ตอนที่แล้วSH --  4   พลังที่เหลือล้น !  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH -- 6    ออกไปท่องโลกกว้าง

SH – 5 จอมขมังเวทย์


SH – 5 จอมขมังเวทย์

 

          “ดาบไม้ของอาตมาแทงหลังมันไป และมันคงได้รับบาดเจ็บสาหัส มันต้องหาที่จำศีลรักษาตัวอยู่เงียบๆ ดังนั้นมันจะไม่สามารถทำร้ายใครได้สักประมาณ 3 – 5 ปี”

 

          “มันใช้เวลา 3 – 5 ปีในการรักษาแผล?”

 

          ชิงหยุ่นซื่อตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญ “ไอ้สิ่งนั้นมันไม่ใช่คน ดังนั้นมันจึงไม่ได้รักษาแผลเหมือนคนปกติ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าผีดิบนี้ไม่มีอายุขัย วเวลา 3 – 5 ปีจึงไม่มีผลสำหรับมัน ?” 

 

          “แล้วเราควรจะทำอย่างไรดีหลังจาก 3 – 5 ปีแล้ว?”

 

          “ถ้ามันโผล่มาอีกก็แค่เรียกอาตมาที่นี่อีกครั้ง !” ชิงหยุ่นซื่อพูด เขาถอนหายใจแล้วเดินทางไปที่หมู่บ้าน

 

          ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกหนักมาก แต่ชาวบ้านก็ยังยืนยันออกจากภูเขา พวกเขาทั้งหมดรอชิงหยุ่นซื่อเพื่อให้เป็นผู้นำทางกลับ ชิงหยุ่นซื่อเดินผ่านกลุ่มคนที่กำลังเงียบสงัดในที่สุดเขาก็ได้หยุดเดินแล้วมายืนอยู่หน้าชายคนหนึ่ง เขารีบใช้สายตาสำรวจชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ชายคนนั้นมีอายุประมาณ 30 ทันใดนั้นเขาจับมือขวาของชายหนุ่ม แบมือของเขา แล้วมองไปยังรอยวาดสีแดงที่นิ้วโป้ง นิ้วกลาง และนิ้วชี้ของชายหนุ่ม  

 

          ชิงหยุ่นซื่อยิ้มออกมาเล็กน้อย “จอมขมังเวทเหม่าซาน?”

 

          ชายหนุ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปในทันที แต่เขายังคงแสดงเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างแนบเนียน.......

 

          “ไม่ต้องมาแสดงท่าทีไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น คนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้คือเจ้า !”

 

          “อะไรนะ!” กลุ่มคนถอยห่างออกจากชายหนุ่มทันทีและจ้องมองชายหนุ่มด้วยความตกใจ

 

          ชายหนุ่มปิดปากเงียบ ใบหน้าซีดเผือก

 

          ชิงหยุ่นซื่อหันมาถามเหยี่ยต้ากลง “คนคนนี้มีความโกรธแค้นอะไรกับครอบครัวของเจ้า ?”

 

          เหยี่ยต้ากงตอบเสียงดัง “เขามีชื่อว่า เหยี่ยต้าป่าว เขาเป็นช่างไม้ของหมู่บ้านเรา โดยปกติแล้วเขาจะมาซ่อมเครื่องเรือนของผม ใช่แล้ว! เมื่อเดือนที่แล้ว เขามาซ่อมเตียงที่บ้านของเรา ...”

 

          ชิงหยุ่นซื่อเริ่มปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ เขาจ้องไปที่เหยี่ยต้าป่าว แล้วพูดขึ้นว่า “นายไม่ต้องมาแกล้งโง่ใส่อาตมา ร่างกายของนายเต็มไปด้วยกลิ่นจากน้ำมันศพ นิ้วสีแดงเป็นเพราะได้รับสารตะกั่วแดงเป็นเวลานาน ดังนั้นบอกอาตมามา ว่าโกรธแค้นอะไรเด็กชายขนาดนั้น ? ทำไมต้องทำแบบนั้นกับเขาด้วย ?”

 

 

          เหยี่ยต้าป่าว ยังคงแสดงอาการโง่งมออกมา หลังจากนั้น ภรรยาของเหยี่ยบิงก็ร้องไห้แล้วตรงเข้าไปทุบตีชายหนุ่มทันที “เจ้าทำร้ายลูกชายฉัน ต้องเป็นเจ้าแน่ๆ! เจ้ามันปีศาจไร้หัวใจ!” เหยี่ยต้ากงและลูกชายได้เข้าไปแยกเธอออกจาก เหยี่ยต้าป่าว หลังจากนั้นภรรยาของเหยี่ยบิงก็ได้บอกความลับกับทุกคนอย่างฝืนใจ

 

          “ตอนเด็กๆ ฉันรู้จักกับ เหยี่ยต้าป่าว เขามักจะมาขายของเล็กๆน้อยๆ รวมไปถึงเครื่องประดับด้วย เขาบอกว่าเอามาจากทางตอนใต้และฉันก็ซื้อมันจากเขาบ้างในบางครั้ง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ฉันเข้าไปเก็บสมุนไพรในป่า ฉันได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของใครบางคน เมื่อฉันไปถึง ฉันเห็นเขาถูกงูกัด ในเวลานั้นเขาไม่สามารถขยับตัวได้ และปากของเขาพ่นควันสีดำออกมา ฉันรีบไปเรียกหมอที่หมู่บ้านมาช่วยเขา หมอช่วยเขาได้ หลังจากนั้นเขาขอให้ฉันได้สาบานเป็นพี่น้องกันกับเขา เขาคะยั้นคะยอมากในเวลานั้น ฉันจึงยอมรับคำขอร้องนั้น”

 

          “หลังจากนั้น เขาก็จะให้ของขวัญกับฉันตลอดทุกครั้งที่แวะมาขายของ เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของเราก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น และฉันก็มองเขาเป็นน้องชายคนหนึ่ง หลังจากนั้นไม่กี่ปี เมื่อฉันอายุประมาณ 17 ปี ฉันไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจความสัมพันธ์ของเราแบบผิดๆ ดังนั้นฉันจึงเริ่มทำตัวห่างเหินกับเขา”

 

          “หลังจากนั้นปีหรือ 2 ปี บ้านของเหยี่ยบิงก็มาที่บ้านฉันเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน หลังจากเหยี่ยต้าป่าวได้ยินเรื่องนี้ เขาก็มาหาฉันพร้อมกับแหวนทองวงหนึ่ง เขาถามฉันว่าแต่งงานกับเขาแทนได้รึเปล่า”

 

          “ฉันตกใจกับเรื่องที่ได้ยินมากและฉันก็ตอบปฏิเสธไป แต่เขายังคงพยายามข่มขืนฉัน แต่โชคดี ฉันกัดแขนของเขาแล้วหนีออกมาได้”

 

          “ฉันคิดว่านายจะปล่อยเรื่องทั้งหมดไป... แต่นายยังคงเกลียดฉัน และตอนนี้ นายต้องการชีวิตลูกชายของฉัน ฉันไม่น่าช่วยชีวิตนายเลยในวันนั้น!”  เธอรู้สึกโกรธมาก ยิ่งเห็นหน้ายิ่งโกรธ หลังจากนั้น เหยี่ยบิงก็เอื้อมมือไปกระชากเสื้อของเหยี่ยต้าป่าว ทันใดนั้นรอบกัดที่ไหล่ซ้ายก็ปรากฏให้เขาเห็น

 

          จากหลักฐานทั้งหมด  เหยี่ยต้าป่าว รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรต้องปกปิดอีกต่อไป

 

          “จากการสัญนิฐานของอาตมา คุณคงได้ไปเรียนศาสตร์มืดนี้มาจาก หม่าวซาน ตอนที่นายไปค้าขาย” ชิงหยุ่นซื่อพูดขึ้น “เมื่อเธอปฏิเสธนาย นายจึงรู้สึกริษยาและโกรธแค้น แต่อย่างไรก็ตาม ทำไมต้องรอจนถึงป่านนี้ถึงจะทำการแก้แค้น?”

 

          “แค้นนี้สิบปีก็ยังไม่สายที่จะชำระ” เหยี่ยต้าป่าวจ้องมองเหยี่ยบิงด้วยความโกรธแค้น  “นายขโมยของผมไป และตอนนี้ผมจะฆ่าลูกชายของนาย ผมต้องการให้นายเห็นลูกชายของนายกลายเป็นผีดิบอย่างช้าๆ หลังจากนั้นเขาจะฆ่าพวกมันทั้งหมด! ฮ่าฮ่า แม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะไม่เป็นไปตามแผน แต่ผมยังคงแค้นนายอยู่ และผีดิบทารกยังอยู่ ลูกชายของนายโดนพิษและกำลังจะตาย ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

          ทันใดนั้นเขาโยนบางอย่างเข้าปากไป หลังจากนั้นเขาเคี้ยวมัน ร่างกายของเขาเริ่มสั่นระรัว เขาทรุดตัวลงกับพื้นในขณะที่มีควันออกจากปาก หลังจากนั้นไม่นาน มีเลือดไหลออกจากทวารทั้ง 7 หลังจากนั้นไม่นานเขาตายในที่สุด

 

          คนในหมู่บ้านทั้งหมดรู้สึกตกใจเมื่อมองไปที่ดวงตาของเขา ทุกคนจ้องไปยัง เหยี่ยต้าป่าว อย่างเงียบๆ

 

          เหยี่ยต้ากงถอนหายใจและพึมพำออกมา “ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลายเป็นปีศาจ”

 

          “เขาได้ทำการติดต่อกับนิกายเหมาเจียง เป็นเวลานานมากแล้ว ของศาสตร์มืดย้อนกล้บเข้าตัวเขา ทำให้เขาสูญเสียตัวตนไป  ทำให้เขาเหลี่ยมจัด เนื่องจากเขาต้องหนีตำรวจบ่อยๆ เขาจึงใช้ศาสตร์เหมาเจียงเป็น และนำมันมาฆ่าครอบครัวของนายอย่างช้าๆ ถ้าไม่ใช่เพราะอาตมา ป่านนี้ทุกคนได้กลายเป็นศพเดินได้กันหมดแล้ว

 

          ครอบครัวเหยี่ยคุกเข่าลงกับพื้นและขอบคุณชิงหยุ่นซื่อทันที “ขอบคุณท่านมากที่ช่วยพวกเรา ช่วยหมู่บ้านของพวกเรา” ชิงหยุ่นซื่อบอกให้พวกเขาลุกขึ้นและตามพวกเขากลับหมู่บ้าน

 

          ร่างของเหยี่ยต้าป่าวถูกนำกลับมาที่หมู่บ้านด้วย ชิงหยุ่นซื่อดึงกระดาษยันต์ออกมา และโยนมันไปในอากาศ มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับชิงหยุ่นซื่อที่จะนำวิญญาณของเหยี่ยต้าป่าวไปยังปรภพ การที่เขาต้องทำพิธีแบบนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เหยี่ยต้าป่าวทำอันตรายใครได้อีก

 

          ชิงหยุ่นซื่อเข้าไปตรวจอาการของเหยี่ยซ่าวหยางและบอกเหยี่ยต้ากง “แน่นอนว่าตอนนี้ นายรู้แล้วว่าพิษจากศพมันร้ายแรงแค่ไหน น้ำมันจากศพทำร้ายหลานชายนาย เขาต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด และรักษาตัวเป็นเวลา 1 ปี อาตมาไม่สามารถอยู่ที่นี้ได้ทั้งปี แต่หลานชายของนายต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจากนักพรตเต๋า ทำไมนายไม่ปล่อยให้อาตมานำตัวเขาไปรักษาในฐานะลูกศิษย์ของอาตมา? อาตมาจะรักษาเขาและยังสอนเขาเกี่ยวกับวิถีของหม่าวซานนายคิดว่าอย่างไร?”

 

          คำขอนี้ทำให้เหยี่ยต้ากงและครอบครัวของเขาแข็งค้างไป เหยี่ยซ่าวหยางเป็นทายาทคนเดียวของพวกเขา ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะปล่อยเขาไป? อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือก เพราะเด็กคนนี้กำลังจะตาย.....

 

          “ท่านอาจารย์ ถ้าเขากลายเป็นนักบุญไปแล้ว เขายังสามารถแต่งงานมีลูกได้อีกรึเปล่า?” แม่ของเด็กชายถามขึ้น

 

          “นิกายหม่าวซาน เป็นหนึ่งในพื้นฐานของลัทธิเต๋า แต่ถึงอย่างนั้นเราไม่ถือเรื่องพรหมจรรย์แน่นอน เขาสามารถมีภรรยาได้ ถ้าเขาต้องการเขามีเป็น 10 คนก็ได้ !” ชิงหยุ่นซื่อรู้สึกดีใจอย่างเงียบๆ เมื่อเขาเห็นท่าทีเห็นด้วยความคิดเขา

 

          “แต่เขาไม่มีความรู้ ...”

 

          “นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก การเรียนเป็นพื้นฐานของนิกายหม่าวซานเขาจะได้ไปโรงเรียนตอนกลางวัน และเรียนศาสตร์แห่งเต๋าตอนกลางคืน นายไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่แดงเดียว ข้าจะให้เขาและสอนเขาเกี่ยวกับทักษะการเป็นนักบุญเต๋า ดีรึเปล่า? ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านายคิดถึงเขา นายสามารถมาเยี่ยมเขาได้ตลอดเวลาที่ต้องการ”

 

          สมาชิกในครอบครัวไม่มีทางเลือกแต่พวกเขาก็ไม่ขัดข้องอะไรพวกเขารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงจัดงานฉลองขึ้นในคืนนั้น ในวันถัดมา ชิงหยุ่นซื่อได้ออกจากหมู่บ้าน เขาให้เบอร์มือถือไว้กับเหยี่ยต้ากง ในกรณีเผื่อมีอะไรเกิดขึ้น ชิงหยุ่นซื่อพา เหยี่ยซ่าวหยางขี่หลังเขาและพาเขาจากครอบครัวมาท่ามกลางความเศร้าเสียใจของสมาชิกในครอบครัว.........

 

          ติดตามตอนต่อไป.........

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด