ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 140 เริ่มต้นด้วยความตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 142 ผลลัพธ์

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 141 ฉิงซูปะทะไป่หนิงปิง


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 141 ฉิงซูปะทะไป่หนิงปิง

ภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณระดับสาม ดวงตาของฉิงซูเปลี่ยนเป็นสีเขียวหยก

กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนจากมนุษย์มีชีวิตไปเป็นป่าไม้ที่ลึกลับ

"โอ้?" ไป่หนิงปิงตะลึงเล็กน้อยก่อนจะแสดงออกด้วยความหงุดหงิด "ดูเหมือนเจ้าจะได้รับทักษะใหม่บางอย่างที่น่าสนใจ"

วิญญาณแท่งน้ำแข็ง!

"ไป!" แท่งน้ำแข็งพุ่งออกจากนิ้วทั้งห้าของไป่หนิงปิง

"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว..."

จากฝ่ามือทั้งสองข้างของฉิงซู เถาวัลย์สองเส้นงอกออกมา พวกมันเต้นรำอยู่กลางอากาศราวกับอสรพิษและป้องกันแท่งน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย

แท่งน้ำแข็งที่เปลี่ยนทิศพุ่งเฉือนไหล่ของฉิงซูไปเล็กน้อยแต่เขายังสามารถยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงราวกับไม้ยืนต้นที่หลั่งรากลึกลงไปในพื้นดิน

ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงเย็น "ทักษะของเจ้าดีขึ้น แต่ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะสามารถรับมือแท่งน้ำแข็งของข้าได้มากเท่าใด?"

หลังจากกล่าวจบคำ ดวงตาสีฟ้าของไป่หนิงปิงพลันส่องประกายขึ้น

วินาทีต่อมาสิบแท่งน้ำแข็งจึงพุ่งตรงไปยังฉิงซูอีกครั้ง

หลังจากนั้นอีกสิบแท่งน้ำแข็งก็ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ มันจึงไม่ต่างจากฝนน้ำแข็ง

"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว..."

เสียงกรีดเฉือนอากาศของแท่งน้ำแข็งจำนวนมากสามารถทำให้หัวใจของผู้คนสั่นสะท้านได้โดยไม่ง่าย

ฉิงซูหลบเลี่ยงพร้อมกับเถาวัลย์ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

หลังจากการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วน มันจึงก้าวเข้าสู่ระดับที่เขาสามารถควบคุมเถาวัลย์ได้ราวกับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย

แต่แท่งน้ำแข็งยังมีมากเกินไปเป็นเหตุให้ฉิงซูได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

แท่งน้ำแข็งแทงทะลุไหล่ขวาของเขาและพุ่งออกทางด้านหลัง

วิญญาณเข็มสน!

ฉิงซูสะกดข่มความเจ็บปวดและยิงเข็มสีเขียวจำนวนมากออกไปจากเส้นผมสีเขียวของเขา

เข็มจำนวนมากปะทะกับเกราะวารีของไป่หนิงปิง ด้วยเกราะวารีที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวิญญาณระดับสาม มันจึงสามารถรับการโจมตีทั้งหมดและกำจัดมันออกไปด้วยพลังอำนาจของกระแสน้ำ

แต่เหตุการณ์นี้ยังสามารถหยุดยั้งการโจมตีของไป่หนิงปิงได้ในที่สุด

ฉิงซูฉวยโอกาสนี้ดึงแท่งน้ำแข็งออกจากไหล่ แต่ไม่มีเลือดไหลออกมา ด้านหนึ่งเป็นเพราะความหนาวเย็น อีกด้านเป็นเพราะร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นต้นไม้

ไป่หนิงปิงยังรักษาเกราะวารีเอาไว้ขณะที่มองไปยังฉิงซู

จากรอยฉีกขาดบนเสื้อ ไป่หนิงปิงสามารถมองเห็นเนื้อหนังที่เปลี่ยนเป็นต้นไม้ของฉิงซู ในเวลาเดียวกันใบหูของเขาก็เริ่มยืดยาวออกไป เส้นผมของเขาเผยให้เห็นใบไม้สีเขียวที่เริ่มเติบโตขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉิงซูใช้วิญญาณมนตราพฤกษาโดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมา

วิญญาณมนตราพฤกษาทำให้ฉิงซูกลายเป็นต้นไม้ ในเวลาเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา

นี่ทำให้ฉิงซูรู้สึกราวกับกำลังนอนแช่อยู่ในบ่อน้ำพุธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ

ในร่างกายของเขา วิญญาณกงล้อจันทราไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่วิญญาณเถาวัลย์มรกตและวิญญาณเข็มสนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

ฉิงซูสูดหายใจลึก เขาไม่เคยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งระดับนี้มาก่อน พลังธรรมชาติทำให้เขารู้สึกราวกับสามารถใช้พลังวิญญาณได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือพลังอำนาจของวิญญาณมนตราพฤกษา

แต่ในเวลาเดียวกันความรู้สึกหวาดกลัวยังทวีความรุนแรงมากขึ้นในหัวใจของเขา

เขารู้ว่าหากเขาใช้งานมันต่อไปโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ เขาจะกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้และตกตายในลักษณะนั้น

ทุกสิ่งมีราคาของมันเสมอ

ฉิงซูสะกดข่มความหวาดกลัวและมองไปยังไป่หนิงปิง "มาต่อกันเถอะ"

หลังจากนั้นการต่อสู้จึงเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เถาวัลย์มรกตปะทะดาบน้ำแข็ง เข็มสนปะทะแท่งน้ำแข็ง

ด้านหนึ่งคือสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดที่ครอบครองความเร็วในการกู้คืนพลังวิญญาณที่น่าตกตะลึง อีกด้านหนึ่งคือวิญญาณมนตราพฤกษาที่สามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

การต่อสู้ครั้งนี้ไกลเกินกว่าขอบเขตของผู้ใช้วิญญาณระดับสามไปเรียบร้อยแล้ว

ฟางเจิ้งที่ยืนอยู่บนเนินเขาเฝ้ามองการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยความโง่งม เขาไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรงเช่นนี้มาก่อน

ปกติแล้วผู้ใช้วิญญาณย่อมมีพลังวิญญาณอยู่อย่างจำกัด พวกเขายังต้องสำรองพลังวิญญาณเอาไว้สิบส่วนเสมอ

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นฉิงซูหรือไป่หนิงปิง พวกเขากลับใช้พลังวิญญาณออกมาราวกับไร้ขีดจำกัดใดๆทั้งสิ้น

ตรรกะทั้งหมดถูกทำลายลงด้วยการต่อสู้ของพวกเขา

เมื่อเวลาผ่านไป...

วิญญาณวิหคน้ำแข็ง!

ไป่หนิงปิงเปิดปากกว้างและส่งวิหคน้ำแข็งบินออกไป

เดิมทีวิหคน้ำแข็งมีรูปลักษณ์เหมือนนกพิราบที่น่ารัก แต่เวลานี้ด้วยพลังอำนาจของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด มันกลับเปลี่ยนเป็นอินทรีย์น้ำแข็งตัวโตที่พุ่งตรงไปยังฉิงซู

ฉิงซูไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทันเวลา ดังนั้นเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับมันโดยตรง

"ปัง!"

เสียงระเบิดดังขึ้นขณะเดียวกันร่างของฉิงซูก็ถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์

"มันจบแล้ว..." ไป่หนิงปิงถอนหายใจแต่ยังรู้สึกไม่พอใจกับผลงานของตนเอง

เขามองไปยังก้อนน้ำแข็งที่ผนึกฉิงซูเอาไว้ภายในและพึมพำ "ขอบคุณที่มอบประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับข้า นี่เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่ข้าเคยผ่านมา ฉิงซู ความตายของเจ้ามีความหมายต่อข้า ข้าจะจดจำเจ้าเอาไว้ในหัวใจ"

"ท่านหัวหน้า!" ฟางเจิ้งตะโกนเสียงดังอยู่บนเนินเขา

"เหตุใดต้องตะโกนเสียงดัง มดตัวน้อย ถัดจากเขาก็คือเจ้า" ไป่หนิงปิงเดินตรงไปยังฟางเจิ้ง

แต่เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงแตกหักของก้อนน้ำแข้งดังเข้าหูของไป่หนิงปิง

"เป็นไปได้อย่างไร?" เขาหันหลังกลับและเห็นร่างของฉิงซูที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก

ร่างกายของเขาใหญ่โตขึ้น ชุดที่เขาสวมใส่ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เส้นผมของเขาเปลี่ยนเป็นเถาวัลย์ที่เต็มไปด้วยใบไม้ มือและเท้าของเขายืดยาวออกไป นิ้วมือและนิ้วเท้าของเขากลายเป็นกิ่งไม้ที่แหลมคม

ด้วยเสียงระเบิดของก้อนน้ำแข็ง

ฉิงซูก้าวเท้าออกมา ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นมนุษย์ต้นไม้ไปอย่างสมบูรณ์

เขาสูงสามเมตร ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเปลือกไม้สีน้ำตาล มีทั้งกิ่งไม้ เถาวัลย์ และใบไม้งอกออกมาเป็นจำนวนมาก

ไป่หนิงปิงตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของเขา เมื่อเปรียบเทียบกับฉิงซู เวลานี้เขาดูราวกับเด็กน้อยที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้ใหญ่

"รูปลักษณ์เช่นนี้ เจ้าปรับแต่งวิญญาณมนตราพฤกษางั้นหรือ? การปรับแต่งวิญญาณชนิดนี้มันยากลำบากยิ่งกว่าการปรับแต่งวิญญาณปีศาจน้ำแข็ง" ไป่หนิงปิงค้นพบคำตอบของความแข็งแกร่งชนิดนี้ในที่สุด

"วิญญาณมนตราพฤกษาสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดฉิงซูจึงสามารถใช้พลังวิญญาณได้ราวกับไม่มีขีดจำกัด" ไป่หนิงปิงเข้าใจเรื่องนี้แต่ยังรู้สึกตกใจ

เขาลอบถามตนเองในใจ 'เขากล้าใช้งานวิญญาณมนตราพฤกษา เขาไม่กลัวว่าจะตายด้วยการกลายเป็นต้นไม้งั้นหรือ? แม้เจ้าจะชนะข้า เจ้าก็ยังต้องตาย'

"ไป่หนิงปิง..." เสียงทุ่มต่ำของฉิงซูดังขึ้น "ข้าเข้าใจเจ้า ทั้งเจ้าและข้าต่างเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกชุบเลี้ยงโดยผู้นำตระกูล แต่พวกเราเดินอยู่บนเส้นทางที่แตกต่าง ต้นไม้ที่กำลังจะตายเพียงต้นเดียวในป่าใหญ่ไม่ถือเป็นสิ่งใด ตราบเท่าที่ป่าไม้ยังอยู่ ต้นไม้ก็จะเติบโตขึ้นอีกครั้ง มาจบการต่อสู้ของพวกเรากันเถอะ!"

หลังจากนั้นเถาวัลย์นับร้อยจึงพุ่งเข้าโจมตีไป่หนิงปิงอย่างพร้อมเพรียงราวกับอสรพิษยักษ์

"เพื่อตระกูลงั้นหรือ? โง่เง่า!" ไป่หนิงปิงล่าถอยออกไป

แต่เถาวัลย์กลับรวดเร็วกว่าก่อนหน้าหลายเท่าขณะที่มันพยายามไล่ล่าไป่หนิงปิง

ไป่หนิงปิงควบคุมร่างกายของตนเองและหลบเลี่ยงการโจมตีของอสรพิษสีเขียว แต่เถาวัลย์ยังเฉี่ยวเฉือนต้นแขนของเขาก่อนจะพุ่งเข้าทำลายล้างภูเขาหินเป็นเหตุให้เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกไปทุกทิศทุกทาง

เกราะวารี!

ไป่หนิงปิงไม่มีเวลาหลบเลี่ยงและทำได้เพียงกระตุ้นใช้งานวิญญาณเกราะวารีอีกครั้ง

ฉิงซูสังเกตเห็นจุดอ่อนของวิญญาณชนิดนี้ ดังนั้นเขาจึงส่งเถาวัลย์จำนวนมากออกไปรัดพันเกราะวารีเอาไว้ทั้งหมด

เกราะวารีไม่สามารถทนต่อพลังการบีบอัดของเถาวัลย์สีเขียวและค่อยๆยุบตัวลงเรื่อยๆ

"ไม่ดีแล้ว หากเกราะวารีพังทลาย ข้าจะถูกสังหารโดยฉิงซูผู้นี้" ไป่หนิงปิงเข้าใจสถานการณ์ของเขา

เป็นไปตามคาด เกราะวารีพังทลายลงในที่สุด

"บึม!"

แต่ในจังหวะนี้พายุหมุนน้ำแข็งกลับพวยพุ่งออกมาจากภายในก่อนจะขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น

เมื่อไม่สามารถป้องกัน ไป่หนิงปิงจึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์โดยใช้การโจมตีปะทะการโจมตี

อุณหภูมิในอากาศลดลงอีกครั้ง

ใบมีดน้ำแข็งจำนวนมากฉีกกระชากเถาวัลย์สีเขียวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

"ทำได้ดี" ฉิงซูก้าวเท้าตรงไปยังพายุน้ำแข็งโดยปราศจากความหวาดกลัว

ด้วยการกางแขนทั้งสองข้าง เขาบีบรัดพายุน้ำแข็งทั้งหมดด้วยกิ่งไม้จำนวนมหาศาล

ความรู้สึกเจ็บปวดของเขาล่าช้าและลดน้อยลงเมื่ออยู่ในร่างต้นไม้ มันจึงอนุญาตให้เขาคว้าจับพายุหมุนเอาไว้ด้วยพลังความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เขามี

พายุหมุนน้ำแข็งหดตัวลงเรื่อยๆภายใต้พละกำลังของฉิงซู

'บัดซบ! เจ้าบ้านี่ไม่สนใจชีวิตเลยงั้นหรือ?' ไป่หนิงปิงก่นด่าอยู่ภายในใจ ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาสามารถทำได้เพียงเพิ่มพลังเข้าไปในพายุหมุนน้ำแข็งเพื่อแข่งขันกับบฉิงซูเท่านั้น

พายุหมุนน้ำแข็งในกำมือของฉิงซูเริ่มลดความรุนแรงลง แต่ด้วยพลังอำนาจของวิญญาณดาบน้ำแข็ง มันจึงกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

การต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมและไม่มีผู้ใดสามารถถอนตัวหรือหยุดยั้งมันได้

ไม่ว่าจะเป็นฉิงซูฆ่าไป่หนิงปิงหรือเป็นไป่หนิงปิงที่สังหารฉิงซู ศึกครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญและเร้าร้อน