ตอนที่แล้วบทที่ 14 โรงเรียน (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 ผู้อำนวยการซูตัวจริงเสียงจริง (อ่านฟรี)

บทที่ 15 ร้านนั่งเล่นสำหรับรับชมวิดีโอ (อ่านฟรี)


 

ในยุคสมัยนี้ การอยู่แต่ในหอพักเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออย่างยิ่ง ไม่มีทั้งโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ไม่มีแม้กระทั่งโทรทัศน์ นอกจากการไปโรงเรียนแล้ว ก็มีเพียงการแอบเล่นไพ่โป๊กเกอร์ในหอพักของพวกเขา

 

นับตั้งแต่ที่เพื่อนร่วมชั้นบอกพวกเขาว่ามีร้านนั่งเล่นสำหรับรับชมวิดีโออยู่ใกล้ๆโรงเรียน การไปดูภาพยนต์ในร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอจึงกลายเป็นงานอดิเรกที่พวกเขาชื่นชอบในสมัยนั้น

 

มีโรงภาพยนตร์เก่าแก่ภายในหมู่บ้านของเฝิงหยู่ แต่จะเปิดทำการในช่วงเทศกาลสำคัญเท่านั้น และจะฉายละครพื้นบ้านซึ่งไม่เป็นที่นิยมนิยมนัก แต่ โรงภาพยนตร์กลับกลายเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เป็นศาลากลางสำหรับการประชุมและอื่นๆอีกมาก

เฝิงหยู่เคยไปดูภาพยนตร์หลายเรื่องที่โรงภาพยนตร์ด้วยกันกับอาจารย์มาก่อน แต่ล้วนเป็นการจัดการโดยโรงเรียนของเขา เขายังจดจำบทความคลาสสิกบรรทัดหนึ่งจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งได้ กล่าวคือ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อที่คุณจะสามารถเดินทางรอบโลกได้โดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว!

 

หากใครต้องการดูภาพยนตร์จริงๆ ร้านนั่งเล่นชมวิดีโอจะเป็นสถานที่ที่สมควรไป ที่นั่นมีทีวีสีขนาด 17 นิ้ว และมีที่นั่ง 3-4 แถว ราคาตั๋วเข้าชมประมาณ 10 เฟิน* สำหรับการเข้าชมภาพยนตร์สองเรื่องในเวลาสามชั่วโมง

เฝิงหยู่และเพื่อนร่วมชั้นของเขาเคยมาที่ร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอนี้หลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ฟาร์มยุ่งกับการเก็บเกี่ยวแล้วพวกเขาไม่ได้กลับบ้าน.. ทุกคนต่างสนับสนุนข้อเสนอแนะของเหวินตงจุน เป็นเพราะเพิ่งจะเปิดภาคเรียน ทุกคนจึงยังพอมีเงินติดตัวอยู่บ้าง

 

God of Gambles คนตัดคน

 

พอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของทุกคน เฝิงหยู่จึงตัดสินใจที่จะตามไปด้วย ยุคสมัยนี้เป็นยุคของภาพยนตร์เกี่ยวกับอาชญากรรมและภาพยนตร์แอ็คชั่นสัญชาติฮ่องกง ซึ่งแน่นอนว่า ภาพยนตร์เรื่อง คนตัดคน เพิ่งจะได้รับความนิยม

ภาพยนตร์คลาสสิกสัญชาติฮ่องกงหลายต่อหลายเรื่องแทบจะไม่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตในสมัยปัจจุบัน แต่ในยุคสมัยนี้ แทบจะสามารถรับชมเรื่องใดก็ได้ในร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอนี้

ภายในร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอ ภาพยนตร์เกือบจะ80% หรือมากกว่านั้นล้วนเป็นภาพยนตร์สัญชาติฮ่องกง ส่วนที่เหลือ จะเป็นภาพยนตร์สัญชาติยุโรป อเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภาพยนตร์จากประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์ท้องถิ่นอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งไม่มีผู้ใดรับชม

ร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอจะฉายภาพยนตร์ 3 เรื่องในตอนกลางวัน และ 2 เรื่องในตอนกลางคืน ภาพยนตร์ที่จัดฉายในเวลากลางคืนไม่เหมาะสำหรับเด็ก

A Better tomorrow โหด เลว ดี

 

นี่ไม่ใช่แหล่งรายได้ที่สร้างกำไรมากที่สุดให้กับร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอ การเช่าเทปวิดีโอต่างหากที่ทำกำไรมากที่สุด ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บางครัวเรือนจึงมีเครื่องเล่นเทปวิดีโอเป็นของตัวเอง มีคนน้อยที่เลือกซื้อเทปวิดีโอ เพราะหลังจากที่ดูวิดีโอเทปนั้นเพียงครั้งเดียว เทปวิดีโอนั้นจะไม่มีประโยชน์ใดใดอีก ดังนั้น การเช่าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

เมื่อเฝิงหยู่และสหายเดินเข้ามาในร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องที่สามกำลังจะฉายพอดี คือเรื่อง " โหด เลว ดี" ซึ่งเป็นภาพยนตร์คลาสสิกสัญชาติฮ่องกง

Dragon Tiger Gate ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ

 

หลังจากจ่ายเงินซื้อตั๋วแล้ว ทุกคนรีบวิ่งเร็วรี่ไปนั่งแถวหน้าที่อยู่ใกล้กับทีวีมากกว่า ทำให้พวกเขาสามารถรับชมวิดีโอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนเจ้าของร้านนั่งอ่านการ์ตูนเรื่อง "ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ" อยู่ที่ประตู เพราะภาพยนตร์เหล่านี้เจ้าของเคยดูมาแล้วอย่างน้อยเป็นสิบๆครั้ง เขาจึงไม่สนใจที่จะรับชมอีก

เฝิงหยู่ซื้อเมล็ดแตงโมราคา 5 เฟิน นำมาแบ่งกินกับคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าเขาเคยดูหนังเรื่องนี้หลายครั้งแล้วก็ตาม แต่เขายังสนุกกับการรับชมมันอีกครั้ง

ประตูร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอถูกเปิดออก มีสายลมเย็นๆพัดเข้ามาในห้อง เฝิงหยู่ชายตามองเด็กวัยรุ่นอายุ17-18ปีสามคนเดินเข้ามาในห้อง

“เชี่ย เปิดเทอมวันแรก ต้องมาทำความสะอาด ข้าไม่ทำหรอกโว้ย ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นทำกันเองไปเหอะ!”

"ฮ่าๆๆ เดี๋ยวคืนนี้เรามาดื่มไวน์กันสักสองขวด"

"คืนนี้? เราจะออกไปข้างนอกหาอะไรยัดใส่ปากสักพัก แล้วมาดูภาพยนตร์ตอนกลางคืน ภาพยนตร์ที่ฉายตอนกลางคืนแหล่มกว่านี้อีกวะ "

ทั้งสามคนพูดคุยกันในขณะที่กำลังจ่ายเงิน เจ้าของร้านนั่งเล่นสำหรับชมวิดีโอฉีกตั๋วเข้าดูขนาด 1 เซ็นที่ทำขึ้นมาเอง พร้อมกับจับเวลาในการเข้าชม ก่อนจะปล่อยให้พวกเขาเหล่นั้นเข้าไป

"เฮ้ พวกนายนะ ไปนั่งแถวหลัง!" วัยรุ่นหนึ่งในสามคนนั้นตะโกนออกมา

เหวินตงจุนเงยหน้าขึ้นมองคนเหล่านั้นด้วยท่าทางที่ไม่สนใจ พวกเขามาก่อนแล้วทำไมพวกเขาจะต้องไปแถวหลัง

"เชี่ย ข้ากำลังพูดกับเอ็งนะโว้ย ไอ้เวร! หูหนวกกันหมดหรือไง? "

เหวินตงจุนลุกขึ้นยืนทันที "พวกเรามาก่อน ทำไมพวกเราต้องยอมย้ายที่นั่ง?  พวกนายเลือกจะไปนั่งข้างหลังหรือจะไปนั่งที่ไหนก็ไป! "

“ห๊า? เอ็งกล้าข้ากับข้าอย่างนี้ได้ยังไงหะ? คันไม้คันมืออยากจะมีเรื่องหรือไง?”

เจ้าของร้านพูดไล่เกลี่ยสถานการณ์ "อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ เงียบ แล้วก็ดูวิดีโอ หรืออยากจะโดนเตะออกไป "

ในยุคสมัยนี้ คนที่เปิดร้านนั่งเล่นรับชมวิดีโอล้วนเป็นพวกอันธพาล มิเช่นนั้น หากมีผู้ใดที่มาสร้างปัญหา พวกเขาคงไม่สามารถขับไล่ตัวปัญหาออกไปได้

"พี่หวาง อย่ามาห้ามผม ผมสะสั่งสอนไอ้เวรพวกนี้สักหน่อย! "

"ถ้าเอ็งอยากตีกัน ก็ออกไปตีกันข้างนอก ถ้าพวกเอ็งตีกันในร้านแล้วทำข้าวของเสียหายข้าจ่ายไม่ไหว " พี่หวางเป็นหัวหน้าร้านนั่งเล่นชมวิดีโอ เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักวัยรุ่นสามคนนี้ และไม่อยากมีปัญหาด้วย

เฝิงหยู่มองดูเหตุการณ์ เฮ่ย  ถ้าจะตีกันจริงๆพวกเขาคงเสียเปรียบ แม้ว่าพวกเขาจะมีกันเจ็ดคน วัยรุ่นสามคนนี้อายุมากกว่า ร่างกายก็สูงใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าพวกเขามาก เรื่องคงจบไม่สวย แต่ถ้าพวกตนยอมอ่อนข้อให้กับวัยรุ่นทั้งสามคนนี้ ใครจะรู้ว่าวัยรุ่นพวกนี้จะมารังแกพวกเขาอย่างไร

เฝิงหยู่พิจารณาอายุของวัยรุ่นกลุ่มนี้และคิดถึงเรื่องที่พวกเขาพูดกันก่อนหน้านี้ เขามั่นใจได้ว่าวัยรุ่นสามคนนี้ยังไม่ได้ทำงาน และน่าจะยังเรียนโรงเรียนอาชีวศึกษาของฟาร์ม!

เฝิงหยู่คิดหาวิธีในการรับมือกับทั้งสามคน

“ลุงของชั้นคือผู้อำนวยการซูของสำนักงานอาชีวศึกษา พวกนายสามคนมาจากโรงเรียนอาชีวศึกษาใช่ไหมวะ?” เฝิงหยู่ยืนขึ้นและพูดด้วยท่าทีแบบเดียวกับตัวเอกที่ตะโกน " My Dad is Li Gang* " ของนิยายเกี่ยวกับวีรชนในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา

"ผู้อำนวยการซู? ผู้อำนวยการซูคนไหน? " ชายวัยรุ่นคนหนึ่งถามขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขากลัวเล็กน้อย เขาไม่แน่ใจด้วยว่าว่าเด็กผู้ชายคนนี้กำลังข่มขู่เขาหรือเปล่า

“ซูเหลียงลู่ ผู้อำนวยการซู ที่โรงเรียนอาชีวศึกษาของพวกเอ็งมีผู้อำนวยการซูสักกี่คนเชียว?” เฝิงหยู่ถาม

"ขอโทษ พวกเราไม่รู้ว่านายคือหลานชายของผู้อำนวยการซู คนเหล่านี้เป็นเพื่อนร่วมห้องของนายทั้งหมดหรือ? มันเป็นความเข้าใจผิด พวกเราเป็นแค่ล้อเล่น พี่หวาง ขอโซดาให้พวกเรา 10 ขวด "

โซดาถูกยกมาเสริฟและชายวัยรุ่นทั้งสามคนมอบโซดาให้แก่เฟิงหยู่และเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนละขวด แล้ววัยรุ่นสามคนก็ไปนั่งข้างหลังอย่างเงียบ ๆ

ผู้อำนวยการซูจะย้ายไปเป็นอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนมัธยมฟาร์มในอีกสองปีหลังจากนี้ ดังนั้น เฝิงหยู่จึงรู้จักเขา ในยุคสมัยนี้ ค่าเล่าเรียนของโรงเรียนอาชีวศึกษาไม่ได้ราคาถูกนัก และผู้อำนวยการสำนักวิชาการมีอำนาจไล่นักเรียนออก

ถ้าทั้งวัยรุ่นทั้งสามคนมีเรื่องชกต่อยกับหลานชายของผู้อำนวยการสำนักงาน แม้ว่าจะไม่ถูกไล่ออก แต่พวกเขาจะถูกคาดโทษด้วยคะแนนทำความผิด  ถ้าพวกเขามีคะแนนความผิดติดตัว พวกเขาจะสูญเสียโอกาสที่จะทำงานที่ฟาร์มหลังจากสำเร็จการศึกษา

เพื่อนคนอื่นๆไม่ได้สนิทกับเฝิงหยู่สักเทาไหร่ แต่เหวินตงจุนรู้ดี มันเป็นเรื่องแหกตา! แต่มันก็เป็นวิธีที่ดีที่จะข่มขวัญชายวัยรุ่นเหล่านี้ แถมพวกนั้นยังเลี้ยงโซดาพวกเขาคนละขวด

หลังจากดูหนังทั้งสองเรื่องจบแล้ว พวกของเฝิงหยู่ลุกขึ้นยืนและเตรียมพร้อมที่จะกลับไปโรงเรียน ทุกคนควรจะกลับเข้าหอพักได้แล้ว พอกลับไปที่หอพักจะได้เล่นไพ่โป๊กเกอร์กันต่อ หรือนั่งโม้พูดคุยเรื่องน่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดฤดูหนาว

"น้องชาย จะกลับแล้วหรือ? คืนนี้ไปดื่มต่อที่บาร์กันหน่อยไหม แล้วค่อยกลับมาดูวิดีโอที่นี่ต่อ พี่เลี้ยงเอง วิดีโอที่ฉายตอนกลางคืนมันสุดสะเด่วกว่านี้อีก" วัยรุ่นคนหนึ่งกล่าว

"ไม่ละ พวกเราต้องกลับโรงเรียน ครูจะมาตรวจสอบหอพักตอนเย็น " เฝิงหยู่ตอบ

แม้ว่าเฝิงหยู่จะสนใจดูวิดีโอที่ฉายในเวลากลางคืน แต่เขาจะไม่ดูตอนที่ยังอายุแค่นี้หรอก นอกจากนี้ ยังต้องไปดูกับวัยรุ่นพวกนี้อีก แต่ดูเหมือนเหวินตงจุนถูกข้อเสนอนี้ล่อลวงเสียแล้ว เด็กผู้ชายที่อายุเท่ากับพวกเขาต่างก็มีความสนใจกับวิดีโออย่างว่านี้ แต่พวกเขาไม่มีโอกาสได้ดู

"เสี่ยวหยู่ อยู่ต่อเลยได้ไหม อยากดู" เหวินตงจุนอ้อนวอน

เฝิงหยู่รีบส่ายหัวทันที่ และกระซิบที่ข้างหูของเขาว่า "รีบไปเดี๋ยวนี้เลย ในตอนกลางคืนจะมีนักเรียนหลายคนจากโรงเรียนอาชีวศึกษา และพวกนั้นจะจับได้ง่ายๆว่าพวกเราโกหก พวกนั้นฆ่าเราแน่ "

เหวินตงจุนกลับไปพร้อมเฝิงหยู่อย่างไม่เต็มใจกับ  แต่ระหว่างทางกลับโรงเรียน  เหวินตงจุนยังขอร้องอ้อนวินเฝิงหยู่ให้ไปที่ห้องนั่งเล่นรับชมวิดีโอที่อื่น เพื่อพวกเขาจะได้ไม่พบวัยรุ่นเหล่านั้นอีก

เฝิงหยู่ถอนหายใจ เจ้านี่นี่ดื้อดึงเสียจริง

"พวกเอ็ง! หยุดนะเว้ย! "

 

*** my dad is li gang ไม่มีการบัญญัติชื่อไทยอย่างเป็นทางการ แต่แปลเป็นไทยได้ว่า พ่อของผมชื่อหลี่กัง  มักใช้เป็นสำนวน สื่อถึงการคอรัปชั่น โดยเฉพาะการที่เด็กทำความผิดโดยมีพ่อแม่คอยหนุนหลัง.. เรื่องก็คือเด็กน้อยขโมยลูกอม เจ้าของร้านบอกให้จ่ายตังค์ไม่งั้นจะเรียกตำรวจ เด็กน้อยถือลูกอมวิ่งหนีไป พร้อมพูดว่า พ่อผมชื่อหลี่กัง! ถ้าเป็นภาษาไทยน่าจะประมาณว่า รู้ไหมพ่อกูเป็นใคร

(** เฟิน ฉบับอิ้งแปลว่า cent แต่ค่าเงินควรทับศัพท์ของภาษาจีนมากกว่า จึงขอใช้ค่าเงิน เฟิน จากต้นฉบับจีนแทนคำว่า เซนต์ )

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด