ตอนที่แล้วChapter 121: รถบรรทุกของหนักขนาดพิเศษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 123: ลบโชคชะตาอันเลวร้าย

Chapter 122: ขอความช่วยเหลือจากเจียงลู่ฉี


พูดตามปกติแล้ว หัวหน้าที่สามของกลุ่มเทพเจ้าทั้ง7นั้นมีทั้งประสบการณ์และความรู้ แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นมันมันดูไม่สมเหตุสมผลกับเจียงลู่ฉีเลย จริงๆแล้วเจียงลู่ฉีนั้นค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับเมืองจินหลิงนี่ ถ้ามันมีเหมืองรอบๆนี้เขาก็สามารถที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมัน ทำไมเขาจะต้องมาถามอะไรแบบนี้ในงานค้าขายนี่ด้วย?

 

“ดังนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่าฉันสามารถที่จะหารถบรรทุกแบบนั้นได้ที่ไหนสินะ??”เจียงลู่ฉีกวาดตาไปมองยังผู้คนรอบๆตัวเขา เขานั้นได้เตรียมตัวที่จะซื้อรายละเอียดของข้อมูลโดยการใช้เนื้อกลายพันธุ์อยู่แล้ว แต่ในตอนนี้นั้นมันก็เหมือนกับกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

 

มีเพียงผู้คนบางคนในห้องโถงนั้นรู้เกี่ยวกับบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่เท่านั้นเอง ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากวันโลกาวินาศ รัฐบาลก็ปิดกั้นช่องทางที่จะกระจายข้อมูลข่าว ด้วยเหตุนี้นี่เอง คนธรรมดาเช่นหัวหน้าหยวนนั้นค่อนข้างที่จะสับสน

 

“มันเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีใครรู้เลย”หัวหน้าที่สามแห่งกลุ่มเทพเจ้าทั้ง7ส่ายหัวและพูด มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะค้นหารถบรรทุกของหนักขนาดพิเศษ ในความเป็นจริงมันก็เหมือนงมเข็มในกองฟางอย่างไงอย่างงั้น

 

“ลืมมันไปซะ”เจียงลู่ฉีส่ายหัวเขา เขาไม่ได้คาดหวังไว้กับเรื่องนี้มากซักเท่าไหร่ ดังนั้นมันก็จึงไม่มีความเสียใจปรากฏให้เห็นเลย ข้อมูลเช่นนี้นั้นไม่ได้เป็นที่นิยมเลย ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมัน สำหรับเจียงลู่ฉีแล้ว เขาก็เพียงแค่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันเท่านั้นเอง

 

รถประเภทนั้นจำเป็นต้องใช้เงินเป็นสิบล้านหยวน และเนื่องจากว่ามันนั้นหนักเกินไป มันจึงไม่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนถนนได้ มันจึงวิ่งได้แค่ในเหมืองเพียงเท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงที่แตกต่างออกไปดังขึ้นในความคิดของเจียงลู่ฉ๊ “ฉันรู้ว่า ที่ไหนที่คุณจะสามารถหารถประเภทนั้นได้”

 

[อื้อ?!] เสียงของชาวต่างชาติได้ถูกส่งมาในความคิดของเขา? หยิงก็มีความสามารถนั้นแต่เสียงของเธอนั้นทั้งสดชื่นและหวาน ไม่ใช่เสียงที่คล้ายกับแบบนี้ ซึ่งมันทั้งอ่อนหวานและไม่ค่อยแตกต่างซักเท่าไหร่

 

[มันอาจจะเป็น...?] เจียงลู่ฉีก็มองไปที่กรงอย่างฉับพลัน ซึ่งในนั้นมีหลันซิหยู่ที่สวมใส่ชุดเดรสสีขาว นั่งลงอย่างเงียบงันพร้อมกับแขนของเธอที่ถูกพันไว้รอบหัวเข่า

 

เธอนั้นมีคู่ดวงตาสีเทา ถึงแม้ว่าเธอจะเผชิญหน้ากับชีวิตที่เลวร้ายเปรียบดั่งนรก ดวงตาคู่นั้นก็ยังคงใจเย็นอยู่ เหมือนกับแม่น้ำที่อยู่ภายใต้มวลเมฆก่อนการมาถึงของพายุ

 

“เธอคือคนที่พูดคุยกับฉันในตอนนี้อย่างงั้นเหรอ?”เจียงลู่ฉีไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพื่อที่จะสื่อสารกับหลันซิหยู่ ดังนั้นเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะส่งความคิดไปให้หลันซิหยู่

 

[ใช่....] หลันซิหยู่ตอบกลับมาอย่างเงียบงันและหลังจากนั้นเธอก็ยังคงความเงียบไว้

 

[รถประเภทนี้สามารถที่หาได้ใกล้ๆกับจินหลิงใช่ไหม?] เจียงลู่ฉีหายใจเข้าลึกๆและรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ในที่สุดมันก็มีหนทางที่เขาจะสามารถหารถที่เขาต้องการได้

 

ความสามารถของหลันซิหยู่นั้นไม่สามารถที่จะดูแคลนได้ เธอนั้นเป็นเจ้าหญิงของกลุ่มหลันเค่อ ไม่ต้องพูดถึงว่า เจียงลู่ฉีนั้นนึกขึ้นได้ว่ามันก็มีสาขาหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหลันเค่อที่ทำเกี่ยวกับบริษัทเครื่องกลหนักอีกด้วย

 

[มันไม่ได้ห่างไปจากที่นี่ซักเท่าไหร่....] หลันซิหยู่ไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่เป็นในทิศทางบวก [ฉันเพียงแค่ต้องการที่จะถามคุณว่า รถประเภทนี้นั้นสำคัญกับคุณจริงๆใช่ไหม]

 

เจียงลู่ฉีตกตะลึงเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตอบกลับไปในทันที แต่หลันซิหยู่ก็ยังคงพูดต่อ [ถ้ามันไม่สำคัญกับคุณละก็ หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรกับมันอีกต่อไป แต่ถ้ามันสำคัญกับคุณละก็ คุณจะต้องตกลงเงื่อนไขกับฉัน]

 

ความสามารถของหลันซิหยู่นั้นก็เกี่ยวกับโทรจิต ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถที่จะอ่านความคิดของเธอได้ ความเข้าใจในเชิงจิตวิทยาของเธอนั้นก็ดียิ่งกว่าจิตแพทย์ซะอีก ดังนั้นเธอสามารถที่จะ ‘อ่าน’ คนอื่นได้ดีกว่าทุกคน เธอรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับเจียงลู่ฉีในการหารถบรรทุกของหนักประเภทนี้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปเลย

 

[เงื่อนไขอะไรที่เธอต้องการ?] เจียงลู่ฉีถามขึ้นตรงๆ ตามจริงแล้วเขานั้นได้คาดเดาไว้แล้ว

 

[ฉันต้องการให้คุณ....พาฉันออกไปด้วย!] ตลาดมืดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นแรกสำหรับการใช้ชีวิตเยี่ยงนรกที่กำลังรอหลันซิหยู่อยู่ เพียงแค่เหลือบตามองเห็นถึง ทาสที่สวยงามที่ ‘ถูกทิ้งขว้างไว้’ บนพื้น หลันซิหยู่ก็สามารถที่จะคาดเดาอนาคตที่เกิดขึ้นกับตัวเธอได้แล้ว

 

สำหรับคนที่เข้าร่วมวงจรของชนชั้นยอดนั้น เธอนั้นไม่แตกต่างออกไปและก็มีทั้งความหยิ่งยโสอยู่ด้วย หลังจากที่พ่อของเธอฆ่าแม่ของเธอไปเรียบร้อยแล้ว เธอก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง แต่เธอก็ยอมรับได้ถึงความตายอันสงบที่จะมาถึง....... แต่สิ่งที่เธอไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้ก็คือศักดิ์ศรีของเธอนั้นถูกย่ำยีและถูกเหยียบย่ำ เธออยู่ในตำแหน่งอันตราย เหมือนกับแกะที่ติดกับดักอยู่ในฝูงของหมาป่า

 

[เธอต้องการที่จะให้ฉันพาเธอไปอย่างงั้นหรอ?] เจียงลู่ฉีกระพริบตา [เธอไม่กลัวหรอว่าฉันจะเหมือนกับคนอื่น ที่ต้องการทำให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์และย่ำยีเธอ?]

 

[ก็อาจจะ.....] หลันซิหยู่นั้นยิ้มอย่างขมขื่น [แต่.....การไหลเวียนของจิตวิญญาณนายนั้นบอกฉัน... ว่านายนั้นไม่เหมือนกับคนอื่น......อาจจะมีเพียงแค่วิญญาณในโลกนี้เท่านั้นที่ไม่สามารถจะโกหกได้ แม้ว่ามันจะมีหน้าตาที่น่ารังเกียจก็ตาม…..]

 

หลันซิหยู่นั้นยืดนิ้วมือของเธอออกและแตะไปที่ขอบกรงโลหะอันหนาวเหน็บ ตรงกันข้ามเพียงไม่กี่เมตรนั้น หลันซิหยู่และเจียงลู่ฉีนั้นจ้องตากันและกัน มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นถูกแบ่งแยกระหว่างช่วงเวลาและช่องว่าง

 

เจียงลู่ฉีนั้นค่อยๆปิดตาของเขาลง นั่งพิงเก้าอี้ เขานั้นพิจารณาถึงไพ่ที่เขามีอย่างเงียบงันและสถานการณ์ในปัจจุบัน ในอีกสิบวินาทีต่อมา เขาก็เปิดตาของเขาขึ้นมองไปที่หัวหน้าขาวซึ่งดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย

 

“หัวหน้าขาว ฉันต้องการที่จะซื้อผู้หญิงคนนี้จากนาย โอเคใช่ไหม?” เจียงลู่ฉีพูดขึ้นอย่างฉับพลัน ผู้คนรอบๆนั้นตกตะลึงและมึนงง

 

“อะไรนะ?”หัวหน้าขาวหันไปมองในทันทีและจ้องมาที่เขา “นายพูดว่าอะไรนะเมื่อกี้? ฉันได้ยินมันไม่ค่อยชัดเลย”

 

“ฉันต้องการซื้อหลันซิหยู่ ในราคาที่นายพูดไว้”

 

เจียงจู้อิง ซุนคุนและจางไฮ่นั้นมึนงงกันทั้งหมดเนื่องจากพวกเธอไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเจียงลู่ฉีถึงต้องการที่จะซื้อหลันซิหยู่ ครั้งหนึ่งเขาเคยได้พูดว่า มีผู้คนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบกับวันโลกาวินาศ และพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือทุกคนได้ทั้งหมดอีกด้วย

 

หัวหน้าหยวนและคนอื่นรู้สึกสับสนด้วยเช่นกัน.....

 

“ไอเหี้.... ชายคนนี้แม่งนักล่าผู้หญิงสุดๆ เขาต้องการที่จะเอาผู้หญิงของหัวหน้าขาวไป เขานั้นจะส่งตัวของเขาเองมาในกุมมือของพวกเรา!”อ้วนหยวนนั้นพูดเยาะเย้ยอย่างรุนแรง เขานั้นไม่แอบซ่อนความคิดต่อเจียงลู่ฉีเลยแม้แต่น้อย เขานั้นได้ซื้อปืนที่เขาต้องการเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

 

หัวหน้าหยวนนั้นที่จริงแล้วก็คืออีกคนหนึ่งที่ต้องการได้ตัวหลันซิหยู่จริงๆ เมื่อเธอนั้นถูกปล้นไปด้วยหัวหน้าขาว เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรแม้แต่น้อย แต่เมื่อเจียงลู่ฉีนั้นกระโดดเข้ามาร่วมแจมด้วย เขารู้สึกว่าสถานการณ์นี้มันน่าสนใจมาก

 

ดังคำพูดของคนเฒ่าคนแก่ที่ว่า “มังกรนั้นไม่คู่ควรกับพญานาคพื้นเมือง**”หัวหน้าหยวนเชื่อว่าการแสดงที่น่าสนใจที่สุดนั้นยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น

 

**คนที่เลวร้ายในพื้นเมืองนั้นอยู่เหนือกว่ากฏหมาย

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด