ตอนที่แล้วตอนที่ 86 – ทดสอบฟังก์ชั่นใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 88 – กลับไปยังปราสาท

ตอนที่ 87 – ทุ่งหญ้าปศุสัตว์


เมื่อเข้าไปในมิติแล้วเจ่าไห่ก็พูดขึ้นว่า “เปิดใช้งานทุ่งหญ้าปศุสัตว์”

จากนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนกลับมาว่า

[การเปิดใช้งานทุ่งหญ้าปศุสัตว์นั้นจะต้องมี Lv. 10 คุณมี Lv. ตามที่ระบบต้องการ คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการที่จะเปิดการใช้งานทุ่งหญ้าปศุสัตว์?]

“ใช่” เจ่าไห่ตอบกลับทันที เขานั้นรอว่ามิตินั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร แต่ครั้งนี้เขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นในมิติเลยจนกระทั่งมีเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาว่า

[ทุ่งหญ้าปศุสัตว์ทำการเปิดการใช้งาน ทุ่งหญ้าปศุสัตว์ทำการติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว]

เจ่าไห่นั้นมองไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ และไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของทุ่งหญ้าปศุสัตว์ แม้ว่าเขาจะรู้ว่านี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นแต่เขาก็ยังคงผิดหวังอยู่

จากนั้นก็มีแสงห่อหุ้มร่างกายของเขาก่อนที่ร่างกายจะหายไป สิ่งที่เขาเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมานั้นก็คือทุ่งหญ้าสีเขียวที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

และทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา

[ยินดีต้อนรับสู่ ทุ่งหญ้าปศุสัตว์มิติ ด้วย Lv. ของทุ่งหญ้าปศุสัตว์ในตอนนี้สามารถที่จะเลี้ยงสัตว์ได้หนึ่งพันตัว]

เจ่าไห่นั้นชะงักไปชั่วครู่ เพียงแค่ทุ่งหญ้าปศุสัตว์ที่เพิ่งเริ่มสร้างขึ้นมาก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ถึงหนึ่งพันตัวเลยอย่างงั้นเหรอ? นี้มันไม่โกงเกินไปใช่ไหม?

เมื่อมองไปรอบๆแล้วเขาก็ไม่เห็นสิ่งปลูกสร้างใดๆที่คล้ายบ้านเลย แต่มันกลับถูกห้อมล้อมด้วยทุ่งหญ้าขนาดใหญ่

เจ่าไห่นั้นรู้สึกแปลก เพราะตอนที่เขานั้นเล่นเกมแบบนี้มาก่อน อย่างน้อยมันก็ต้องมีรั้วเพื่อกันพื้นที่ไว้เป็นส่วนๆ แต่มิติแห่งนี้กลับไม่มีอะไรเลย?

เขาจึงเป็นห่วงเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของสัตว์ เพราะในเกมนั้นมันจะมีพื้นที่ให้สัตว์ไว้ใช้สำหรับการสัมพันธุ์โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากไม่มีสถานที่เช่นนั้นแล้วล่ะก็ มันจะมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน เขาไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ จึงไม่รู้ว่าจะช่วยคลอดสัตว์ได้อย่างไร

จากนั้นเจ่าไห่ก็ใช้ความคิดและพูดขึ้นว่า “แสดงพื้นที่สำหรับการผสมพันธุ์สัตว์ด้วย”

ในขณะที่เขาพูดนั้นก็มีพื้นที่กว่าหนึ่งร้อยตารางเมตรนั้นเปล่งแสงสีเขียวขึ้นมาพร้อมกับมีเส้นสีเหลืองล้อมรอบปรากฎขึ้นมา

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วเจ่าไห่ก็มีรู้โล่งใจขึ้นมา ตราบใดที่มันมึพื้นที่แห่งนี้อยู่ เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการผสมพันธุ์ของสัตว์

แต่เจ่าไห่ก็พบปัญหาอีกอย่าง ว่ามันไม่มีโรงงานอาหารสัตว์เหมือนกับในเกม แล้วเขาจะเลี้ยงสัตว์พวกนี้ได้อย่างไร? และเขาก็ไม่เห็นแหล่งน้ำใดๆ พวกสัตว์จะหาน้ำดื่มได้จากไหน?

เมื่อเขาไม่เห็นสิ่งเหล่านี้เลย เจ่าไห่จึงถามกับมิติ “พวกสัตว์นั้นจะหาอาหารและน้ำได้จากที่ไหน?”

จากนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนออกมาว่า

[อาหารของสัตว์จะถูกให้อัตโนมัติโดยเปลี่ยนจากพวกพืชต่างๆ ส่วนแหล่งน้ำสำหรับสัตว์นั้นจะอยู่ห่างจากจุดนี้หนึ่งกิลโลเมตร]

เจ่าไห่นั้นถึงกับตกใจ เพราะว่ามิตินั้นเปลี่ยนจากพืชต่างๆเป็นอาหารใหัเอง ซึ่งในเก็บแล้วส่วนใหญ่สัตว์ที่ถูกเลี้ยงนั้นเป็นสัตว์กินพืช แต่เขานั้นก็วางแผนที่จะนำสัตว์บางชนิดในทวีปอาร์คนั้นเข้ามาในมิติทุ่งหญ้านี้ และแน่นอนว่ามันยอมมีสัตว์กินเนื้ออยู่ สัตว์กินเนื้อเหล่านั้นคงไม่กินหญ้าพวกนี้ใช่ไหม?

เมื่อเจ่าไห่ถามคำถามนั้นไปก็ดูเหมือนว่ามิติเองก็ไม่มีข้อมูลพอที่จะให้คำตอบได้

เมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรตอนนี้ เจ่าไห่จึงตั้งคำถามอีกอย่างนั้นคือ “มีพืชอะไรบ้างที่สามารถเปลี่ยนเป็นหญ้าได้บ้าง?”

มิติก็ตอบกลับมาว่า

[พบรายการสิ่งของในโรงนาที่สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ ใบหัวไชเท้า, ข้าวโพด, ข้าวสาลีและข้าว]

เจ่าไห่นั้นก็เข้าใจทันทีว่าเขาสามารถที่จะใช้ผลผลิตของเขา และสิ่งไหนที่สามารถใช้ได้มันก็จะเปลี่ยนเป็นหญ้าสำหรับสัตว์ที่เลี้ยงได้เลย

ตอนนี้เขายกไม้เท้าขึ้นมาก่อนจะมีแสงเปล่งออกมา ก็พบภาพหน้าจอแสดงผลร้านค้า และที่ด้านล่างอีกหน้านั้นมันก็มีรูปของทุ่งหญ้าปศุสัตว์ขึ้นอยู่

ซึ่งหน้าต่างเหล่านี้นั้นไม่ต่างจากเก็บเลย มันมีภาพขาวดำปรากฎขึ้นมาซึ่งแสดงถึงสัตว์ที่ไม่สามารถซื้อได้ ส่วนรูปสัตว์ที่มีสีนั้นคือสัตว์ที่สามารถจะซื้อได้ ตอนนี้จะมีก็เพียงแค่ไก่และกระต่าย

ไก่นั้นมีราคาถึงแปดสิบเหรียญทอง ส่วนกระต่ายนั้นมีราคาถึงหนึ่งร้อยยี่สิบเหรียญทอง ซึ่งตามเกมแล้วนั้นราคาแบบนี้ไม่แพงเย แต่ถ้าแสดงสิ่งนี้ให้กับคนอื่นๆในทวีปดูแล้ว เขาก็ต้องบอกว่ามันบ้ามาก เนื่องจากว่าในทวีปอาร์คนั้นไก่หางยาวและบลูอายแรบบิทนั้นมีราคาถูกมาก เพราะไก่ขนยาวนั้นมีราคาแค่หนึ่งเหรียญเงิน ส่วนบลูอายแรบบิทนั้นมีราคาแค่สามเหรียญเงิน

เจ่าไห่จึงตัดสินใจไม่ซื้อสัตว์จากในร้านค้ามิติ เพราะมันเป็นรายจ่ายที่มากเกินไป เขานั้นเหลือเงินเพียงแค่สองร้อยเหรียญทอง ถ้าหากซื้อของจากมิติแล้วเขาก็คงซื้อได้แค่กระต่ายสองตัวหรือไก่สามตัวเท่านั้น แต่ถ้าหากซื้อจากทวีปอาร์คแล้ว เขาสามารถซื้อไก่หางยาวได้ถึงสองพันตัว หรือกระต่ายบลูอายแรบบิทกว่าแปดร้อยตัว ซึ่งทำให้ทุ้งหญ้านี้เต็มอย่างแน่นอน

แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องสัตว์กินพืชแล้วนั้น แต่นี้ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่ก่อตั้งทุ่งหญ้าปศุสัตว์

เจ่าไก่หายใจเขาก่อนจะออกจากมิติทุ่งหญ้าปศุสัตว์

ตอนนี้เจ่าไห่นั้นโผล่ออกมาจากมิติอีกที่หนึ่ง ครั้งที่แล้วนั้นเขาออกมาในห้องของตัวเองเนื่องจากว่านั้นคือจุดวาร์ปที่ตั้งไว้ แต่ครั้งนี้เขานั้นออกมายังจุดที่เขานำอันเดตและพืชต่างๆที่ได้จากกรีนเข้าไป

เมื่อเจ่าไห่โผล่ออกมาก็ทำให้กรีนและคนอื่นๆตรงนั้น ต้องตกตะลึง

“นี้พวกคุณทั้งหมดรอผมทำไมเหรอครับ?”

สีหน้าของกรีนนั้นเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกโล่งใจขึ้นมา

“นายน้อย คุณเข้าไปในมิตินานกว่าสี่ชั่วโมงแล้ว”

เจ่าไห่นั้นชะงักไปชั่วครู่ เขานั้นไม่คิดเลยว่าตัวเองจะอยู่ในมิตินานขนาดนั้น บางทีอาจเป็นเพราะว่าเขานั้นหลังไปก่อนหน้านี้ทำให้ไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานแค่ไหน

เจ่าไห่จึงยิ้มและบอกกับทุกๆคนว่า “ไม่มีปัญหาอะไรครับ จริงๆแล้วมันมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นอีกต่างหาก ตอนนี้มิติมี Lv เพิ่มขึ้นแล้ว ทุกคนเข้าไปในมิติก่อนและผมจะอธิบายทุกอย่างเอง” จากนั้นเขาก็ส่งคนอื่นๆเข้าไปในมิติ

เมื่อพวกเขาเข้าไปก็ตกตัวแข็งทื่อ เพราะว่าวิลล่าที่ตั้งอยู่ต่อหน้าสายตาพวกเขา เจ่าไห่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของพวกเขา “ผมซื้อบ้านหลังนี้จากมิติด้วยเงินหนึ่งเหรียญทองตอนนี้พวกเราสามารถที่จะอาศัยอยู่ที่นี้ได้แล้ว”

จากนั้นเขาก็พาทุกคนเข้าไปในบ้านพร้อมกับบอกให้เลือกห้องนอนของตัวเอง ซึ่งบล๊อคและร๊อคนั้นก็เลือกห้องนอนด้านล่าง ส่วนกรีนและเมอร์รินนั้นเลือกห้องข้างบนซึ่งรวมถึงเม็กด้วย

เมื่อพวกเขาเลือกห้องนอนจนเสร็จสิ้นแล้ว เจ่าไห่ก็พูดขึ้นว่า “มิติมีฟังก์ชั่นใหม่ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการมากที่ในตอนนี้ด้วย”

จากนั้นเจ่าไห่ก็พาพวกเขานั้นออกไปจากมิติอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเขานั้นรู้สึกแปลกๆเมื่อพวกเขานั้นพบว่า คฤหาสน์นั้นไม่เหมือนเดิมและดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่อยู่ที่ภูเขาหินแล้ว

กรีนมองไปรอบๆ ในขณะที่เม็กก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “นายน้อยค่ะ นี้มันห้องของนายน้อยที่ปราสาทภูเขาหินเหล็กไม่ใช่เหรอค่ะ?”

เจ่าไห่หัวเราะ “ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเรากลับมายังปราสาทแล้ว”

ทุกคนนั้นยืนนิ่งก่อนจะวิ่งไปที่หน้าต่าง เมื่อเปิดออกก็พบว่าด้านนอกนั้นคือทิวทัศน์ที่คุ้นเคยและเป็นสิ่งยืนยันว่าพวกเขานั้นกลับมาที่ปราสาทภูเขาเหล็กแล้ว

พวกเขามองที่เจ่าไห่ด้วยความตกใจซึ่งเจ่าไห่นั้นหัวเราะออกมา “มิตินั้นสามารถที่จะวาร์ปไปมาระหว่างที่สองที่ได้ ตอนนี้ผมตั้งค่าไว้แล้วสองจุดนั้นคือปราสาทแห่งนี้กับที่คฤหาสน์ภูเขาหิน ซึ่งตอนนี้เราสามารถที่จะเดินทางระหว่างสองที่ตอนไหนก็ได้”

ทุกคนนั้นยังมีสีหน้าที่ตกใจกับเรื่องนี้อยู่ พวกเขานั้นไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสิ่งที่มหัศจรรย์เช่นนี้ การเดินทางปกติต้องใช้เวลากว่าสองสัปดาห์แต่ตอนนี้กลับทำได้ในพริบตา

เจ่าไห่นั้นยังบอกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมิติมี Lv ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อธิบาย พวกเขาเดินไปยังลานปราสาทก่อนจะกลับไปยังมิติอีกครั้ง เจ่าไห่เลือกที่นี้เพราะในอนาคตเขานั้นจะพาทาสทั้งหมดนั้นกลับมายังปราสาท เพราะเขานั้นไม่ต้องการให้ทาสนั้นไปโผล่อยู่ในห้องของเขา

เมื่อทุกคนกลับมาในมิติแล้ว เจ่าไห่ก็พาพวกเขาไปยังทุ่งหญ้าปศุสัตว์ เมื่อเจ่าไห่บอกว่าสามารถที่จะเลี้ยงสัตว์อสูรที่นี้ได้ พวกเขาก็ดีใจมาก ถ้าหากพวกเขานั้นสามารถที่จะเลี้ยงสัตว์อสูรได้ มันจะสามารถสร้างเป็นแหล่งรายได้อีกหนึ่งทาง

เมื่อเจ่าไห่นั้นอธิบายฟังก์ชั่นใหม่หมดแล้ว พวกเขาทุกคนก็ออกไปจากมิติแต่มันยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เจ่าไห่นำเงินออกมาหนึ่งร้อยเหรียญทองก่อนจะส่งมันให้กรีน

พรุ่งนี้กรีนจะไปเมืองคาซ่าเพื่อซื้อบูลอายแรบบิทสามร้อยตัวกลับมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด