ตอนที่แล้วบทที่ 86 เหวินเฟย*
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 88 ผีดิบจอมลอกคราบ

บทที่ 87 ท่าไม้ตายปะทะท่าไม้ตาย  


 

บนส่วนยอดของสายน้ำตก เปลวไฟปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน

เปลวเพลิงขุมนี้ไม่มีใดสะดุดตา เลือนรางอย่างยิ่ง โปร่งใสจนแทบมองไม่เห็น เพียงลุกไหม้อย่างเงียบงัน อย่างไรก็ตาม มันราวกับไฟร่วงลงไปในน้ำมัน หาใช่น้ำธรรมดาไม่ เปลวเพลิงจึงลุกลามแผ่กว้างไปทั่วยอดน้ำตกอย่างรวดเร็ว

เพียงชั่วพริบตา ครึ่งบนของสายน้ำตก เห็นเปลวไฟเย็นลุกโชติช่วง ประกายไฟแลบลั่นประดุจลิ้นไฟโปร่งใสตวัดออกมา

ฉับพลันนั้นตลอดทั้งน้ำตกลุกโชนด้วยเปลวไฟเย็น ปราณกระบี่เสมือนน้ำแต่ละเล่มถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลวไฟอีกชั้นหนึ่ง

เพลิงธาราเริ่มจากน้ำ กลายเป็นเสมือนไฟ บุปผาเพลิงเบ่งบานในสายธารดอกแล้วดอกเล่า จากนั้นทยอยสาดเทลงมา

ปราณกระบี่ที่ห่อหุ้มด้วยไฟเล่มแรก พุ่งลงไปในลำน้ำมังกรโดยไร้เสียง

บูม!

เสียงระเบิดดังสนั่น! มังกรน้ำส่วนใหญ่ถูกทำลายจนยับเยิน สายน้ำสาดพุ่งไปทุกแห่งหน

บูม!บูม!บูม!บูม!บูม!บูม!

เสียงระเบิดดังต่อเนื่องตามกันประดุจเทศกาลดอกไม้ไฟ สะเทือนเลื่อนลั่นไม่ขาดหู

เหวินเฟยสีหน้าแปรเปลี่ยน กระบวนท่ากระบี่อันใดกัน? วิชาของอีกฝ่ายไม่ใช่เพลงกระบี่ธาตุน้ำหรอกหรือ? ไฉนมีไฟโผล่ออกมา? แต่ในเวลานี้ มันหาได้มีเวลามาขบคิดเรื่องนี้ พริบตาดุจประกายไฟ มังกรน้ำหยาบหนาถูกระเบิดทำลายจนหลงเหลือเพียงไม่ถึงครึ่งเล็กๆ ปราณกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามดุดันอำมหิตขึ้นอย่างฉับพลัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเปลวไฟโปร่งใสที่ดูคล้ายไม่เป็นอันตรายเหล่านั้น

สะกดกลั้นความหวาดหวั่นในใจ ความดูแคลนเศษเสี้ยวสุดท้ายในหัวใจของมันหายวับไป ยามนี้ในสายตามัน เห็นจั่วม่อเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา

เหวินเฟยขบฟันแน่น โคจรพลังปราณในร่างอย่างเกรี้ยวกราด พัดเทียนเหอรวบปิดดังพรึบ ปลายพัดจ่อจี้ใส่จั่วม่ออย่างนุ่มนวล

คุกวารีฟ้า!

ประกายแสงสีน้ำเงินสดพวยพุ่งออกจากปลายพัด ล่องลอยเข้าหาจั่วม่ออย่างเชื่องช้า

จั่วม่อในใจบังเกิดสังหรณ์อันตรายพลุ่งขึ้นอย่างฉับพลัน แสงสีน้ำเงินขุมนี้ถึงกับสร้างแรงกดดันให้แก่มันมากกว่าทุกกระบวนท่าก่อนหน้านี้ มันไม่กล้าละเลย เคลื่อนจิตสำนึก มวลน้ำตกเย็นเยือกที่ลอยค้างกลางอากาศพลันตอบสนอง กระโจนเข้าใส่กลุ่มแสงสีน้ำเงิน

ในสายน้ำตกประกอบด้วยลูกไฟโปร่งใสเล็กๆ มากมายสุดประมาณ ในลูกไฟเป็นเจตจำนงกระบี่ซึ่งแต่ละเล่มอ่อนโยนเสมือนน้ำ

ห่าฝนลูกไฟสาดพุ่งออกจากสายน้ำตก ตรงเข้าล้อมกรอบกลุ่มแสงสีน้ำเงิน

ทันใดนั้น เหวินเฟยสะบัดคลี่พัดเทียนเหอกางออกดังพรึบ ตวาดเสียงเหี้ยมเกรียม “เปิด!”

กลุ่มแสงสีฟ้าขยายพรวดอย่างกะทันหัน กลายเป็นตาข่ายแสงมหึมา ครอบใส่จั่วม่อตรงๆ จั่วม่อไหนเลยจะมีปัญญาหลบพ้น ถูกตาข่ายกลืนเข้าไปในฉับพลัน

จั่วม่อรู้สึกเพียงแสงสีฟ้าจู่ๆ ก็โถมทับมัน เพียงชั่วพริบตา คลื่นน้ำก็ท่วมเต็มในครรลองสายตา รอบข้างพร่าเลือน บริเวณกว้างใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยน้ำ!

จั่วม่อคล้ายคุ้นเคยกับฉากนี้มาก! มันเคยฝึกกระบี่ในแม่น้ำ เป็นธรรมดาที่จะคุ้นตากับภาพนี้ เวลานี้มันถูกขังอยู่ในฟองอากาศ ผู้ใดจะคาดคิดว่าจุดแสงสีน้ำเงินเล็กจ้อยเท่านั้น จะอัดแน่นไปด้วยพลังงานน้ำอันหนักหน่วงถึงเพียงนี้? จั่วม่อบังคับลูกไฟพุ่งออกไป เปลวไฟโปร่งใสพอกระทบมวลน้ำ ก็ระเบิดดังกระหึ่ม แต่คุกวารีทรงพลังมากเกินไป ปราณกระบี่เพลิงธาราโปร่งใสเล็กๆ เหล่านี้แทบไม่อาจสะกิดผิวมัน กลับส่งผลกระทบกระแทกสะท้อนต่อจั่วม่อแทน แรงกดดันบดทับมาจากทุกทิศทุกทาง ฟองอากาศบีบแคบลงทีละน้อยๆ

จั่วม่อสูดลมหายใจลึก จิตใจเคร่งขรึมจริงจัง นี่สมควรเป็นท่าไม้ตายของคู่ต่อสู้!

พริบตานั้น จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ระเบิดออกมา มันอาจไม่สามารถเทียบกับศิษย์พี่เหวยเสิ้งได้ แต่ไม่ใช่ลูกพลับสุกที่คนเหล่านี้สามารถบีบขยี้ได้ตามอำเภอใจ

จั่วม่อไม่ได้สังเกตเห็น ว่าตั้งแต่ที่มันฝึกปรือกระบี่ จากจุดเริ่มต้นที่หวาดกลัวการต่อสู้ กลายเป็นไม่หวาดหวั่นต่อการต่อสู้อย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำความกระหายการต่อสู้ถึงกับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้มันก็เป็นเช่นนั้น จั่วม่อยิ่งต่อสู้มากเท่าใด ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเห็นท่าไม้ตายของเหวินเฟย จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของมันก็ทะยานขึ้นไปถึงระดับสูงสุด!

มาเถอะ!

มันเบิกตากว้าง คำรามในใจโดยไร้เสียง!

สายน้ำตกเพลิงธาราที่เดือดดาลหายวับไป กระบี่หยดน้ำเปลี่ยนเป็นลำแสง พุ่งกลับสู่มือของจั่วม่อ

กระบี่หยดน้ำราวกับรับรู้ความกระหายการต่อสู้ของจั่วม่อ ใบกระบี่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงดุจระลอกกระเพื่อมในน้ำ เสียงกระหึ่มสดใสของกระบี่คล้ายตอบรับมัน บันดาลให้จั่วม่อยิ่งตื่นเต้นเร้าใจกว่าเดิม มันหลับตาลง ลูบไล้กระบี่ราวกับกำลังลูบไล้เรือนกายของคนรัก

เมื่อปราศจากการป้องกันของสายน้ำตก มวลน้ำของคุกวารี ก็บีบเค้นเข้ามาจากทุกทิศทางโดยไร้แรงต้านทาน เข้าถึงตัวอย่างฉับพลัน ฟองอากาศแตกระเบิด จั่วม่อถูกกวาดลงไปในมวลน้ำมหึมาทันที

เหวินเฟยอดเผยสีหน้ายินดีไม่ได้! เจ้าเมื่ออยู่ในน้ำ ก็ไม่ใช่ว่ากลายเป็นปลารอรับการเชือดเฉือนหรอกหรือ?

มันตวาด “ขึ้น!”

เห็นกลุ่มก้อนมวลน้ำที่กักขังจั่วม่อไว้ภายใน ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ท้องนภา ทรงกลมน้ำใหญ่โตมโหฬาร เปรียบได้กับทะเลสาบขนาดเล็กแห่งหนึ่ง

จั่วม่อเป็นสัตว์ร้ายที่ถูกขังกรง ไม่ว่าจะต่อสู้ดิ้นรนสักเท่าใด ก็ไม่อาจหลุดรอดเป็นอิสระได้ เหวินเฟยรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก คุกวารีแห่งนี้ยังแข็งแกร่งมั่นคงยิ่งกว่าทำจากเหล็กกล้าเสียอีก

เหล่าศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักกระบี่สุญตาใบหน้าซีดเผือด จ้องมองอย่างสยดสยองไปยังเงาน้ำใหญ่โตบนท้องฟ้า คุกวารีทรงกลมลอยสูงขึ้น สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้ง เงาร่างของจั่วม่อที่อยู่ภายในกลับกลายเป็นเลือนรางกว่าเดิม แทบจะมองไม่เห็นอีกต่อไป

ไม่ต้องกล่าวถึงอื่นใด เพียงร่วงฟาดลงมาจากระดับความสูงเช่นนี้ คงไม่แคล้วต้องบาดเจ็บภายในเป็นแรมเดือนอย่างแน่นอน!

ใบหน้าซีดเผือดของเสี่ยวกั่วทันใดนั้นก็ปรากฏความเด็ดเดี่ยว นางพลันถลันออกจากกลุ่มคน ทะยานเข้าหาเหวินเฟย

“น้องสาวตัวน้อย เจ้าคิดทำอะไร?” เรือนร่างชดช้อยขยับเข้าขวางเส้นทางของเสี่ยวกั่ว เห็นเถาซูเอ๋อร์แย้มยิ้มอ่อนหวาน ขณะทอดตามองนาง

“หลีกไป!” เสี่ยวกั่วทั้งแตกตื่นทั้งเดือดดาล ทว่าโทสะของนางกลับมองแล้วไม่ต่างอันใดจากลูกแมวน้อยกำลังขู่คำรามสลายกงเล็บ นอกจากคำว่าน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็ไม่ทราบจะกล่าวว่ากระไรดี

“ฮะ” หมิงเต้าจิตใจที่เขม็งเกลียวเพิ่งจะผ่อนคลายลง เห็นเสี่ยวกั่วที่ไร้เดียงดา ดวงตาพลันสาดประกายวาบ “เด็กหญิงนี้ไม่เลว เจ้าเรียกว่าอะไร?”

“หลีกไปให้พ้น!” เสี่ยวกั่วแทบร่ำไห้

เหวินเฟยดวงตาทอแววอำมหิต มองไปยังคุกวารีกลางเวหา มันยิ้มหยันอย่างเย่อหยิ่งถือดี “ลองลิ้มรสชาติคุกวารีฟ้าของข้าดู” กล่าวจบคำ มันเหยียดมือซ้าย ค่อยๆ เล็งไปยังกรงน้ำบนท้องฟ้า

ทรงกลมน้ำกลางเวหาพลันแปรสภาพ ภายในคุกน้ำ ปรากฏหัตถ์มหึมาข้างหนึ่งพุ่งเข้าขยุ้มจับจั่วม่อ เจ้าผู้นี้ทำให้มันอับอายขายหน้า เหวินเฟยย่อมไม่ปล่อยไปอย่างง่ายดาย เล่นเป็นแมวหยอกเย้ามุสิก น่าสนุกสนานถึงเพียงไหน!

เหล่าศิษย์สำนักสุญตาอดไม่ได้ต้องหอบหายใจอย่างแตกตื่น ไม่อาจทนมองอีกต่อไป

เสี่ยวกั่วใบหน้าทอแววสิ้นหวัง นางทราบดีว่านางไม่ใช่คู่มือของคนทั้งสอง แต่...

แววตาชุ่มฉ่ำของนางสาดประกายความมุ่งมั่นที่หาได้ยากชนิดหนึ่ง

ในเวลานี้เอง ภายในคุกวารี ปลายดาบชี้ลงต่ำ ดวงตาที่ปิดสนิทของจั่วม่อทันใดนั้นก็เปิดขึ้น

ด้วยเหตุผลบางประการ มันหวนนึกถึงวันที่บรรลุเจตจำนงกระบี่เพลิงธารา เห็นหัตถ์น้ำมหึมาพุ่งเข้าตะปบร่างมัน จากมุมสายตา มันยังสามารถมองเห็นเงาร่างบนพื้นดิน ทั้งยังสามารถจินตนาการถึงความภาคภูมิใจของคู่ต่อสู้ในขณะนี้ และคาดเดาได้ว่าเจ้าผู้นั้นกำลังตื่นเต้นดีใจเพียงใด

แต่เคล็ดวิชากระบี่ของข้า...

คือเพลงกระบี่เพลิงธารา!

จั่วม่อดวงตาสว่างวาบ คนคล้ายอารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าอย่างฉับพลัน เย็นเยียบเฉกเช่นเปลวไฟโปร่งใส จับกระบี่หยดน้ำชูขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง โถมฟันเฉียงลงโดยไม่ออมรั้ง ปลดปล่อยคลื่นปราณกระบี่ ฟันใส่กระแสน้ำอย่างหักโหม!

เพลิงธาราผลาญฟ้า!

หัตถ์วารียักษ์ระเบิดกระจายในบัดดล!

เหวินเฟยที่ด้านล่างพลันสีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างรุนแรง! เป็นไปได้อย่างไร? ถูกขังอยู่ในคุกวารีจะลงมือตอบโต้ได้อย่างไร!

มันขบกรามแน่น รีบผนึกมุทราหมายเปลี่ยนกระบวนท่า แต่ทันใดนั้นกลับหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด มันพบว่ามันสูญเสียการควบคุมกรงวารีฟ้าอย่างสิ้นเชิง!

เป็นไปไม่ได้!

ในเวลาเดียวกัน เหล่าผู้คนที่ด้านล่างก็ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงบนท้องฟ้า พากันเงยหน้าขึ้นมองเป็นตาเดียว

คุกวารีทรงกลมยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามีหลุมลึกไร้ก้นบึ้งอยู่ข้างในตัวมันเอง

และเมื่อร่างของจั่วม่อเปิดเผยออกมา ทุกผู้คนล้วนสูดหายใจอย่างหนาวเหน็บ เห็นกลางอากาศ คุกวารีฟ้าอันตรธานหายไป เหลือเพียงจั่วม่อผู้ถือกระบี่อยู่ในมือ

หมิงเต้ากับเถาซูเอ๋อร์ใบหน้าแตกตื่นสุดระงับ พวกมันมองไปยังกระบี่ในมือจั่วม่ออย่างไม่เชื่อสายตา

รอบๆ กระบี่ยาวสามฉื่อ ห่อหุ้มไว้ด้วยใบมีดเพลิงสีน้ำเงินยาวสิบฉื่อ ซึ่งกำลังลุกไหม้อย่างแช่มช้าและไร้สุ้มเสียง เปลวไฟสีน้ำเงินนี้ประกอบด้วยน้ำทั้งหมด สวรรค์! มันดูดกลืนคุกวารีฟ้าของศิษย์พี่เหวินเฟยจนเกลี้ยงฉาด แล้วเปลี่ยนเป็นอาวุธของตัวเอง!

ในโลกนี้ มีสิ่งที่น่าอัศจรรย์ปานนี้อยู่ด้วยหรือ?

เจ้าผู้นี้เป็นเพียงซิวเจ่อด่านจู้จีจริงๆ?

มองลงไปยังเสี่ยวกั่ว เถาซูเอ๋อร์ และหมิงเต้าที่ด้านล่าง จั่วม่อเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ประกายโทสะวาบขึ้นในดวงตา

สองมือชูกระบี่ขึ้นเหนือศีรษะ เพลิงธาราบนกระบี่ราวกับบุปผาขนาดยักษ์ เบ่งบานทะยานฟ้าโดยไร้เสียง

“ตาย!”

เสียงตวาดด้วยโทสะดังสนั่นหวั่นไหว ไม่ผิดอันใดกับฟ้าผ่ากลางแจ้ง

ด้วยโทสะทั้งหมด จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ทั้งหมด พลังปราณทั้งหมด จั่วม่อดุจลำแสงสายหนึ่ง โถมฟันลงมาอย่างดุดัน!

ลำแสงสีน้ำเงินตรงแน่วกวาดวาบลงจากฟ้าสวรรค์ สว่างเจิดจ้าจนผู้คนไม่อาจมองตรงๆ

เหวินเฟยกับพวกทั้งสามที่ด้านล่างสีหน้าซีดจนเขียว เจ้าผู้นี้บ้าไปแล้ว!

สภาวะกระบี่ท่านี้เกรี้ยวกราดถึงที่สุด ครอบคลุมใส่พวกมันทั้งสามโดยพร้อมเพรียง!

ทั้งสามในเวลานี้ไหนเลยจะมีเวลาสนใจผู้อื่น พวกมันรีบงัดไม้ตายก้นหีบออกมาป้องกันตนเอง

ม่านน้ำปรากฏขึ้นรอบกายเหวินเฟย ยังหนากว่าครั้งก่อนเสียอีก เถาซูเอ๋อร์เกราะปราณดอกท้อบนร่างนางเปล่งแสงสีชมพูเจิดจ้า กลุ่มดอกท้อหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ ปกป้องนางไว้ตรงใจกลาง หมิงเต้ากระชากระฆังสัมฤทธิ์ออกมาอย่างขุ่นแค้น ระฆังขยายใหญ่ขึ้นในพริบตา ครอบปิดตัวมันไว้ภายในอย่างแน่นหนา

จั่วม่อในเวลานี้ลืมสิ้นทุกอย่าง ในสายตามันมีเพียงสามคนด้านล่างเท่านั้น สิ่งเดียวที่มันกระทำในยามนี้ คือเร่งเร้าพลังปราณอย่างดุเดือด แล้วผลักดันลงไปอย่างบ้าคลั่ง!

แสงสีน้ำเงินเย็นเยียบพุ่งตรงลงมาจากฟากฟ้า พลังสภาวะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน หวดฟาดใส่ทั้งสามอย่างแม่นยำ

การโจมตีกระบี่ที่ใช้มากที่สุดคือทิ่มแทงและกวาดฟัน กระทั่งการสับยังไม่ค่อยใช้กัน ผู้ใดจะคาดคิดได้ ว่ากระบี่ยังสามารถหวดฟาดใส่ผู้คน สิ่งที่จั่วม่อใช้ออกยามนี้คือหวดฟาดลงมาตรงๆ ราวกับอาวุธที่มันถือไม่ใช่กระบี่บิน แต่เป็นค้อนยักษ์อันหนักหน่วงด้ามหนึ่ง!

บูม!

แสงสีน้ำเงินสว่างวาบท่วมฟ้า กลืนกินทั้งสามคนบนพื้นในบัดดล

หลังจากเสียงระเบิดสนั่นลั่นโลกแทบหูดับ ก็เป็นความเงียบกริบดุจป่าช้า

จั่วม่อขาอ่อนยวบ ทรุดนั่งลงบนพื้น หอบหายใจสุดชีวิต

เพลิงธาราผลาญฟ้ารุนแรงเกินไปสำหรับมัน หลังจากใช้ท่าไม้ตายนี้ออกมา มันแทบไม่หลงเหลือแม้แต่พลังต่อสู้ขั้นพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม...

จั่วม่อกัดฟัน ใช้กระบี่หยดน้ำพยุงตัวลุกขึ้น เหม่อมองไปยังหลุมลึกกว่าสามสิบจั้ง ในใจมันมีเพียงคำเดียว...สุดยอด!

ภายในหลุมใหญ่ เหวินเฟยกับพวกทั้งสามนอนหมดสติจากแรงระเบิด เสื้อผ้าของเหวินเฟยฉีกขาดเหมือนผ้าขี้ริ้ว เถาซูเอ๋อร์เกราะปราณแตกร้าวไปทั้งร่าง ส่วนระฆังของหมิงเต้า ระเบิดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน

จั่วม่อทอดถอนชมเชย เพลิงธาราผลาญฟ้ากระบี่นี้ ที่ทรงพลังน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับคุกวารีฟ้าของเหวินเฟย หากไม่มีน้ำมากมายปานนั้น กระบี่นี้คงไม่บรรลุผลลัพธ์อันน่าแตกตื่นสะท้านใจถึงขั้นนี้ มวลน้ำซึ่งประมาณน้ำหนักไม่ได้นี้ เพียงแค่ทิ้งลงมาสุ่มๆ อย่างฉับพลัน ยังคงน่าสะพรึงกลัวไม่น้อยจริงๆ

ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลแห่งชัยชนะแล้ว จั่วม่อตื่นเต้นขึ้นมาทันที โดยไม่คำนึงถึงมารยาทอันใด มันราวกับแมวได้กลิ่นปลา โขยกเขยกพลางกระโดดโลดเต้นลงไปในหลุมลึก

เอี้ยนหมิงจื่อกับหูซานหวาดกลัวจนร่างแข็งทื่อ อย่าว่าแต่จะหาทางหยุดจั่วม่อ จั่วม่อไม่มายุ่งกับพวกมัน พวกมันก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว

กลุ่มคนที่ร่ำรวยจริงๆ อ้า! จั่วม่อทอดถอนชมเชยอยู่ในใจ นี่ไม่ใช่ว่าจะเลือกได้ง่ายๆ เลยแม้แต่น้อย

จั่วม่อริบแหวนสีน้ำเงินจากมือของเหวินเฟย อันที่จริงสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในตัวเหวินเฟยคือพัดเทียนเหอ อย่างไรก็ตาม จั่วม่อฝึกปรือกระบี่บิน พัดเทียนเหอแม้ดีมาก แต่ไม่เหมาะสมกับมัน แหวนวงนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดาสามัญ แน่นอนว่าเป็นระดับสามชั้นยอด สมควรช่วยเพิ่มพูนความสามารถในการควบคุมน้ำ อย่างไรก็ตาม มันยังคงต้องทดสอบเพื่อหาผลลัพธ์อันเฉพาะเจาะจงดูอีกที

จากนั้นริบปิ่นไม้ท้อพันปีจากศีรษะของเถาซูเอ๋อร์ จุ๊จุ๊ ไม่เลว มีสามค่ายกลสลักไว้บนปิ่นไม้ ค่ายกลขจัดใจมาร ค่ายกลหล่อเลี้ยง และค่ายกลจิตจดจ่อ สิ่งของที่ดี สิ่งของที่ดีจริงๆ !

บนร่างของหมิงเต้า จั่วม่อก็ไม่เกรงอกเกรงใจ ถอดรองเท้าเชวียจื่อ*คู่นั้นออกมา รองเท้าท่องลม ระดับสาม จั่วม่อรอบรู้ไม่น้อย บนรองเท้าเป็นค่ายกลท่องลมกับค่ายกลเดินหน ล้วนเป็นค่ายกลที่เปี่ยมล้นด้วยประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง

(*รองเท้าบู๊ท)

“โหดเหี้ยม!” เอี้ยนหมิงจื่อพอเห็นของสามชิ้นที่จั่วม่อริบไป มันอดไม่ได้ต้องสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ ทั้งเจ็บปวดใจ ทั้งนับถือเลื่อมใส

หูซานตัวแข็งประดุจหุ่นปั้น เมื่อจู่ๆ มันเห็นสายตาดุจหมาป่าโลภของจั่วม่อกวาดมองมาที่มัน ก็สะดุ้งสุดตัว เย็นวาบไปถึงไขสันหลัง

หูซานตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวในวินาทีนั้น ว่ามันไม่ต้องการจี้หยกอีกต่อไปแล้ว!

 

กลุ่มถึงตอนที่ 173 แล้ว คลิก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด