ตอนที่แล้วGE3 สืบทอดจักรพรรดิสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงของหนิงฝาน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE5 สร้างชื่อ

GE4 เจ้าแก้พิษของข้าได้หรอ?


Chapter 4 เจ้าแก้พิษของข้าได้หรอ?

 

ภายในตำหนักซื่อฟาน ตำหนักน้ำแข็งที่ปีศาจเฒ่าอาศัยอยู่เพียงลำพัง สถานที่แห่งนี้ไม่อนุญาติให้ผู้ใดก้าวเข้าไปเว้นแต่หนิงฝาน

 

หนิงฝานผลักประตูออกมาด้านนอก แสงจันทร์นวลอาบไล้สาดส่อง เขาบิดตัวไปมาเพื่อผ่อนคลาย

 

หนิงฝานสวมใส่ชุดคลุมขาวรองเท้าสีเมฆ เขามัดผมขึ้นแล้วสวมใส่หมวกเต๋าสีดำคลุมทับไว้ ความลงตัวของโทนสีขาวดำขับส่งให้หนิงฝานดูหล่อเหลาและสูงศักดิ์

 

เขาเป็นเพียงหนุ่มน้อย แต่สายตาของเขากลับเปล่งประกายราวกับเป็นปีศาจเฒ่า

 

หนิงฝานหลับตาลงพลางจดจำความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ ภายในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์มีตำราให้เขาได้เรียนรู้มากมายเพียงแต่มีอยู่ 1 การบ่มเพราะที่นับว่าเป็นเรื่องที่ถูกตรงตามวิถี

 

‘การแปลงหยินหยาง’ ที่จักรพรรดิสวรรค์ผู้เป็นตำนานทิ้งไว้ให้

 

ทักษะนี้แบ่งออกเป็นออก 10 ระดับแยกเป็นหยินและหยาง หนิงฝานต้องบ่มเพาะทั้งหยินและหยางไปพร้อมๆกัน เมื่อบ่มเพาะจนบรรลุ 1 ระดับจะทำให้ผู้บ่มเพาะแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก ด้วยความพิเศษของสร้อยหยินหยาง เมื่อผู้บ่มเพาะใช้การบ่มเพาะร่วมกันกับอิสตรีก็จะทำให้ความแข็งแกร่งของทั้งคู่เพิ่มขึ้น

 

หนิงฝานกะประมาณคร่าวๆว่าหากเขาบ่มเพาะตามขั้นตอน เขาต้องใช้เวลากว่าหลายสิบปีกว่าจะบรรลุถึงขอบเขตประสานวิญญาณ แต่หากเขาใช้การแปลงหยินหยางและมีเพศสัมพันธ์กับอิสสตรี...เขาจะสามารถบรรลุถึงระดับ 9 ขอบเขตเปิดเส้นโลหิตได้ภายในครึ่งปี และหากเขาบรรลุการแปลงหยินหยางระดับแรกได้สำเร็จ การบ่มเพาะของเขาก็จะบรรลุถึงขอบเขตประสานวิญญาณ

 

หนิงฝานลืมตาขึ้นพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย ด้วยสร้อยหยินหยาง...ด้วยการแปลงหยินหยาง สักวันนึง..เขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตไร้แบ่งแยกและท่องไปทั่วโลกแห่งพิรุณนิรันดร์นี้อย่างอิสระ!

 

การที่จะบ่มเพาะการแปลงหยินหยางได้นั้น หนิงฝานต้องผสานเต๋ากับสตรี หรืออาจกล่าวว่า เขาจำเป็นต้องกลืนกินเพลิงและใช้หยางเติมหยินเพื่อให้การผสานของทั้งสองคนคงที่

 

การแปลงหยินหยางระดับที่ 1 หนิงฝานเพียงต้องมีเพศสัมพันธ์กับสตรีจำนวน 99 ครั้งพร้อมกับดูดกลืนเพลิงที่ต่างกัน 9 ชนิด

 

ในระดับที่สอง หนิงฝานต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้บ่มเพาะในขอบเขตจิตวิญญาณแรกเริ่มจำนวน 99 ครั้ง และต้องดูดกลืนเพลิงที่ต่างกัน 999 ชนิด

 

ในระดับที่สาม หนิงฝานต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้บ่มเพาะขอบเขตไร้แบ่งแยกจำนวน 99 ครั้งและต้องได้รับเพลิงสวรรค์ 9 ชนิด

 

เมื่อบรรลุการแปลงหยินหยางระดับ 3 เขาก็จะสามารถปลดผนึกโลกหยินลึกลับที่อยู่ภายในสร้อยหยินหยางได้

 

สาวงามลึกลับนางนึงติดอยู่ในโลกหยินอันลึกลับ หากหนิงฝานบรรลุการแปลงหยินหยางระดับ 3 เขาก็จะสามารถช่วยให้นางเป็นอิสระได้ แต่หนิงฝานไม่ได้คิดว่าเขาจะสามารถบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกได้ภายในไม่กี่ร้อยปี แต่หากเขาผสานกายกับผู้บ่มเพาะในขอบเขตไร้แบ่งแยกก็นับว่าเป็นไปได้ที่เขาจะบรรลุไปถึงระดับนั้น

 

หนิงฝานยิ้มก่อนจะชูนิ้วขึ้น ทันใดนั้นกลับปรากฏเพลิงพร้อมกับเสียงมังกรคำรามดังขึ้น เพลิงกลุ่มนี้คือการผสมผสานระหว่างเปลวเพลิงหลายร้อยชนิดจนกลายเป็นเพลิงของมังกร แต่ว่ามังกรก็ถูกสร้อยหยินหยางของหนิงฝานสังหารไปตั้งแต่ตอนที่อยู่นิกายเหอฮวน

 

เพลิงชนิดนี้ก็มีในปีศาจเฒ่าเช่นกัน ถึงแม้การบ่มเพาะของหนิงฝานจะยังตื้นเขิน แต่ด้วยความช่วยเหลือของเปลวเพลิงจะทำให้เขาสักหารผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตประสานกายได้อย่างง่ายดายราวกับสังหารมด ซึ่งนี่คือไพ่ตายที่เขาไม่อาจให้ผู้อื่นล่วงรู้ได้

 

อย่างน้อยๆ หนิงฝานก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการหาเพลิงก่อนจะถึงระดับนั้น ที่เหลือก็แค่มีเพศสัมพันธ์สตรีก็จะทำให้เขาทะลวงระดับ 1 ได้

 

หนิงฝานหันกลับมา จื่อเฮ่อก็ยังคงหลับอยู่ทำให้หนิงฝานรู้สึกลังเลในใจ

 

“มีเพศสัมพันธ์กับนางจะทำให้ข้าทะลวงระดับ 1 ได้ และการบ่มของข้าก็จะก้าวหน้าไปมาก แต่...นางยังเด็กเกินไป”

 

หลังจากหนิงฝานได้พานพบกับความโหดร้ายและฉากแห่งความเป็นความตาย มันก็ทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งดุจหินผา ดังนั้น หนิงฝานจะทำร้ายจื่อเฮ่อได้อย่างไร?

 

“ช่วงชีวิตที่เหลือของข้า...ข้าไม่อาจทิ้งนางได้ ยังคงมีเรื่องอีกมากมายที่ไม่อาจเร่งร้อน ข้าจะรอให้นางโตขึ้นกว่านี้อีกหน่อย...”

 

หนิงฝานครุ่นคิดขณะที่จื่อเฮ่อก็เริ่มตื่นและส่งเสียงออกมาเบาๆ

 

นางตื่นแล้ว นางช่วยชีวิตหนิงฝานถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือสร้อยหยกและซาลาเปา ส่วนครั้งที่สอง...คือพรหมจรรย์ของนาง

 

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อนางตื่นขึ้นนางกลับไม่เห็นผู้ใด หนิงฝานทิ้งนางไว้คนเดียวทำให้นางอึดอัดเล็กน้อย...นางไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางถูกนิกายเหอฮวนจับไปตอนนางอายุได้ 9 ขวบ นางไม่เคยมีโอกาสได้ติดต่อกับบุรุษทำให้นางไม่เข้าใจถึงความรัก ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อความรัก...นางแค่ไม่อยากเห็นหนิงฝานตาย

 

แต่เมื่อยามที่นางลืมตาขึ้น นางไม่เห็นหนิงฝาน นั่นทำให้นางโกรธ ตอนนี้หนิงฝานควรจะอยู่ที่นี่กับนาง...ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาหล่ะ? นางเสียพรหมจรรย์ไปแล้วอย่างไม่มีทางหวนคืน

 

สับสนและสูญเสีย นั่นคือสิ่งที่อธิบายถึงจื่อเฮ่อในตอนนี้ได้ดีที่สุด

 

เรือนร่างของจื่อเฮ่อนั้นบอบบาง...ขาวนวล และเต็มไปด้วยบาดแผล นางผลักหมอนออกเบาๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แต่ทว่า ร่างกายท่อนล่างของนางกลับรู้สึกปวดระบม นางไม่สามารถยืนตัวตรงได้จนในที่สุดนางก็ล้มลงกับพื้น

 

“ระวัง!”

 

ทันใดนั้น บุคคลรูปร่างผอมบางได้จับนางไว้ ตอนนี้นางเปลื่อยเปล่าแต่อีกฝ่ายกลับไร้ซึ่งอารมณ์ราคะกับนาง

 

“เพิ่งตื่นหรอ?”

 

หนิงฝานยิ้มอย่างอบอุ่น

 

“อืม พี่ชาย...ท่านอย่ามองนะ ข้าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!”

 

จื่อเฮ่อซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของหนิงฝาน เรือนร่างที่อ่อนแอและบอบบางของนางไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

 

นางไม่เข้าใจและไมรู้ว่าเหตุใด...ความรักถึงได้งดงามและน่าอัศจรรย์ เพราะตอนนี้นางหลงเหลือเพียงความเจ็บปวด

 

“ก็ได้ ข้าจะไม่ดู”

 

หนิงฝานหลับตาลงแล้วอุ้มนางกลับไปบนเตียง ขณะอุ้ม นิ้วทั้ง 5 ของเขาก็ลูบสัมผัสไปบนเรือนร่างของนาง

 

ความอ่อนโยนของหนิงฝานทำให้นางรู้สึกสบาย เพียงแต่ร่างกายของนางกำลังถูกหนิงฝานสัมผัส ทำให้นางกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก นางกล่าว

 

“พะ...พี่ชาย...อย่าทำแบบนี้….จื่อเฮ่อรู้สึกแปลกๆ….”

 

“ข้ากำลังรักษาบาดแผลและเปิดเส้นโลหิตของเจ้า มันจะช่วยทำให้โลหิตของเจ้าไหลเวียนได้ดีขึ้น เจ้าพักผ่อนเถอะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เจ้าก็เดินได้ตามปกติ”

 

ที่หนิงฝานทำไปเมื่อครู่คือทักษะการนวดที่มาจากความทรงจำที่สามของจักรพรรดิสวรรค์ มันคือการนวด

 

จื่อเฮ่อผลอยหลับไปอย่างสบายทั้งใบหน้ายังปรากฏรอยยิ้มอันงดงาม

 

หนิงฝานห่มผ้าให้นางก่อนจะพินิจนางอย่างอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก

 

ทรงผมที่แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของนางกลายเป็นยุ่งเหยิง ใบหน้าของนางเปลี่ยนจากเด็กกลายคล้ายอิสตรีนางนึงที่ทำให้ผู้อื่นรักใคร่ เบื้องล่างขนตาเรียวงามของนาง ดวงตาอันกระจ่างใสทั้งสองปิดลงขณะที่นางเข้าสู่นิทรา

 

“หากไม่มีนาง ข้าคงตายไปสองครั้งแล้ว ชีวิตอันไร้ค่าของหนิงฝานผู้นี้ไม่อาจตอบแทนความปราถนาดีของเจ้าได้ ข้าทำได้เพียงสัญญากับเจ้าว่า ตราบใดที่ข้ายังอยู่...ข้าจะปกป้องเจ้า และจะไม่ยอมให้ใครใน ‘โลกพิรุณนิรันดร์’ ทำร้ายเจ้า!”

 

มือของหนิงฝานลูบไล้ไปบนใบหน้ายามนิทราของจื่อเฮ่ออย่างอ่อนโยนและรักใคร่

 

แต่ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ เสียงหัวเราะที่ไม่ถูกกาลเทศะพลันดังมาจากเบื้องนอก

 

“ฮ่าฮ่า เจ้าคือบุรุษที่แท้จริง สมแล้วที่เป็นศิษย์ของข้า! คำพูดของเจ้า...ชายชราผู้นี้ถูกใจนัก เส้นโลหิตของข้าถูกทำลาย ในช่วงชีวิตนี้...ข้าไม่สามารถทะลวง ‘ขอบเขตแก่นทองคำ’ ได้อีกแล้ว แต่ยังซะ...สักวันนึง...ศิษย์ของข้าก็จะเหยียบย่างโลกพิรุณนิรันดร์ใบนี้! ฮ่าฮ่า เจ้ามันเป็นเด็กที่น่าสนใจ ที่จะอาละวาดบนโลกพิรุณนิรันดร์!”

 

หนิงฝานขมวดคิ้ว เสียงหัวเราะที่ดังอยู่เบื้องนอกนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นของปีศาจเฒ่าหาน หนิงฝานไม่เคยมีความคิดในด้านบวกต่อปีศาจเฒ่า แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังปีศาจเฒ่าเช่นกัน

 

หนิงฝานเปิดประตูออกมาพร้อมด้วยดวงตาที่สงบนิ่งราวกับผิวน้ำ ปีศาจเฒ่าสบตากับหนิงฝานก่อนที่ใบหน้าของปีศาจเฒ่าจะแสดงออกถึงความประหลาดใจ บุคคลอันสงบนิ่งที่ปีศาจเฒ่ากำลังจ้องมองอยู่นั้นไม่ใช่เด็กหนุ่ม แต่กลับกลายเป็นชายชราที่แข็งแกร่งกว่าปีศาจเฒ่าหลายขุม

 

“น่าแปลก...เมื่อไหร่กันที่สายตาของเจ้าเด็กบ้านี้กลายเป็นดุร้ายเหมือนกับสาวน้อยตู่กู!? หรือเจ้าเด็กนี่ก็มาจากโลกกระบี่เหมือนกัน? เป็นไปได้ยังไง? ฮ่าฮ่า ข้าต้องลองนึกดูซะหน่อยแล้ว”

 

ยิ่งปีศาจเฒ่าจ้องมองมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพึงพอใจมากเท่านั้น เขายืนเอามือกอดอกก่อนจะพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง

 

“เมื่อตอนที่ข้าบอกว่าจะฆ่าเจ้า เจ้าอดทนต่อความคับแค้นใจที่มีต่อข้าได้อย่างงั้นรึ?”

 

“หนิงฝานจะกล้าเกลียดอาจารย์ของตนได้ยังไง”

 

ถึงแม้หนิงฝานจะมีความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ แต่การบ่มเพาะของเขายังนับว่าตื้นเขิน หนิงฝานจึงไม่กล้ายั่วยุปีศาจเฒ่า อีกอย่าง สิ่งที่หนิงฝานกล่าวคือความจริง เขาไม่ได้เกลียดปีศาจเฒ่าหาน

 

“อืม… ไม่ได้เกลียดตาเฒ่าผู้นี้ นี่คือกฏที่ตั้งขึ้นโดยอาจารย์ปู่ของข้า...โดยบรรพบุรุษของนิกายปีศาจทมิฬของพวกข้า แนวทางการบ่มเพาะของข้าเรียกว่า ‘วิถีปีศาจทมิฬ’ นับตั้งแต่โบราณกาล จะมีเพียงผู้ที่มี ‘เส้นโลหิตปีศาจโบราณเท่านั้น’ ที่สามาถบ่มเพาะได้ และเจ้า...ก็มีเส้นโลหิตปีศาจโบราณเช่นกัน เมื่อเจ้าบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ ข้าจะถ่ายทอดวิถีการบ่มเพาะของข้าให้เจ้า”

 

ปีศาจเฒ่าหัวเราะลั่นขณะที่หนิงฝานขมวดคิ้ว ปีศาจเฒ่าคนนี้ต้องการให้หนิงฝานเป็นศิษย์จริงๆหรอ?

 

“จำไว้นะ เส้นโลหิตปีศาจโบราณคือความลับ...ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด ตอนนี้เจ้ายังเด็กและโง่เขลา ขนาดข้าที่บรรลุขอบเขตประสานกายยังเกิดปัญหาไปทั่ว ทั้งยังถูกจู่โจมจนพิการ นี่มันก็เหมือนกับว่าข้ากำลังตาย… ฮึ่ม ยังไงซะ ห้ามให้คนอื่นล่วงรู้ถึงความลับของเส้นโลหิตปีศาจเด็ดขาด ไม่งั้น ข้าจะไม่สนใจชีวิตของเจ้า”

 

ท่าทางของปีศาจเฒ่าดูเย็นชา แต่มันกลับแฝงด้วยร่องรอยแห่งความเศร้า หนิงฝานได้รับความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์มา ดังนั้น เขาย่อมแยกแยะได้

 

“จงจำไว้ว่า เจ้าต้องปกป้องสตรีที่หลับนอนกับเจ้าให้ดี อย่าได้เอาอย่างข้า… สาวน้อยนางนี้ต้องพิษโดยสตรีแมงป่องแห่งนิกายเหอหวน ทั้งพิษที่นางได้รับยังนับว่าค่อนข้างอันตราย นี่...คือยาแก้พิษ รอจนนางตื่นค่อยเอาให้นางดื่ม ชายชราอย่างข้าต้องล่าล้างสังหารตลอดเส้นทางที่ไปยังนิกายฝ่ายธรรมะ ‘ไท่ชูไพ่’ และยังโดนไอ้พวกหน้าโง่นั่นไล่ล่าอีกตั้ง 3 วัน ทั้งหมดนั่นก็เพราะสตรีของเจ้า… เอาหล่ะเราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ อ้อจริงสิ เรื่องสุดท้ายที่เจ้าต้องจำเอาไว้ ถ้าเจ้าอ่าน ‘เอกสารกุ่ยเชว่’ เสร็จแล้วก็รีบๆคืนข้ามา ถ้ามันเสียหายแม้แต่หน้าเดียว ข้าจะสับเจ้าเป็นหมูบะช่อเลย!”

 

ปีศาจเฒ่าโยนขวดหยกให้กับหนิงฝานแล้วหัวเราะก่อนจะจากไป  แต่ถึงอย่างนั้น เงาร่างของเขากลับแฝงไปด้วยความรู้สึกอันอ้างว้าง

 

หนิงฝานรับขวดหยกมาก่อนจะเปิดจุกขวดออกแล้วสูดกลิ่นยาที่อยู่ข้าในทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย

 

“‘เม็ดยาไร้ต้นกำเนิด’? เม็ดยานี้สามารถแก้พิษทั้งหมดของขอบเขตแก่นทองคำได้!”

 

หนิงฝานคาดไม่ถึงว่าปีศาจเฒ่าหานที่เอาแต่กล่าวว่าจะสังหารเขาอยู่ตลอดเวลา กลับมุ่งหน้าไปยังนิกายไท่ชูไพ่และขโมยยาแก้พิษอันล้ำค่ามาเพื่อรักษาจื่อเฮ่อ

 

วิ่งไปที่นั่นตั้ง 3 วัน… ปีศาจเฒ่ากล่าวอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หนิงฝานรู้ดีว่ามันอันตรายแค่ไหน ที่ปีศาจเฒ่าไปขโมยเม็ดยา บางทีเขาอาจจะถูกผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำไล่ล่าอยู่หลายวัน

 

ปีศาจเฒ่าผู้นี้สังหารคนได้ไม่กระพริบตา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ดีต่อหนิงฝาน

 

หนิงฝานไม่เชื่อว่าปีศาจเฒ่าหานจะนับเขาเป็นศิษย์ มันต้องมีเหตุผลอื่นอยู่แน่

 

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อปีศาจเฒ่าแสดงความเมตตาต่อหนิงฝาน หนิงฝานย่อมต้องทำบางสิ่งเพื่อตอบแทน

 

“รอเดี๋ยว!”

 

หนิงฝานเรียกปีศาจเฒ่า

 

“มีอะไร? ข้าต้องพักรักษา รอพรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน”

 

ปีศาจเฒ่าดูร้อนใจ

 

“ข้ามีวิธีที่สาปสูญ...ที่สามารถแก้พิษในเส้นโลหิตของท่านได้”

 

หนิงฝานกล่วอย่างใจเย็น

 

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

 

ความตกใจปรากฏให้เห็นในดวงตาของปีศาจเฒ่า เขาบอกหนิงฝานเพียงว่าการบ่มเพาะของเขาถูกทำลาย แล้วหนิงฝานรู้ได้ยังไงว่าการบ่มเพาะของเขาถูกทำลายเพราะเส้นโลหิตของเขาต้องพิษ?

 

ที่ปีศาจเฒ่าเข้าร่วมกับนิกายกุ่ยเชว่ก็เพราะประมุขนิกายคือหมอที่มีพรสวรรค์ แต่หลังจากได้รักษาตัวอยู่หลายสิบปี ปีศาจเฒ่าก็ทำได้เพียงกดอาการกำเริบของพิษเอาไว้ แต่ไม่อาจถอนพิษได้อย่างสมบูรณ์

 

พิษที่ปีศาจเฒ่าหานต้องนั้น เป็นเหมือนกับหนอนที่ชอนไชเข้าไปในกระดูกที่แม้แต่ ‘เม็ดยาแก่นทองคำไร้กำเนิด’ ยังไม่สามารถอนพิษได้ แล้วแบบนี้...หนิงฝานจะสามารถรักษาเขาได้อย่างไร?

 

ปีศาจเฒ่าจ้องมองหนิงฝานด้วยความสงสัยขณะที่เขากำลังคิดไปต่างๆนาๆ

 

แค่ปรายตามอง เจ้าเด็กนี่ก็รู้แล้วว่าเขาต้องพิษ อืม...ช่างแปลกยิ่งนัก บางที...หนิงฝานอาจจะมีวิธีรักษาเขาจริงๆก็ได้

 

มันช่างไร้สาระ...แต่มันก็เป็นเรื่องจริงหล่ะนะ...

 

ปีศาจเฒ่าคิดไปสารพัด เขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่สงบนิ่งราวแหล่งน้ำโบราณที่ไร้ซึ่งการหลอกลวงและความเย่อหยิ่งของหนิงฝาน

 

“ข้าไม่เจอเขาแค่ 3 วัน… แต่ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้กลายเป็นปีศาจเฒ่าที่สงบเช่นนี้...”

 

ปีศาจเฒ่ายังคงลังเล แต่หนิงฝานก็กล่าวขึ้นอีกครั้ง

 

“‘หยินเที่ยงแท้’ เป็นพิษตั้งแต่ครั้งโบราณกาล มันไร้ผลกับบุคคลทั่วไป แต่มันกลับส่งผลกับผู้ที่มีเส้นโลหิตปีศาจโบราณโดยเฉพาะ... เส้นโลหิตของผู้ที่ต้องพิษจะติดขัด เมื่อต้องพิษเข้าไปแล้ว...การบ่มเพาะของผู้ต้องพิษจะลดลงเรื่อยๆไปจนกว่าจะตาย อาการแรกเริ่มหลังจากต้องพิษ ผู้ที่ต้องพิษจะดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก หลังจากนั้น คนผู้นั้นจะค่อยๆกลายเป็นผู้ที่โหดร้ายป่าเถื่อนอย่างช้าๆจะทั่งไม่อาจอยู่ได้ถ้าไม่ได้สังหาร และท้ายที่สุด เมื่อพิษหยินชนิดนี้กัดกินหัวใจ...แม้แต่พระเจ้าหรือปีศาจก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของผู้ต้องพิษเอาไว้ได้”

 

น้ำเสียงของหนิงฝานสงบนิ่ง แต่กับปีศาจเฒ่าแล้ว...นี่มันเหมือนกับถูกอัสนีบาตฟาดฟัน พิษของเขา...แม้แต่ประมุขนิกายกุ่ยเชว่ก็ยังไม่ทราบ แต่เจ้าเด็กหนิงฝานนี่แค่ปรายตามองแล้วทราบได้อย่างไร?

 

ปีศาจเฒ่าหานไม่ทราบว่าพิษ ‘หยินเที่ยงแท้’ คืออะไร แต่คำอธิบายของหนิงฝานกลับบอกบรรยายถึงสถานะการณ์ปัจจุบันของเขาได้อย่างถูกต้อง!

 

“เจ้าถอนพิษของข้าได้จริงๆหรอ? เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้ารู้ความลับที่แม้แต่ประมุขนิกายยังไม่รู้ได้ยังไง?”

 

ปีศาจเฒ่าหานจับไหล่หนิงฝาน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายและตื่นตัว

 

“ข้าคือผู้บ่มเพาะเส้นโลหิตปีศาจโบราณ ข้ารู้ความลับที่บันทึกเอาไว้ตั้งแต่ครั้งโบราณกาล… มันแปลกมากเลยหรอ? อย่าได้มองที่การบ่มเพาะอันอ่อนด้อยของข้า ก่อนที่ข้าจะถูกนิกายเหอฮวนจับตัวไป ข้าเป็นหมอที่มีชื่อเสียงที่เคยรักษาผู้คนมามากมาย หากท่านอาจารย์ไม่เชื่อข้า ท่านจะลองดูความทรงจำที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณของข้าก็ได้...”

 

หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย

 

‘ขจัดวิญญาณ’ คือทักษะที่ใช้อ่านความทรงจำ แต่มันก็ทำให้เกิดผลกระทบมากมายและเกิดความเสียหายทางจิตใจอย่างร้ายแรง และที่สำคัญมันยังสามารถเปลี่ยนให้ผู้ที่ถูกอ่านความทรงจำกลายเป็นคนสติไม่ดีได้

 

หนิงฝานกล่าวเพื่อทดสอบปีศาจเฒ่าว่า มีความต่อหนิงฝานจริงหรือมันเป็นเพียงข้ออ้าง หากปีศาจเฒ่าอ่านความทรงจำของหนิงฝานจริง หนิงฝานย่อมมีวิธีที่ทำให้ปีศาจเฒ่าต้องเสียใจในภายหลัง

 

นั่นก็เพราะหนิงฝานรู้ถึงจุดอ่อนของพิษหยินเที่ยงแท้ ภายใต้แสงจันทร์ในยามค่ำคืน อำนาจของหยินจะเหนือกว่าปีศาจเฒ่าหาน ทำให้เขาไม่สามารถใช้พลังของตนได้

 

ในตอนนี้ ปีศาจเฒ่าหานเหลือความแข็งแกร่งเพียงระดับ 8 ขอบเขตเปิดเส้นโลหิต หากชายชราพยายามสังหารหนิงฝาน หนิงฝานก็จะใช้เพลิงทมิฬสังหารชายชราในทันที!

 

หนิงฝานไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณใคร และเขาก็ไม่อยากมีปัญหากับใครเช่นกัน!

 

เมื่อปีศาจเฒ่าได้ยินหนิงฝานกล่าวถึงขจัดวิญญาณด้วยท่าทางที่สงบและมั่นคงราวกับแผ่นโลหะ ชายชราเชื่อหนิงฝานเพียง 3 ส่วนและไม่เชื่ออีก 7 ส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชายชราไม่สามารถใช้ทักษะขจัดวิญญาณกับศิษย์ของตนได้ เพราะมันคือสิ่งที่อาจจะทำได้

 

“ข้าคือศิษย์ของนิกายปีศาจทมิฬ หากศิษย์ของพวกเราไม่เดินในวิถีเต๋าแห่งปีศาจ อาจารย์ของศิษย์ผู้นั้นย่อมสังหารศิษย์เขาได้ แต่หากศิษย์ใดก็ตามที่เดินในวิถีเต๋าแห่งปีศาจ แม้จะเป็นอาจารย์ก็ไม่อาจทำร้ายลูกศิษย์ได้ ตัวเจ้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด เช่นนั้น ข้าย่อมไม่อาจอ่านความทรงจำของเจ้าได้ หากใครก็ตามกล้าลงมือกับเจ้า ตัวข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง! นั่นก็เพราะเจ้าเป็นศิษย์ของข้า!”

 

หลังสิ้นคำกล่าว ชายชราเห็นหนิงฝานยิ้มโดยไม่กล่าวอะไร ชายชราเป็นคนฉลาด ดังนั้น เขาย่อมต้องรู้เจตนาของหนิงฝานในทันที นั่นทำให้ชายชราเริ่มหัวเราะออกมา

 

“เด็กน้อย การถอนพิษนั้น...เป็นสิ่งที่สำคัญกับข้าจริงๆ… ข้าจะแก้แค้นเพื่อนาง...ล้างแค้นเพื่อนาง… หากเจ้ามีหนทางถอนพิษได้จริงงั้นก็ลงมือและบอกความต้องการของเจ้าเลย!”

 

“ข้าอยากเป็นนายน้อยของเมืองฉีเหม่ย!”

 

หนิงฝานยิ้ม เมื่อหนิงฝานตัดสินใจจะบ่มเพาะด้วยวิถีของเต๋าแห่งปีศาจ เขาย่อมต้องเริ่มบ่มเพาะที่เมืองฉีเหม่ยแห่งนี้

 

“ย่อมได้! นับจากนี้ไป คำกล่าวของเจ้าคือทุกสิ่งทุกอย่างของเมืองฉีเหม่ย! ผู้บ่มเพาะในวิถีปีศาจทั้ง 9,752 คนจะอยู่ใต้อาณัติของเจ้า นอกจากนี้ เม็ดยา สมบัติเวทย์มนต์ เตาปรุงยา และหยกนิรันดร์ เจ้าสามารถใช้พวกมันได้อย่างอิสระ!”

 

ชายชรายอมรับคำขอ นั่นทำให้จิตใจของชายชราพึงพอใจในตัวหนิงฝานเพิ่มมากขึ้น

 

ชายชรากล้าเพิ่มเงื่อนไขในคำขอให้กับหนิงฝาน แต่น่าเสียดายที่หนิงฝานยังคงระมัดระวังชายชราอยู่ ทำให้ทั้งสองยังคงมีช่องว่างต่อกัน “อืมมม ดูเหมือนต้องใช้เวลาสักพักกว่าเจ้าเด็กน้อยนี่จะเห็นข้าเป็นอาจารย์จริงๆ”

 

“แต่บางที… ข้าอาจจะได้อัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาในเต๋าแห่งปีศาจก็ได้! ในช่วงการคัดเลือกศิษย์เพื่อเข้าร่วมนิกายในครึ่งปีหลังจากนี้ ข้ากลัวแต่ตาของไอ้แก่พวกนั้นจะถลนออกจากดบ้า! ฮ่าฮ่า แค่คิดถึงสายตาที่ตื่นตะลึงของพวกเขาตอนก็ตื่นเต้นแล้ว อืม… แต่ทำไมเจ้าเด็กบ้านี่ถึงอยากเป็นนายน้อยของเมืองฉีเหม่ยด้วย? เขากำลังพยายามทำอะไร? เขาสมควรที่จะจัดการกับไอ้บ้าพวกนั้นแล้วใช่มั้ย?”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด