ตอนที่แล้วSH – 11  วิญญาณใต้น้ำ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH – 13 สาวสวย !

SH – 12 ความทรงจำอันเลวร้าย !


SH – 12 ความทรงจำอันเลวร้าย !

 

เหยี่ยซ่าวหยาง กลอกตา มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะกระโดดลงไปในน้ำที่เน่าเหม็นนี้จากนั้นเขาจึงหันไปมองเสี่ยวหม่าอย่างมีเล่ห์นัยบางอย่าง รอยยิ้มเล็กๆปรากฏบนใบหน้าเหยี่ยซ่าวหยางแล้วพูดว่า “ทำไมคุณไม่ทำตัวให้มีเกียรติและเสียสละตัวเองเพื่อล่อศพออกมาล่ะ?”

 

          “ผม?” เสี่ยวหม่า ตาโต เขาส่ายหน้าอย่างพยายามคัดค้านเต็มที่ “ไม่ ไม่ ไม่ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเวทมนตร์เลย ถ้าผมลงไปผมต้องถูกจับกินแน่ๆ!”

 

          เหยี่ยซ่าวหยางพูดต่อว่า “ผมมีแผนมันทำอะไรคุณไม่ได้หรอกผมแค่อยากให้มันจับตัวคุณไว้สักครู่เดียวเท่านั้น…”

 

          “ไม่มีทาง ต่อให้อีกล้านปีผมก็ไม่มีทางลงไปข้างใต้นั่น!”

 

          “เร็วๆเข้าเถอะน่า คุณไม่รู้หรือไงว่าคุณต้องสะสมคุณงามความดีไว้เพื่อใช้ในชาติหน้า คุณคงไม่รู้สินะคุณอาจจะได้เกิดใหม่เป็นชายหนุ่มที่หุ่นดีและหล่อเหลาก็ได้นะ”

 

          “ผมยอมเกิดมาอ้วนไปอีกแปดชาติถ้าต้องแลกกับการกระโดดลงไปในสระน้ำนี้!” เสี่ยวหม่า พูดอย่างมั่นใจเขายังคงไม่ขยับตัวแล้วพูดสวนกลับมาว่า “ถ้ามันดีแล้วทำไมคุณไม่กระโดดลงไปซะเองล่ะ!”

 

          เหยี่ยซ่าวหยาง พูดไม่ออก แม้ว่าเจ้าคนอ้วนนี้จะไม่ฉลาดมากนัก แต่เขาก็ไม่โง่พอที่จะกระโดดเข้าไปในหลุมพราง ‘เอาล่ะ ผมคิดว่าคงไม่มีทางเลือกอื่น ผมคงต้องเสียสละของบางอย่างของตัวเอง’ เหยี่ยซ่าวหยางถอนหายใจขณะเปิดกระเป๋าและหยิบห่อผงขี้เถ้าออกมาหลังจากนั้นเขาก็เทมันลงไปในสระอย่างค่อยไม่เต็มใจ

 

          “สิ่งนั้นคืออะไร?” เสี่ยวหม่า ถามอย่างสงสัย

 

          “ผงขี้เถ้า เป็นยาที่สามารถใช้ขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้”

 

          ทันใดนั้นเสี่ยวหม่าก็จำบางอย่างได้ “มันอยู่ในเรื่องตำนานงูขาวใช่มั้ย? ในเรื่องนั้น ฝ๋าห่ายให้ไป๋ซู่เจียนดื่มเหล้าผสมผงขี้เถ้าและทำให้ไป๋ซู่เจียนคืนร่างกลับเป็นงู”

 

          “นั่นมันซู่เซียนไม่ใช่ฝ๋าห่าย” หญิงสาวแก้ไขคำตอบให้เขาจากนั้นจึงหันไปมองเหยี่ยซ่าวหยางและถามเขา “ตอนนี้เรากำลังจะทำอะไร?”

 

          เหยี่ยซ่าวหยางเท้าสะเอวขณะกำลังยืนอยู่ริมสระน้ำ “เพียงแค่รอเวลาซากศพมันจะโผล่ขึ้นมาเอง” เมื่อเสี่ยวหม่าและหญิงสาวได้ยินว่าซากศพจะขึ้นมาพวกเขาก็รีบถอยหลังไปสองสามก้าวทันใดนั้นเสี่ยวหม่าที่นึกอะไรขึ้นมาได้ก็ถามอย่างโกรธว่า “เฮ้ ถ้ามันจัดการได้ง่ายๆแบบนี้ทำไมคุณถึงจะให้ผมกระโดดลงไป?”

 

          เหยี่ยซ่าวหยางกลอกตาและตอบ “คุณรู้ไหมว่าผงขี้เถ้าราคาแพงแค่ไหน? ผมก็แค่อยากจะประหยัดเงินก็เท่านั้น”

 

          “อะไรวะเนี่ย ผมมีค่าน้อยกว่าห่อผงขี้เถ้าอีกหรือ?”

 

          “ผงขี้เถ้าสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ คุณขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้มั้ยล่ะ?”

 

          หญิงสาวหัวเราะและพูดติดตลก “เขาน่าเกลียดมากพอที่จะขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้เลยล่ะ”

 

          หลังจากรอประมาณเกือบสิบนาที น้ำในหนองนั่นเริ่มเกิดฟองและน้ำเริ่มสาดกระเด็นขึ้นมา

 

          “มันกำลังจะขึ้นมาแล้ว พวกคุณหลบไปข้างหลัง!” เหยี่ยซ่าวหยาง ถอยหลังไปสองก้าวและดึงดาบจูโจ้วของเขาออกมา.......ดาบจูโจ้วถูกใช้เพื่อกำจัดปีศาจและผีดิบ ดาบไม้ที่เขาครอบครองมีความพิเศษ มันถูกสร้างขึ้นมาจากต้นพุทราอายุ 33 ปีที่โดนฟ้าฟดลงมาที่มัน ไม้มีจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ดังนั้นมันจึงกลายเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย

 

         เสี่ยวหม่า และหญิงสาวหวาดกลัวมากดังนั้นพวกเขาจึงถอยหลังไปอีกราวยี่สิบเมตร แม้ว่าพวกเขาจะถอยไปไกลกว่านี้แต่ทั้งคู่ก็ยังคงอยู่ในระยะการคุ้มกันของ เหยี่ยซ่าวหยาง พวกเขาทำแบบนี้เพราะกลัวว่าจะมีวิญญาณดวงอื่นๆที่อาจจะโผล่ออกมาอีก การเผชิญกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้มุมมองต่อโลกใบนี้ของทั้งคู่เปลี่ยนไป และตอนนี้ดูเหมือนพวกเขาจะคิดว่ามีวิญญาณอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง

 

          เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น บางสิ่งบางอย่างก็ลอยอกมาจากในน้ำ มันนอนแผ่อยู่บนพื้นและมองมาทางพวกเขาด้วยจุดมุ่งหมายที่อยากจะฆ่า สิ่งนั้นมีผิวขาวราวไข่มุก ผิวของมันยืดและฉีกขาดในหลายๆส่วน ภายใต้ผิวของมันดิ้นดุกดิกราวกับลูกโป่ง ในขณะที่ผมยุ่งเหยิงสีดำเคลื่อนที่ไปรอบๆศีรษะราวกับกลุ่มของงู ใบหน้าของมันกลับน่าขยะแขยงยิ่งกว่า ตาข้างหนึ่งของมันเหี่ยวย่นในขณะที่อีกข้างมีขนาดใหญ่เท่าลูกปิงปอง เปลือกตาทั้งสองข้างของมันหายไป เนื้อและผิวหนังที่หน้าผากของมันก็เน่าเปื่อย เหลือทิ้งไว้เพียงแค่กะโหลกศีรษะสีขาวเบื้องหลัง…

 

          ‘สยองขวัญ’ ไม่ใช่คำที่เหมาะสมที่จะสามารถอธิบายเหตุการณ์นี้ได้ หญิงสาวหมดสติไปโดยไม่แม้แต่จะส่งเสียงกรีดร้อง แต่เป็นโชคดีสำหรับเสี่ยวหม่าเขาเคยเห็นวิญญาณที่น่ากลัวมาแล้วในหอพักทำให้เขาไม่กลัวสิ่งตรงหน้ามากนัก เขาจับตัวหญิงสาวเอาไว้ได้และทั้งคู่ก็ล้มลงไปกองกับพื้น

 

          วิญญาณใต้น้ำเหล่านี้ไม่สามารถเดินได้ ดังนั้นมันจึงคลานแทน อย่างไรก็ตามมันเคลื่อนที่เข้ามาหา เหยี่ยซ่าวหยาง อย่างช้าๆ มันไม่มีขาและไม่มีบาดแผลที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มันดูราวกับว่ามีใครบางคนมาเลื่อยขาของพวกมันทิ้ง โซ่เหล็กหนาถูกพันรอบเอวของพวกมันและปลายโซ่ยังคงจมอยู่ในสระน้ำ มันใช้มือทั้งสองข้างเพื่อพยายามพาตัวเองเคลื่อนที่เข้าไปหาเหยี่ยซ่าวหยาง

 

          เหยี่ยซ่าวหยาง ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย

 

          “เหยี่ย คุณกลัวมันงั้นหรือ? ทำอะไรสักอย่างสิ!”

 

          ผีดิบไม่ได้ทำให้ เหยี่ยซ่าวหยางกังวลเลยเขาเคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว เขาสังเกตเห็นโซ่ที่พันอยู่รอบๆเอวของซากศพ และรู้สึกได้ถึงเวทมนตร์บางอย่างจากโซ่พวกนั้น หากการคาดเดาของเขาถูกต้อง คนที่ตัดขาและล่ามโซ่พวกมันเอาไว้ต้องเป็นคนๆเดียวกัน ใครบางคนที่มีพลังอำนาจ? ทำไมคนๆนั้นถึงไม่ฆ่าพวกมัน?

 

          ทันใดนั้น เหยี่ยซ่าวหยาง ก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่เย็นเยียบและเปียกแฉะบริเวณข้อเท้าของเขา ขณะที่เขาก้มลงมองก็เห็นเส้นผมสีดำกำลังพยายามจะดึงให้เขาล้มลง เหยี่ยซ่าวหยาง จึงใช้ดาบไม้สับเส้นผมที่กำลังดึงเขาไว้ ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาและซากศพก็กรีดร้องอย่างเจ็บปวด จากนั้นซากศพก็เคลื่อนที่เข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วและคว้าเท้าซ้ายของเขาเอาไว้ มันเตรียมพร้อมที่จะกัดเท้าเขา เหยี่ยซ่าวหยาง จึงยกขาของเขาขึ้น แม้ว่าเขาจะยกขาขึ้นมาได้ทันแต่ผีดิบตนนั้นก็เอารองเท้าของเขาไปได้.....

 

          “คุณมีรสนิยมแปลกๆนะ” เหยี่ยซ่าวหยาง ส่ายหน้า ในขณะที่เขาแกว่งดาบและแทงมันลงไป ซากศพก็ปล่อยมือจากรองเท้าทันทีและใช้มือที่เน่าเปื่อยทั้งสองข้างจับดาบไม้เอาไว้ มือทั้งสองข้างของมันเริ่มไหม้และพองในขณะที่ของเหลวสีดำไหลออกมา ซากศพเปิดปากออกอย่างพยายามที่จะตะโกน แต่มันกลับไม่มีลิ้น ภายในปากของมันเต็มไปด้วยหนอนสีขาว เหยี่ยซ่าวหยาง ย่นคิ้วของเขาลงอย่างสะอิดสะเอียนเมื่อเห็นปากของมัน แม้ว่าเขาจะไม่กลัวแต่ก็ยังคงรังเกียจมัน ความเจ็บปวดและความร้อนไม่สามารถทำอะไรผีดิบตนนี้ได้อีกต่อไป มันดึงดาบจูโจ้วเข้าไปใกล้ตัวเองมากขึ้น

 

          อำนาจที่สามารถต้านทานพลังของดาบไม้ได้ทำให้ เหยี่ยซ่าวหยาง แปลกใจ คนๆนั้นต้องฝึกฝนมาอย่างน้อย 100 ปี ในขณะนั้น เหยี่ยซ่าวหยาง พึมพำสวดคาถาและใช้มือเปล่าของเขาต่อยไปที่ใบหน้าซากศพ โดยที่ไม่คาดคิด เหยี่ยซ่าวหยางสูญเสียการควบคุมตัวราวกับว่ามีบางอย่างดึงขาของเขาเพื่อทำให้เขาลื่นล้ม เมื่อก้มลงมองเขาก็เห็นซากศพใช้เส้นผมดึงขาของเขาอีกครั้ง ซากศพค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันเส้นผมที่แผ่เข้ามาก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่กี่วินาทีถัดมา มันก็สามารถควบคุมตัวเขาและดึงตัวเขาลงไปได้ เขาอยู่ด้านล่างในขณะที่ซากศพอยู่ด้านบน เส้นผมค่อยๆห่อหุ้มร่างเขาอย่างช้าๆจนกลายเป็นรังไหม เหยี่ยซ่าวหยาง กำลังตกอยู่ในความลำบากซะแล้ว....

 

 

          “เชี่- ซากศพพวกนั้นกำลังจะข่มขืนเหยี่ยงั้นหรือ?” ภาพตรงหน้าทำให้ เสี่ยวหม่า ตกใจเขาจึงตะโกนใส่เหยี่ยซ่าวหยาง “เหยี่ยอย่ายอมแพ้นะ คุณต้องปกป้องความบริสุทธิ์ของคุณจากสิ่งนั้น หลังจากคุณเอาชนะมันได้ผมจะหาแฟนให้คุณ!”

 

          เหยี่ยซ่าวหยาง อารมณ์เสียสุดๆแล้วในขณะที่เขารู้สึกถึงความลื่นและเหนียวหนึบจากร่างกายของซากศพ ส่วนที่แย่ที่สุดคือศีรษะของซากศพที่อยู่ใกล้กับศีรษะของเขา มันเปิดปากออกและหนอนยาวสีขาวที่อยู่ในปากของมันก็เริ่มหลุดออกมา เหยี่ยซ่าวหยาง รู้ว่าซากศพไม่ได้พยายามที่จะมีความสัมพันธ์กับเขา แต่มันกำลังจะฆ่าเขาต่างหาก นอกจากนี้แล้วหากเขาถูกหนอนกัดเขาก็จะตายทันที

 

          ‘ผมไม่สามารถขยับได้ แม้ว่าผมจะมีความสามารถมากแต่ผมไม่สามารถใช้มันได้โดยปราศจากการใช้มือ นอกจากว่าผม…อ่า อย่างไรก็ตามผมคงต้องเสียสละจูบแรกของผมสินะ!’ เหยี่ยซ่าวหยาง กัดลิ้นของเขาโดยไม่ลังเลและแนบปากของเขากับซากศพและพ่นเลือดของเขาใส่ปากของมัน เลือดจากลิ้นมีความสามารถในการขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ดีที่สุด นอกจากนี้แล้ว เหยี่ยซ่าวหยาง ยังเป็นบักบุญที่เก่งกาจซึ่งทำให้เลือดของเขามีพลังมากเพิ่มขึ้นอีกเป็นสามเท่า !

 

          “อ๊า…” ราวกับว่าซากศพได้กลืนกินบางอย่างที่เป็นพิษร้ายแรง ร่างกายของมันเริ่มสั่น ภาพตรงหน้าทำให้เสี่ยวหม่าตะลึงและเขาก็พึมพำ “เธอกำลังถึงจุดสุดยอดงั้นหรือ…?”

 

          เกิดเสียงระเบิดขึ้น เหยี่ยซ่าวหยาง ระเบิดเส้นผมที่กักตัวเขาไว้ออกเป็นชิ้นๆ ในขณะเดียวกันซากศพก็ถูกผลักออกไปเช่นกัน เหยี่ยซ่าวหยาง รีบใช้โอกาสนี้ลุกขึ้นยืนและสวดคาถาอย่างรวดเร็ว “โอ้ แสงสว่างยามเย็น สวรรค์และโลกจะต้องถูกแบ่งออกจากกันตามกฏของหยินและหยาง ด้วยพลังที่ไร้ขีดกำจัดของเต๋า !” นี่คือคาถา สวรรค์และพื้นพิภพและเป็นหนึ่งในคาถาที่ทรงพลังที่สุดของนิกายหม่าวซาน เฉพาะนักบุญที่ทรงพลังเท่านั้นที่สามารถใช้คาถาที่ทรงพลังนี้ได้ พลังของมันจะมากขึ้นตามความแข็งแกร่งของผู้ใช้ โดยปกติแล้วเขาไม่จำเป็นต้องใช้คาถาที่มีพลังเช่นนี้เพื่อกำจัดวิญญาณกระจอกๆแบบนี้แต่อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะซากศพนั้นได้จูบแรกของเขาไปเขาจึงโกรธมากและต้องการที่จะกำจัดมันให้สิ้นซาก

 

          หลังจากร่ายคาถาเสร็จแล้ว ลำแสงสีเขียวก็พุ่งออกมาจากดาบไม้และเจาะทะลุคอหอยของวิญญาณตนนั้น หลังจากนั้นเหยี่ยซ่าวหยางก็ตะโกนเสียงดังว่า “ทำลาย!” ญญาณร้ายตนนั้นถูกระเบิดออกเป็นชิ้นๆ และในที่สุดมันก็ตกลงมาเกลื่อนพื้น......

 

          เหยี่ยซ่าวหยาง เช็ดปากของเขาและพยักหน้าให้กับตัวเอง “นี่คือการทำลายล้างที่ผมต้องการเห็น”

 

           หลังจากมองอยู่เป็นเวลานาน เสี่ยวหม่า และหญิงสาวก็ตื่นขึ้นมาจากความตกใจ พวกเขาสามารถคิดและประมวลผลได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากแน่ใจว่าซากศพพวกนั้นตายแล้วทั้งคู่ก็เดินลงมาจากเนินเขาเล็กๆ จากนั้น เสี่ยวหม่า ก็ยกนิ้วให้และพูดว่า “คุณยอดเยี่ยมมาก เหยี่ย สามารถฆ่าปีศาจที่ทรงพลังได้ ผมคิดว่าคุณจะจัดการมันไม่ได้ซะแล้วเมื่อเห็นมันได้ตัวคุณไป คุณทำยังไงถึงผลักสิ่งนั้นออกมาจากตัวคุณได้?”

 

          “อย่าถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น!” เหยี่ยซ่าวหยาง มองเขาด้วยสายตาโหดเหี้ยม ฉากอันน่าขยะแขยงและน่าอับอายยังคงปรากฏอยู่ในหัวของเขาราวกับว่ามันอาจจะเป็นหนึ่งในความทรงจำอันเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเขา

 

          ใบหน้าของเสี่ยวหม่ากลายเป็นสีแดงและหัวใจของเขาเกือบจะเต้นผิดจังหวะ วิญญาณตนนั้น… คงไม่ได้ทำให้เขาจมน้ำไปด้วยหรอกใช่ไหม?

 

          เหยี่ยซ่าวหยาง ใช้พลังไปมากพอสมควรในการร่ายคาถาดังกล่าว ดังนั้น เหยี่ยซ่าวหยาง จึงนั่งลงและใช้เทคนิคพิเศษของนิกานหม่าวซานเพื่อฟื้นพลัง หลังจากผ่านเทคนิคนี้เขาก็รู้สึกดีขึ้นและพร้อมที่จะเดินทางต่อ เขาก้มลงมองเศษเนื้อที่ค่อยๆละลายกลายเป็นเลือดสีดำอย่างช้าๆ เหยี่ยซ่าวหยาง เดินไปยังโซ่เหล็กและดึงมันขึ้นมา หลังจากดึงได้ไม่กี่เมตร ปลายสุดของโซ่ก็โผล่ขึ้นมา เหยี่ยซ่าวหยาง หยิบสายโซ่ขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปว่า “โซ่นี้มีเวทมนตร์บางอย่างที่หมอผีทำเอาไว้…”

 

          “หมอผี? พวกเขาสามารถล่าวิญญาณได้ด้วยหรือเปล่า?” เสี่ยวหม่าถาม “ทำไมเขาถึงล่ามสิ่งนี้ไว้ล่ะ? ทำไมเขาไม่ฆ่ามัน?”

 

          เหยี่ยซ่าวหยาง ส่ายหน้าและพูดว่า “เพราะคนๆนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่ามัน…เขาพยายามที่จะปลุกมันขึ้นมา”

 

          ติดตามตอนต่อไป........

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด