ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 136 ความแตกต่างระหว่างมัดกล้ามเนื้อกับสมอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 138 บางคนกำลังไล่ล่าและพยายามฆ่าไป่หนิงปิงงั้นหรือ?

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 137 เงามรณะ


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 137 เงามรณะ

เมื่อเห็นหมัดของซ่งหลี่กำลังจะปะทะร่างไป่หนิงปิง ซ่งหลินกับซ่งเจียงจึงเผยใบหน้าสนุกสนาน

มีเพียงฟางหยวนที่ยืนอยู่ห่างออกไปด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

ด้วยความสามารถของไป่หนิงปิง เขาจะพลาดง่ายๆได้อย่างไร?

ตามคาด...

มือและแขนขวาของไป่หนิงปิงกลายเป็นน้ำแข็งโปร่งใสและสามารถมองเห็นกระทั่งกระดูกสีขาวที่อยู่ภายใน

นิ้วน้ำแข็งของเขากางออกเป็นกรงเล็บก่อนจะทะลวงเข้าไปในหัวใจของซ่งหลี่อย่างกะทันหัน

"อั๊ก!" การเคลื่อนไหวของซ่งหลี่หยุดลงทันที

ดวงตาของเขาเปิดโตขึ้นก่อนจะก้มศีรษะมองหน้าอกของตนเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

"นี่เป็นไปได้อย่างไร?"

"ท่านหัวหน้าซ่งหลี่!"

ซ่งหลินกับซ่งเจียงตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"เจ้าคิดว่าแขนขวาของข้าจะไม่สามารถใช้งานได้จริงๆงั้นหรือ? น่าขัน ร่างกายของข้าได้รับความแข็งแกร่งจากวิญญาณระดับสาม วิญญาณมัดกล้ามน้ำแข็ง ด้วยกายาน้ำแข็ง มันเป็นการป้องกันที่ยอดเยี่ยมที่สุด เหตุผลที่ข้าไม่ใช้มันก่อนหน้านี้เพราะต้องการให้พวกเจ้าประหลาดใจเล็กๆน้อยๆ" ไป่หนิงปิงค่อยๆยืนขึ้นด้วยสายตาเย้ยหยันก่อนจะกวาดตามองไปทางฟางหยวน

แต่การแสดงออกของฟางหยวนยังสงบนิ่งขณะที่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของไป่หนิงปิง

"ฟุบ..."

"ไป่...หนิง...ปิง..." ซ่งหลี่เปิดปากพูดคำสุดท้ายด้วยความยากลำบาก นิ้วของไป่หนิงปิงปลดปล่อยความเย็นออกมาแช่แข็งหัวใจของซ่งหลี่และจบชีวิตของคนผู้นี้ในพริบตา

"สารเลว! ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!" เห็นความตายของซ่งหลี่ หัวใจของซ่งหลินเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น วินาทีนี้เขาไม่ห่วงความปลอดภัยของตนเองอีกต่อไปและพุ่งเข้าโจมตีไป่หนิงปิงอย่างบ้าคลั่ง

"ซ่งหลิน หยุดก่อน!" ซ่งเจียงตอบสนองได้ในที่สุดและเร่งคว้าร่างของซ่งหลินเอาไว้

"ท่านหัวหน้าตายแล้ว พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เจ้ารีบหนีไป ข้าจะขวางทางไป่หนิงปิงเอาไว้" ซ่งเจียงสะกดข่มความเศร้าและกล่าว

"พี่ชายซ่งเจียง..." ดวงตาของซ่งหลินยิ่งแดงก่ำเมื่อได้ยินคำพูดของซ่งเจียง

ซ่งเจียงดึงร่างซ่งเจียงไปด้านหลังและก้าวเท้าตรงไปทางไป่หนิงปิง

วิญญาณกระจกเงา!

เงาที่อยู่ใต้เงาของเขายืดออกไปราวกับมีชีวิตก่อนจะเชื่อมต่อกับเงาของไป่หนิงปิงในที่สุด

"ด้วยวิญญาณกระจกเงา หากข้าได้รับบาดเจ็บ ไป่หนิงปิงจะได้รับผลกระทบเช่นกัน เขาไม่สามารถฆ่าข้าได้โดยง่าย ซ่งหลิน เจ้ายังเด็กและมีพรสวรรค์สูงกว่าข้าหรือแม้แต่ท่านหัวหน้า ตอนนี้เจ้าจงหนีไปให้เร็วที่สุด" ซ่งเจียงตะโกนเสียงดัง

"พี่ชายซ่งเจียง!" ดวงตาของซ่งหลินเริ่มเปียกชื้น เพราะเขารู้ข้อจำกัดของวิญญาณกระจกเงาเป็นอย่างดี หากไป่หนิงปิงสามารถสร้างระยะห่างออกไป วิญญาณกระจกเงาก็จะกลายเป็นไร้ความหมาย ชัดเจนว่าถ้อยคำของซ่งเจียงเป็นเพียงคำปลอบใจ

นอกจากนั้นในการต่อสู้ก่อนหน้าซ่งเจียงใช้พลังวิญญาณไปเป็นจำนวนมาก เขาไม่สามารถยื้อการต่อสู้ได้นานนักก่อนที่วิญญาณผีดิบจะหยุดทำงาน

อย่างไรก็ตามซ่งหลินยังไม่เคลื่อนไหวแต่หันหน้าไปทางฟางหยวน "ฟางหยวน เหตุใดกำลังเสริมยังไม่มา?"

ฟางหยวนไม่ตอบแต่จ้องมองไปยังไป่หนิงปิง

ไป่หนิงปิงสะบัดมือเปลี่ยนแขนน้ำแข็งของตนเองให้กลับสู่สภาพปกติก่อนจะหัวเราะเย้ยหยัน "กำลังเสริม? ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาคงมาถึงนานแล้วหากพวกเขาคิดจะมา แต่ชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องโกหก จุ จุ ไร้เดียงสานัก แล้วคิดจริงๆงั้นหรือว่าวิญญาณเด็กเล่นเช่นวิญญาณกระจกเงาจะสามารถหยุดข้าได้"

เขาจ้องมองไปยังเงาสีดำที่อยู่บนพื้นด้วยสายตาเย้ยหยัน

"ฟางหยวน นี่เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?" ซ่งหลินกำหมัดแน่นและเร่งถามด้วยดวงตาที่แทบลุกเป็นไฟ

ฟางหยวนไม่สนใจซ่งหลินแต่เผยรอยยิ้มบางให้กับไป่หนิงปิง "การเคลื่อนไหวที่ผ่านมา เจ้าใช้พลังวิญญาณไปแล้วกี่ส่วน? แล้วตอนนี้เจ้าเหลือพลังวิญญาณอยู่อีกเท่าใด?"

ซ่งหลี่ใช้วิญญาณป้องกันตัวแต่มันยังด้อยกว่าวิญญาณหยกขาว ผลลัพธ์ก็คือการป้องกันของเขาถูกเจาะทะลวง อย่างไรก็ตามการโจมตีของไป่หนิงปิงชัดเจนว่าไม่ใช่วิญญาณระดับสอง ฟางหยวนคาดเดาว่ามันเป็นวิญญาณระดับสาม วิญญาณปีศาจน้ำแข็ง

วิญญาณปีศาจน้ำแข็งถือเป็นวิญญาณที่โดดเด่นท่ามกลางวิญญาณระดับสาม แต่ด้วยพลังอำนาจที่น่าเกรงขามของมัน ตัวผู้ใช้อาจได้รับผลกระทบย้อนกลับและกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไปในที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้วิญญาณชนิดอื่นร่วมด้วย

ไป่หนิงปิงกล่าวว่าเขาเคยบ่มเพาะร่างกายด้วยวิญญาณมัดกล้ามน้ำแข็ง การจับคู่วิญญาณมัดกล้ามน้ำแข็งกับวิญญาณปีศาจน้ำแข็งถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามไป่หนิงปิงใช้พลังวิญญาณระดับสองเพื่อกระตุ้นการทำงานของวิญญาณระดับสาม นี่ทำให้เขาสูญเสียพลังวิญญาณไปเป็นจำนวนมาก

การแสดงออกของไป่หนิงปิงเปลี่ยนไปเมื่อฟางหยวนสามารถมองเห็นความจริงข้อนี้

นี่ยังเป็นเหตุที่เขาไม่โจมตีต่อเนื่องหลังจากสังหารซ่งหลี่แต่เลือกพูดคุยเพื่อถ่วงเวลา

เขาหัวเราะก่อนสารภาพ "ไม่เลว ทะเลวิญญาณของข้ากำลังเหือดแห้ง ข้าแสร้งว่าแขนขวาไม่สามารถใช้งานเพื่อล่อให้เจ้าโจมตี แต่เจ้ากลับไม่ตกหลุมพราง ข้าเชื่อว่าการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้ ถูกต้องหรือไม่?"

ฟางหยวนหรี่ตามอง

หากไป่หนิงปิงปฏิเสธ เขาจะพุ่งเข้าโจมตีโดยไม่ลังเล แต่เมื่อไป่หนิงปิงเลือกสารภาพ มันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความรู้สึกหวาดกลัว

ในกรณีนี้ไป่หนิงปิงอาจรู้ตัวว่าตนเองกำลังจะตายจึงไม่เกรงกลัวต่อความตายหรือเป็นไปได้ว่าเขายังมีไพ่ตายบางอย่างเก็บซ่อนเอาไว้และมั่นใจว่าสามารถรักษาชีวิต

โดยปกติผู้ใช้วิญญาณจะครอบครองวิญญาณเพียงสามถึงห้าดวง กระทั่งฉิงซูกับซื่อซานก็ไม่ต่างกัน

แต่มันยังมีข้อยกเว้น

ตัวอย่างเช่นฟางหยวน เขาครอบครองวิญญาณจันทร์กระจ่าง วิญญาณหยกขาว วิญญาณเกล็ดลี้ลับ วิญญาณสุราสี่ฤดู วิญญาณหญ้าใบหูปฐพี วิญญาณโสมเก้าชีวิต และวิญญาณกาลเวลา รวมทั้งหมดเจ็ดดวง

ไป่หนิงปิงเป็นความหวังของตระกูลไป่ เขาครอบครองสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดและเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง ตั้งแต่เริ่มต้นบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากตระกูล เขามั่งคั่งกว่าฟางหยวนอย่างมิอาจเปรียบเทียบ

จนถึงเวลานี้เขาแสดงพลังอำนาจของวิญญาณมากกว่าหกดวง ฟางหยวนยังมั่นใจว่าเขามีวิญญาณดวงอื่นเก็บซ่อนเอาไว้และพวกมันก็อนุญาตให้ไป่หนิงปิงสามารถรักษาความเยือกเย็นแม้เขาจะเหลือพลังวิญญาณไม่มากก็ตาม

แท้จริงแล้วศัตรูที่น่ารำคาญที่สุดก็คือศัตรูเช่นเขา

ไม่เพียงครอบครองสุดยอดพรสวรรค์ ไม่กลัวตาย และยังมีวิญญาณมากมายอยู่ในมือ

ด้วยสิ่งเหล่านี้มันสามารถเป็นตัวชี้วัดชัยชนะของผู้ใช้วิญญาณ โดยเฉพาะวิญญาณที่ทรงพลังหรือมีความพิเศษบางอย่าง มันจะอนุญาตให้ผู้ใช้วิญญาณพลิกคว่ำสถานการณ์ได้ทั้งหมด

วิญญาณปีศาจน้ำแข็งของไป่หนิงปิง แม้แต่วิญญาณหยกขาวของฟางหยวนยังอาจถูกเจาะทะลวง นี่เป็นเหตุที่ฟางหยวนไม่คิดต่อสู้กับไป่หนิงปิงโดยตรง

ฟางหยวนใช้กลุ่มของม่านซื่อกับซ่งหลี่เพื่อค้นหาความลับของไป่หนิงปิง ทั้งหมดก็คือมีเพียงการรู้จักศัตรูจึงจะทำให้คนผู้หนึ่งได้รับชัยชนะ

หากเปรียบเทียบ ฟางหยวนมีพรสวรรค์นภาที่สาม เขาแตกต่างจากไป่หนิงปิงราวกับอยู่คนละโลก ไป่หนิงปิงเริ่มต้นบ่มเพาะมาก่อนเขาและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากตระกูล สุดท้ายยังครอบครองวิญญาณที่โดดเด่นกว่าฟางหยวน

ในแง่ของอารมณ์ เขาไม่กลัวตาย นี่ทำให้เขาไม่ต่างไปจากผู้อมตะ

ไป่หนิงปิงแข็งแกร่ง ฟางหยวนอ่อนแอ นี่คือความจริงที่เขาต้องยอมรับและเข้าใจ

แต่การต่อสู้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดา ผู้แข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องได้รับชัยชนะ ผู้อ่อนแออาจไม่พ่ายแพ้เสมอไป

หากฟางหยวนต้องการชัยชนะ เขาต้องใช้ทุกวิถีทางและพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอกทั้งหมดที่เขาสามารถรวบรวม

'ม่านซื่อเป็นจุดเริ่มต้น แต่ซ่งหลี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด' ฟางหยวนคิด

ด้วยดาบแสงจันทร์ ศีรษะโบยบินออกจากลำคอพร้อมกับเลือดที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับน้ำพุธรรมชาติ

รูม่านตาของไป่หนิงปิงขยายกว้าง การแสดงออกของเขาเปลี่ยนแปลงไป

ดาบแสงจันทร์ของฟางหยวนไม่ได้โจมตีไป่หนิงปิง ตรงข้ามมันตัดศีรษะซ่งเจียง

ซ่งเจียงไม่ได้คาดหวังว่าฟางหยวนจะทรยศ ด้วยแรงกดดันจากไป่หนิงปิง ความสนใจทั้งหมดของเขาจึงอยู่กับฝ่ายหลัง

เขาไม่เหลือพลังวิญญาณมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถคงสภาพร่างผีดิบเอาไว้

"พรวด!"

ใบหน้าของไป่หนิงปิงกลายเป็นซีดเผือดขณะที่อาเจียนออกมาเป็นเลือด ในเวลาเดียวกันไม่ว่าจะเป็นดวงตาหรือใบหูล้วนมีเลือดไหลออกมาทุกทาง

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นนี่เป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดของเขา

วิญญาณกระจกเงา!

ด้วยวิญญาณกระจกเงา มันจะถ่ายทอดความเสียหายสิบส่วนจากร่างต้นไปยังศัตรู เวลานี้เมื่อซ่งเจียงตกตาย ไป่หนิงปิงจึงได้รับผลกระทบโดยตรง แม้เขาจะครอบครองวิญญาณเกราะน้ำ แต่มันไม่สามารถป้องกันผลกระทบชนิดนี้

"ฟางหยวน เจ้าทำสิ่งใด?" วินาทีถัดมา ซ่งหลินจึงสามารถตื่นขึ้นจากภวังค์และตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยว

ฟางหยวนเพิกเฉยต่อเด็กน้อยซ่งหลิน แต่พุ่งเข้าโจมตีไป่หนิงปิงด้วยแสงสีขาวก็ส่องสว่างขึ้นบนร่างกาย

ไป่หนิงปิงได้รับบาดเจ็บ ร่างของเขาสั่นสะท้านและยังอยู่ในสภาวะมึนงง พลังการต่อสู้ของเขาลดลงอย่างมาก เห็นฟางหยวนพุ่งเข้ามา ช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องล่าถอยออกไป

"ไป่หนิงปิง เป็นเจ้าที่เรียกร้องการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายมิใช่หรือ?" ฟางหยวนไล่ล่าไป่หนิงปิงอย่างไม่ลดละ

ไป่หนิงปิงกัดฟันแน่นและพยายามหลบหนีไปอย่างเงียบๆ รอยเท้าของเขาวุ่นวายสับสนขณะเดียวกันก็พยายามเพิกเฉยต่อคำเสียดสีของฟางหยวน

แม้เขาจะรู้ตัวว่ากำลังจะตายและไม่เกรงกลัวต่อความตาย เขาก็ไม่โง่ ในสถานการณ์วิกฤต เขายังต้องเยือกเย็น

ซ่งหลินยืนอยู่ในจุดที่ไม่มีทางเลือกนอกจากช่วยฟางหยวนไล่ล่าไป่หนิงปิง

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความโกรธ เขาเกลียดไป่หนิงปิง เขาเกลียดฟางหยวน

ไป่หนิงปิงกับฟางหยวนเคลื่อนที่เข้าใกล้หน้าผา

เมื่อเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของไป่หนิงปิงค่อยๆฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ

เขาไม่เพียงหลบหนีแต่ยังใช้วิญญาณรักษาอาการบาดเจ็บของตนเอง

อย่างไรก็ตามการไล่ล่าของฟางหยวนสร้างแรงกดดันให้กับหัวใจของเขาอยู่อย่างลับๆ

'เดิมทีทะเลวิญญาณของไป่หนิงปิงแทบเหือดแห้งไปจนหมดสิ้น แต่ระหว่างการหลบหนี เขายังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บ ความเร็วในการกู้คืนพลังวิญญาณระดับนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าเขาครอบครองสุดยอดพรสวรรค์ กายาน้ำแข็งแห่งความมืด'

ยิ่งเขาเข้าใจมากเท่าใด เขาก็ต้องการสังหารไป่หนิงปิงมากเท่านั้น

วิญญาณจันทร์กระจ่าง!

ดาบแสงจันทร์โบยบินผ่านท้องฟ้าและส่งเสียงกรีดเฉือนอากาศ

ไป่หนิงปิงได้ยินเสียงนี้และพยายามหลบเลี่ยงแต่แขนของเขายังถูกทะลวงแทง

อาการบาดเจ็บเกิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลัก แต่บาดแผลของเขากลับถูกปิดโดยชั้นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว

ร่างกายของไป่หนิงปิงถูกบ่มเพาะมาด้วยวิญญาณมัดกล้ามน้ำแข็ง มันเป็นเช่นเดียวกับวิญญาณความแข็งแกร่งของหมี วิญญาณหมูขาวหรือหมูดำ และไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณเพื่อกระตุ้นการทำงาน

แต่หัวใจของไป่หนิงปิงยังหนักอึ้ง บาดแผลเดิมของเขาพึ่งถูกรักษา แต่บาดแผลใหม่กลับเกิดขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนต้องการปลดขยี้เขาให้ตายอย่างช้าๆ