ตอนที่แล้วตอนที่ 64 ปัญญาประดิษฐ์ขั้นพื้นฐาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 ความขัดแย้งในโรงพยาบาล

ตอนที่ 65 ด้านที่อ่อนแอของเธอ


 

ยังคงเป็นเวลาค่ำ

 

เจียงเฉินยืนอยู่หน้าประตูของเซียชียู ขณะที่เขากำลังจะคิดจะกดกระดิ่งแล้วเขาก็หยุดนิ้วของเขาไว้กลางคัน

 

[ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เรามามันจะเป็นตอนกลางคืน...]

 

เขาส่ายหัวและผลักดันความคิดแปลกๆออกไปจากหัวขณะที่กดกระดิ่ง

 

แต่หลังจากที่รอสักครู่ไม่มีใครมาเปิดประตู

 

[ไฟเปิดอยู่ เธอควรจะอยู่บ้าน เธอโกรธที่เรามาดึกมากทุกครั้งหรือปล่าว?]

 

เจียงเฉินฝืนรอยยิ้ม มันไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยแต่เวลาเลิกงานก็อยู่ช่วงนี้ เขาใช้เวลาช่วงบ่ายกับซันเจียวและเย้าเย้าก่อนที่เขาจะกลับมาสู่โลกของเขา หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับพวกเขาแล้วเขาก็นำไดรฟ์ยูเอสบีไป เนื่องจากสำนักงานยังคงได้รับการปรับปรุงใหม่ พนักงงานก็มีเพียงแค่เซียชียูดังนั้นเธอจึงทำงานจากที่บ้าน

 

หลังจากที่ขบคิดหน้าประตูแล้วเจียงเฉินเกาศีรษะของเขา ตั้งแต่เขาอยู่ที่นี่แล้วมันก็ไม่เหมาะกับบุคลิกของเขาที่จะกลับไป เขาคิดถึงเรื่องนี้ก่อนเอาโทรศัพท์ออกมา

 

“โทรหาเบอร์ของเซียชียู”

 

“ได้ นายท่าน” โทรศัพท์โทรออกทันที

 

มันใช้เวลาไม่นานสำหรับเจียงเฉินเพื่อเคยชินกับการใช้ขาวน้อยที่ฉลาด เขาเพียงต้องขยับปากของเขาก็ทำให้ฟังก์ชันใดๆก็ตามบนโทรศัพย์ทำงานได้ทันที

 

โทรศัพท์เสียงดังขึ้นประมาณ 20 วินาทีก่อนที่มันจะมีคนรับสายในที่สุด

 

“สวัดดี?” เสียงอ่อนแอและแหบแห้งมาจากอีกด้าน

 

“คุณสบายดีไหม? ทำไมฟังดูเสียงคุณแปลกมากล่ะ?” เจียงเฉินรีบถามพร้อมกับขมวคิ้ว

 

“ไม่มีอะไร แค่กๆ ฉันรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ขอโทษที่ฉันหลับไปและไม่ได้สังเกตเห็นการโทรหาของคุณ” เซียชียูได้แตะที่หน้าผากของเธอขณะที่เธอพูดด้วยความกำกวม

 

“ผมอยู่ข้างนอก เปิดประให้ผมหน่อย ผมจะพาคุณไปที่โรงพยาบาล” เจียงเฉินไม่ได้อยู่นอกห้องเพื่อการโต้แย้ง

 

“ทำไมคุณมาในเวลากลางคืนอีกล่ะ?” เสียงที่อ่อนแอของเซียชียูมีความสับสนและตื่นตัว

 

“น่านอนว่าผมจำเป็นต้องพูดคุยเกี่ยวกับบางอย่างกับคุณแต่อย่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมกังวลเกี่ยวกับสภาพของคุณ เปิดประตูให้ผมและหยุดถาม!” เจียงเฉินกล่าวอย่างกังวล

 

ถ้าเธอกลายเป็นหมดสติแล้วมันจะเป็นปัญหา

 

หลังจากที่ดูเหมือนจะรอนานหน่อยแล้วเสียงกระเพื่อมช้าๆก็สะท้อนออกมาจากอีกด้านของประตูและลูกบิดก็หมุน แต่เมื่อเจียงเฉินเห็นเซียชียูแล้วเธอก็กลัวเขา หน้าซีดของเธอก็ยังไม่เหมือนผู้หญิงที่เธอเป็น เธอดูอ่อนแอและเปราะบาง

 

“เกิดอะไรขึ้น!” เจียงเฉินทันทีจับไปที่เซียชียูที่กำลังล้มลง

 

เขาไม่ได้เห็นเธอแค่วันหนึ่งและเธอกลายเป็นคนป่วยอย่างนี้?

 

เซียชียูกัดริมฝีปากของเธอขณะที่เธอมองไปที่มือที่จับเธอไว้ เธอไม่ต้องการเปิดประตูเพราะเธอ “ใจอ่อน” มาก ถ้าเจียงเฉินมีแรงจูงใจอื่นๆแล้วก็ไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้

 

แต่สิ่งที่เธอไม่ได้พิจารณาก็คือถ้าเขามีแรงจูงใจอื่นๆแล้วเธอจะใจอ่อนไม่ว่าสภาพของเธอจะเป็นอย่างไรก็ตาม

 

บางทีมันอาจเป็นแรงกระตุ้นแต่ความรู้สึกงงงวยของเธอทำให้เธอเสียสติเพื่อป้องกันตัวเองทำให้เธอเปิดประตู ช่วงเวลาที่เธอเห็นใบหน้าของเจียงเฉินเธอรู้สึกสงบ

 

“เหี้ย มันร้อน” เจียงเฉินแตะหน้าผากของเธอขณะที่อุณหภูมิสูงทำให้เขามือกระเด้งออก “ไม่ มีอะไรผิดพลาดแน่นอน! ผมจะพาคุณไปที่โรงพยาบาล”

 

“มันดึกมากแล้ว ฉันจะกินยาบางอย่างและนอนหลับให้มันผ่านไป” แม้ว่าเธอจะเกลียดคำหยาบแต่เธอก็ไม่มีพลังประชดเขา

 

“ไม่! ฟังผม” เจียงเฉินปฏิเสธเธอทันที ในภาวะตกใจแล้วเจียงเฉินก็อุ้มเธออย่างเจ้าหญิงและเดินลงบันได

 

เซียชียูค่อยกัดริมฝีปากของเธอและรู้สึกถึงความอบอุ่นรอบตัวขณะที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงสายตา เธอคิดว่าเธอจะสู้กลับแต่สิ่งที่แปลกก็คือปฏิกิริยาแรกของเธอคือความสงบ

 

บางทีเธอไม่ได้ตระหนักว่าจิตใต้สำนึกเธอไม่ได้คิดเคลื่อนย้ายอย่างแข็งขัน ใบหน้าไม่มีอารมณ์เสมอเป็นเพียงการปลอมตัวที่ไม่ดีสำหรับตัวเอง เมื่อเจียงเฉินอุ้มเธอขึ้นอย่างเฉียบพลันแล้วมันทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นและเธอรู้สึกกระวนกระวายใจ

 

หรือมันเป็นความรู้สึกของการรักษาความปลอดภัย?

 

ความรู้สึกแปลกๆเหมือนกันกลับมาอีกครั้ง...

 

เซียชียูปิดตาของเธอและเธอยังไม่ยอมรับมัน

 

 

เจียงเฉินอุ้มเซียชียูลงบันไดและไม่สนใจความรู้สึกแปลกๆและความห่วงใยของคนรอบตัว เขาเปิดประตูรถแล้วช่วยเซียชียูนั่งที่ผู้โดยสารและรัดเข็มขัดนิรภัยบนตัวเธอก่อนที่เข้าจะไปขึ้นรถ

 

“รถใหม่ของคุณ?” เซียชียูแทบไม่พิงเบาะรถขณะที่หน้าอกของเธอสูบขึ้นและลง

 

“Maybach S600 ของขวัญจากการซื้อบ้าน” เจียงเฉินตอบลวกๆและเริ่มสตาร์ทรถ

 

“…” บ้านแบบไหนที่จะให้รถเป็นของขวัญ? เซียชียูอยากรู้แต่ไม่ได้มีพลังที่จะถาม

 

“ผมบอกคุณแล้วว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายให้โทรหาผม มองดูคุณตอนนี้” เจียงเฉินกล่าวขณะที่เขาหมุนพวงมาลัยรถ

 

“ฉันแค่กินยาบางอย่างแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” แม้ว่าเสียงของเธอดูเหมือนจะไม่สนใจ แต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นรอบๆหัวใจของเธอ

 

“ฮิฮิ คุณบอกว่านี่ไม่ต้องเป็นห่วงอย่างนั้นหรอ? คุณแทบหมดสติ! คุณอยู่คนเดียวและไม่มีใครดูแลคุณ ถ้าผมไม่มีเรื่องที่จะคุยกับคุณในวันนี้แล้วจะไม่มีใครรู้ถ้าคุณหมดสติ ร่างกายของคุณอาจจะเหม็นก่อนที่จะมีบางคนพบมัน” เจียงเฉินกล่าวอย่างรวดเร็ว

 

[คุณไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วหรอ?] เซียชียูบุ้ยปากแต่หยุดยั้งทั้งหมดทันที เธอรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำดังกล่าว

 

[ดูเหมือนว่าไข้กำลังทำให้ฉันสับสน…]

 

เซียชียูค่อยๆสัมผัสหน้าผากของเธอและรู้สึกว่ามันร้อน

 

ทิวทัศน์กระพริบผ่านหน้าต่างรถขณะที่ความเงียบเกิดขึ้นในรถ แม้ว่าเขาจะเพิ่งได้รถแต่เขาก็ขับรถอย่างชำนาญ อาจจะเกี่ยวข้องกับการตอบสนอง 29 ของเขา แต่เพราะพวกเขาอยู่ในใจกลางเมืองแล้วมันก็ไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น

 

“ฉันป่วย ทำไมคุณต้องแคร์ด้วย?” หลังจากความเงียบอันยาวนานแล้วเซียชียูได้เปิดปากของเธอโดยฉับพลัน

 

“แน่นอนผมแคร์” ถ้าคุณป่วยแล้วใครจะทำงาน?

 

เจียงเฉินมักเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำที่ขอให้คนอื่นทำสิ่งต่างๆ ถ้าเธอป่วยทำไมเขาถึงไม่เป็นห่วง?

 

อาจมีเหตุผลอื่นๆแต่เขายังไม่ได้คิดออก

 

แต่เซียชียูดูเหมือนจะตีความหมายเป็นอย่างอื่นแล้วความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

บางทีอาจเป็นไข้ แต่ใบหน้าของเธอแดงอย่างผิดปกติ

 

เร็วๆนี้พวกเขามาถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

 

เจียงเฉินจอดรถและรีบวิ่งไปที่อีกฟากหนึ่งเพื่อเปิดประตูแต่เมื่อเขาจะใช้ท่าทางเหมือนเดิมเพื่ออุ้มเซียชียูแล้วเธอหยุดเขา

 

“ฉันสามารถเดินด้วยตัวเองได้ คุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉัน วิธีนี้ทำให้รู้สึกอายมากๆ” เซียชียูค่อยๆบีบคำพูดไม่กี่คำออกจากปากของเธอ ตอนนี้ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด เจียงเฉินรู้สึกทึ่งในความงามของเธอ

 

ภายใต้สายตาที่เข้มข้นของเจียงเฉินแล้วเซียชียูรู้สึกลำบากแต่ก็รู้สึกว่ามีความภูมิใจบางอย่าง?

 

หลังจากที่เธอมองเขาอย่างสกปรกแล้วเซียชียูก็ลากเท้าหนักๆของเธอไปที่โรงพยาบาล

 

แต่ทำไมเขาถึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ “ลาก” ฝีเท้าของเธอ เธอเดินแบบนี้อยู่แล้วหรอ? เธออาจจะเจ็บตัวก่อนที่เธอจะเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อดูว่าทำไมเธอป่วย

 

เจียงเฉินเดินเคียงข้างเธอและจับไปที่หญิงสาวปากแข็ง

 

แม้ว่าเธอจะต่อสู้กลับเล็กน้อยแต่เซียชียูรู้สภาพที่แท้จริงของเธอดังนั้นเธอจึงไม่ได้หยุดเจียงเฉิน เธอก้มศีรษะของเธอไว้และซ่อนความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติของเธอใต้ผมของเธอ

 

พยาบาลปฏิบัติหน้าที่เห็นสภาพของเซียชียูและรีบเดินไปช่วยเธอ เจียงเฉินทิ้งเซียชียูไว้กับพยาบาลและไปที่แผนกต้อนรับเพื่อกรอกเอกสาร มันจะขึ้นอยู่กับแพทย์ในขณะนี้ในฐานะที่หมอรู้อะไรเกี่ยวกับยา

 

เอาจริงๆแล้วเขากังวลเกี่ยวกับสภาพของเซียชียู มันไม่ได้มีลักษณะเหมือนไข้หรือไข้หวัดธรรมดา บางทีอาจเป็นเพราะเธอล้มป่วยเพราะงานทั้งหมดที่เขาให้เธอหรือปล่าว? เจียงเฉินรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาซื้อบ้านแล้วเธอก็รู้สึกป่วยเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้พาเธอไปที่โรงพยาบาลทันที แทนที่เขาไปมีความสนุก...

 

[บางทีถึงเวลาที่จะควบคุมตัวเอง?]

 

เมื่อแขนของเขากดเข่าของเขาแล้วเขาก็เดินเข้าไปในความคิดลึกๆ

 

แม้ว่าจะเป็นห่วงแต่มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรอสักพัก เขานั่งบนเก้าอี้โรงพยาบาลแล้วรู้สึกเบื่อก่อนที่เขาจะเอาโทรศัพย์ออกมา

 

เขาตรวจสอบวีแชทของเขาเพื่อดูว่าหลิวเย้าส่งข้อความถึงเขาไหม สำหรับนักแสดงหญิงระดับสามแล้วเจียงเฉินก็มีความสุขกับการสนทนากับเธอ ถ้าเขาว่างแล้วเขาก็จะไปพบ แต่เขายุ่งเกินไปดังนั้นเขาจึงปฏิเสธคำเชิญที่ตรงไปตรงมา

 

ภาพยนตร์ที่เขาสัญญาไว้กับเธอจะเกิดขึ้นเนื่องจากเงินไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

 

อันที่จริงแล้วมันก็สนุกที่คุยกํบหญิงสาวคนนี้ ความรู้สึกผิดและความกังวลของเขาจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วทางโทรศัพท์

 

“สวัดดี ท่าน คุณเป็นสามีของมิสเซียชียูหรือปล่าว?” หมอผลักประตูเปิดออกและก็มาหาเจียงเฉิน

 

“ไม่ ผมกับเธอ...เอิ่มม เป็นเพื่อน” เจียงเฉินเก็บโทรศัพท์ไว้และยืนขึ้น

 

“มิสเซียชียูเพียงเป็นไข้ปกติแต่มันไม่ได้รับการรักษานานเกินไปดังนั้นอาการจึงเป็นเรื่องที่ร้ายแรงในขณะนี้ ผมขอแนะนำให้คุณไปที่แผนกต้อนรับและลงทะเบียนเข้าพักที่โรงพยาบาล” หมอตัดตรงไปยังจุดและส่งใบเรียกเก็บเงินไปยังเจียงเฉินเพื่อให้เขาไปที่หน้าต่างที่กำหนด

 

ทัศนคติที่ไม่เป็นทางการของแพทย์ทำให้เจียงเฉินยกคิ้วขึ้นแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาถือใบเก็บเงินและจ่ายค่าธรรมเนียมซึ่งรวมเป็นหนึ่งพันดอลลาร์ เขาฝืนยิ้มขณะที่เขาคิด คนธรรมดาไม่สามารถจ่ายได้ ผู้เยาว์หรือคนสำคัญต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเดียวกับการใช้ยาราคาแพงที่สุด คุณต้องการปัญหาหรือไม่? คุณจะไปพบแพทย์หรือไม่? เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากที่นี่จึงไม่เคยขาดแคลนผู้ป่วย

 

เมื่อเทียบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว ความต้องการด้านการศึกษาและการดูแลสุขภาพก็มั่นคงมากขึ้นและเชื่อถือได้ หากพวกเขาอยากจะเปลี่ยนภาครัฐให้เป็นภาคธุรกิจเอกชนกำไรที่แท้จริงอาจมากกว่าอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์

 

แม้ว่าตอนนี้เงินจะไม่มีความหมายอะไรกับเจียงเฉิน

 

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในวอร์ดแล้วคว้าเก้าอี้นั่งข้างเตียงของเซียชียู

 

“ขอโทษที่ทำให้คุณลำบาก” ดวงตาของเซียชียูปิดลงครึ่งหนึ่งขณะที่เธอบีบประโยคผ่านริมฝีปากของเธอ

 

“ไม่มีปัญหา การดูแลพนักงานเป็นความรับผิดชอบของประธาน” เจียงเฉินโบกมือแล้วถามด้วยเสียงที่เป็นห่วง “คุณหิวไหม? บอกผมถ้าคุณต้องการกินอะไรบางอย่าง”

 

“การดูแลพนักงานอย่างงั้นหรอ?” เซียชียูไม่ตอบสนองต่อเจียงเฉินขณะที่เธอบ่นอยู่ใต้ลมหายใจ

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณดูสับสนมาก” เจียงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาพูดประชด

 

เซียชียูเงียบก่อนที่เธอจะพูด “คุณไม่เคยเห็นมันมาก่อน”

 

“โอ้? พูดถึงเรื่องนี้ ผมอยากรู้ ถ้าคุณสวยมากแล้วทำไมคุณต้องทำใบหน้าเย็นชาตลอด?”

 

“…ฉันเหนื่อย” เซียชียูปิดตาของเธอและไม่สนใจคำถามของเขา

 

เจียงเฉินยิ้มขมแล้วยักไหล่และยอมแพ้ เขามองไปที่การหายใจปกติของเซียชียูตอนนี้และช่วยห่มผ้าให้เธอ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและเดินออกจากวอร์ด

 

[ดูเหมือนว่าเราจะต้องอยู่ที่นี่คืนนี้ มันน่าเป็นห่วงที่จะปล่อยให้เธออยู่คนเดียว]

 

เจียงเฉินเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาอเยชา

 

“ผมมีบางสิ่งที่ต้องทำคืนนี้และจะไม่กลับไป คุณสามารถดูแลตัวเองได้ไหม?”

 

“อืมม ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ได้”

 

การตอบสนองนุ่มนวลและอ่อนโยนสะท้อนจากอีกด้านของโทรศัพท์ มันทำให้เจียงเฉินรู้สึกอบอุ่นภายใน

 

แม้ว่าหญิงสาวจะดูเย็นชากว่าเซียชียูเมื่อเธออยู่ข้างนอกแต่เมื่อใดก็ตามที่เธออยู่กับเจียงเฉินแล้วเธออ่อนโยนกว่าแกะ

 

"ราตรีสวัสดิ์"

 

"ราตรีสวัสดิ์" การออกเสียงเปลี่ยนไปทำให้เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจขณะที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

[นั่นคือภาษาจีน ดูเหมือนว่าเธอกำลังก้าวหน้า ผมหวังว่าวันที่ผมสามารถสื่อสารกับเธอในภาษาจีนได้จะมาอย่างรวดเร็ว มันยังคงแปลกที่จะคุยในภาษาอังกฤษ]

 

หลังจากโทรศัพท์แล้วเจียงเฉินยืดตัวของเขา เซียชียูนอนหลับแล้วดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเตือนพยาบาลให้เปลี่ยนยาของเธอในเวลากลางคืน

 

เวลาในการค้นหากาแฟ

 

เจียงเฉินตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปในบริเวณที่พักของโรงพยาบาล

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด