ตอนที่แล้วบทที่ 3 กลับบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 สอบถาม

บทที่ 4 พ่อ


 

เย่เฉิน ฮันเซ่ว พี่ใหญ่ และ น้องสามต่างเป็นเด็กกำพร้า หากพ่อไม่เก็บมาเลี้ยงแล้วล่ะก็ คงไม่ต่างอะไรจากเด็กข้างถนน

พ่อไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร เขาเป็นเพียงชายที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว

พ่อมักเก็บเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู เย่เฉินพบตาแก่ตั้งแต่ยังเด็ก จึงต่างจากคนอื่นๆที่อยู่อย่างไร้จุดหมาย

ตั้งแต่เด็กเขาก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงดูพวกเขามาอย่่จบชั้นประถม

เขาตัดสินใจลาออกมาเพื่อหาเงินช่วยพ่อเลี้ยงที่ใจบุญของเขาและสนับสนุนครอบครัว อย่างไรก็ตามแปดปีต่อมา เขาได้สร้างบาดแผลขนาดใหญ่ขึ้น โดยการทำความผิดที่ไม่น่าให้อภัย เพราะเขาดันไปแทง หนึ่งในสามคนลูกพี่ใหญ่ของ

ระแวกนี้ ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีออกจากบ้านและใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะกลัวว่าจะถูกตามฆ่า

สองปีต่อมา…ฮันเซ่วก็ได้พ่อที่มารับเลี้ยงดู เธอเคยอยู่กับพ่อแม่ในเมืองยากจนแห่งหนึ่ง แต่พวกเขาได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุรถยนต์ พ่อสงสารเด็กคนนี้จึงให้การอุปถัมภ์ เธอมีผลการเรียนที่ดีกว่าเด็กคนอื่นๆและเธอใช่เวลาว่างส่วนใหญ่ช่วยพ่อ รีไซเคิลขยะแถวบ้าน

ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน ขณะที่พี่น้องกำพร้าทั้งสองกำลังยืนคุยกัน มีชายแก่ คนหนึ่งเดินเข้ามาท่าทางตื่นตกใจ เขาพูดออกมาอย่างร้อนรนว่า “เซ่วเอ้ย เซ่ว มีข่าวร้าย ตาแก่หยางถูกทำร้ายตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” หลังจากพูดจบเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนแปลกหน้าอยู่ในบ้านหลังนี้เขาเหลือบไปมองอย่างระมัดระวัง เขาจำได้ว่าไม่เคยเห็นหน้าชายคนนี้มาก่อน

เมื่อได้ยินว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลเขารีบลุกยืนขึ้นด้วยท่าทางร้อนรนเช่นกัน และหันไปถามชายแก่ว่า “ลุงจ้าว พ่ออยู่โรงพยาบาลไหนครับ?”

ฮันเซ่วตอนนี้เธอไม่อาจจะมีแรงยืนอีกต่อไป น้ำตามากมายไหลอาบแก้มบนใบหน้า เมื่อเธอคิดว่าเด็กอย่างเธอควรทำอะไรตอนนี้เธอก็น้ำตาตกและมองอย่างหมดหนทางและ

พูดกับเย่เฉินว่า “พี่สอง พวกเราควจจะทำยังไง?”

พอได้ยินฮันเซ่วเรียก ลุงจ้าวก็หันมาถามเย่เฉิ่นทันที “เธอคือเสี่ยวเอ๋อ?”

เย่เฉินพยักหน้า “ใช่ครับลุงจ้าว ผมเสี่ยวเอ๋อเอง” จากนั้นเขาเดินเข้าไปหาน้องสาวแล้วตบบ่าเบาๆเป็นเชิงปลอบ

“อย่ากลัวไป พี่สองของเธออยู่นี่แล้ว”

“แล้วตกลงพ่ออยู่โรงพยาบาลไหน”

“โรงพยาบาลเหริ่นมิน” ลุงจ้าวตอบอย่างรวดเร็ว

เย่เฉินไม่มีเวลาทักทายอย่างเป็นทางการ เขาทำเพียงขอบคุณแล้วรีบพาฮันเซ่วออกไป “พี่สองพวกเรามีเงินนิดเดียวเองคงไม่พอใช่ไหมคะ?” ฮันเซ่วพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย

เย่เฉินเหลือบมองเล็กน้อยแล้วพูด “อย่าห่วงไปเซ่ว พี่สองมีทางน่า”

พูดถึงเรื่องเงินเย่เฉินไม่เคยขาดมันในกระเป๋าของเขามีบัตรธนาคาร

สวิสอยู่ ในนั้นมีเงินฝากอยู่นับร้อยล้านแต่เขาไม่อยากใช้มัน ทว่าเขาจะต้องได้ใช้มันกับเรื่องนี้แน่นอน

พี่ชายของเขาออกจากบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตที่หรูหราต่างจากเขาที่อยากใช้ชีวิตแบบสามัญธรรมดา ณ ตอนนี้เขามีเงินอยู่ หมื่นนึง ถ้าไม่พอเขาก็จะใช้บัตรธนาคารสวิสอย่างไม่ลังเล

ฮันเซ่วกลั้นน้ำตาขณะที่ดึงเงินออกจากกระเป๋าของเธอ พวกเขานั่ง

แท๊กซี่ตรง ดิ่งไปยังโรงพยาบาลเหริ่นมินด้วยเวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะถึงทางเข้าโรงบาล

เย่เชียนจ่ายให้เงินให้คนขับพันนึง และวิ่งเข้าโรงพยาบาลโดยไม่แม้แต่จะรอเงินทอน

การที่ไม่ได้เจอกันนานถึงแปดปี…เย่เฉินเองก็อยากพบพ่อเพื่อจะมีโอกาสพูดคุยกันอีกครั้ง เกี่ยวกับตนเอง แต่ทว่ากลับได้รับข่าวที่พ่อถูกทำร้ายและนำส่งโรงพยาบาลทำให้จิตใจเขาตอนนี้โกรธเกรี้ยวมาก เขาอยากจะแก้แค้นเหลือเกิน

แต่ตอนนี้ชีวิตพ่อสำคัญกว่า

อะไรทั้งหมด

เมื่อเห็นนางพยาบาลเข้าไปที่ห้องพักของพ่อ เขาเดินปรี่เข้าไปหาทันทีไม่นานก็ถึงหน้าประตู เย่เฉินเห็นมือของพ่อที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลและพลาสเตอร์ยา ตอนนี้เขาไม่อาจกลั้นน้ำตาให้ไหลรินลงมาได้

“พะ..พ่อ…” เย่เฉินได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงไม่ขาดสาย ทั้งที่เขามีคำพูดมากมายที่อยากจะพูด มีเรื่องมากมายที่อยากจะบอก แต่ทำได้เพียงมองดูชายคนที่เขารักสุดหัวใจนอนแน่นิ่งเท่านั้น

หยางเจียนเก่อเปิดตาคู่ที่หมองคล้ำของเขามองเด็กหนุ่มด้านหน้าจากนั้นก็ตกใจและร้องไห้ออกมา “เสี่ยวเอ๋อ แกกลับมาแล้วเหรอ?”

“ครับ!” เย่เฉินพยักหน้าแต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไป

หยางเจียนเก่อยิ้มบางๆและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“ดีแล้วที่สองกลับมา…สองกลับมาแล้ว…พ่อนั้นสบายดีแกไม่ต้องห่วง”

“ใครเป็นคนทำพ่อบาดเจ็บ” เย่เฉินถามอย่างจริงจัง

“เสี่ยวเอ๋อลืมมันไปเถอะ พวกเขาเป็นพวกคนรวยและมีอำนาจ อย่าไปยั่วยุพวกเขา ถ้าแกทำแบบนั้น แล้วแกจะจัดการพวกเขาอย่างไร อีกอย่างพวกเขาก็จ่ายมา สองพันสำหรับค่ารักษาพยาบาลแล้วพ่อเองก็คิดว่าแกควรลืมเรื่องนี้เสียดีกว่า” เขารู้ว่าเย่เฉินเป็นคนอย่างไร ถ้าเขาพูดเกี่ยวกับที่มาของการเจ็บตัวในครั้งนี้ เขารู้ว่าเย่เฉินจะต้องตามหาคนเหล่านั้นแม้จะพลิกแผ่นดินก็ตามและล้างแค้นพวกนั้นอย่างแน่นอน

เขาเคยได้รับรู้ประสบการณ์นี้มาแล้ว จากเหตุการณ์ที่น้องสามของเขาถูกทำร้าย เย่เฉินจึงไปฆ่าหนึ่งในนั้นสามของหัวโจก ทำให้เขาต้องหลบหนีอย่างหมดทางเลือก

เย่เฉินรู้ว่าพ่อคิดอะไรอยู่ในใจ เขาจึงแกล้งจงใจพูดให้ดูว่าเขาไม่ใช่คนเดิมและรู้สึกนิ่งเฉยกับเรื่องนี้…

“พ่ออย่าห่วงไป ผมกลับมาเพื่อใช้ชีวิตธรรมดาๆไม่ต้องการปัญหาใดๆผมรู้ว่าควรทำอย่างไร”

“เฮ้อ…” พ่อเขาถอนหายใจแล้วพูดต่อ “ข้าเก็บขยะอยู่ข้างนอกสนามบินแต่ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งทำกระเป๋าเงินหล่นข้าจึงเก็บคืนเขาแต่เขาคิดว่าข้าเป็นขโมยจึงชกเข้ามา ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตนเองผิดจึงจ่ายค่ารักษาให้”

ไม่น่าล่ะทำไมตาแก่ที่สนามบินจึงดูคุ้นๆที่แท้ก็พ่อเขานี่เอง ร่างชายคนนั้นค่อยๆปรากฎขึ้นมาจิตใจ จิตใจของเขาเริ่มร้อนรุ่มตั้งแต่พ่อของเขาถูกทำร้ายเขานึกทางเอาคืนอยู่หลายทาง

จำเลยที่น่าสงสารโดนทุบตีแต่กลับได้เงินแค่ สองพันหยวนเพราะพวกมันไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้

เงินสำหรับเย่เฉินมิได้สำคัญอะไรเลย หากเขาเพียงต้องการความยุติธรรมสำหรับพ่อของเขา

“ไร้มนุษยธรรมสิ้นดีทำคนอื่นบาดเจ็บแต่จ่าย สองพันก็จบ นี่ประชาชนต้องเจอกับกฏหมายแบบนี้กันต่อไปหรอคะ?” ช่วยไม่ได้ที่ฮันเซ่วจะโกรธมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นแค่สาวน้อยที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาจึงทำได้เพียงอดกลั้นเท่านั้น

“เซ่ว หนูอยู่ในช่วงสอบกลางภาคอยู่นะกลับบ้านไปทบทวนบทเรียนเถอะ พ่อยังไหว ไว้พ่อจะกลับไปที่หลังนะ”

“พ่อคะ พ่ออยู่โรงพยาบาลแต่จะให้หนูกลับงั้นหรือคะ เดี๋ยวหนูจะเอาหนังสือมานั่งเรียนที่โรงพยาบาลและดูแลพ่อเองค่ะ”

ท่าทางของเธอ ทำให้พี่ชายอดที่จะอมยิ้มไม่ได้

เย่เฉินมองตาฮันเซ่ว “เซ่วได้ยินที่พ่อบอกแล้วนี่ไม่ต้องห่วงพี่สองจะอยู่ที่นี่เอง”

“ไม่ค่ะ พี่ชายเพิ่งกลับมาคงจะเหนื่อย พี่กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะค่ะ นอกจากนี้พี่ชายไม่น่าใช่พวกดูแลใครได้นะคะ ยังไงก็ตามหนูก็จะอยู่” ฮันเซ่วยืนยันหนักแน่นด้วยเสียงแข็ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด