ตอนที่แล้วตอนที่ 63 – กองทัพอมตะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 65 – ลอร่า

ตอนที่ 64 – ปล่อยออกมา


เมื่อทุกคนนั้นคิดว่าในโลกนี้ไม่มีกองทัพอมตะอีกแล้ว ในท้ายที่สุดแล้วนักเวทย์มนตร์ดำคนสุดท้ายของกลุ่มก็ใช้พลังชีวิตเฮือกสุดท้ายของเขาเพิ่มพลังเวทย์ของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าก่อนจะเปลี่ยนนักเวทย์มนต์ดำในกลุ่มทั้ง 7 คนให้กลายเป็นอันเดตขั้นสูง ก่อนจะตายลงบนเตียงและสั่งให้อันเดตทั้ง 7 นั้นใช้เวทย์มนต์ดำเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นอันเดต

โดยทั่วไปแล้วเมื่อคนนั้นกลายเป็นอันเดต สติปัญญาและพลังของเขาจะลดลง แต่หากใช้พลังอำนาจเวทย์ที่แข็งแกร่งของนักเวทย์มนตร์ดำขั้นสูง พวกเขาจะสามารถรักษาพลังและสติปัญญาของพวกเขาไว้ได้ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเป็นอันเดตที่เป็นอิสระไม่ได้ถูกพันธนาการกับใครๆด้วย

แน่นนอนว่าการที่นักเวทย์มนตร์ดำจะสามารถอันเดตขั้นสูงมาได้นั้น จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์มหาศาล ซึ่งสิ่งสำคัญนี้เองถูกจ่ายด้วยพลังชีวิตของเขาเอง แม้ว่าจะเป็นนักเวทย์มนตร์ดำที่แข็งแกร่งระดับ 8 ก็ตาม พวกเขาก็อาจจะพบจุดจบได้หากคิดจะสร้างอันเดตขั้นสูงขึ้นมา จึงทำให้นักเวทย์มนตร์ดำส่วนใหญ่นั้นไม่คิดจะสร้างพวกมันขึ้นมา

ซึ่งนักเวทย์มนตร์ดำที่บาดเจ็บสาหัสอยู่นั้น เหมือนกับคนที่จะตายอยู่แล้วนั้น ทำไมต้องกลัวที่จะสูญเสียพลังชีวิตเพื่อเพิ่มพลังเวทย์ของตนด้วยล่ะ ซึ่งเมื่อเขานั้นสร้างอันเดตนักเวทย์มนตร์ดำทั้ง 7 เสร็จสิ้นแล้ว ลมหายใจสุดท้ายของเขาก็ขอให้ทั้ง 7 คนนั้นทำให้เขานั้นกลายเป็นอันเดตด้วย

แผนการนี้มันคือแผนของคนบ้า เพราะนักเวทย์มนตร์ดำทั้งเจ็ดนั้นไม่ได้ทำพันธสัญญาใดๆ มันจึงบอกได้ยากว่าพวกเขาจะเชื่อฟังหรือไม่ แม้ว่าแผนของเขาจะสำเร็จที่ทั้ง 7 นั้นกลายเป็นอันเดตขั้นสูง แต่สำหรับเขานั้นอาจจะกลายเป็นเพียงแค่อันเดตทั่วไปที่ไม่ต้องกิน ,นอน หรือมีความสุขแบบมนุษย์ทั่วไปซึ่งมันจะคุ้มจริงๆอย่างงั้นเหรอ?

กลุ่มทหารรับจ้างที่ประกอบไปด้วยนักเวทย์มนตร์ดำทั้ง 8 นี้จัดได้ว่าเป็นกลุ่มโจรที่มีชื่อเสียงในทวีป แม้แต่ตระกูลขนาดใหญ่ก็ยังเกรงกลัวพวกเขา เพราะในความคิดของคนทั่วไปแล้ว ถ้ามีคนในกลุ่มทหารรับจ้างต้องการที่เป็นอันเดตแล้วล่ะก็ จะมีก็เพียงแค่คนที่เสียสติไปแล้วเท่านั้น

นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งกับกองทัพอมตะนี้

กรีนเองก็เคยได้ยินชื่อกลุ่มทหารรับจ้างนี้ แน่นอนว่าเขาก็แสดงสีหน้าที่น่ากลัวออกมาเมื่อเห็นธงสัญลักษณ์นั้น เพราะถ้าพูดตามตรงแล้ว กรีนนั้นไม่อยากจะมีปัญหากับกองทัพอมตะเลย เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบอันรุนแรงแก่ตระกูลบูดาได้

ธงที่ปักลงบนพื้นนั้นเป็นการบอกคนที่ผ่านไปมาว่าตอนนี้กลุ่มของพวกเขานั้นกำลังทำงานกันอยู่ ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็หลบไป ไม่งั้นจะถือว่าพวกเขานั้นจะกลายเป็นศัตรูกับกองทัพอมตะ

กรีนหันไปหาเจ่าไห่ “นายน้อยครับ ผมคิดว่าพวกเราควรถอยกลับไปก่อน ผมมีบางอย่างจะบอกคุณ”

เจ่าไห่นั้นมองไปยังการต่อสู้ที่เกิดขึ้น แต่เขาก็พยักหน้าตามที่กรีนพูดและสั่งให้อันเดตนั้นถอยกลับ พวกเขานั้นถอยตัวออกห่างจากทางลาดอย่างเงียบๆ และไม่มีใครในสนามรบนั้นสังเกตเห็นพวกเขา หลังจากเดินลงจากเนินเขาแล้ว กรีนก็ชี้ไปยังป่าและเจ่าไห่ก็สั่งให้อันเดตเดินไปทางนั้น ในป่านั้นพวกเขาก็พบที่ลักตาคนก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปในมิติ

เมื่อเข้าไปในมิติแล้ว กรีนก็พาทุกคนเข้าไปในกระท่อมและบอกสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับกองทัพอมตะ

เมอร์รินนั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างนี้แล้ว แต่บล๊อค ร๊อคและเม็กนั้นยังไม่รู้เรื่องพวกนี้เพราะว่าตั้งแต่เกิดนั้น พวกเขาเติบโตอยู่แต่ในเมืองหลวงและไม่เคยออกไปที่ไหน

เจ่าไห่นั้นตั้งใจฟังเรื่องของกรีน เขานั้นไม่เคยคิดเลยว่ากองทัพอมตระนั้นจะบ้าระห่ำขนาดที่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นอันเดต หลังจากที่กรีนนั้นพูดจบแล้ว เจ่าไห่ก็ยืนขึ้นให้จับที่หน้าผากของเขาก่อนจะทุกโต๊ะและตะโกนว่า “ไปสู้กันเถอะ!!”

พวกเขานั้นมองเจ่าไห่ด้วยความงง ก่อนที่เจ่าไห่นั้นจะหันไปหากรีนและพูดว่า “ปู่กรีน คุณพูดใช่ไหมว่าคนในกองทัพอมตะนั้นกลายเป็นอันเดตแล้ว?”

กรีนพยักหน้าของเขา ซึ่งทำให้เจ่าไห่นั้นหัวเราะออกมา “คุณจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อผมนั้นส่งอันเดตเข้ามาในมิติ?”

เมื่อได้ยินที่เจ่าไห่พูด กรีนก็ตะลึงชั่วขณะก่อนที่ตาของเขาจะประกายขึ้นมา จากนั้นก็ทุบโต๊ะเช่นกัน “ใช่แล้ว! พวกเขาจะเชื่อฟังพวกเรา”

เมอร์รินก็ตระหนักและเข้าใจสิ่งที่เจ่าไห่นั้นบอก พวกเขานั้นเคยนำอันเดตกว่าพันตัวเข้ามาในมิติแล้ว ซึ่งพวกมันทั้งหมดล้วนเชื่อฟังพวกเขา สำหรับคนทั้ง 8 ของกองทัพอมตะนั้นก็เป็นอันเดตเช่นกัน ดังนั้นแล้วมันก็เป็นไปได้ที่จะจับพวกเขาเข้ามาในมิติและทำให้พวกเขานั้นเชื่อฟังพวกเราด้วย

เมอร์รินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา แม้ว่าพวกเขานั้นจะจับอันเดตมามากมายแต่ส่วนมากก็เป็นประเภทสัตว์ และจึงมีเพียงไม่กี่ตัวตัวที่อยู่ในรูปของมนุษย์ แต่พวกมันก็เป็นเพียงแค่อันเดตขั้นต่ำซึ่งไม่มีสติสัมปชัญญะใดๆ

แต่สำหรับนักเวทย์มนตร์ดำของกองทัพอมตะนั้นต่างออกไป พวกเขานั้นเป็นอันเดตระดับสูง ซึ่งมีสติปัญญาของช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าหากพวกเขานั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลบูดาแล้ว มันจะช่วยพวกเขาได้อย่างมาก

เพราะตอนนี้สิ่งที่ตระกูลบูดาขาดคือกำลังรบ ถ้าพวกเขานั้นควบคุมกองทัพอมตะนี้ได้ มันก็จะกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก และจะไม่มีใครกล้าจะมาต่อกรกับตระกูลบูดา เพราะไม่งั้นแล้วพวกเขาจะเจอศึกหนักอย่างแน่นอน

แค่คิดพวกเขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก

เจ่าไห่ก็ยิ้มออกมา “นอกจากนี้แล้วพวกเรายังได้ช่วยตระกูลมาร์กี้อีกด้วย ซึ่งทำให้เรานั้นมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา”

เมื่อได้ยินที่เจ่าไห่พูดแล้ว กรีนก็สงบนิ่งเหมือนกับว่าเขาก็ตระหนักได้ว่าพวกเขานั้นจะได้ช่วยตระกูลมาร์กี้ด้วย ซึ่งเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีป ซึ่งถ้าหาพวกเขามีสายสัมพันธ์ที่นี้กับพวกเขาแล้ว กรีนคิดไม่ออกเลยว่าจะมีประโยชน์ต่อตระกูลบูดามากแค่ไหนในอนาคต ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่พวกเขาหมายถึงเครือข่ายข้อมูลข่าวสารของพวกเขา

“นายน้อย พวกเราไปตอนนี้อาจจะสายเกินไปแล้ว ผมเกรงว่าคนของตระกูลมาร์กี้นั้นจะต้านไว้ได้อีกไม่นาน” กรีนกล่าวขึ้นมา

เจ่าไห่พยักหน้า “บล๊อค ร๊อค พวกเจ้าสองคนอยู่ในมิติคอยดูแลพวกทาส ปู่กรีนพวกเราไปกันเถอะ” จากนั้นทั้งสีคนก็ออกไปจากมิติ

เมื่อออกมาจากมิติแล้ว เจ่าไห่ก็ปล่อยอันเดตของเขาออกมาทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนถึง 1,357 ตัว ซึ่งจำนวนนี้เจ่าไห่นั้นไม่ได้เป็นคนนับ แต่เป็นข้อมูลของโรงนา

ด้วยอันเดตของเจ่าไห่ที่อัญเชิญออกมานั้นก็เกิดกองทัพขนาดมหึมา แม้ว่าจะมีอันเดตประเภทคนเพียงเล็กน้อยและประเภทแมลงบางส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็เป็นอันเดตขนาดใหญ่ซึ่งคล้ายกับอันเดตหนูในปราสาท ซึ่งมันเหมือนกับกองทัพอันเดต พวกเขานั้นต้องการที่จะต่อสู้กับกองทัพอมตะ ดังนั้นแล้วพวกเขาต้องสร้างความเกรงขามให้กับตนเอง

เจ่าไห่นั่งอยู่บนอันเดตในขณะที่เม็ก ,เมอร์ริน และกรีนก็หาที่นั่งของตัวเอง จากนั้นเจ่าไห่ก็โบกมือเคลื่อนทัพ จากนั้นกองทัพอันเดตก็เดินหน้าไปยังทางลาดก่อนหน้านี้

พวกเขานั้นเห็นกองทัพอมตะที่มีกองทัพอันเดตของตัวเอง ซึ่งประกอบไปด้วยคนกว่า 3,000 คนพร้อมกับหมา ,ไก่ ,แกะ ,วัว ,หมู และสัตว์อื่นๆ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นกองทัพอันเดตจากคนในหมู่บ้านที่หายไปทั้งสิ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด