ตอนที่แล้วEternal Martial Sovereign ตอนที่ 44 – ท่านต้องการแต่งงานกับเขา?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปหยุดอัพชั่วคราวครับ

Eternal Martial Sovereign ตอนที่ 45 – ไปกับข้า


Chapter 45 – ไปกับข้า

 

 

ได้ยินคำตอบของหยานซือเฟย เซี่ยวหยุนก็เข้าใจดีว่าแม้จะต้องเผชิญหน้ากับความตาย หญิงสาวคนนี้ก็ไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับฉินหยูเฉิน อย่างไรก็ตามนางยังคงรู้สึกขัดแย้งมาก เพราะมันเป็นการยากที่นางจะต่อต้านคำสั่งของพ่อแม่นาง มันจึงไม่ง่ายที่นางจะทำตาม

 

หลังจากทั้งหมดที่พ่อแม่ของนางได้สนับสนุนนางมาหลายปี!

 

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวโศกเศร้าและหมดหนทางอย่างไร ความรุนแรงปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวหยุนขณะที่เขากลายเป็นเด็ดเดี่ยวเต็มที่ เขามองไปที่หยานซือเฟยขณะที่เขาถามว่า “พี่สาวใหญ่ซือเฟย ท่านไว้ใจข้าไหม?”

 

“แน่นอน ข้าไว้ใจเจ้า” หยานซือเฟยหยุดชั่วครู่ด้วยความประหลาดใจ สงสัยว่าเหตุใดเด็กหนุ่มจึงถามคำถามนี้ เห็นว่าเด็กหนุ่มดูตั้งใจจริงเพียงใด นางจึงไม่ได้ถามอะไรอีกแล้วกลับรอให้เขาพูดต่อ นางรูว่ามีบางสิ่งที่สำคัญที่เขาต้องการจะพูดอย่างแน่นอน

 

“ถ้าท่านไว้ใจข้า ข้าสามารถสัญญากับท่านว่าในอนาคต ข้าสามารถกำจัดพิษทั้งหมดในร่างกายของท่านได้อย่างแน่นอน” เซี่ยวหยุนกล่าวอย่างจริงจริง “มันไม่ได้เป็นเม็ดยาแก้พิษ? ในอนาคต ข้าก็สามารถมอบให้ท่านได้เช่นกัน เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานจากพิษนี้อีกต่อไป”

 

"เจ้าสหายตัวน้อย เจ้าจำเป็นต้องจริงจังจริงๆหรือ?" เห็นว่าเซี่ยวหยุนดูซื่อสัตย์ขนาดไหน หยานซือเฟยก็รู้สึกว่าอารมณ์บางอย่างปลุกเร้าภายในตัวนางขณะที่นางยิ้ม นางมองไปที่เด็กหนุ่มขณะที่นางเหน็บผมไว้ด้านหลังหูของนางด้วยความแก้ตัวบางส่วนในดวงตาของนาง

 

“แน่นอน ข้าจำเป็นต้องจริงจัง” เซี่ยวหยุนยิ้มขณะที่เขาเลิกคิ้วขึ้น “ข้าไม่อยากให้พี่สาวใหญ่ซือเฟยแต่งงานกับสหายฉินหยูเฉินคนนั้น”

 

“ถ้าพี่สาวใหญ่แต่งงานกับเขาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?” ดวงตาของหยานซือเฟยแคบลงด้วยรอยยิ้มประหลาดขณะที่มองไปที่เด็กหนุ่มด้วยร่องรอยความเย้าแหย่เล็กน้อย ดวงตาของนางนั้นสวยงามและทรงเสน่ห์ และสามารถทำให้ใครก็ตามรู้สึกราวกับว่าวิญญาณของพวกเขาถูกขโมยไป

 

“แน่นอนว่ามันทำให้ข้ากังวล เพราะว่าข้าต้องการพี่สาวใหญ่สำหรับตัวเอง” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่มองไปยังหญิงสาวอย่างหลงใหล เขาจะอนุญาตให้หญิงสาวที่ใจดีและงดงามเช่นนี้เป็นของคนอื่นได้อย่างไรกัน? เขาไม่สามารถอนุญาตให้ทำเช่นนี้ได้

 

“เจ้าปีศาจน้อย เจ้ายังเป็นเด็กน้อยอยู่แต่ก็ลามกเสียแล้ว”

 

หยานซือเฟยยิ้มขณะมีความรู้สึกอบอุ่นเกิดขึ้นภายในหัวใจของนาง นางกระพริบตาขณะที่นางเหยียดมือราวกับหยกออกมา แล้วแตะไปที่หน้าผากของเด็กหนุ่ม จากนั้นก็บิดสะโพกที่เหมือนงูของนางแล้วเดินลึกเข้าไปในห้อง

 

“ข้าไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว” เซี่ยวรู้สึกค่อนข้างไม่พอใจเมื่อได้ยินหยานซือเฟยเรียกเขาแบบนี้ เขาต้องการจะพิสูจน์ให้อสูรทรงเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อตนนี้ว่าเขานั้นไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มันเห็นได้ชัดว่าการชนะใจนางนั้นไม่ง่ายนัก

 

โชคดีที่ตอนนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำงานค่อนข้างน้อย

 

“หลังจากที่ข้าเรียนรู้การกลั่นสกัดเม็ดยาและกำจัดพิษภายในร่างกายของพี่สาวใหญแล้ว ข้าจะดูว่าเจ้าจะยังสามารถดูถูกข้าได้รึุเปล่า” เซี่ยวหยุนคิดถึงการวางตัวของท่านหญิงหยานที่พูดกับเขา ซึ่งเขารู้สึกค่อนข้างไม่พอใจขณะที่เขากำหมัด

 

“เจ้าเว้นระยะเพื่ออะไร?” เห็นว่าเซี่ยวหยุนไม่ได้เคลื่อนที่และได้จ้องมองที่นางด้วยความตัดสินใจในดวงตาของเขา หยานซือเฟยกลอกตาขณะที่นางกล่าวว่า “มันเป็นไปได้ไหมว่าเจ้าต้องการให้พี่สาวใหญ่ตายจากพิษนี้?”

 

“ฮ่าฮ่า ข้าจะอนุญาตให้พี่สาวใหญ่ตายจากพิษได้อย่างไร?” เซี่ยวหยุนหัวเราะเบาๆขณะที่เขาตามหญิงสาวเข้าไป

 

พิษของหยานซือเฟยกลายเป็นร้ายแรงมากขึ้นไปอีก โชคดีที่จิตวิญญาณาการต่อสู้ของเซี่ยวได้ยกระดับขึ้นแล้วและสามารถสกัดพิษได้รวดเร็วขึ้น นี่เป็นข้อได้เปรียนของจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาที่ยกระดับขึ้นแล้ว ซึ่งรวมทั้งเรื่องนี้ด้วยแล้ว กระบวนการนี้ก็ไม่ได้ทำให้มีบากบั่นบนเซี่ยวหยุนนัก

 

“อ่า ความเร็วในการสกัดของเจ้าได้เร็วขึ้นอีกแล้ว!” หลังจากน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง หยานซือเฟยก็ได้รู้สึกว่าจิตใจของนางนั้นกระจ่างใสและรูขุมขนบนร่างกายนางได้เปิดขึ้นอีกครั้ง นางไม่ได้รู้สึกไม่สบายมากขึ้นอีก ซึ่งทำให้นางรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจมาก

 

เซี่ยวหยุนได้ถ่ายโอนพิษในจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้รับผลกระทบจากมันเลย เมื่อหยานซือเฟยหันมามองที่เด็กหนุ่ม นางพบว่าเขากำลังฝันถึงนาง

 

“เจ้าเด็กเหลือขอน้อย เจ้ากำลังมองอะไรอยู่กัน?” หยานซือเฟยรู้สึกว่าแก้มของนางได้เปลี่ยนเป็นสีแดงภายใต้การจ้องมองของเด็กหนุ่ม

 

เซี่ยวหยุนมองไปที่หญิงสาวด้านข้างอย่างต่อเนื่องด้วยการแสดงออกในฝันขณะที่เขากล่าวว่า “พี่สาวใหญ่ซือเฟย ท่านสวยงามมาก อย่าแต่งงานกับคนอื่นเลยได้ไหม?”

 

“ถ้าพี่สาวใหญ่ไม่แต่งงานกับคนอื่น ใครจะปกป้องข้ากัน?” หยานซือเฟยยิ้มขณะที่นางตอบกลับ

 

“ต้องเป็นข้าอยู่แล้ว!” ด้วยตาของเซี่ยวหยุนหดแคบลงเป็นรอยยิ้มขณะที่เขากล่าวต่อ “ถ้าพี่สาวใหญ่ปรารถนา ข้าสามารถปกป้องท่านไปได้ชั่วชีวิต”

 

“เจ้า?” หยานซือเฟยกลอกตา “พูดมันกับข้าเมื่อตอนเจ้าแก่เถอะ”

 

“ข้าอายุเพียงพอแล้วใช่ไหม?” เซี่ยวหยุนรู้สึกค่อนข้างท้อแท้แล้วเขาก็มองลงไปแล้วกล่าวว่า “ท่านต่อการให้พิสูจน์ให้ท่านตอนนี้เลยไหม?”

 

เซี่ยวหยุนรู้สึกค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก พี่สาวใหญ่ซือเฟยคนนี้มักจะมองเขาเป็นเด็ก อย่างไรก็ตาม ในราชอาณาจักรจันทราวายุ เขาไม่ได้เป็นเด็กอีกต่อไปแล้วจริงๆ

 

เมื่อมองเห็นว่าเซี่ยวหยุนดูผิดปกติขนาดไหน หยานซือเฟยก็ไม่กล้าที่จะยุแหย่เขาอีกต่อไป

 

“ไม่ได้ พ่อแม่ของข้าอยู่ข้างนอก” หยานซือเฟยรีบหลบหนีไป หัวใจของนางเต้นอย่างบ้าคลั่งและดูค่อนข้างยุ่งเหยิง แม้ว่าหูของนางจะเป็นสีแดง นางก็ตระหนักได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างแท้จริงแล้ว และก็ไม่สามารถหยอกล้อแบบนั้นได้อีกแล้ว

 

มิฉะนั้น มันเป็นไปได้ที่จะปฏิบัตินอกกฏในจุดด่างพร้อย!

 

การคิดไปถึงสิ่งนั้น แสงสีปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันสวยงามของนาง ทำให้นางดูน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า แล้วลองดูกันว่าทันจะกล้าเรียกข้าว่าเด็กเหลือขอได้อีกรึไม่” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ

 

“ไม่มีทาง ตระกูลเซี่ยวของพวกเราเป็นชายอยู่แล้ว ข้าจะเปลี่ยนวิธีที่พูดกับท่าน” ดวงตาสวยงามของซือเฟยกระพริบขณะที่นางหัวเราะ พวกเขาทั้งคู่คุยและหัวเราะบนเตียงเหมือนกับคู่รัก

 

“แล้วข้าสามารถไล่ตามพี่สาวซือเฟยได้หรือไม่?” เซี่ยวหยุนถามขณะที่เขายิ้ม

 

“นี่…” หยานซือเฟยเม้มริมฝีปากของนาง ไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไร นางไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะกล้าหาญมากแบบนี้ – เขากำลังสารภาพรักกับนาง? อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือรำคาญและกลับกัน ความรู้สึกหอมหวานผลิบานภายในหัวใจของนาง

 

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูเคร่งเครียดขนาดไหน เซี่ยวก็รู้สึกซนมาก “พี่สาวใหญ่ซือเฟยนั่งลง ข้าจะไล่ตามท่านตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

 

“สหายเน่าเฟะ”

 

หยานซือเฟยรู้สึกอับอายมากแล้วโต้กลับด้วยความโกรธ

 

“ฮ่าฮ่า” เซี่ยวหยุนหัวเราะเบาๆขณะที่เขาลุกขึ้นจากเตียงเพื่อสวมรองเท้า

 

หยานซือเฟยก็ออกจากเตียงเช่นกันและมองไปที่เด็กหนุ่มด้วยร่องรอยของความโศกเศร้าในดวงตาของนาง

 

“พี่สาวใหญ่ซือเฟย มีอะไรผิดปกติ?” เซี่ยวหยุนถามอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่กังวลบนใบหน้าของหยานซือเฟย

 

หยานซือเฟยไม่กล่าวอะไรและมองออกไปข้างนอกแทน ซึ่งรักษาการแสดงออกที่วิตกกังวลของนางไว้

 

“มันเป็นเพราะฉินหยูเฉินนั้น?” เซี่ยวหยุนถามขณะที่เขาขมวดคิ้ว

 

“อืม” หยานซือเฟยพยักหน้า “เขาเป็นศิษย์จากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์และมีเบื้องหลังที่โดดเด่น แม่ของข้าต้องการให้ข้าแต่งงานกับเขาและแม้ว่าข้าจะไม่ติดพิษ มันก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะตัดสินใจว่าใครจะแต่งงานกับข้า”

 

เซี่ยวหยุนตกลงสู่ความเงียบ เข้าใจถึงสิ่งที่นางกำลังจะพูด ถ้าเขาต้องการไล่ตามนางอย่างแท้จริง เขาก็ยังต้องเอาชนะปัญหานี้ด้วย!

 

“อย่ากังวลเกี่ยวกับเขา เขามันก็แค่ศิษย์จากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์” เซี่ยวหยุนพูดอย่างเย็นชา “ข้าจะต้องแข็งแกร่งกว่าเขาและจะพิสูจน์ตัวเองกับพ่อแม่ของท่านอย่างแน่นอน ด้วยวิธีนั้น พวกเขาจะไม่บังคับท่านให้แต่งงานกับฉินหยูเฉินอีกต่อไป”

 

“จริงรึ?” มีหมอกปรากฏขึ้นในดวงตาของหยานซือเฟย เช่นเดียวกับร่องรอยของหวัง มันเป็นวิธีที่มหัศจรรย์สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น!

 

“อือ ท่านต้องการจะจากไปกับข้าไหม?” เซี่ยวหยุนถามอย่างจริงจังขณะที่เขามองไปยังหญิงสาว

 

กับพ่อแม่ของหยานซือเฟยบังคับให้นางแต่งงานกับฉินหยูเฉิน เซี่ยวหยุนไม่สามารถรู้สึกสบายใจได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้านางยอมแพ้ให้กับพ่อแม่ของนางขณะที่เขาไม่อยู่ที่นี่? หรือมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้านางยอมตายดีกว่าจะยอมแพ้และทำบางสิ่งที่โง่เขลา?

 

ซึ่งไม่ระมัดระวัง เซี่ยวหยุนไม่ต้องการเห็นสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น

 

เมื่อเห็นว่าเซี่ยวหยุนดูจริงจัง หยานซือเฟยจ้องมองด้วยความประหลาดใจ ดวงตาที่สวยงามของนางไม่กระพริบเลย ในเวลาเดียวกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสองปีที่ผ่านมาก็โผล่ขึ้นมาในหัวใจของนาง

 

เมื่อนางอยู่ที่จุดตกต่ำที่สุดในชีวิตของนางโดยไร้ซึ่งคนช่วยเหลือ แต่ก็มีเด็กหนุ่มคนนี้ยืนอยู่ข้างๆนาง นอกเหนือจากเขา ใครกันจะปฏิบัติต่อนางด้วยวิธีเช่นนี้? คิดถึงสิ่งนั้น นางค้นพบว่ารูปลักษณ์ของเด็กหนุ่มตราตรึงไว้บนหัวใจของนางเมื่อนานมาแล้ว

 

“เอาล่ะ ข้าจะไปกับเจ้า!” หยานซือเฟยเม้มริมฝีปากของนาง ขณะที่นางได้ทำการตัดสินใจอันเด็ดขาดอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

“อย่ากังวลไปเลยพี่สาวใหญ่ซือเฟิง ข้าจะปกป้องท่านอย่างแน่นอน!” เซี่ยวหยุนตื่นเต้นอย่างมากและรู้สึกถึงความรู้สึกรับผิดชอบของลูกผู้ชาย

 

ตั้งแต่เขากล่าวแบบนี้ แน่นอนว่าเขาจำเป็นต้องปฏิบัติตามมันด้วยอย่างแน่นอน หญิงสาวคนนี้เต็มใจมอบความไว้วางใจของนางให้กับเซี่ยวหยุน แล้วเขาจะปล่อยนางลงไปได้อย่างไร?

 

“พี่สาวใหญ่ไว้ใจเจ้า” ดวงตาที่สวยงามของหยานซือเฟยกระพริบขณะที่นางมองเด็กหนุ่มอย่างลึกซึ้ง นางไม่เคยสงสัยในความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้มาก่อน เด็กหนุ่มธรรมดาจะสามารถพาคนที่ตัดสินความตายของทุกคนมาได้อย่างไร?

 

เมื่อเห็นว่าหยานซือเฟยไว้วางใจเขามากแค่ไหน เซี่ยวหยุนก็รู้สึกถืออารมณ์เป็นใหญ่อย่างมาก มีคนจำนวนน้อยที่จะเชื่อในตัวเขา แม้ว่าในขณะที่เขาอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดของชีวิต เห็นได้ชัดว่าหยานซือเฟยเป็นหนึ่งในคนพวกนี้และความเสน่หาแบบนี้คือสิ่งที่เขาไม่สามารถลืมได้

 

“ไปกันเถอะ” เซี่ยวหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆและเหยียดมือของเขาออกมา แล้วจีบมือของหญิงสาวไว้อย่างหนาแน่น

 

ในขณะนี้ พ่อแม่ของหยานซือเฟยก็ยังคงรอคอยอย่างเป็นกังวลอยู่ที่ข้างนอกในลานบ้าน

 

“ฮึ่ม ทุกครั้งที่พี่ใหญ่เซี่ยวหยุนไปสกัดพิษ เขามักจะอยู่ที่นั่นเพียงอย่างเดียวกับพี่สาวใหญ่ ต้องมีอะไรบางอย่างระหว่างพวกเขาอย่างแน่นอน” หยานซือหยันบุ้ยปากขณะที่นางย่นจมูกลง มองดูไม่พอใจอย่างมาก ดวงตาชื้นแฉะของนางกระพริบอย่างต่อเนื่องขณะที่นางคิด “เป็นไปได้ไหมว่าพี่สาวใหญ่ชอบพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนด้วยเช่นกัน? ไม่มีทาง – นางแก่กว่าเขาตั้ง 2 ปี

 

ขณะที่หยานซือหยันขมวดคิ้วและบ่นกับตัวเอง ประตูห้องนอนก็เปิดออกมา หลังจากนั้นก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวเดินออกมาด้วยกัน

 

“พี่สาวใหญ่” เมื่อเห็นว่าผิวของหยานซือเฟยนั้นดูสุขภาพดีอีกครั้งและนางก็ค่อยๆเดินออกมา หยานซือหยันก็รู้สึกดีขึ้นมาก พี่สาวใหญ่ของนางสุดท้ายก็เต็มใจจะออกมาจากห้องอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม นางพบว่านิ้วมือของพี่สาวใหญ่ประสานกันกับของเด็กหนุ่มในลักษณะที่รักใคร่กันมาก หยานซือหยันขมวดคิ้วขณะที่ใบหน้าเล็กอันน่ารักของนางมืดลง

 

แน่นอนว่าคนที่ตกใจมากที่สุดคือท่านหญิงหยาน ไม่ใช่ว่านางเพิ่งขอให้เด็กหนุ่มคนนี้ช่วยโน้มน้าวลูกสาวนาง? และตอนนี้ในช่วงพริบตา เด็กหนุ่มคนก็กลายเป็นรักใคร่กับลูกสาวของนาง

 

“เด็กเหลือขอคนนี้” ท่านหญิงหยานแค่นเสียงหนาวเย็นเงียบๆ ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว

 

“เฟยเอ๋อเป็นเรื่องดีแล้วที่เข้าออกมา.” ดยุคหยานขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เขาก็ยังสามารถสงบสติอารมณ์ของเขาลงได้อย่างรวดเร็ว รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่เขาเดินไปยังลูกสาวของเขา – กับเขาแล้ว ข่าวที่ดีที่สุดคือพิษของลูกสาวเขานั้นถูกยับยั้งแล้ว

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่” น้ำเสียงของหยานซือเฟยค่อนข้างหนาวเย็นขณะที่นางทักทายพ่อแม่ของนาง

 

“เฟยเอ๋อ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” สายตาของท่านหญิงหยานเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นขณะที่นางจ้องไปที่มือของหญิงสาว

 

ในขณะนี้ นายยังคงจับมืออยู่กับเด็กหนุ่ม ซึ่งน่าตกใจและสับสนอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“ข้าจะไปกับเขา!” หยานซือเฟยกล่าวอย่างเฉียบขาด เมินเฉยต่อความสงสัยในน้ำเสียงของท่านหญิงหยาน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด