ตอนที่แล้วตอนที่ 39 การเดินเส้นขนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 41 ท่าทีที่เปลี่ยนไป

ตอนที่ 40 สะพานไฟฟ้า


[เส้นทางที่ห้า สะพานไฟฟ้า แม่น้ำที่ไหลเชี่ยวดุดดั่งงูพิษที่เลื้อยพาเราจมหายไปกับน้ำ กับสะพานที่สร้างไว้เพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งของเกาะโดยผู้ที่สร้างไม่ได้ระบุตัวตนเอาไว้ และสร้างเอาไว้หลายร้อยปีแล้ว แต่ยามดึกของวันหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นทำให้การข้ามเส้นทางสายน้ำนี้ต้องถูกตัดขาดลง เพราะมีตัวอะไรบางอย่างได้ทำให้ลำธารที่แสนอบอุ่นกลายเป็นลำธารที่เย็นยะเยือกพร้อมไฟฟ้าที่สามารถทำให้คนที่ลงไปในน้ำตายได้ภายในพริบตา]

 

“ที่นี่เขาถึงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าสะพานไฟฟ้าล่ะครับถึงแม้จะรู้เรื่องมันมาจากปากของคุณแมสบ้าง แต่ไม่รู้เลยว่าทำไมถึงเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้”

 

เธอยื่นคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะหยิบอะไรจากกระเป๋าของเธอก็ไม่รู้ เป็นเหมือแท่งอะไรบางอย่างที่เงาวับเหมือนกับเหล็กเลย

 

“ดูให้ดีนะคะ” เมื่อคุณแมสพูดจบเธอก็โยนเจ้าสิ่งวิ๊บวับอันนั้นลงไปยังแม่น้ำข้างล่าง //ซืด ซืด// ก่อนจะพบว่ากระแสไฟฟ้าทำให้สิ่งของสิ่งนั้นลอยขึ้นมาด้วยกระแสไฟฟ้าของมัน สีฟ้าที่เหมือนเส้นสายฟ้าที่ฟาดลงมายังต้นไม้นั้นมีหลายเส้นมาก คิดว่าถ้าคนลงไปคงไม่รอดแน่ๆเลย

 

“ที่เขาเรียกว่าสะพานไฟฟ้าก็เป็นเพราะว่าแม่น้ำสายนี้มีกระแสไฟฟ้าโดยเฉียบพันน่ะสิคะ สาเหตุของเรื่องนี้ฉันก็ไม่แน่ชัดเหมือนกันว่ามันเกิดมาได้ยังไง แต่ว่าได้ยินข่าวลือมาจากพ่อของฉันว่าที่มันเกิดกระแสไฟฟ้าเพราะมีตัวอะไรบางอย่าง ที่สามารถทำให้ไฟฟ้าออกมาจากตัวของมันได้ มาอาศัยอยู่ที่นี่แล้วใช้ที่นี่เป็นถิ่นของมัน ที่นี่ก็เลยเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าที่ช๊อตเราตายได้เพียงไม่กี่วินาที แค่คุณเอาเส้นผมแตะลงไปก็ดูดให้คุณนี่สะดุ้งได้เลยนะคะ แถมน้ำเป็นตัวนำอีกกลายเป็นว่าแม้น้ำทั้งสายนี้มีกระแสไฟฟ้าหมดเลย พวกเขาก็เลยกลั้นทางเอาไว้ไม่ให้แม่น้ำสายนี้ไปโดนกับสายอื่นยังไงล่ะคะ”

 

ตัวมันใหญ่ขนาดไหนกันนะถึงทำให้แม่น้ำทั้งสายมีกระแสไฟฟ้าเต็มไปหมดแบบนี้

 

“แล้วสะพานก็เป็นด้วยหรือเปล่าครับหรือว่ามันเป็นแค่ชื่อเรียกของมันเฉยๆ”

 

สะพานมันอยู่ข้างหน้าของเราและมันอยู่เหนือน้ำไปไม่เท่าไหร่เอง ผมต้องพาพวกเราปลอดภัยเอาไว้เสียก่อนจึงต้องสอบถามคุณแมสไปว่าสะพานนี้ทำไมได้ชื่อนี้มา

 

“ในตอนแรกที่สร้างสะพานใหม่ๆเขาว่ากันว่ามันเป็นสะพานแห่งสายน้ำความรัก ที่สวนมากคนที่มีความรักมักจะมาบอกรักกันที่นี่ ถ้าเกิดคนหนึ่งข้ามออกไปแล้วตะโกนคำว่ารักออกไปหาฝ่ายตรงข้ามที่อยู่อีกฟากให้เขาได้ยินแล้วล่ะก็ เขาว่าคุณพบเนื้อคู่ของคุณแล้ว และมันถูกแล้วที่คุณเลือกคนนี้คุณเลือกไม่ผิด แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ทางชนเผ่าจึงสั่งปิดและเปลี่ยนชื่อเป็นสะพานไฟฟ้าแทนค่ะ เวลาลูกหลานเกิดจะได้กลัวคำนี้กันยังไงล่ะคะ”

 

อ๋อแบบนี้นี่เองผมเข้าใจแล้วมันคือชื่อของมัน เป็นการเปลี่ยนชื่อจากสะพานแห่งความรักเป็นสะพานไฟฟ้าตามสภาพที่เห็น ว่าแต่..สะพานแห่งความรักถ้าเกิดตะโกนออกไปคำว่ารักแล้วอีกคนได้ยินจะได้เป็นเนื้อคู่ที่แท้จริงกันจริงๆหรอ ผมอยากลองบ้างจังเลยถึงมันจะเสี่ยง แต่ยังไงเราก็ต้องข้ามสะพานนี้ไปอยู่ดี เราจะเป็นฮีโร่ดูสักครั้งก็แล้วกัน

 

“งั้นผมจะไปก่อนถ้าผมปลอดภัยผมจะตะโกนมาบอกคุณนะครับ แต่ถ้าไม่ได้ยินจะทำมือแทนก็แล้วกันครับ”

 

ผมให้ฟอเรสไปเกาะไหล่ของคุณแมสเทน ฟอเรสจะได้ไม่เจ็บตัวถ้าเกิดผมเป็นอะไรไป ผมเริ่มเดินข้ามสะพานไปทีละก้าวหัวใจของผมก็เต้นเร็วไม่เป็นไปตามจังหวะของหัวใจที่มันจะเป็น ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวและอยากรู้มันก็เลยทำให้ผมต้องมาลำบากแบบนี้ ใช้เวลาไม่นานผมก็เดินไปถึงสุดสะพานรู้สึกไม่เป็นอะไรเลย เพราะมันไม่ได้โดนน้ำและไม่ใช่ตัวนำไฟฟ้า สะพานทำมาจากไม้มันก็เลยไม่โดนไฟดูด

 

“ผมรักคุณนะคุณแมส!!!” ผมลองตะโกนให้เธอไปแต่ดูเฟลมาก เหมือนเธอจะไม่ได้ยินอะไรเลย หรือเราจะไม่ใช่เนื้อคู่กันนะ.. ผมเปลี่ยนเป็นใช้ท่ามือแทน เธอเห็นเธอจึงเดินข้ามสะพานมา

 

“เก่งมากเลยค่ะคุณอดัม งั้นเราไปกันต่อเลยนะคะ”

 

ใช่..คุณแมสไม่รู้อะไรเลย ทำไมผมดูแย่ขนาดนี้ล่ะผมรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก เหมือนโดนคนรักคนเก่าทิ้งไปเลย แต่นี่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันผมก็เป็นเสียแล้ว

 

“ครับ” เฮ้อเราเป็นอะไรของเรากันนะ

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด