ตอนที่แล้วEternal Martial Sovereign ตอนที่ 42 – เรียนรู้การกลั่นสกัดเม็ดยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEternal Martial Sovereign ตอนที่ 44 – ท่านต้องการแต่งงานกับเขา?

Eternal Martial Sovereign ตอนที่ 43 – การมาถึงของคนจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์


Chapter 43 – การมาถึงของคนจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์

 

“ตราบเท่าที่ข้าฝึกซ้อมมากขึ้น ข้าก็จะสามารถเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาได้” เซี่ยวหยุนดมกลิ่นหอมที่มาจากกล่องหยกแล้วให้รอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา ตอนนี้เขามีจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วง รวมทั้งความรู้จากราชาเปลวไฟสีม่วงในวิถีแห่งการกลั่นสกัดเม็ดยา มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่เขาจะกลั่นสกัดเม็ดยาได้ ตอนนี้ ทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องทำคือฝึกซ้อมมากขึ้นเพื่อที่เขาจะเพิ่มประสบการณ์และความหยั่งรู้ของเขา

 

“เจ้ายังไม่ได้ควบไฟได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลานี้ ซึ่งมันทำให้ผงยาสูญเสียผลของมันไปอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีส่วนผสมสมุนไพรบางตัวที่ยังมีสิ่งเจือปนที่เจ้าไม่ได้สกัด ดังนั้นเจ้าจึงยังขาดแคลนอยู่” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าว “ถึงแม้ว่ามันจะหายากมากที่จะสามารถประสบความสำเร็จในทดลองครั้งแรกของเจ้าก็ตาม”

 

“เจ้ารู้ไหมว่านี่เป็นการกลั่นสกัดสมุนไพรครั้งแรกของข้า!” เซี่ยวหยุนกลอกตาของเขา

 

“ข้าแค่ให้คำแนะนำกับเจ้าเพื่อไม่ให้เจ้าสำคัญตัวเองผิดไป” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ตอบกลับ

 

"ข้ารู้เรื่องนั้น" เซี่ยวหยุนตอบอย่างสงบ “ถ้าใครต้องการจะเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยา พวกเขาจำเป็นต้องฝึกฝนเป็นร้อยครั้ง ถ้าไม่งั้นก็หนึ่งพันครั้งในการทำให้ดีขึ้น”

 

หลักเม็ดยาเปลวไฟสีม่วงมีคำอธิบายในเชิงลึก ดังนั้นเซี่ยวหยุนจึงรู้สึกเป็นธรรมดาว่าการเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยานั้นไม่ง่ายเลย

 

“ดีแล้ว หยุนน้อย เจ้าจำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อที่เจ้าจะได้กลายเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาและกลั่นสกัดเม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียนให้กับข้า” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าวขณะที่ดวงตาของมันประกาย “ฮ่าฮ่า ถ้าข้าสามารถฟื้นกายเนื้อของข้าได้ เราจะสามารถครอบครองทั่วทั้งแผ่นดินภายใต้สวรรค์ร่วมกันได้”

 

“เม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียน?” เซี่ยวหยุนกลอกตาของเขา “เจ้าคิดว่าการทำมันเหมือนกับปลูกกะหล่ำปลี? แม้แต่ปรมาจารย์แห่งการกลั่นสกัดเม็ดยาก็ไม่มีทางสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาสุดยอดเช่นนั้นได้ ถ้าเจ้าต้องการจะฟื้นกายเนื้อของเจ้า ก็จงอธิษฐานให้ข้ามีชีวิตอยู่นานพอจะเป็นปรมาจารย์แห่งการกลั่นสกัดเม็ดยาได้ละกัน”

 

ได้ยินคำพูดของเซี่ยวหยุน นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ดูเศร้าอย่างช่วยไม่ได้ เม็ดยาสุดยอดประเภทนี้จะทำอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน? แม้แต่นักกลั่นสกัดเม็ดยาในอาณาจักรเมืองหลวงแห่งสวรรค์ที่สามารถกลั่นสกัดเม็ดยาดังกล่าวได้ก็นับได้ด้วยมือเดียว

 

“อย่างกังวล นายท่านคนนี้อยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่ตายไปก่อนหรอก ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าดูไม่เหมือนกับคนประเภทที่มีโชคชะตาชีวิตสั้นๆด้วย” ดวงตาของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ประกายด้วยปณิธานขณะที่มันตัดใจสินที่จะปกป้องเด็กหนุ่มคนนี้จนเขากลายเป็นปรมาจารย์แห่งการกลั่นสกัดเม็ดยา

 

“เจ้าเป็นหนึ่งในพวกที่มีโชคชะตาชีวิตสั้น” เซี่ยวหยุนล้อเลียน “การพูดคุยเกี่ยวกับเม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียนตอนนี้มันยังเร็วเกินไป”

 

“นั่นแหละ” นกกระจอกกลืนสวรรค์พยักหน้า

 

หลังจากนี้ เซี่ยวหยุนก็กลั่นสกัดผงยาต่อ สามวันผ่านไปในพริบตา และเซี่ยวหยุนก็กลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรนับไม่ถ้วนในช่วงเวลานั้น โต๊ะด้านข้างหม้อปรุงยาเต็มไปด้วยผงยา – ไม่ใช่เพียงแค่ผงละลายโลหิตเท่านั้น แต่ยังมีผงเสริมกล้ามเนื้ออีกด้วย ทั้งสองถูกนำมาใช้ในการรักษาและมีความสำคัญมากต่อผู้ฝึกตน

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสามวันนี้ เซี่ยวหยุนได้ใช้พวกมันทั้งหมดกับตัวเขาอย่างรวดเร็ว

 

“ถึงเวลาไปขอลุงสองสำหรับส่วนผสมสมุนไพรเพิ่มเติมแล้วสินะ” หลังจากที่กลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไะรทั้งหมดให้เป็นผงยา เซี่ยวหยุนก็ไปหาลุงสองของเขา

 

“เจ้าเสร็จสิ้นการกลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรเหล่านั้นทั้งหมดแล้วหรือ?” ได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยวไห่ขมวดคิ้ว

 

“เซี่ยวหยุน” เซี่ยวหยุนเหยียดมือของเขาอย่างหมดหนทางขณะที่เขากล่าวว่า “ลุงสอง ท่านรวบรมส่วนผสมสำหรับเม็ดยาต้นกำเนิดแล้ว?”

 

“ส่วนผสมสมุนไพรสำหรับเม็ดยาต้นกำเนิดและเม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์นั้นหาได้ยากมาและส่วนผสมของเม็ดยาระบายลึกลับนั้นหาได้ยากเหลือเกินภายในเขตเมฆาม่วง” เซี่ยวไห่กล่าวขณะที่เขาถอนหายไป “นอกจากนี้หลังจากทำการสอบถามข้อมูลแล้ว ข้าพบว่าแม้แต่ส่วนเดียวของส่วนผสมของเม็ดยาระบายลึกลับก็มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนที่แพงมาก!”

 

“เป็นเพราะเราไม่มีเงินเพียงพอหรือ?” เซี่ยวหยุนถาม “ลุงสอง เกี่ยวกับเรื่องนี้ – รวบรวมส่วนผสมของเม็ดยาต้นกำเนิดและเม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์ก่อน แล้วค่อยขายเม็ดยาหลังจากที่ข้ากลั่นสกัดพวกมันเสร็จ ด้วยวิธีนี้ แล้วเราจะมีเงินเพียงพอสำหรับซือเฟิงส่วนผสมอื่น”

 

“นั้นมันใช้ได้” เซี่ยวไห่กล่าว “แต่เจ้ามีความมั่นใจในการกลั่นสกัดเม็ดยาหรือไม่? ถ้าเจ้าไม่สามารถทำมันได้ เจ้าสามารถมุ่งเน้นไปที่การกลั่นสกัดผงยาก่อนได้ แม้เพียงแค่กลั่นสกัดผงยา เจ้าก็สามารถเข้าสู่นิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้แล้ว”

 

“ผงยา?” เซี่ยวหยุนยิ้มขณะที่เขาพลิกฝ่ามือของเขาซึ่งทำให้กล่องหยกปรากฏขึ้น

 

“นี่คืออะไร?” เซี่ยวไห่จ้องมองแล้วสงสัยว่าทำไมเซี่ยวหยุนเอากล่องหยกนี้ออกมา

 

“ลุงสองเปิดมันแล้วดูสิ” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่ดวงตาของเขาแคบลงเป็นรอยยิ้ม

 

เห็นท่าทางลึกลับบนใบหน้าของเซี่ยวหยุน เซี่ยวไห่เปิดกล่องหยกด้วยความอยากรู้อยากเห็นบางอย่าง กล่องหยกยาวประมาณ 30 เซนติเมตรและถูกทำขึ้นอย่างสวยงาม ทันทีที่เซี่ยวไห่เปิดมัน เขาก็ได้สูดดมกลิ่นหอมสมุนไพรอย่างแรง

 

หลังจากนั้น เขาได้เห็นขวดหยกภายในกล่องหยก มันมีเกือบ 50 ชวด พวกมันทั้งหมดมีโน๊ตเล็กๆติดอยู่ เห็นสิ่งนี้ การแสดงออกของความตกใจปรากฏขึ้นบนหน้าของเซี่ยวไห่

 

เขาเอาขวดหยกออกมาแล้วอ่านอักขระที่เขียนในบันทึกย่อ ขณะที่ความสุขปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขา “หยุนเอ๋อ เจ้ากลั่นสกัดผงละลายเลือดนี้?”

 

“ลุงสอง ท่านสามารถดูได้รึไม่ว่าผงยานี้ดีเพียงพอรึยัง?” เซี่ยวหยุนถามขณะที่เขาพยักหน้า

 

หลังจากได้รับการยืนยันจากเด็กหนุ่ม เซี่ยวไห่ก็รีบเปิดขวดยา หลังจากที่ตรวจสอบสีของผงยา เขาดมกลิ่นมัน จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “สีและกลิ่นจากผงยานี้ด้อยกว่าของปรมาจารย์หยวนเล็กน้อย หยุนเอ๋อเจ้ากลั่นสกัดสิ่งนี้ด้วยตัวเจ้าเองจริงๆ?”

 

“อือ” เซี่ยวหยุนพยักหน้า

 

“เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเพียงแต่เพิ่งจะเรียนรู้การกลั่นสกัดผงยาเท่านั้น เจ้าสามารถบรรลุคุณภาพดังกล่าวได้อย่างไรกัน?” ความปฏิเสธปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยวไห่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้วิธีกลั่นสกัดเม็ดยา แต่เขาก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีในการกลั่นสกัดผงยาให้มีคุณภาพเช่นนี้!

 

แล้วยังเป็นเด็กหนุ่มที่บรรลุมันได้ใน 3 วันเท่านั้น เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านการกลั่นสกัดเม็ดยา?

 

เซี่ยวไห่รู้สึกว่าเลือกของเขาเริ่มเดือดพล่านขณะที่เขากลายเป็นตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ จนมาถึงจุดที่เขาเกือบจะเงยหน้าขึ้นหาสวรรค์แล้วตะโกนออกมา อย่างไรก็ตาม เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะรักษาความสงบแล้วจ้องไปที่เด็กหนุ่ม ต้องการได้รับการยืนยันจากเขา

 

“มันถูกกลั่นสกัดโดยข้าในไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยแท้จริง” เซี่ยวหยุนพยักหน้า “ลุงสอง ถ้าท่านคิดว่าคุณภาพมันไม่เป็นไรแล้ว ท่านสามารถนำพวกมันไปขายได้ ด้วยวิธีนี้ ท่านจะสามารถซื้อส่วนผสมสมุนไพรอื่นได้ แน่นอนว่ามันจะดีที่ถ้าทำเรื่องนี้ในที่ลับ”

 

“เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว่าต้องทำอย่างไร” หลังจากได้ยินคำตอบของเซี่ยวหยุน เซี่ยวไห่พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและรู้สึกตื่นเต้นอย่างน่าไม่น่าเชื่อ เขารีบเปิดขวดยาอื่นๆและตรวจสอบแต่ละขวดเพื่อดูว่าพวกมันสามารถขายได้หรือไม่

 

ถึงแม้ว่าเซี่ยวไห่จะไม่สามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ แต่เขาก็คุ้นเคยกับผงยา ตระกูลใหญ่ทั้งหมดจะส่งคนไปเก็บรวบรวมส่วนผสมจากภูเขาเมฆาม่วง และมันเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นพวกเขามักจะนำผงยาไปกับพวกเขาด้วย เพราะว่าผงยาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและการมีชีวิตอยู่ของพี่น้องร่วมตระกูลเขา เซี่ยวไห่จึงมีความรู้เกี่ยวกับพวกมันไม่น้อย

 

“สีและความมันวาวของผงยาของขวดนี้ดีกว่าขวดก่อนหน้านี้ แล้วกลิ่นหอมก็ยังดีกว่าด้วย”

 

“อ่า ผงยาในขวดนี้ดูเหมือนแม้กระทั่งดีกว่าขวดที่ถูกกลั่นสกัดโดยปรมาจารย์หยวน” ขณะที่เซี่ยวไห่ทำการตรวจสอบขวดอยู่ เขาก็พบว่าคุณภาพของผงยากลายเป็นดีขึ้นแล้วก็ดีขึ้นไปอีก แล้วดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นขณะที่เขามองไปที่เด็กหนุ่มด้วยความไม่เชื่อ “หยุนเอ๋อ นี่เป็นครั้งแรกของเจ้าในการกลั่นสกัดผงยาจริงหรือ?”

 

“ใช่แล้ว!”

 

“มันเป็นความจริงหรือ?” เซี่ยวไห่แปลกใจและตกใจอย่างมากแบบสมบูรณ์ จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าและหัวเราะ “ฮ่าฮ่า สวรรค์ประทานพรให้แก่ตระกูลเซี่ยวของเรา หยุนเอ๋อ เจ้าจะกลายเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาอย่างแน่นอน ลุงสองจะค้นหาวิธีขายผงยาเหล่านี้แล้วซื้อส่วนผสมให้เจ้ามากขึ้น ถ้ามันไม่ได้ผล ข้าจะส่งผู้คนออกไปซื้อส่วนผสมจากเขตอื่น โดยรวมแล้วข้าสัญญาว่าเจ้าจะได้ส่วนผสมที่เจ้าต้องการ” หลังจากกล่าวเช่นนี้ เซี่ยวไห่ก็ออกไปด้วยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา

 

“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น” เมื่อเห็นว่าลุงสองของเขาตื่นเต้นขนาดไหน เซี่ยวหยุนก็ยิ้มด้วย หลังจากนั้นเซี่ยวหยุนก็เดินไปที่ลานบ้านของตัวเขาเอง เมื่อเขาไปถึงที่นั่น เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่

 

ซือหยัน?” เซี่ยวหยุนจ้องไปด้วยความประหลาดใจช่วยครู่ “เป็นไปได้ว่าพิษของพี่สาวใหญ่ซือเฟิงมีอาการอีกแล้ว?”

 

คิดถึงหยานซือเฟิย เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ เขากลับมาได้ไม่กี่วันแล้ว แต่ด้วยความกดดันจากตระกูลฝาง เขาจึงลืมที่จะไปพบนาง เนื่องจากถ้าตระกูลเซี่ยวไม่สามารถทรงพลังมากขึ้นได้ มันจะถูกแยกเป็นส่วนโดยตระกูลฝาง!

 

“พี่ใหญ่เซี่ยวหยุน!” หยานซือหยันเรียกเซี่ยวหยุนจากระยะไกล

 

เมื่อเห็นว่าเด็กสาวดูกระวนกระวายขนาดไหน เซี่ยวหยุนก็เลยรีบถาม “มีอะไรผิดปกติ? พิษของพี่สาวใหญ่ออกอาการอีกแล้ว?”

 

“อื้อ” หยานซือหยันพยักหน้า มีท่าทางที่กังวลอย่างมาก “อย่างไรก็ตาม ข้ามาหาท่านเกี่ยวกับเรื่องที่ร้ายแรงมากขึ้น”

 

“เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของหยานซือหยัน หัวใจของเซี่ยวหยุนเต้นกระหน่ำอย่างรวดเร็ว จะมีอะไรที่ร้ายแรงยิ่งกว่าพิษของหยานซือเฟย? จากการแสดงออกของเด็กหญิงคนนี้ มันดูเหมือนว่าร้ายแรงอย่างมาก!

 

“คนที่มาจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์มาพร้อมกับเม็ดยาแก้พิษสำหรับพี่สาวใหญ่” หยานซือหยันกล่าว

 

“นั้นก็ดีแล้ว” เซี่ยวหยุนด้วยการแสดงออกที่สับสน “พิษของพี่สาวใหญ่ซือเฟยจะไม่หายขาดหรือ?”

 

“ดีหรือ?” หยานซือหยันบุ้ยปากขณะที่นางกระทืบเท้า จากนั้นก็กล่าวต่อด้วยความโกรธ “คนๆนั้นต้องการให้พี่สาวใหญ่ซือเฟยแต่งงานด้วย ฮึ่ม ข้าสามารถบอกได้ทันทีเลยว่าสหายคนนั้นไม่ใช่คนดี แล้วเขายังต้องการจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้นด้วย ข้าอยากสังหารเขาเป็นบ้าเลย”

 

“อะไรนะ?! เขาต้องการให้พี่สาวใหญ่ซือเฟยแต่งงานกับเขา?” ได้ยินเรื่องนี้ เซี่ยวหยุนสรุปเรื่องราวทั้งหมดได้ทันที คนๆนั้นกำลังใช้ยาแก้พิษให้เป็นประโยชน์มากที่สุด – ทุกคนจะเห็นว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดี เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

 

“พี่ใหญ่เซี่ยวหยุนรีบไปบ้านของข้ากัน” หยานซือหยันกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

 

“เอาล่ะ บอกทุกอย่างให้ละเอียด” เซี่ยวหยุนขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกาย

 

หยานซือหยันบอกเขาถึงลำดับของเหตุการณ์ ตลอดจนตัวตนของชายที่มาจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ เขาเป็นอัจฉริยะหนุ่มเรียกว่าฉินหยูเฉิน เขาได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงก่อนที่เขาจะอายุ 18 ปี

 

ตระกูลฉินนั้นยิ่งใหญ่และทรงพลัง และยังมีชื่อเสียงอย่างมากภายในราชอาณาจักรจักรทราวายุ พวกเขากระทั่งมีผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ภายในตระกูลของพวกเขา

 

“มารดาของข้าปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้พี่สาวใหญ่แต่งงานกับฉินหยูเฉิน ตระกูลฉินนั้นทรงพลังอย่างมากและฉินหยูเฉินก็เป็นศิษย์ของหนึ่งในผู้อาวุโสนิกายต้นกำเนิด อนาคตของเขานั้นไร้ขีดจำกัด และถ้าพี่สาวใหญ่ติดตามเขาไป บางทีอาจจะสามารถเข้าสู่นิกายต้นกำเนิดได้เช่นกัน” หยานซือหยันกล่าว

 

“เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสนิกายต้นกำเนิดสวรรค์?” เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วขณะที่เขาถาม “พี่สาวใหญ่ของเจ้าคิดเช่นไร?”

 

“พี่สาวใหญ่แน่นอนว่าไม่เต็มใจ” หยานซือหยันบุ้ยปาก “มิฉะนั้นข้าไม่มาหาท่านหรอก มันเป็นเพราะว่าพี่สาวใหญ่ปฏิเสธที่จะใช้เม็ดยาแก้พิษ นางไม่สามารถมนรอไว้ได้นานนัก ได้โปรดรีบไปช่วยนางสกัดพิษเถอะ” ขนตาของหยานซือหยันสั่นอย่างต่อเนื่องขณะที่ดวงตาของนางกลายเป็นพร่ามัว มีท่าทีที่กังวลอย่างมาก

 

“เอาล่ะ ไปกันตอนนี้เลย” เซี่ยวหยุนไม่ลังเลและจากไปพร้อมกับหยานซือหยันไปยังที่พักอาศัยตระกูลหยานโดยทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด