ตอนที่แล้วตอนที่ 274: เมืองหมอกขาว (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 276: ชะตาที่บิดเบือน (1)

ตอนที่ 275: เมืองหมอกขาว (2)


"สติกม่า!" ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ตะโกนในขณะที่ทั้งเดินเข้าไปในประตู

"อะไร" พ่อมดทั้งสามหันมาพร้อมกัน

แองเจเล่ถือกล่องดำในมือขวา

"เจ้าเชื่อข้าหรือไม่ว่ากล่องนี้ไม่ใช่ของข้าแต่มีใครบางคนวางไว้ในมือของข้า ข้าไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คิดให้ดีก่อนที่จะทำ" แองเจเล่หยุดชั่วครู่แล้วก็พูดต่อ "ข้าเชื่อว่าถ้าวิญญาณสามารถใส่กล่องไว้ในมือของข้าได้โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นมันก็สามารถแทงมีดเข้าไปในหัวใจของข้าได้ก่อนที่ข้าจะสู้กลับ"

ทั้งสามลังเลชั่วครู่แต่เรย์ไลน์ก็ส่ายหัว

"กรีน ข้าไม่ใช่พ่อมดคนเดียวกันกับที่แพ้ให้เจ้า ความกลัวจะหยุดเจ้าจากความก้าวหน้า"

"มันไม่ใช่ความกลัว" แองเจเล่ตอบด้วยความสงบ "เจ้าไม่จำเป็นต้องเสี่ยง เราได้รอดจากอุปสรรคทั้งหมดและโอแมนดิสก็อยู่ตรงหน้าเรา เจ้าไม่สามารถต่อสู้กับสิ่งที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นได้"

"ยอมรับซะเถอะว่าเจ้ากลัวสิ่งนี้" เรย์ไลน์ขดริมฝีปากในขณะที่สายตาของเขามองไปที่กล่องบนฝ่ามือขวาของแองเจเล่ "ทำไมวิญญาณถึงไม่มอบกล่องนั้นให้ข้าแทนที่จะเป็นเจ้า"

แองเจเล่ยังคงเงียบเนื่องจากเขาไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้

"ไม่เอาน่า ตอนนี้เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องโต้เถียงกัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรายังเป็นทีมอยู่" สติกม่าพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น

"ไปกันเถอะ" เรย์ไลน์ส่ายหัวและหันกลับไปหายไปในเมฆสีขาวของเมือง สติกม่ายิ้มขอโทษ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเข้าเมืองไปพร้อมกับฮิคาริอย่างรวดเร็ว

แองเจเล่และมอร์ริสซ่ารออยู่ข้างนอกเมืองเงียบๆและเฝ้าดูพ่อมดทั้งสามคนหายไปในหมอก

มันเริ่มมืด เมฆได้หนาขึ้นและลมก็เริ่มแรงขึ้น

"ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าไปกับพวกเขา" แองเจเล่สงสัย

มอร์ริสซ่าลังเลชั่วครู่และตอบ

"ฉากที่ข้าเห็นในห้องนอนมัน......น่ากลัว ข้าเพียงดัดแปลงรูปแบบคาถารักษาในหอคอยหกวงแหวน ข้าไม่เก่งเรื่องต่อสู้และข้าเกลียดมัน อย่างไรก็ตามข้าก็ยังรู้สึกไวกับพวกผีและข้ามองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น...."

"หา แม้แต่ตอนที่พวกเขาไม่ต้องการให้เจ้าเห็นงั้นหรือ" แองเจเล่หรี่ตา

"ใช่ ข้ารู้ว่ากล่องไม่ใช่ของเจ้า มันมีความรู้สึกเดียวกับผู้หญิงที่ข้าเห็นในห้องนอน ทำไมเจ้าถึงไม่ลองโยนมันทิ้งไป" มอร์ริสซ่าตอบเสียงเบา

แองเจเล่นึกถึงอุปสรรคที่เขาเจอระหว่างการเดินทาง เขามีปัญหากับผึ้งเมฆาและจิตวิญญาณพายุแต่พวกเขาก็หลบส่วนอื่นมาได้อย่างง่ายดายด้วยคำแนะนำของสติกม่า มอร์ริสซ่าเป็นพ่อมดแสงที่อ่อนแอแต่เธอช่วยได้อย่างมากเมื่อสติกม่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

แองเจเล่สงสัยว่าทุกสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยองค์กรพ่อมดมืด องค์กรอาจจะต้องการเห็นว่าเขาสามารถอยู่รอดจากอุปสรรคทั้งหมดและไปถึงโอแมนดิสแบบเป็นๆได้หรือไม่

แองเจเล่ส่ายหัวและถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย "ลองหาสถานที่ที่อยู่ใกล้ๆและรอพวกเขากำจัดผีกันเถอะ"

"ตกลง"

พวกเขาเดินเข้าไปในป่าและพบพื้นที่ว่างเล็กๆ

แองเจเล่ใช้เชี่ยวชาญโลหะเพื่อล้มต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นและตัดมันเป็นแผ่น แผ่นไม้ถูกมัดด้วยสายโลหะและแทงเข้าไปในโคลน

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาก็มีที่พักไม้ขนาดเล็กถูกสร้างขึ้น ผนังและหลังคาปกคลุมไปด้วยชั้นโลหะเงินบางๆ เขาต้องการทำให้แน่ใจว่าที่พักดีพอที่จะรับมือกับพายุได้

ที่พักมีขนาดค่อนข้างเล็กแต่มันก็ดีพอสำหรับคนสองคนที่จะอยู่ข้างใน

ด้วยการวัดที่แม่นยำโดยซีโร่แองเจเล่จึงไม่เสียไม้อย่างสูญเปล่า เขาสร้างอาคารเสร็จก่อนที่มันจะถึงเวลากลางคืน

การตัดต้นไม้และเชื่อมต่อแผ่นไม้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขา

แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหน้าของทางเข้าที่พักจ้องไปที่เมืองหมอกขาวอย่างเงียบๆผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้

มอร์ริสซ่าพบกิ่งไม้แห้ง เธออยากจะทำกองไฟขนาดเล็กเพื่อทำอาหาร

แองเจเล่เล่นกับกล่องดำในมือในขณะที่จุดแสงสีน้ำเงินกะพริบข้างหน้าดวงตาของเขา

ทันใดนั้นเขาก็โยนกล่องดำขึ้นไปในอากาศ

กล่องดำพุ่งผ่านอากาศและหายไป

เขาใช้แรงกับกล่องดำอย่างมากในการโยนมันกลับเข้าไปในเมืองหมอกขาว

"เจ้า...กำลังทำอะไร" มีเสียงผู้หญิงมาจากข้างหลัง

แองเจเล่รีบหันกลับไปและเห็นมอร์ริสว่ากำลังมองเขาพร้อมกับถือกิ่งไม้ในแขนของเธอ เธอเปิดปากแต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา

มันรู้สึกเหมือนมีใครบางคนปิดหูของเขาด้วยผ้าหนา

หลายวินาทีต่อมาแองเจเล่ก็ได้ยินเสียงของมอร์ริสซ่าอีกครั้ง

"กรีน เจ้าเป็นไรไหม" มอร์ริสซ่าสับสนในขณะที่เธอชี้ไปที่เท้าของแองเจเล่ "กล่องของเจ้าอยู่บนพื้น"

แองเจเล่ตกใจ เขามองลงไป

กล่องดำอยู่บนพื้นหญ้าข้างเท้าของเขาราวกับว่ากล่องถูกแองเจเล่ทำตกโดยบังเอิญ

ฉากนี้ทำให้หัวใจของแองเจเล่รู้สึกเย็นยะเยือก เขาแน่ใจว่ากล่องถูกโยนไปแล้ว

นอกจากนี้เสียงที่เขาได้ยินตอนแรกก็ไม่ได้มาจากมอร์ริสซ่า มันเป็นเสียงแหบแห้งของผู้หญิงที่พูดเสียงสั่น

"ไม่มีอะไร ข้าทำตกโดยบังเอิญ" แองเจเล่หยิบกล่องขึ้นมา

"เอาล่ะ ข้าจะเตรียมอาหารและซุป" มอร์ริสซ่าพยักหน้าแล้วเธอก็หันกลับไปและเข้าไปในที่พัก

'ซีโร่ แสดงบันทึกให้ข้าดู ข้าต้องการเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่' แองเจเล่หายใจเข้าไปลึกๆและสั่ง

[กำลังโหลดบันทึก...]

หลายวินาทีต่อมาสายตาของแองเจเล่ก็เบลอชั่วครู่และเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก็มีอยู่ในสายตาของเขา ฉากเริ่มจากตอนที่เขากำลังเล่นกล่อง

แองเจเล่มองไปที่ภาพอย่างเงียบๆ

เขาลุกขึ้นยืนข้างหน้าที่พักไม้และทำกล่องดำตกโดยบังเอิญ มันดูเหมือนร่างกายของเขาเป็นอัมพาตชั่วครู่และมอร์ริสซ่าก็พูดกับเขาหลังจากที่หยิบกิ่งไม้แห้งใกล้ๆมา พวกเขาคุยกันสั้นๆและไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขาไม่อยากจะเชื่อว่าบันทึกไม่ได้แสดงให้เขาเห็นตอนที่โยนกล่องดำไป

ซีโร่มักจะใช้การสะท้อนของคลื่นพลังงานที่แองเจเล่ปลดปล่อยเพื่อบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเขา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะบันทึกผิดพลาด ถ้าความจำของแองเจเล่แตกต่างจากบันทึกของชิปก็มีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น

มีบางอย่างเปลี่ยนความทรงจำของเขาและทำให้เขาคิดว่าเขาโยนกล่องไปแต่กล่องเพิ่งตกลงไปที่พื้น

"อะไรวะเนี่ย....นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงเกลียดผี.....บ้าเอ้ย" แองเจเล่ถอนหายใจ เขาพยายามเปิดกล่องแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ มันถูกผนึกอย่างสมบูรณ์และฝาก็เป็นของปลอม

เขาด่าผีหลายครั้งและรู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดพวกมันอย่างสมบูรณ์ แองเจเล่เป็นพ่อมดทางการที่มีค่าสถานะสูงและมั่นใจว่าเขาสามารถหลบการสาปครั้งนี้ได้

เขากลับไปที่พักไม้และมีซุปเห็ดที่มอร์ริสซ่าทำไว้อยู่

กลางคืนได้มาถึง

สายลมได้พัดโดนประตูอย่างแรง เสียงมันเหมือนมีคนกำลังร้องไห้ด้วยเสียงแหลมสูง

แองเจเล่นั่งอยู่ข้างกองไฟพยายามติดต่อสติกม่าด้วยรูนสื่อสาร

มีรูนสีดำรูปดอกทานตะวันกะพริบบนเล็บของเขา มันเป็นรูนสื่อสารของสติกม่า

"สถานการณ์เป็นอย่างไร" แองเจเล่ถาม

"เราทำได้ดี เรย์ไลน์ได้ตรวจสอบทั้งอาคารและไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรากำลังกินอาหารอยู่ตอนนี้" สติกม่าตอบ

"ระวังตัวไว้ ข้าแน่ใจว่าผียังอยู่ จำกล่องดำที่เราพูดถึงในตอนบ่ายได้ไหม"

"ใช่ ทำไม"

"ข้าโยนมันไปแต่วินาทีต่อมากล่องดำก็ปรากฏข้างเท้าของข้า" แองเจเล่พูดเสียงเข้ม

"มันกลับไปที่เท้าของเจ้า" สติกม่าฟังดูตกใจ "ไม่เอาน่า อย่าพยายามทำให้ข้ากลัวสิ มันไม่ใช่เรื่องตลก"

"ข้าไม่ได้ล้อเล่น...."

แองเจเล่ยืนขึ้นและมองไปที่มอร์ริสซ่า ผู้หญิงคนนี้เหนื่อยเกินไปและตัดสินใจที่จะงีบหลับ

แองเจเล่ก้าวออกไปจากประตูและคุยต่อไป

"ข้าแน่ใจว่าข้าโยนมันไปแต่...."

ทันใดนั้นก็มีชายที่คุ้นเคยปรากฏในสายตาของเขา

ผมสั้นสีดำ ใบหน้าซีด ชุดคลุมดำและมีดดำที่อยู่ที่เอว

มันเป็นสติกม่า

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาวิ่งไปที่พักไม้ด้วยความเร็วเต็มที่

"วิ่ง! กรีน! วิ่ง! มันกำลังมา! โอ้พระเจ้า!" สติกม่าตะโกน

"เฮ้ กรีน เกิดอะไรขึ้น" เสียงของสติกม่ายังถูกส่งมาจากรูนสื่อสาร "เอาล่ะ ซุปเห็ดของเราเกือบจะเสร็จแล้วแต่มันก็ไม่ค่อยมีรสชาติ เราต้องการเครื่องเทศของเจ้า...."

แองเจเล่มองไปที่ชายคนนั้นที่ยังวิ่งมาทางเขาและฟังคนที่พูดผ่านรูน กะโหลกของเขาชา

"อะไรวะเนี่ย เจ้าเป็นภาพลวงตางั้นหรือ"

"กรีน! ฟัง! เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!" สติกม่ากำลังกระวนกระวายและเขาเกือบจะล้มลงไปที่พื้น

แองเจเล่ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย เขายังพยายามคิดให้ออกว่าคนไหนเป็นสติกม่าตัวจริง

ข้อความจากรูนสื่อสารแสดงให้เห็นว่าสติกม่ากำลังกินซุปเห็ดกับเรย์ไลน์ในอาคารแต่คนที่อยู่ข้างหน้าเขาปกคลุมไปด้วยเลือดสดๆ

"เจ้าเป็นสติกม่าตัวหรือเปล่า แสดงหลักฐานให้ข้าดู!" แองเจเล่ถามเสียงเข้มและถอยหลังไปหนึ่งก้าว

"บัดซบ! เจ้าสารเลวนั่นหลอกข้าและเรย์ไลน์ด้วยวิธีเดียวกันนี้" สติกม่ากำลังมีปัญหาในการหายใจ เขารีบเปิดใช้งานรูนสื่อสารบนเล็บของเขา

ชี่

มีรูนงูสีดำกะพริบบนเล็บของเขา มันเป็นรูนสื่อสารของแองเจเล่

ในขณะเดียวกันเสียงจากรูนสื่อสารของสติกม่าก็เปลี่ยนไป

"กรีน เจ้ายังอยู่ไหม เกิดอะไรขึ้น" มันมีเสียงแหบแห้ง มันฟังเหมือนหญิงชราคนหนึ่งที่พูดเสียงสั่น

มันเป็นผู้หญิงที่เลียนเสียงของสติกม่า

"บัดซบ! คนไหนเป็นตัวจริง" แองเจเล่ขมวดคิ้ว เขาก้าวถอยหลังอีกครั้งอย่างช้าๆ มีจุดแสงสีน้ำเงินกะพริบข้างหน้าสายตาของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด