ตอนที่แล้วบทที่ 16: ความปลอดภัยเพียงชั่วคราว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18: ทางออก

บทที่ 17: บทสนทนาที่กระทบต่อชีวิตทั้งหมด!


บทที่ 17: บทสนทนาที่กระทบต่อชีวิตทั้งหมด!

หลังจากที่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษแล้ว ไทร์ก็สามารถที่จะเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับร่างกายและทักษะการต่อสู้ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ท่านเทพเจ้าข่าหมิงตกใจในความสามารถและได้กล่าวชื่นชม[การประมวลผลคู่ขนาน]

"นี่เป็นการทำให้ข้าได้เห้นอะไรขึ้นมากจริงๆ 300ปีแล้วที่ข้าไม่เคยเห็นใครที่สามารถเทียบได้กับเจ้าในสนาม[การประมวลผลคู่ขนาน] เจ้าทำให้ประหลาดใจยิ่งนัก!" ข่าหมิงส่ายศีรษะ ในขณะที่กำลังร้องทุกข์จากการถูกโค้นอย่างสิ้นเชิงโดยไทร์ ถ้าเพียงข่าหมิงรู้ว่าไทร์กำลังปฎิบัติกับลูนาเรียในขณะเดียวกันเขาก็จะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ใครที่จะรู้ว่าการแสดงออกของเขาจะเป็นอย่างไร?

ไทร์ไม่ได้รู้สึกภูมิใจกับตัวเองหรือหยิ่งผยองจากการสรรเสริญของท่านข่าหมิง แต่มองไปที่กิ่งไม้ในมือของเขาแทน ราวกับว่ากำลังคิดหนทางในการใช้ทักษะทั้งหมดที่เพิ่งใช้

ทักษะการต่อสู้และทักษะร่างกายรวมทั้ง2อย่างเรียกว่า"โต้วฉี" ทั้งหมดนี้ถูกสลักไว้ในสมองของเขาและหมุนวนไปมาตลอด

"นี่เป็นเรื่องเวทย์มนต์ ดังนั้นนี่จึงเป็นเวทีที่ศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าถึง!"

ไทร์พึมพำกับตัวเองและการคิดออกมาทางสายตาของเขา ราวกับว่าเด็กคนหนึ่งกำลังหาของเล่นใหม่ที่ถุกใจอยู่

"ท่านเซอร์ข่าหมิง ข้าขอบคุณมากสำหรับการสอนสิ่งที่มีค่าเหล่านี้ให้กับข้า"

ความกตัญญูมาจากคำกล่าวจากใจไทร์ ทำให้ข่าหมิงซึ้งแต่ไทร์ก็ไม่ได้สนใจเจ้าปูยักษ์และได้ดำเนินการพูดต่อ

"ข้าขาดประสบการณ์มาก่อนแต่หลังจากได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆเหล่านี้และการเรียนรู้ความลึกซึ้งภายในตัวแล้วตอนนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าทักษะเหล่านี้เทคนิคของร่างกายและทักษะการต่อสู้เป็นอย่างไร!ข้า ...ข้าจะไม่พูดอะไรอื่นอีกแต่ถ้าท่านข่าหมิงต้องการอะไรก็ตาม ที่ข้าสามารถช่วยได้ท่านจะต้องเรียกข้าเท่านั้นและข้าจะอยู่คอยรับใช้ท่าน! "

ท่านข่าหมิงรู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้น หลังจากได้ยินความกล้าหาญและงดงามของไทร์ เขามองไปที่ไทร์ทั้งบนมาล่างและได้คิดสักครู่ก่อนจะพูดออกมา

"นี่ ... เจ้าจะตกไปอยู่ในความบ้าคลั่งจากการฝึกสิน่ะ รีบเดินตามข้ามาและท่องคำทักทายอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้และพวกเราอาจจะทำมันได้"

"เซอร์ข่าหมิง ...... " ไทร์มองไปที่ปูยักษ์ด้วยความลำบากใจและเกาศีรษะด้วยความคิดที่งุ่มง่ามและต้องมาจดจำด้วยความไม่เต็มใจมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขามีความรู้สึกแปลกๆต่อร่างกายทั้งเทคนิคและทักษะการต่อสู้ ความสงสัยทั้งหมดของเขาถูกบินไปเหมือนกับเมฆ

ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร ข้าเริ่มรู้สึกอับอายถ้าท่านยังคงทำแบบนี้ใส่ข้า ตั้งแต่ข้าโตขึ้นได้ปฏิบัติตามคำสัญญาและสอนสิ่งที่เจ้าต้องการแล้ว ข้าคิดว่าถ้าในภายภาคหน้าไม่มีความโชคดีเราก็จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว "

ข่าหมิงโบกกล้ามอันใหญ่ของเขาและคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง โดยเขาก็เอ่ยปากขึ้นมา

"ใช่แล้ว! ปล่อยให้ข้าบอกข้อมูลบางอย่างที่จำได้ ข้าได้ยินมาว่าระหว่างพรมแดนของ อาณาจักร ซิซิลี และอาณาจักรเวอร์มิลเลี่ยน มีสำนักเล่าเรียนชั้นนำที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองอาณาจักรเรียกว่า [อาวาลอน]ภายในสำนักการศึกษานี้ มีสามสิ่งอันศักดิ์สิทธิ์และหนึ่งในนั้นสามารถลบการควบคุมและปลุกความทรงจำของผู้คนได้ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับเจ้า

ข้อมูลนี้ทำให้ไทร์ ลังเลสักครู่ก่อนที่เขาจะตื่นเต้นขึ้นมาปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขาที่มือนอกเหนือจากร่างกายของเขาคือความทรงจำของเขา การสูญเสียความทรงจำและการเป็นคนแปลกหน้าไปทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากในการจัดการ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการคิดหาวิธีที่จะไปถึงที่เรียกว่า"แอวาลอน"และพยายามที่จะปลุกความทรงจำของเขา ต่อมาเขาก็อาจจะรู้ว่าทำไมร่างกายของเขาเป็นเช่นนี้ นี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

"ไม่ต้องขอบคุณข้าใดๆ" ข่าหมิงเห็นไทร์มีอาการหัวตกและรีบโบกมือถักแล้วเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

"ตั้งแต่เจ้าได้ปลดปล่อยข้าออกจากสถานที่นี้ เจ้าได้ให้ความช่วยเหลือที่ดี ตั้งแต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องอำลาด้วยน้ำตา ... เราไม่ได้เหมือนกับผู้คนถ้าโชคข้าดี ......ฮ่าาาาาา...ถ้าเราจะพบกันอีกครั้งนั่นคงจะเป็นชะตากรรมแล้วละ "

ไทร์ไม่เคยคิดว่าข่าหมิงจะดึงเขาออกมาในระดับสูงเช่นนี้และไม่ทราบวิธีตอบสนองความรู้สึกของคนอื่นมนการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

“นั้นแหละ...ไทร์นั้นคือข้อมูลล่าสุด ...... .ไม่นะ...... .. เรียกมันว่าคำเตือนที่ดีดีกว่า” หน้าของท่านข่าหมิงเริ่มมีลางบางอย่าง แต่ก็ปล่อยไปเถอะทำให้ความรู้สึกสงบลงและสบาย ๆ ไม่มีความโกรธแม้จะตื่นเต้น แต่กลับเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่คุ้นเคยกับไทร์

ในเวลานี้ไทร์ จะไม่เคยคิดระดับของผลกระทบในอนาคตของเขาเลย!และแม้หลังจากหลายปีต่อมา ไทร์ก็ยังคงจำได้เป็นครั้งคราวการแสดงออกที่แปลกตาบนใบหน้าของปูยักษ์ตัวนี้

ในขณะเดียวกัน เสียงของท่านข่าหมิงก็พูดขึ้นมา

"ในโลกนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ปีศาจไม่ใช่เทพธิดาและแน่นอนไม่ใช่เอลฟ์และมังกรยักษ์ แต่มันคือมนุษย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของความชั่วร้ายทั้งสิ้น ... "

เสียงของข่าหมิงนั้นดูลึกซึ้งมากราวกับว่ามีความหมายแอบแฝงในคำพู แล้วหลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นสู่ท้องฟ้า ไทร์ยกศีรษะของเขามองไปที่บนฟ้าที่อยู่หลายสิบเมตรเหนือป่า ด้วยความไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในลึกๆของหัวใจ

"จำไว้ ว่าวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจว่าความหมายนี้ว่ามีบางสิ่งแอบแฝงอยู่"

ก่อนที่เสียงจะเลือนหายไปเงาบนท้องฟ้าก็หายตัวไปจากสายตา แล้วทิ้งให้ไทร้ยืนอยู่ที่นั่นเพียงลำพังและจ้องมองไปที่ท้องฟ้า โดยไม่เจตนาจะพูดอะไรและพูดสิ่งที่ข่าหมิงเคยพูด

“ลึกๆแล้ว ......ความชั่วร้าย?”

สิ่งที่ชั่วร้าย? คนชั่ว? มันเป็นสิ่งหายนะหรือไม่? ไทร์ไม่เข้าใจความหมายนี้ แต่เขายังจารึกคำพูดไว้ในใจของเขาเพราะเป็นเรื่องที่ท่านข่าหมิงกล่าวไว้ว่าจำเอาไว้เป็นสิ่งที่ไม่ผิด!

"อย่างไรก็ตามตราบเท่าที่ข้าจะใช้มันด้วยความระมัดระวัง รอบๆตัวของข้าจะได้ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น... ..ถูกไหม?"

ในที่สุดไทร์ก็คิดทางออกนี้ได้ขึ้นมา!!!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด