ตอนที่แล้วบทที่ 97 การคำนวณของหลินเอวี่ยน  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 99 ยันต์ทหาร  

บทที่ 98 จั่วม่อผู้เจ็บปวดรวดร้าวและพิโรธโกรธเกรี้ยว  


 

ผ่านไปครึ่งค่อนวัน ดวงวิญญาณของจั่วม่อเพิ่งกลับคืนสู่ร่าง

แม้ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ในกายมันจะดีขึ้นกว่าในอดีตมาก แต่เห็นอีกฝ่ายติดอาวุธเพียบพร้อมอลังการถึงเพียงนี้ จั่วม่อขวัญวิญญาณระเบิดกระเจิดกระเจิงอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอน นี่ไม่ใช่ว่ามันตกตะลึงในพลังของผู้อื่น แต่ยุทธภัณฑ์เวท ยันต์กระดาษ และโอสถปราณมากมายถึงเพียงนี้ ลองแปลงค่าเป็นจิงสือดูสิ อ้า น่าตกใจแทบตายแล้ว!

บัดซบ!

จั่วม่อสองตาแดงฉาน ราวกับว่ามันอดทนรอที่จะลอกคราบคู่ต่อสู้จนล่อนจ้อนไม่ไหวแล้ว

ยามที่เกอ ยากจนข้นแค้นถึงเพียงนี้ แต่เจ้ากลับ...

จั่วม่อผู้มาเสี่ยงภัยเพียงเพื่อจิงสือระดับสามเพียงสามสิบชิ้น รู้สึกโทสะปะทุขึ้นในอก พลุ่งพล่านอย่างรุนแรง พิโรธโกรธเกรี้ยวถึงที่สุด!

“รับมือ!” ศิษย์พี่หวังตวาดอย่างเชื่อมั่น ชิงสืบเท้าออกมาหนึ่งก้าว!

มันหวาดเกรงต่อธาราหลั่งไหลของจั่วม่อเป็นอย่างยิ่ง เจ้าสิ่งนั้นทั้งรวดเร็ว ทั้งไร้ร่องรอย มันไม่มั่นใจว่าสามารถรับมือกระบวนท่านี้ได้ แต่มีบทเรียนจากหลินเอวี่ยน มันตัดสินใจรุกแทนการรับ ทันทีที่ส่งเสียงตวาดออกมา ก็ชิงเปิดฉากโจมตีก่อน

สองมือคีบยันต์ผีซ้อนเงาข้างละใบ สะบัดพรึบ เสียงระเบิดเบาๆ ทุกผู้คนรู้สึกสายตาพร่าเลือนวูบหนึ่ง จากนั้นศิษย์พี่หวังห้าคนปรากฏขึ้นในวงต่อสู้!

“อย่างที่คาดไว้ ยังคงเป็นกระบวนท่าอันร้ายกาจไร้ที่เปรียบนี้ตั้งแต่เริ่มต้น!” หูซานทอดถอน

ยันต์ผีซ้อนเงา ระดับสอง สามารถสร้างร่างมายาที่เหมือนกับผู้ใช้สองร่าง ใช้ออกพร้อมกันสองใบ ปรากฏร่างมายาสี่ร่างในทันที รวมกับตัวจริงอีกหนึ่งเป็นห้าร่าง ยากที่จะค้นพบตัวจริงของศิษย์พี่หวังได้ ยันต์ผีซ้อนเงาชุดนี้เห็นได้ชัดว่าฝีมือประณีตยิ่ง ร่างมายาละเอียดอ่อนมีชีวิตชีวาเสมือนของจริง นอกจากผู้ที่ฝึกปรือเวทวิชาประเภทเนตรฟ้า เนตรภูตพราย หรือเนตรหยินหยาง มิเช่นนั้นไม่มีทางที่จะแยกแยะออกได้

จั่วม่อย่อมไม่เคยฝึกปรือเวทวิชาประเภทนั้น มันยังไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้ยันต์ผีซ้อนเงาระดับสองถึงสองใบในคราวเดียวอีกด้วย ค่าใช้จ่ายนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว! ยันต์ผีซ้อนเงาระดับสองอย่างน้อยมีราคาไม่ต่ำกว่ายี่สิบชิ้นจิงสือระดับสาม ใช้ไปสองใบเท่ากับสี่สิบชิ้นจิงสือระดับสาม!

เกอสุดจะทนกับคนอย่างเจ้าจริงๆ !

 

คนยากจนจั่วม่อ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้โหมไหม้ดุจไฟลามทุ่ง เร่าร้อนเดือดพล่าน แทบจะเผาผลาญเลือดทุกหยดในร่าง

ในเมื่อเจ้ามีห้าคน เช่นนั้นก็ทุบตีมารดามันให้หมดทั้งห้าคน!

จั่วม่อขบกรามแน่น สะบัดมือผนึกมุทราใช้กระบวนท่าเจ็ดวังวน วังวนทั้งเจ็ดปรากฏขึ้น รายล้อมทั้งห้าร่างในพริบตา กระบวนท่านี้มีระยะโจมตีไกลมาก เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้รับมือยันต์ผีซ้อนเงา เงาลวงตาท้ายที่สุดก็เป็นเพียงเงาลวงตา เมื่อพวกมันถูกปราณกระบี่หมุนวนฉีกกระชาก ทันใดนั้นก็สลายไปหมดสิ้น.

ศิษย์พี่หวังเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เผชิญสถานการณ์เช่นนี้ มันไม่แตกตื่นลนลาน สองมือขยับดรรชนีละลานตา วู้ม วู้ม วู้ม ยันต์กระดาษสามใบเหินร่อนออกมาจากมือของมัน

ยันต์เกราะเต่า ยันต์วัชรปาณี ยันต์ระเบิดเวิ้งว้าง!

เห็นศิษย์พี่หวังร่างกายปรากฏม่านแสงสองชั้นซ้อนทับกัน ป้องกันมันไว้ภายใน  ม่านแสงชั้นในสีเขียวเป็นยันต์เกราะเต่า ม่านแสงชั้นนอกเป็นยันต์วัชรปาณี พริบตาที่ยันต์ระเบิดเวิ้งว้างบินร่อนออกไป มันก็ระเบิดดังสนั่นลั่นโลก

แรงกระแทกมหึมากดทับไปทั่วลานต่อสู้ คลื่นอากาศไร้รูปร่างแต่ดุดันกวาดวาบออกไปด้วยความเร็วสูง เจ็ดวังวนที่เพิ่งฉีกทึ้งร่างมายาถูกบดขยี้ทันทีโดยการระเบิดอย่างฉับพลันของคลื่นอากาศ ศิษย์พี่หวังแม้อยู่ที่จุดศูนย์กลางของการระเบิด ก็ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด มันเพิ่งใช้ยันต์กระดาษป้องกันตัวเองไว้สองชั้น ผลลัพธ์ปรากฏชัดเจนในเวลานี้ ยันต์ระเบิดเวิ้งว้างแม้ว่าทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านเกราะป้องกันสองชั้นของมันได้ มันกระทั่งไม่ถูกกระทบแม้แต่น้อย

เหล่าประจักษ์พยานที่สัญจรไปมาล้วนตะลึงพรึงเพริด วิชายุทธ์ที่ไม่สมเหตุสมผลถึงเพียงนี้ พวกมันเพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรก

แต่เหล่าศิษย์พรรคอัจฉริยะปราณกลับโลหิตในกายเดือดพล่าน พวกมันทราบว่าศิษย์พี่หวังเมื่อช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ จากนั้นก็แค่รอ พายุหฤโหดกำลังจะโหมกระหน่ำในอีกไม่กี่อึดใจ!

ความเจ็บปวดรวดร้าวระคนพิโรธโกรธเกรี้ยวในใจจั่วม่อไม่อาจอธิบายได้

ยันต์เกราะเต่า ระดับสอง สิบห้าชิ้นจิงสือระดับสาม ยันต์วัชระปาณี ระดับสอง สิบห้าชิ้นจิงสือระดับสาม ยันต์ระเบิดเวิ้งว้าง ระดับสอง สามสิบชิ้นจิงสือระดับสาม

ตัวเลขเหล่านี้ไม่ต่างอันใดกับเลือดไหลออกจากหัวใจของจั่วม่อ ...

ศิษย์พี่หวังด้วยประสบการณ์อันช่ำชอง สั่งให้มันช่วงชิงรุกไล่ไม่หยุดมือ เปิดฉากโจมตีระลอกถัดไปโดยไม่รีรอลังเลแม้แต่วูบเดียว

สองมือสะบัดขวับๆๆ กระสวยอสรพิษหัวหนาม จักรวาลหนึ่งดารา และนกกระจอกคู่แสงพิรุณ พวกมันไม่ผิดอันใดกับฝูงหมาป่าได้กลิ่นเลือด พกพารังสีสังหารอันร้ายกาจกระโจนเข้าใส่จั่วม่อโดยพร้อมเพรียง

กระสวยอสรพิษหัวหนามส่งเสียงกรีดแหลมบาดใจ ตัวกระสวยยาวสามชุ่น แปรสภาพกลางอากาศอย่างฉับพลัน กลายเป็นงูดำเพรียวบางประหนึ่งสายฟ้าสีดำเส้นหนึ่ง แสยะปากเผยคมเขี้ยวดุร้ายและคมกริบ!

จักรวาลหนึ่งดารา เป็นจุดแสงสีฟ้าเจ็ดจุด คล้ายดาราจักร งดงามสดใสกระจ่างตา ปราศจากรังสีสังหารอย่างสิ้นเชิง

นกกระจอกคู่แสงพิรุณเมื่อบินขึ้นไปบนฟ้า มันกลายเป็นนกกระจอกหางกรรไกรสีฟ้าสองตัว พวกมันกู่ร้องระสานเป็นเสียงเดียว บินแยกเป็นสองทิศทาง ใช้วิถีโค้งอันพิสดารพุ่งดิ่งเข้าหาจั่วม่อ

ศิษย์พี่หวังจู่โจมระลอกนี้ทั้งแยบคายและงดงามถึงที่สุด ครอบฟ้าคลุมดิน ปิดสกัดทางถอยทั้งหมดของจั่วม่อในพริบตา ไม่มีช่องว่างให้หลบหนีแม้แต่น้อย

ยุทธภัณฑ์เวทแบบใช้ครั้งเดียวเหล่านี้แพงระยับยิ่งกว่ายันต์กระดาษเสียอีก! สามสิบชิ้นจิงสือระดับสาม สี่สิบชิ้นจิงสือระดับสาม สามสิบชิ้นจิงสือระดับสาม ตัวเลขอีกชุดหนึ่งบินผ่านในจิตใจของจั่วม่อ

ทุกครั้งที่ตัวเลขเหล่านี้บินผ่าน จั่วม่อจะรู้สึกเจ็บปวดใจ จนกระทั่งถึงตอนนี้ มันแบกรับความเจ็บปวดใจอย่างต่อเนื่องถึงแปดครั้ง ไม่ว่าผู้ใดหากต้องเจ็บปวดซ้ำๆ ถึงแปดครั้ง แล้วยังคงมีอาการเป็นปกติ เช่นนั้นพวกมันก็นับเป็นสุดยอดฝีมือแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าจั่วม่อไม่ใช่! เมื่อหัวใจของมันแตกสลายเป็นหนที่แปด โทสะในอกก็พุ่งทะลุขึ้นถึงจุดระเบิด

หากใช้ไฟเพื่ออธิบายความโกรธเกรี้ยวของใครบางคน จั่วม่อเวลานี้ทั้งร่างก็ลุกเป็นไฟแล้ว ไฟสีแดงเลือดพวยพุ่งออกจากร่าง ทะยานขึ้นไปถึงท้องฟ้า!

หากเรื่องเช่นนี้ยังทนได้ จะมีอะไรที่มันทนไม่ได้อีกเล่า?

ลุงอาจทนได้ แต่ป้าไม่สามารถทน! *

(*วลีนี้แปลว่าทนไม่ไหวแล้ว)

ความพิโรธโกรธเกรี้ยวทั้งมวลรวมตัวและอัดแน่นในทันที ดวงตามันถลึงกว้างอย่างเคียดแค้น โน้มร่างไปข้างหน้า มือร่ายกระบวนท่าราวกับกำลังขว้างลูกกลมมหึมา กระบี่หยดน้ำพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ทิ้งเสียงดังสดใสกังวานไว้เบื้องหลัง

เพลงกระบี่เพลิงธารา กระบวนท่าที่ห้า ฝนใบกล้วย!

ศิษย์พี่หวังรู้สึกว่าท้องฟ้าเหนือศีรษะมันมืดครึ้มในบัดดล มันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาพลันเบิกกว้างอย่างกะทันหัน สีหน้าซีดเผือด!

มันละความสนใจจากยุทธภัณฑ์เวทชุดแรกที่เพิ่งปล่อยออกไปในทันที สองมือฉกวูบลงข้างเอว สะบัดขว้างยันต์ห้าสายฟ้าอหังการสองใบขึ้นไปบนฟ้า ต่อด้วยตวัดมือขว้างร่มสีแดงอันเล็กๆ ตามขึ้นไป

ร่มแดงคันน้อยนั้นเล็กมาก ขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของพู่กันเท่านั้น แต่ทันทีที่หลุดออกจากมือ ก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน บินร่อนอยู่เหนือศีรษะของศิษย์พี่หวังและปกป้องมันไว้ นี่เป็นยุทธภัณฑ์เวทแบบใช้ครั้งเดียวระดับสอง ร่มในแขนเสื้อ แม้ว่าร่มในแขนเสื้อจะเป็นเพียงยุทธภัณฑ์เวทแบบใช้ครั้งเดียว แต่ราคาแพงหูดับ! แม้แต่ศิษย์พี่หวังหากไม่ถึงคราววิกฤติจริงๆ ยังไม่อาจหักใจใช้ร่มคันนี้ได้ แต่คราวนี้สถานการณ์ร้ายแรงมากเกินไป มันไม่ลังเลที่จะใช้ไพ่ตายใบนี้ออกมา!

เมื่อยันต์ห้าสายฟ้าอหังการบินออกจากมือ ก็กลายเป็นตาข่ายสายฟ้าห้าเส้นสองกลุ่มเชื่อมต่อกัน แลบลั่นอยู่กลางอากาศ ปกป้องศิษย์พี่หวังไว้อีกชั้นหนึ่ง

ฝนใบกล้วย หมายความถึงหยาดพิรุณตกกระทบใบกล้วย นอกจากนี้ยังมีอีกความหมายหนึ่ง เล่าถึงตำนานในสมัยโบราณ ปีนั้นมียุทธภัณฑ์เวทระดับแปดเรียกว่าพัดใบกล้วย* พัดใบกล้วยนี้เพียงโบกเบาๆ ก็สามารถบันดาลให้เกิดทะเลไฟลุกไหม้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ทราบมีวีรบุรุษมากมายเพียงใดตกตายภายใต้เงื้อมเงาของพัดใบกล้วยด้ามนี้ มันกลายเป็นหนึ่งในยุทธภัณฑ์เวทธาตุไฟที่มีชื่อเสียงเลื่องลือที่สุด ใบกล้วยของกระบวนท่าฝนใบกล้วยมีความหมายของไฟเช่นนี้เอง

(*อ้างถึงพัดใบกล้วยในเรื่องไซอิ๋ว หรือที่ในดราก้อนบอลตอนเด็กก็เคยนำมาใช้)

ฝนเป็นฝนเปลวไฟ เปลวไฟเป็นไฟเย็นสีขาวหิมะ

รอบบริเวณพรรคอัจฉริยะปราณเย็นเยือกลงในพริบตา แม้แต่ประตูใหญ่ที่ทำด้วยหยกยังถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ อย่างสมบูรณ์

ไฟยังมาไม่ถึง แต่ความเย็นเยือกระเบิดกระจาย ครอบคลุมลงมาอย่างรวดเร็ว

เจตจำนงกระบี่เพลิงธารา เมื่อผสานรวมกับเจตจำนงกระบี่กระแสธารซึ่งประกอบไปด้วยผลึกน้ำแข็งเหลือคณานับ มันก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เดิมทีเป็นแค่น้ำในร่างของไฟที่โปร่งใส ในเวลานี้มันกลับดูคล้ายไฟหินงอกของจั่วม่ออยู่บ้าง เย็นจนเยือกแข็ง

ฝนเปลวไฟทั้งขาวพร่างและเย็นเฉียบ ให้ความรู้สึกแก่ผู้คนราวกับว่ามันเป็นหิมะตก แทนที่จะเป็นไฟ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดหลงใหลไปกับฉากอันงดงามตระการนี้ พวกมันทั้งหมดล้วนแตกตื่นพรั่นพรึงกันถ้วนหน้า ด้วยการคุกคามจากรังสีสังหารสุดฟ้าสุดดินที่แฝงอยู่ในความงามนี้ ท่ามกลางฝนเปลวไฟสีขาว เจตจำนงกระบี่ตัดไขว้เป็นตาข่ายมหึมา เย็นยะเยือก คมกริบ ไม่ดับสลาย และไม่มีที่สิ้นสุด!

ตาข่ายสายฟ้าห้าเส้นทั้งสองกลุ่มปะทุแปลบปลาบ เปล่งเสียงดังสนั่น เหินขึ้นรับหน้าฝนเปลวไฟที่โปรยปรายลงมาจากบนฟ้าอย่างแช่มช้า

หลายคนลอบนับถือปฏิกิริยาตอบสนองอันรวดเร็วของศิษย์พี่หวัง ยันต์ห้าสายฟ้าอหังการทั้งสองใบนี้ ทรงพลานุภาพอย่างเหลือเชื่อ หากตาข่ายสายฟ้าสิบเส้นสามารถต้านทานฝนเปลวไฟไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง จะเปิดโอกาสให้ยุทธภัณฑ์เวทสามเล่มที่ปล่อยออกไปในทีแรก ชิงโจมตีจั่วม่อได้สำเร็จ

แต่พิรุณเปลวไฟสีขาวที่ดูเหมือนเชื่องช้า กลับเคลื่อนลงมาปะทะกับห้าสายฟ้าอหังการในทันที

ซู่ ซู่ ซู่!

ราวกับเสียงสายฟ้าแลบลั่นอยู่ในน้ำ ตาข่ายสายฟ้าห้าอหังการทั้งสองกลุ่ม สุดท้ายไม่อาจต้านทานไว้ได้แม้แต่แวบเดียว กระจายหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกผู้คนที่เฝ้าดูล้วนตะลึงงัน ในความประหลาดใจ ยังแฝงไว้ด้วยความประทับใจในฤทธานุภาพของกระบวนท่านี้ของจั่วม่อ ศิษย์พี่หวังไม่เพียงแต่แตกตื่น เวลานี้ใบหน้ามันยังถึงกับเผือดสีลง!

มันกำลังภาวนาว่าร่มในแขนเสื้อจะมีอานุภาพเพียงพอ อีกทางหนึ่ง ก็รีบขว้างกงล้อมหาสุริยันจันทราและแหฟ้าตาข่ายสวรรค์ออกไป ระหว่างปกป้องชีวิตของมันกับเข่นฆ่าศัตรู มันเลือกปกป้องชีวิตตัวเอง

ในเวลาเดียวกัน จั่วม่อเผชิญหน้าสามยุทธภัณฑ์เวทที่เข่นฆ่าเข้ามา มันไม่คิดหลบหลีก แต่กลับกระตุ้นพลังของเกราะเต่าดำจันทราวารีขึ้นมา แสงสีฟ้าจู่ๆ ก็ปะทุออกมาจากเกราะดำ ม่านแสงทรงกลมคล้ายคลื่นน้ำพลันปรากฏขึ้นรอบกายจั่วม่อ และเพื่อความปลอดภัย มันยังโคจรวัชรสูตรน้อย เพียงชั่วพริบตาชั้นแสงสีทองเข้มปรากฏขึ้นบนแขน ศีรษะ และส่วนอื่นๆ ที่เปิดเผยอยู่นอกเกราะ

ระหว่างปกป้องชีวิตตัวเองกับเข่นฆ่าศัตรู จั่วม่อเลือกเข่นฆ่าศัตรู!

มันเป็นนักพนัน และเดิมพันว่าคู่ต่อสู้ของมันจะเลือกปกป้องตัวเอง! ดังนั้นมันชนะเดิมพันหนนี้ สามยุทธภัณฑ์เวทแบบใช้ครั้งเดียวซึ่งไร้ผู้ควบคุมดูเหมือนจะน่ากลัว แต่เมื่อพวกมันปะทะกับชั้นม่านแสงน้ำสีฟ้ารอบกายจั่วม่อ แม้ว่าม่านแสงจะกระเพื่อมอย่างรุนแรง และจั่วม่อที่อยู่ภายในม่านแสงยังถูกกระแทกจนเลือดลมปั่นป่วน ซ้ำยังถอยหลังไปหลายก้าว แต่ในท้ายที่สุด ยุทธภัณฑ์เวทแบบใช้ครั้งเดียวทั้งสาม เมื่อไม่มีพลังหนุนเสริม ทั้งยังไม่มีอำนาจที่ยาวนาน ก็เปลี่ยนเป็นแสงหายลับไปในอากาศ

จั่วม่อเมื่อสกัดกั้นยุทธภัณฑ์เวทแบบใช้ครั้งเดียวทั้งสามได้สำเร็จ นั่นหมายความว่าการเดิมพันเสี่ยงภัยของมันประสบผลสำเร็จ ช่วงชิงเป็นฝ่ายรุกได้เป็นครั้งแรก เวลานี้มันสามารถควบคุมฝนใบกล้วยได้อย่างสะดวกดาย ความเกรี้ยวโกรธเดือดพล่าน จั่วม่อยิ้มหยันอย่างเย็นชา กระบวนท่านี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!

ร่มในแขนเสื้อกลับสามารถต้านทานฝนเปลวไฟไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง แม้ว่าปราณกระบี่ในฝนเปลวไฟจะกระหน่ำแทงใส่ร่มสีแดง สร้างรอยแตกเสียหายไว้บนร่มมากมาย แต่ยุทธภัณฑ์เวทชิ้นนี้ ศิษย์พี่หวังซื้อหามาในราคาแพงลิบลิ่ว ยามนี้กลับแสดงให้เห็นว่ามันคุ้มค่ากับจิงสือที่จ่ายไป ยังฝืนปิดกั้นฝนเปลวไฟไว้ได้

อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถเอาแต่ป้องกันเพียงอย่างเดียว มิเช่นนั้นก็หมายถึงความพ่ายแพ้!

ศิษย์พี่หวังประสบการณ์ต่อสู้โชกโชน เห็นจั่วม่อซึ่งดูเหมือนว่าอยู่ไกลเกินกว่าที่มันจะแตะต้องได้ มันก้มหน้ากัดฟัน แต่เมื่อมองแสงสีฟ้าจากเกราะของอีกฝ่าย ความเกลียดชังที่มีต่อหลินเอวี่ยนในใจมันก็ทะยานขึ้น! อย่างไรก็ตาม โทสะไม่ได้บดบังสติสัมปชัญญะของมันจนโง่เขลา มันทราบว่าหากมันชนะการประลอง เท่ากับตบหน้าหลินเอวี่ยนต่อหน้าธารกำนัล การแสดงที่หลินเอวี่ยนทำไว้จะสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง!

วีรบุรุษต้องเป็นข้าเท่านั้น!

มือของมันตะปบลงไปที่เอว

เห็นอีกฝ่ายนำกองยันต์กระดาษสีแดงและสีเขียวออกมาจากเอว จั่วม่อก็ถูกเผาด้วยไฟพิโรธ คล้ายเห็นแถวตัวเลขบินผ่านหน้ามันไป หัวใจของมันสั่นอย่างเจ็บปวดรวดร้าว

เจ้าตัวล้างผลาญ! ไร้ยางอาย!

จั่วม่อขบกรามแน่น ความโกรธเกรี้ยวบ้าระห่ำที่ปกคลุมทั่วร่างก็ระเบิดออก โทสะทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุด มันจู่โจมท่าไม้ตายที่ตระเตรียมไว้นานออกไปโดยไม่ลังเล!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด