

มูยองหันไปรอบๆ และเดินออกไปช้าๆ

อาา!

เขาพูดถูก เราไม่มีเวลามากขนาดจะทำอย่างนั้น

ไอรีนรีบเอาเศษผ้าพันรอบขาของบาลตันไว้อย่างแน่นหนา

มีแค่ไอรีนเท่านั้ที่ช่วยเหลือบาลตันอยู่

แม้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่รัก แต่ก็สนิทสนมกันดี เธอไม่สามารถสูญเสียเพื่อนของเธอได้ในสถานการณ์เช่นนี้

“ไอรีน... .”

"ทำไงดี? นายมีเลือดออกมากเกินไป "

"เธอตามท่านลอร์ดไปเถอะ"

"เงียบเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่ฉันจะปิดปากนาย! "

ขณะที่ผ้าพันแผลไม่เพียงพอ ไอรีนถอดเสื้อคลุมออกและใช้มันห่อหุ้มรอบขาของเขา

และเธอค่อยๆใช้ผ้าที่เหลือปิดปากของบาลตัน

“อุกกก อุอ อุ!”

“เราจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้ อดทนหน่อยนะ”

ไอรีนแบกบาลตันขึ้นไว้ที่หลัง

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมูยองไม่ได้ชะลอฝีเท้าของเขาลงเลย

'คนอะไรเลือดเย็นชะมัด '

ตอนแรกเธอคิดว่าเขาแค่แสดงออกว่าเป็นคนไม่ดีเท่านั้น

แต่นั่นไม่ใช่กรณีนี้

เขาใจร้ายมาก

ดูจากสิ่งที่เขาทำ ไม่แม้แต่เสียเวลาสกัดพิษออกและหั่นขาของบาลตันออกทันทีโดยไม่ลังเล เขาคงไม่ต่างจากคนอื่นๆที่อาศัยอยู่ในอันเดอร์เวิลด์

จริงๆไอรีนรู้อยู่แล้วว่า คนที่เรียกตัวเองว่าแข็งแกร่งบางครั้งก็โหดร้ายด้วยเช่นกัน

พวกเขามองแค่คนที่มีประโยชน์เท่านั้น

สำหรับคนที่เป็นตัวถ่วง? พวกเขาจะโยนมันทิ้งไว้ข้างทาง

เธอไม่อยากเป็นคนแบบนั้น  ดังนั้นเธอจะไม่ทิ้งบาลตันไว้ข้างหลังเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง มีแต่มูยองเท่านั้นที่รู้ทางออก

ไอรีนกัดฟัน และเดินตามหลังมูยองไป

การเต้นหัวใจของบาลตันอ่อนแรงลงทุกขณะ

ร่างกายของเขาเริ่มเย็นลง ไอรีนรู้ได้โดยสัญชาตญานว่าเขาคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

หากเป็นคนปกติธรรมดาคงตายไปแล้ว ที่เขาสามารถทนได้ถึงเพียงนี้ เพราะเขาเคยถูกส่งตัวไปยังอันเดอร์เวิลด์เพื่อฝึกฝนร่างกายมาก่อน

“แฮ่ก แฮ่ก เฮ่ก”

ถ้าเธอไม่สามารถตามเขาทัน  นั่นหมายถึงว่าทุกอย่างต้องจบลง ไอรีนเริ่มหมดหวัง

ราวกับร่างกายถูกไฟเผา กล้ามเนื้อของเธอเริ่มอ่อนล้า แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดเคลื่อนไหวได้

มูยองทำลายฝูงเมอร์รอคลงอย่างรวดเร็วราวกับพายุใต้ฝุ่น เขากวาดล้างพวกมันโดยไม่เสียการเคลื่อนไหวสักนิด

และโดยไม่รู้ตัวตอนนี้พวกเขาอยู่บนชั้นที่เจ็ดแล้ว

พวกเขาเดินทางโดยไม่ได้พักตั้งแต่ชั้นที่สี่

โดยปกติแล้วพวกเขาจะต้องกลับไปที่หมู่บ้านและใช้เวลาในการเตรียมตัวใหม่

อย่างไรก็ตามมูยองคิดว่าไม่จำเป็นถ้าเขาสามารถเคลียร์มันได้ภายในครั้งเดียว

'นี่เป็นชั้นสุดท้าย'

ชนิดสุดท้ายที่เจอคือเมอร์รอคจอมเขมือบ หลังจากฆ่าพวกมันหมดเขาก็ไม่เจอเมอร์รอคที่แข็งแกร่งกว่านี้อีก ดังนั้นชั้นต่อไปจะต้องเป็นชั้นสุดท้าย

ตั้งแต่แรกเมอร์รอคไม่ใช่มอนสเตอร์ที่เก่งอะไรมาก

มันคงเป็นผลเสียมากกว่า หากเขาจะใช้ศิลปะแห่งความตายกับมัน

พวกมันล้มยากเพราะเป็นมอนสเตอร์ที่ใช่พิษ แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับมูยอง

พิษส่วนใหญ่จะถูกดูดซับทันทีโดยเหล่าวิญาณจากเส้นทางของอาชูร่า

และร่างกายของมูยองเองก็มีความต้านทานต่อพิษสูงอยู่แล้ว

วัตถุดิบทั้งหมดที่โอการ์ใช้ในการบังคับให้เขาผ่านการเปลี่ยนแปลงเป็นพิษที่รุนแรงกว่านี้หลายเท่าตัว

สำหรับเมอร์รอคแล้ว มูยองจึงเป็นศัตรูตามธรรมชาติของพวกมัน

หากใครสามารถหลบพิษของพวกมันได้ เมอร์รอคก็ไม่ต่างอะไรกับกบยักษ์ธรรมดาตัวหนึ่ง

และเมื่อเขาเข้าประตูสู่ชั้นถัดไป ก็มีข้อความเล็กๆปรากฎขึ้น

<เมอร์รอคหัวหน้าได้ปรากฏตัวแล้ว>

เพียงประโยคเดียว

อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์ตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นด้วยความอลังการ

ตรึมมมมมมมม!

เมื่อรูปปั้นเมอร์รอคสูง 10 เมตรพังลง เมอร์รอคหัวหน้าก็ก้าวออกมา

มันแข็งแกร่งกว่าเมอร์รอคทุกตัวที่เขาสังหารมาจนถึงตอนนี้

อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของมันดูงุ่มง่ามมาก

มูยองแสยะยิ้ม

มันคงไม่คิดว่า คู่ต่อสู้ของมันจะเข้ามาถึงชั้นนี้อย่างรวดเร็ว

สำหรับมูยองนี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะนั่นหมายความว่าเขาสามารถจบเรื่องนี้ได้เร็วขึ้น

ในไม่ช้า หมอกพิษรุนแรงเริ่มแผ่กระจายไปรอบตัวเขา  เขาสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของพวกอันเดธเริ่มเชื่องช้าลง

'เงาวิญญาณพิษ'

มูยองปล่อยวิญญาณทั้งหมด 33 ดวง

เป็นวิญญาณที่บ้าคลั่งจากเส้นทางอาชูรา!

หูวววว กรี๊ดดดดดฮฮ ฮิฮิฮิ!

ทันทีที่วิญญาณเริ่มคลั่ง ดวงตาของมูยองก็กลายเป็นสีแดง

พวกวิญญาณพูดด้วยเสียงกระซิบกระซาบ

เฉือนเนื้อของพวกมัน ดื่มกินเลือดของพวกมัน!!!

ฉีกศัตรูออกเป็นชิ้นๆ!

“ฆ่า”

มูยองพุ่งไปข้างหน้าและพูดเพียงคำเดียวเท่านั้น

แซ่ด แซ่ด แซ่ด !

มูยองพุ่งทะลุหมอกพิษไปพร้อมกับเหล่าอันเดธ

ราวกับสายฟ้าแลบ

เขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความต้องการภายใต้จิตสำนึกของตัวเอง

แม้จะเป็นฉากที่น่าหวั่นเกรง แต่ทุกสิ่งรวมถึงมูยองต่างถูกห้อมล้อมไปด้วยความปรารถนาแห่งการทำลายล้าง

* * * *

โครมมมม!

เมอร์รอคหัวหน้าล้มลง

ถึงร่างกายของมันถูกหั่นเป็นชิ้นๆและพบกับจุดจบที่น่าสงสาร

แต่มูยองเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบรูณ์แบบเช่นกัน

แคร่กก! ฉึบ!

เขาดันกระดูกข้อเท้าที่หลุดให้เข้าที่ ตัดแผลที่เหวอะแหวะออกและห้ามเลือดตัวเอง

“…”

ไอรีนเงียบขณะที่จ้องไปที่มูยอง

เธอคงไม่มีวันลืมการต่อสู้ที่เธอเห็นเมื่อกี้

เขาพุ่งไปข้างหน้าและคิดเพียงการโจมตี

มันเป็นบางสิ่งที่ผู้ซึ่งไม่สนใจชีวิตตัวเองเท่านั้นจะสามารถทำได้ และมันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ถึงแม้เธอจะเคยเห็นความแข็งแกร่งของบางคนมาก่อน แต่เธอไม่เคยเห็นใครมีพลังทำลายล้างเท่ามูยอง

ซ่าาา ซาาา

ในไม่ช้าหมอกพิษก็ค่อยๆกระจายหายไป และหินอาณาเขตก็ผุดขึ้นจากตรงกลางพื้น

มูยองเดินไปช้าๆที่หินอาณาเขต

และช่วงเวลาที่เขาวางมือลงบนนั้น

<คุณได้พบที่เก็บชิ้นส่วนของกษัตริย์เมอร์ดูดัน>

ครืนนนน!

หลังหินอาณาเขต มีประตูบานใหญ่ปรากฏขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด