ตอนที่แล้วTWO Chapter 103 ฝ่ายธนูและหน้าไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 105 เปิดเผย

TWO Chapter 104 กองพันป้องกันเมือง


TWO Chapter 104 กองพันป้องกันเมือง

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 4 วันที่ 2

เมืองมิตรภาพภายใต้ความช่วยเหลือของเมืองหลัก ในที่สุด กำแพงเมืองก็ถูกสร้างเสร็จสิ้น ตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งเสร็จสิ้น ชนเผ่าเร่ร่อนก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นป้อมปราการทางทหารนี้ถูกสร้างขึ้นทางตอนใต้ของพวกเขา

เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการป้องกันเมืองมิตรภาพ โอหยางโชวได้เขียนจดหมายถึงโจวไห่เฉิน ให้เริ่มต้นขุดร่องน้ำลึกเชื่อมแม่น้ำทั้ง 2 เพื่อช่วยทำให้เป็นกำแพงธรรมชาติของเมือง โดยทางตะวันตกของเมืองเป็นแม่น้ำมิตรภาพ และทางตะวันออกของเมืองเป็นแม่น้ำฉิวซุ่ย

เมืองมิตรภาพจะถูกสร้างโดยถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงน้ำ ก่อนที่เขาจะสร้างเมืองมิตรภาพให้กลายเป็นป้อมปราการได้อย่างสมบูรณ์ โอหยางโชวก็ยังไม่คิดจะติดต่อกับชนเผ่าเร่ร่อน

หลังจากจัดการกับเมืองมิตรภาพ เขาก็ได้เดินทางไปเผ่าซวนหยวน นอกจากเขาแล้ว ในคณะยังมีเก่อหงเหลียงและเทียนเหวินจิง โดยมีหลี่หมิงเหลียงนำกองร้อยทหารม้าที่ 1 คอยอารักษ์ขาความปลอดภัยให้พวกเขา

เมื่อพวกเขาผ่านเมืองฉิวซุ่ย โอหยางโชวใช้เวลาพัก 1 ชั่วโมง เพื่อฟังรายงานของเจ้าเต๋อเสี้ยน เกี่ยวกับโครงการและสถานการณ์ในปัจจุบันของเมือง นอกจากนี้ เขายังใช้เวลาส่วนหนึ่ง ในการทดสอบ กองทหารม้ารักษาการณ์กองใหม่ของเมืองฉิวซุ่ย

พื้นที่เพาะปลูกถูกเตรียมไว้มุมหนึ่งของเมือง และมันจะกลายเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของดินแดน เจ้าเต๋อเสี้ยนได้เตรียมพร้อมสำหรับเทศการชิงหมิงแล้ว เขาได้เตรียมพื้นที่เพาะปลูกไว้แล้ว 20,000 หมู่ และภายใต้ผลกระทบของยันต์ฝนฤดูใบไม้ผลินี้ พื้นที่เพาะปลูกจะกลายเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ พวกเขาจะปลูกข้าวเต็มพื้นที่ทั้ง 20,000 หมู่

นอกเหนือจากการเพาะปลูกแล้ว ยังได้มีการสร้างลานไม้ขนาดใหญ่ทางใต้ของเมือง คุณภาพไม้ที่นี่ดีกว่าที่เมืองหลักเสียอีก แข็งแรงและง่ายต่อการเก็บเกี่ยว ไม้ทั้งหมดที่อู่ต่อเรือต้องการ ล้วนมากจากล่านไม้แห่งนี้

เนื่องจากพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการทำนา จึงไม่มีใครว่างมากนัก โครงการก่อสร้างกำแพงของเมืองฉิวซุ่ยจึงถูกเลื่อนออกไปก่อน หลังจากเสร็จสิ้นการทำนา พวกเขาก็จะเริ่มก่อสร้างกำแพง โชคดีที่พื้นที่ตรงนี้สงบมาก ดังนั้น การก่อสร้างกำแพงในตอนนี้หรือหลังจากนนี้ ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก

หลังจากนั้น โอหยางโชวและคนของเขา ใชเวลา 2 ชั่วโมง ในการเดินทาง จนมาถึงเผ่าซวนเหนียว เวลานี้ การปฏิบัติของพวกเขาแตกต่างจากครั้งที่แล้ว ผู้นำเผ่าซีซี่อ๋อง ได้ออกมาต้อนรับพวกเขาถึงหน้าที่มั่น

“ท่านลอร์ด ยินดีต้อนรับสู่เผ่าซวนเหนียว!” ซีซี่อ๋องกล่าวอย่างอบอุ่น

นี่เป็นความมหัศจรรย์ของอาหารและธัญพืช นับตั้งแต่เผ่าซวนเหนียวทำงานร่วมกับเมืองซานไห่ พวกเขาก็ได้รับอาหารที่ดี และไม่ต้องอดอยากอีก เห็นได้ชัดว่าทัศนคติของซีซี่อ๋องเปลี่ยนไป เขาไม่กล้าจะหยิ่งผยองต่อหน้าโอหยางโชว

อย่างไรก็ตาม หากซีซี่อ๋องรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาได้รับนั้น มีค่าไม่ถึง 3 ใน 10 ส่วน ของสิ่งที่เหมืองแร่หลางซานสามารถผลิตได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นไร

โอหยางโชวยิ้ม แล้วกล่าวว่า “สวัสดีท่านผู้นำ ข้าขอพบท่านยอดหมอผีได้หรือไม่?”

“ได้ทุกสิ่ง! เชิญเข้ามาก่อน!” ซีซี่อ๋องเดินไปข้างหน้า เพื่อนำทางโอหยางโชว

จากนั้น พวกเขาก็มารวมกันอยู่ที่ห้องประชุม โอหยางโชวได้ออกมา โดยปล่อยให้เทียนเหวินจิงปรึกษาหารือกับซีซี่อ๋อง เกี่ยวกับความร่วมมือขั้นต่อไป หลังจากที่ออกมา เขาก็ได้มุ่งหน้าไปที่วัดของฐานที่มั่นบนภูเขา เพื่อพบหมอผี

วัดถูกสร้างขึ้นบนจุดสูงสุดของฐานที่มั่นบนภูเขา มีบันไดทางขึ้นกว่า 200 ขั้น เมื่อเขาขึ้นมาถึง ยอดหมอผีก็กำลังยืนรอเขาอยู่ที่ทางเข้าวัด เพื่อต้อนรับโอหยางโชว เธอเป็นหญิงชราที่ดูอ่อนแอมาก ดวงตาของเธอขุ่นเคือง และเธอดูเหมือนคนที่กำลังใกล้ตาย ผู้อาวุโสท่านนี้ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และเป็นความภาคภูมิใจของเผ่าซวนเหนียว

“แขกจากที่ห่างไกล ข้ายินดีต้อนรับท่าน” ยอดหมอผีกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง

โอหยางโชวไม่กล้าละเลย เขากล่าวตอบด้วยความจริงใจว่า “คำนับท่านยอดหมอผี ของขวัญที่ท่านได้มอบให้เราเมื่อครั้งที่แล้วนั้น เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับเมืองซานไห่ของเรา เพื่อเป็นการขอบคุณ ข้าได้เตรียมของขวัญมามอบให้แก่ท่านเช่นกัน” โอหยางโชวหยิบมุกหยกออกมาจากถุงเก็บของของเขา แล้วมอบมันให้กับหมอผีสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ

มุกหยกนี้ เขาได้รับมากจากการทำลายค่ายโจรขนาดใหญ่ หมอผีสาวตกใจมาก เธอไม่เคยเห็นสมบัติมาก่อน เธอจึงไม่กล้ารับมันไว้

“ท่านลอร์ด นี่มันมากเกินไปนัก มันยากที่ข้าจะรับของขวัญเช่นนี้ได้ แต่ก็เอาเถอะ” ยอดหมอผีส่งสัญญาณให้หมอผีสาวรับมันไว้ เธอเดินไปทางโอหยางโชว แล้วกล่าวว่า “ท่านลอร์ดโปรดตามข้ามา”

วัดของเผ่าซวนหยวนทำมาจากหินทั้งหมด มันมีโครงสร้างที่แข็งแรงมาก

โอหยางโชวเป็นคนนอก ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถเข้าไปในห้องโถงบรรพบุรุษของวัดได้ พวกเขาได้เดินเข้าไปในห้องรับแขกที่อยู่ข้างๆกันนั้น

“ท่านยอดหมอผี เมืองซานไห่ยินดีที่จะทำงานร่วมกับเผ่าต่างๆในภูเขา ข้าอยากจะทราบว่า ท่านพอจะช่วยข้าได้หรือไม่?” โอหยางโชวถามไปตรงๆ

ยอดหมอผีเปิดตาขุ่นมัวของเธอ แล้วกล่าวว่า “เผ่าซวนเหนียวของเราได้ทำการติดต่ออยู่กับอีก 4 เผ่า ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ถ้าท่านลอร์ดมีความตั้งใจเช่นนั้น ข้าก็จะเชิญพวกเขามาที่นี่”

“ถ้ามันเป็นเช่นนั้นได้ ข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านยอดหมอผีแล้ว” โอหยางโชวกล่าวอย่างปิติยินดี

เมื่อเขาออกมาจากเผ่าซวนเหนียว เขาได้ทิ้งเทียนเหวินจิงไว้เจรจากับเผ่าอื่นๆ โดยเนื้อหาความร่วมมือจะคล้ายกับของเผ่าซวนเหนียว

ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการขอบคุณที่โอหยางโชวได้มอบมุกหยกให้กับเธอ ยอดหมอผีได้มอบนกเฟิงของเผ่าซานเหนียวให้กับเขา นกเหล่านี้ฉลาดมาก มันสามารถบินในระยะไกลๆได้

…………………………………………………………………………………………………..

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 4 วันที่ 3

ด้วยความแห้งแล้ง พวกเขาจึงสามารถเก็บเกี่ยวมันฝรั่งได้เพียง 1,000 หมู่ ซึ่งมีมันฝรั่งประมาณ 2.1 ล้านหน่วย ดินแดนจะได้ภาษีจากการเกษตรนี้ เป็นมันฝรั่ง 70,000 หน่วย ซึ่งโอหยางโชวได้สั้งให้ฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหาร นำมันไปแบ่งปันให้กับพวกทหารในกองทัพ

ด้วยการเก็บเกี่ยวมันฝรั่ง พร้อมกับ ธัญพืช และเนื้อสัตว์ที่มีอยู่ วิกฤตการขาดแคลนอาหารของเมืองซานไห่ก็ได้สิ้นสุดลง พวกเขาไม่จำเป็นต้องซื้อธัญพืชจำนวนมากจากตลาดอีก และหลังจากที่เก็บเกี่ยวมันฝรั่งแล้ว โอหยางโชวก็ไม่ได้ให้เกษตรกรปลูกข้าว แต่ให้พวกเขาปลูกฝ้ายแทน

ตามคำกล่าวที่ว่า ‘เสื้อผ้าและอาหารมักมาคู่กัน และคุณไม่สามารถขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้’ ในปัจจุบัน เมืองซานไห่ยังคงต้องใช้วัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าจากตลาด พวกเขายังไม่สามารถผลิตพวกมันได้ด้วยตนเอง สำหรับไหมสีจากตัวไหม ห่วงโซ่อุตสาหกรรมยังไม่ได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างสมบูรณ์ และมันยังได้รับการพิจารณาว่า เป็นสินค้าคุณภาพสูงและมีราคาแพง ไม่เหมาะสำหรับการผลิตขนาดใหญ่

แต่ฝ้ายนั้นแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ดินแดนจึงข้ามผ้าลินิน และใช้ผ้าฝ้ายโดยตรง พื้นที่เพาะปลูก 2,000 หมู่ ไม่ได้อุดมสมบูรณ์นัก ดังนั้น การปลูกฝ้ายแทนข้าว ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าของเกษตรกร

…………………………………………………………………………………………………..

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 4 วันที่ 4

หลังจากที่ยอดหมอผีเผ่าซวนเหนียวได้ประสานไปยังเผ่าอื่นๆ มี 3 เผ่า ที่ตกลงจะเข้าร่วมกับเมืองซานไห่ ทั้ง 3 เผ่า มีขนาดเล็กกว่าเผ่าซวนเหนียว แต่ละเผ่ามีประชากรประมาณ 2,000 คน ส่วนอีก 1 เผ่าที่เหลือนั้นปฏิเสธคำเชิญของหมอผี เผ่านี้มีชื่อว่า ‘เผ่าจีเฟิง’ พวกเขาเป็นเผ่าที่ใหญ่กว่าเผ่าซวนเหนียว มีประชากรมากกว่า 5,000 คน เมื่อพวกเขาได้พบว่าเผ่าซวนเหนียวได้พึ่งพาเมืองซานไห่ และยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ พวกเขาโกรธมาก จึงได้ปฏิเสธความร่วมมือ

ชนเผ่าทั้ง 3 ที่มาเข้าร่วมนี้ ได้ทำให้คนงานในเหมืองแร่หลางซาน มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 คน ด้วยขนาดของเหมืองแร่แห่งนี้ นี่คือเป็นจำนวนสูงสุดของคนงานที่พวกเขาจะมีได้แล้ว

เนื่องจากเผ่าจีเฟิงปฏิเสธความร่วมมือ โอหยางโชวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเพิ่มกำลังป้องกันเหมือง เขารวบรวมนักรบ 300 คน จากชนเผ่าต่างๆและรวมกับอีก 2 กองร้อยเดิม ทำหน้าที่ป้องกันเหมืองหลางซาน โดยซีหลางจะทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการ ส่วนนายทหารคนอื่นๆ จะถูกส่งกลับไปยังเมืองซานไห่ รวมทั้งซีเป่า

นอกเหนือจากส่งคนงานและนักรบมายังเหมืองแร่หลางซานแล้ว ทั้ง 3 เผ่า ยังได้ส่งนักรบที่ดีที่สุดรวม 500 คน เข้าร่วมกับกองทัพเมืองซานไห่ ดังนั้น โอหยางโชวจึงเตรียมเกณฑ์ทหาร 200 คน จากเมืองซานไห่ รวมกับกองร้อยทหารราบ 3 กอง เพื่อจัดตั้งกองพันป้องกันเมือง

ณ ห้องประชุม ของค่ายทหารเมืองซานไห่ โอหยางโชวเริ่มจัดระเบียบบุคลากรใหม่

“เจ้าซีฮู!”

“นายท่าน!”

“ข้าจะให้เจ้าใช้กองร้อยทหารราบที่ 1 เป็นแกนหลัก แล้วเกณฑ์ทหารจากเมืองซานไห่ 200 คน และคนจากชนเผ่าป่าเถื่อนภูเขาอีก 200 คน เพื่อสร้างกองพันป้องกันเมืองซานไห่” โอหยางโชวกล่าว

“กองพันป้องกันเมือง?” เจ้าซีฮูสับสน

“ถูกต้อง หน้าที่ของกองพันป้องกันเมือง คือ การปกป้องดินแดนหลัก ค่ายทหารของกองพันจะอยู่ในเมือง และเพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการในการป้องกันเมือง ภายในกองพันจะประกอบไปด้วย กองร้อยทหารธนู 2 กอง, กองร้อยทหารหน้าไม้ 2 กอง และกองร้อยทหารโล่ดาบ 1 กอง ทหาร 200 คน ที่จะเกณฑ์จากเมืองซานไห่ จะได้รับการฝึกฝนหน้าไม้ ในขณะที่กองร้อยจากชนเผ่าคนเถื่อนภูเขา จะได้รับการฝึกฝนธนู”

“ข้าเข้าใจแล้วขอรับ นายท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะกัดการมันให้เรียบร้อย!” เจ้าซีฮูกล่าวเสียงดัง

โอหยางโชวหันไปทางขุนพลซี แล้วกล่าวว่า “ขุนพลซี!”

“ขุนพลซีอยู่ที่นี่แล้วขอรับ! ข้าพร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของนายท่านเสมอ!”

“ข้าจะให้ท่านใช้กองร้อยทหารราบที่ 2และ3 เป็นแกนกลางของกองพัน และเพิ่มนักรบจากชนเผ่าต่างๆ 300 คน เพื่อสร้างกองพันทหารราบเกราะหนัก”

“ทหารราบเกราะหนัก? แต่เรายังไม่มีเกราะหนัก” ขุนพลซีสับสน

โอหยางโชวส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “ใครบอกว่าเราไม่มีหรือ? ฝ่ายคลังวัสดุกำลังผลิตชุดเกราะทหารราบ ส่วนอาวุธก็คือ ดาบถัง ทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นอาวุธและอุปกรณ์ของทหารราบเกราะหนัก”

นายทหารคนอื่นๆต่างก็มองขุนพลซีด้วยความอิจฉา เกราะหนักมีน้ำหนักถึง 29 กิโลกรัม ดังนั้น จึงมีเพียงชาวเผ่าคนเถื่อนภูเขาเท่านั้น ที่สามารถสวมพวกมันได้ ส่วนดาบถัง มันเป็นอาวุธที่ทหารทุกคนสามารถใช้ได้ แต่พวกเขาก็คิดว่า ทหารราบเกราะหนักจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับมัน

ขุนพลซีหัวเราะอย่างสดใส แล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่านสำหรับการสนับสนุนของท่าน”

“ค่ายของกองพันทหารเกราะหนักจะถูกสร้างขึ้นนอกเมือง และท่านขุนพลจะต้องเพิ่มการฝึกอบรมพวกเขาอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกรับน้ำหนัก ข้าไม่ต้องการเห็นว่า เมื่อชุดเกราะพร้อมแล้ว แต่กับทหารไม่สามารถสวมมันได้” โอหยางโชวกล่าวต่อ

“นายท่านอย่าได้กังวล ข้าจะฝึกฝนพวกเขาให้ดีที่สุด!”

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “แล้วข้าจะรอดู หลังจากที่พวกเขาถูกจัดตั้งขึ้น และกลายเป็นกองพันที่คู่ควร ข้าจะมอบชื่อให้ว่า ‘กองพันติดอาวุธ’”

มันนับได้ว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง จนถึงวันนี้  ยังไม่กองทหารไหนในเมืองซานไห่ ที่ได้รับชื่อเฉพาะเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ชัดว่าโอหยางโชวให้ความสำคัญกับมันอย่างมาก

เลือดของขุนพลซีเดือดพล่าน แล้วเขาก็ตะโกนว่า “ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง!”

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด