ตอนที่แล้วTWO Chapter 107 การแก้แค้น ตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 109 ข่าวดี

TWO Chapter 108 การแก้แค้น ตอนที่ 2


TWO Chapter 108 การแก้แค้น ตอนที่ 2

เมื่อกองทัพซานไห่ปรากฎตัวที่นอกกำแพง นักรบของเผ่าก็เตรียมธนู และรีบเป่าแตรในทันที

เสียงแหลมสูงกระจายไปทั่วหุบเขา ชาวจีเฟิงรีบออกมาจากบ้านด้วยความกลัว พวกเขาพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น

ฮวนไท่ซึ่งเป็นผู้นำเผ่าจีเฟิงได้ลุกจากเตียงทันที ยามรีบวิ่งเข้ามาในเต็นท์ของเขา ฮวนไท่จึงกล่าวเสียงดังว่า “ใครเป่าแตรสงคราม?”

“ท่านผู้นำ มีกองกัพขนาดใหญ่ปรากฎตัวที่นอกกำแพงขอรับ” ยามกำลังตกใจในขณะที่รายงาน

“กองทัพ? พวกเขามาจากไหน? มีจำนวนเท่าไหร่?” หัวใจของฮวนไท่เต้นไปมา เขารีบถามออกไปในทันที

“ธงของเขาไม่ได้มาจากเผ่าใด ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน พวกเขามีทหารประมาณ 1,000 นาย และมีอุปกรณ์ครบครัน พวกเขาดูไม่เหมือนนักรบของชนเผ่าเลย”

“กองทัพทหาร? หรือว่าจะเป็นกองทัพเมืองซานไห่?” ฮวนไท่เป็นคนฉลาด เขาตระหนักถึงอัตลักษณ์ของผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็ว เขาตะโกนสั่งในทันทีว่า “รวบรวมนักรบทั้งหมด ข้าต้องการให้ทุกคนไปปกป้องกำแพง เร็วเข้า!”

“ขอรับ!”

เผ่าจีเฟิงมีนักรบ 800 คน โดย 200 คน ประจำอยู่ที่กำแพง และอีก 600 คน พักอยู่ที่บ้านของพวกเขา พวกเขาจะรวมตัวกันเฉพาะเมื่อถึงเวลาจต้องออกไปล่าสัตว์ ดังนั้น มันจึงไม่ง่ายนัก ที่จะรวบรวมพวกเขาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

เมื่อมีนักรบมารวมกันได้ 400 คน ฮวนไท่ก็ไม่รออีกต่อไป เขากังวลว่ากำแพงจะไม่สามรถต้านกองทัพซานไห่ได้นาน เขาจึงรีบนำนักรบ 400 คน มุ่งหน้าไปยังกำแพงในทันที โดยเขาได้ทิ้งมือขวาของเขา ฮวนอัน(Huan An) เพื่อรอนักรบที่เหลือ

………………………………………………………………………………………………………

ที่กำแพง กองทัพซานไห่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน โดยใช้ประโยชน์จากระยะยิงที่ไกลกว่า โจมตีนักรบที่อยู่บนกำแพง นักรบเผ่าจีเฟิงไม่สามารถทำอะไรได้ ระยะยิงธนูของพวกเขาสั้นกว่ามาก ลูกธนูของพวกเขาไปไม่ถึงผู้บุกรุก ทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงความไร้อำนาจและเริ่มหวาดกลัว

หลังจากข่มนักรบเผ่าจีเฟิงได้แล้ว โอหยางโชวก็สั่งให้กองพันทหารราบพุ่งเข้าไปที่ประตูหลัก ทหารแบกท่อนไม้ขนาดใหญ่ไว้บนบ่าของพวกเขา ยกมันขึ้นไปด้านบนศีรษะของตน แล้วรีบวิ่งไปที่ประตูหลัก

เมื่อถึงจุดนี้ นักรบของชนเผ่าก็ตื่นตระหนักถึงตความตั้งใจของโอหยางโชว พวกเขามองกองพันทหารราบที่เข้ามาใกล้ประตูหลักของพวกเขา พวกเขาไม่มีทางเลือก นอกจากต้องเผชิญหน้ากับห่าฝนลูกธนู และยิงสวนกลับไป

พูดตามจริง พวกนักรบไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ทันทีที่กองพันทหารราบเข้ามาใกล้ประตูหลัก พวกเขาก็รวบรวมความกล้า ยิงธนู ขว้างหิน และท่อนไม้ ไปที่กองพันทหารราบ เผื่อผลักดันไม่ให้กองพันทหารราบเข้ามาใกล้ประตูหลักได้

ในทีสุดฮวนไท่ก็มาถึงพร้อมกับเหล่านักรบ การมาถึงของเขาสร้างขวัญกำลังใจ และความเชื่อมั่นให้กับเหล่านักรบที่อยู่บนกำแพง พวกเขาเริ่มโจมตีกลับมากขึ้น ด้วยก้อนหินและท่อนไม้ของพวกเขา

การเห็นการป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้โอหยางโชวขมวดคิ้ว เขาหันไปทางเก่อหงเหลียง แล้วกล่าวว่า “ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ กองพันป้องกันเมืองคงโจมตีต่อเนื่องได้อีกไม่นานนัก ถ่ายทอดคำสั่งออกไป สั่งให้กองพันทหารราบดันไปข้างหน้า ใช้ท่อนไม้กระทุ้งไปที่ประตูด้วยแรงทั้งหมด!” เขาสั่งอย่างไม่ลังเล

“ขอรับ!” เก่อหงเหลียงรับคำสั่ง และรีบส่งผ่านคำสั่งในทันที

เมื่อได้รับคำสั่ง ใบหน้าของขุนพลซีก็กลายเป็นบ้าคลั่ง เขาตะโกนขึ้นว่า “พี่น้องทั้งหลาย นายท่านของพวกเราเฝ้าดูอยู่ ในฐานะกองทัพหลัก ถ้าเราไม่สามรถพังประตูนี้ได้ มันจะกลายเป็นความอัปยศของพวกเรากองพันทหารราบ คนของกองทหารรักษาการณ์เหมืองหลางซานกำลังร้องขอให้นายท่านส่งพวกเขามาแทนที่พวกเรา พวกเจ้าทนได้หรือ?”

“ไม่! ไม่! ไม่!” เหล่าทหารตอบเสียงดังขณะโกรธ

“แล้วจะทำอย่างไร!” เสียงของขุนพลซีกังวาล ได้ยินชัดเจนทั่วทั้งกองพัน

“ทำลายมัน และปกป้องชื่อเสียงของพวกเรา!!!” เหล่าทหารถูกปลุกใจขึ้น

“ดี นี่คือความมุ่งมั่นที่ข้าต้องการ เราจะโจมตีประตูอย่างต่อเนื่อง ถ้าประตูยังคงอยู่ ข้า ซีหวานซุ่ย จะขอตายชดใช้ความผิดต่อนายท่าน!” ขุนพลซีตะโกน

“โจมตี!”

ขุนพลซีทำหน้าที่เป็นหัวหอก และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าทหาร

จากนั้น กองพันทหารราบก็ถือโล่ และแบกไม้ พุ่งเข้าไปที่ประตูหลัก พวกเขาฝ่าฝนลูกธนูอย่างไม่เกรงกลัว

30 นาทีต่อมา ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองพันทหารราบ ในที่สุด ประตูหลักก็พังลง โดยไม่ชักช้า โอหยางโชวสั่งให้กองทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซานไปอยู่ทางปีกตะวันออก บุกเข้าไปในหุบเขาทันที ในขณะเดียวกัน กองพันป้องกันเมืองก็ตั้งขบวน และเดินเข้าไปอย่างช้าๆ

ในขณะที่ประตูถูกทำลาย กองพันทหารราบก็พุ่งเข้าไปในกำแพง ต่อสู้กับนักรบของเผ่าจีเฟิงอย่างกล้าหาญ

กองทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซานช้ากว่าเล็กน้อย พวกเขาได้พบกับกองกำลังที่นำโดยฮวนอัน เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน ซีหลางก็กลายเป็นเดือดพล่าน เขาตะโกนออกไปในทันที “ฆ่ามันให้หมด!” เมื่อเขากล่าวจบประโยค เขาก็นำเหล่าทหารไปโจมตีนักรบของเผ่าจีเฟิง

ไม่จำเป็นต้องกล่าว กองทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซาน มีทหารถึง 500 นาย พร้อมอาวุธครบมือ กับ นักล่าของเผ่าจีเฟิงจำนวน 200 คน ที่ใช้เพียงอาวุธแบบง่ายๆ การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่า ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ได้ ฮวนอันจึงนำนักรบวางอาวุธและยอมจำนนในทันที

บนกำแพง นักรบเผ่าจีเฟิงถูกผลักดันให้ต้องต่อสู้กับกองพันทหารราบ ซึ่งไม่มีทางที่พวกเขาจะเทียบกับกองพันทหารราบได้ ฮวนไท่นำคนของเขา เขาตะโกนว่า “พวกเจ้าเป็นทหารซานไห่? ทำไมพวกเจ้าถึงโจมตีพวกเราอย่างไม่มีเหตุผล?”

ขุนพลซียิ้ม ขณะที่เขาแทงหอก ส่งนักรบคนหนึ่งไปสู้ความตาย เขาหัวเราะปล้วกล่าวว่า “ฮ่าๆๆ พวกเจ้าซุ่มโจมตีเหมืองแร่หลางซานของพวกเรา แล้วตอนนี้ พวกเจ้ายังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหรือ?”

“วันนี้ข้าจะบดขยี้เผ่าของพวกเจ้าให้เป็นขุยผง!”

ตอนนั้นเองโอหยางโชวก็ได้ขึ้นมาบนกำแพง เขาได้ยินการสนทนา เขาจึงตะโกนออกไปว่า “ฮวนไท่ สั่งให้คยของเจ้าทั้งหมดยอมจำนนซะ แล้วพวกเขาจะได้รับการละเว้น!”

“เหอะ เราเผ่าจีเฟิงไม่ใช่คนขี้ขลาด เรายอมตายดีกว่ายอมจำนน!” ฮวนไท่กล่าวอย่างไม่เกรงกลัว

“”จริงหรือ? ดีมาก นักรบของเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด แล้วครอบครัวของพวกเขาล่ะจะเป็นยังไง? โอหยางโชวกล่าวด้วยท่าทีไม่แยแส

คำกล่าวของเขาทำให้เกิดคลื่นแห่งความวุ่นวายขึ้นในหมู่นักรบ หากพวกเขาต้องตายที่นี่ ครอบครัวของพวกเขาก็จะถูกทิ้งให้กับกองทัพซานไห่

“เจ้า...ไร้ยางอายนัก!” เห็นได้ชัดว่าประโยคง่ายๆของโอหยางโชวได้ทำลายขวัญกำลังใจของเหล่านักรบ ฮวนไท่จึงตะโกนด้วยความโกรธ

“คนฉลาดย่อมยอมจำนน ฮวนไท่ ข้าจะไม่กล่าวซ้ำอีกครั้ง หากเจ้ายังไม่ทำตาม อย่าถือว่าข้าโหดเหี้ยมเลย” โอหยางโชวยื่นข้อเสนอให้เขาอีกครั้ง ขณะที่เขามองอย่างเย็นชา

“เห้อออ!” ฮวนไท่ถอนหายใจยาว เขาไม่มีทางเลือก จึงได้โยนอาวุธออกไป

หลังจากนั้น นักรบทั้งหมดของเขาก็ยอมจำนน โอหยางโชวสั่งให้กองพันทหารราบจับกุมตัวพวกเขา และให้กองทหารรักษาการณ์เหมืองหลางซานเข้าไปในหุบเขาเพื่อรวบรวมคนอื่นๆของเผ่า

………………………………………………………………………………………………………

ณ ห้องประชุม เผ่าจีเฟิง

“เจ้ากรมเก่อ มีผู้บาดเจ็บล้มตายมากเท่าใด?” โอหยางโชวเป็นกังวลเกี่ยวกับกองกำลังของเขา

“เรียนนายท่าน มีทหารตาย 20 นาย, บาดเจ็บสาหัส 35 นาย และบาดเจ็บเล็กน้อย 60 นาย ขอรับ”

ใบหน้าของโอหยางโชวมืดมน เขากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เราสูญเสียเป็นอย่างมาก กรมกิจการทหารต้องจัดการกับคนที่ตายอย่างเหมาะสม จัดให้มีสวัสดิการและค่าดำรงชีพขั้นพื้นฐาน ให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังเกษียนด้วย ในขณะเดียวกัน ให้เริ่มรับสมัครทหารเพิ่มเติม ข้าคิดว่าคงถึงเวลาที่เราต้องพิจารณา การจัดตั้งกองทหารสำรองแล้ว”

“เข้าใจแล้วขอรับ!”

“สงครามครั้งนี้ไม่มีอะไรตอบแทน เผ่าจีเฟิงเองก็ยากจนแทบไม่ต่างจากผุ้อพยพ เราขาดทุนมากนักในครั้งนี้” โอหยางโชวกล่าวด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก

“อย่างน้อย เราก็มีชื่อเสียงมาขึ้นในพื้นที่แถบนี้ จากที่ทราบในตอนนี้ ข่าวเรื่องสงครามที่เกิดขึ้น ได้แพร่กระจายไปยังเผ่าขนาดกลางและขนาดเล็กอื่นๆ ที่อยู่ใกล้พื้นที่นี้แล้ว พวกเขาจะเริ่มเข้ามาหาเรา เพื่อแสวงหาพันธมิตร” เก่อหงเหลียงกล่าวอย่างใจเย็น

“ก็ดี อย่างน้อยมันก็คุ้มค่าอยู่บ้าง”

“นายท่าน เราควรจะจัดการกับเผ่าจีเฟิงอย่างไร?” เกอหงเหลียงถาม

“นำพวกเขากลับไปยังดินแดนของเรา นำสิ่งที่เราสามารถนำไปได้ไปด้วย อะไรที่ไม่สามารถนำไปได้ ก็ให้ทิ้งมันไว้ที่นี่” โอหยางโชวกล่าวอย่างไม่แยแส เขาไม่มีทางเลือดอื่นที่ดีกว่านี้ เขาได้รับการสูญเสียอย่างมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะปล่อยเผ่าจีเฟิงนี้ไป อย่างน้อย เขาก็สามารถพาพวกเขากลับไปยังดินแดนของเขาได้

อย่างไรก็ตาม เก่อหงเหลียงกับขมวดคิ้วกับคำสั่งของเขา โอหยางโชวเห็นดังนั้น เขาจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้ามีอะไรก็กล่าวมาเถิด”

“ขอรับ ข้าได้สำรวจหุบเขาแห่งนี้คร่าวๆแล้ว มันมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่มาก ดินแดนของเผ่าจีเฟิงเป็นเพียงหยดน้ำเล็กๆของหุบเขาทั้งหมดเท่านั้น ในหุบเขาเต็มไปด้วยพืชน้ำ และสิ่งที่น่าสนใจก็คือทะเลสาบ  นอกจากนี้ยังมีทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการทำทุ่งเลี้ยงสัตว์ ดังนั้น ข้าจึงอยากเสนอว่า เราควรเปลี่ยนหุบเขาแห่งนี้ ให้กลายเป็นทุ่งหญ้าของพวกเรา นายท่านยังคงตระหนักดีว่าเมืองมิตรภาพนั้น ยังคงก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน หรือถึงแม้ว่าจะเสร็จสิ้น การสร้างทุ่งหญ้านอกเมืองก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากชนเผ่าเร่ร่อน ในขณะที่ในหุบเขานี้ไม่มีใครอยู่ เพียงแค่เราใช้กองทหารรักษาการณ์คอยปกป้องกำแพง เราก็สามารถผ่อนคลายได้แล้ว” เก่อหงเหลียงกล่าว

โอหยางโชวพยักหน้าเห็นด้วย เขากล่าวว่า “ข้อเสนอของท่านดีมาก อย่างไรก็ตาม หุบเขานี้อยู่ห่างไกลจากดินแดนมาก และการเดินทางไปมาระหว่างหุบเขาแห่งนี้กับดินแดนของเราก็ไม่สะดวกนัก”

“นายท่าน ตราบใดที่เราสามรถสร้างทุกหญ้าได้อย่างราบรื่น เราเพียงสร้างถนนจากเผ่าซวนเหนียวมายังหุบเขาแห่งนี้ก้ใช้ได้แล้ว” เก่อหงเหลียงยังคงเกลี้ยกล่อมโอหยางโชว

“ก็ได้ ข้าจะทำตามข้อเสนอของท่าน” โอหยางโชวตัดสินใจในที่สุด เขากล่าวว่า “กรมกิจการทหารต้องสื่อสารกับฝ่ายขนส่งให้ดี และเตรียมการทันทีที่เรากลับไปถึงดินแดนแล้ว, บางที คงถึงเวลาแล้วที่เราจะติดต่อกับชนเผ่าเร่ร่อน มันคงไม่ดีนักถ้าจะเลื่อนออกไปอีก”

“ข้าเข้าใจแล้วขอรับ!”

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด