ตอนที่แล้วTXV –  105 ความจริงถูกเปิดเผย !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV 107 – อันตรายกำลังคืบคลาน !

TXV –  106 หน้ากากจอมปลอม !


TXV –  106 หน้ากากจอมปลอม !

 

          เมื่อออกมาจากห้องโถงของบูรพาอุตสาหกรรม เซี่ยเหล่ยไม่สามารถฝืนปกปิดรอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะจบลงยังไง แต่มื่อเขาคิดว่าทั้งเหยี่ยนเหวินเฉียนและซู่หลางได้แสดงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจออกมาต่อหน้าผู้คนมากมาย มันกลับทำให้เขาอารมณ์ดีแบบบอกไม่ถูก.........

 

          สำหรับเหยี่ยนเหวินเฉียนและซู่หลาง เขาไม่ได้รู้สึกสงสารสองคนนั้นเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากเขาไม่ได้สังเกตุและอ่านริมปีปากของคนทั้งคู่มาก่อนหน้านี้ ไม่แน่ว่าคืนนี้คนที่โดนวางยาและทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้นอาจจะเป็นตัวเขาเองก็ได้ และแน่นอนว่าซู่เจิงยี่และหนิงเหยี่ยซานจะต้องไม่ให้ความยุติธรรมกับเขาอย่างแน่นอน

 

          ‘เฉินตู เทียนหยินจะดำเนินการเรื่องของเหยี่ยนเหวินเฉียนให้ถึงที่สุด เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้เธออับอายแขกในงานมาก อีกทั้งเหยี่ยนเหวินเฉียนยังไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเหวี้ยนเทียนด้วย ดังนั้นพ่อแม่ของหนิงจิงจะยังมองว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมจะเป็นว่าที่ลูกเขยของพวกเขาอีกหรือไม่? เราหวังว่าหนิงจิงจะใช้โอกาสนี้ในการยกเลิกการหมั้นหมายกับเหยี่ยนเหวินเฉียน’ เมื่อนึกถึงหนิงจิง เซี่ยเหล่ยก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย

 

          “เซี่ยเหล่ย” เสียงผู้ชายเรียกชื่อเขาดังมาจากด้านหลัง

 

           เซี่ยเหล่ยหันกลับไปมองและเห็นนายกเทศมนตรีหู่ฮั่ว

 

 

          “นายกเทศมนตรี หู่ คุณออกมาด้านนอกทำไมครับ?”

 

          หู่ฮั่ว ตบไหล่เซี่ยเหล่ยเบาๆ “เหตุกาณ์ในคืนนี้มันคงกระทบความรู้สึกของคุณมาก ผมแค่อยากออกมาพูดคุยและให้กำลังใจคุณ”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและตอบกลับไปว่า “ขอบคุณครับนายกเทศมนตรี หู่แต่ผมไม่เป็นไรจริงๆ”

 

          หู่ฮั่ว พูดว่า “จริงๆแล้วเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ผมได้ให้หนิงเหยี่ยซานส่งจดหมายเชิญไปให้คุณเพื่อเชิญคุณมาเข้าร่วมงานเลี้ยงของเรา และผมคิดว่างานเลี้ยงจะจบลงหลังจากผมได้แนะนำเพื่อนๆในวงการธุรกิจให้ได้รู้จักกับคุณ แต่ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่พวกเขาทั้งสองคนกลับไม่ได้ส่งไป เป็นเพื่อนของคุณเองที่นำจดหมายเชิญนั้นไปให้คุณ”

 

          เซี่ยเหล่ยเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดในทันที ความจริงแล้วหนิงเหยี่ยซานไม่ได้ตั้งใจจะเชิญเขามางานเลี้ยงนี้ แต่เป็นเพราะคำพูดของ หู่ฮั่ว ทำให้สือจิงชิวต้องเขียนจดหมายเชิญใหม่ และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมสือจิงชิวจึงต้องรีบขับรถไปรับเขาที่บริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า

 

          “พวกเขาสองคนที่คุณพูดถึงคงจะหมายถึงซู่เจิงยี่และหนิงเหยี่ยซานใช่ไหมครับ?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          หู่ฮั่ว ยิ้ม “หรือคุณคิดว่าไม่ใช่ล่ะ?”

 

          “ซู่เจิงยี่เป็นบุคลากรของทางภาครัฐ ดังนั้นผมจะไม่พูดถึงเขา” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “ความจริงแล้วหนิงเหยี่ยซานเองก็ไม่ได้ชอบผมมากนักหรอก บริษัทบูรพาอุตสาหกรรมเคยร่วมงานกับผมมาก่อน เขาทึ่งกับความสามารถพิเศษของดวงตาของผม ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ในคืนนี้ขึ้น เขาก็ไม่เคยมองว่าผมเป็นเพื่อนอยู่ดี

 

          หู่ฮั่ว เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูด “คุณอยากคุยกับเขาไหม? ผมสามารถจัดการให้คุณได้นะ เมื่อเวลานั้นมาถึงผมจะช่วยคุณพูดเอง บริษัทหนึ่งเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ อีกหนึ่งเป็นบริษัทผู้ประกอบการรายใหม่ที่ผมชื่นชอบ ทั้งบูรพาอุตสาหกรรมและ อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าเป็นบริษัทที่มีค่ามหาศาลกับเรา ผมไม่อยากเห็นทั้งสองบริษัทนี้มีปัญหากัน”

 

          ดูเหมือนว่าสิ่งที่ หู่ฮั่ว จะค่อนข้างมีเหตุผล

 

          อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าเป็นบริษัทขนาดเล็กและเพิ่งก่อตั้ง แต่ บูรพาอุตสาหกรรมเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ตอนนี้บริษัทของเซี่ยเหล่ยยังไม่สามารถไปแข่งขันกับบูรพาอุตสาหกรรมได้ แต่สิ่งที่หู่ฮั่วพูดมันเป็นจริงและจะส่งผลดีต่อ อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าในอนาคต  ความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเหล่ยและบริษัทบูรพาอุตสาหกรรมอยู่ในการสังเกตุการณ์ของหู่ฮั่วตลอดเวลาและแน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกให้เซี่ยเหล่ยทราบว่าหนิงเหยี่ยซานคืออุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ขัดขวางการเจริญก้าวหน้าของ อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า

 

           หู่ฮั่ว มีเจตนาที่ดีต่อเขาและเขาเป็นนายกเทศมนตรีที่ดีอีกด้วย......

 

          “นายกเทศมนตรี หู่ผมเข้าใจที่คุณพูดครับ และขอบคุณสำหรับความหวังดีต่อบริษัทของผม” เซี่ยเหล่ยพูด “ผมจะทำตามที่คุณบอก หนิงเหยี่ยซานคงจะไม่คุยกับผม บางทีเขาอาจจะยอมฟังที่คุณพูด แต่ผมเองก็คงจะไม่พูดคุยกับเขา เขาเองก็เดินไปตามเส้นทางของเขา ผมก็มีเส้นทางของผมเอง แม้ว่ามันจะยากลำบาก แต่ผมจะพยายามเดินไปให้ถึงจุดสิ้นสุดให้ได้”

 

          หู่ฮั่ว ถอนหายใจและยิ้ม “ดีมาก ตอนนี้ผมว่าคุณควรกลับไปก่อน !”

 

          “ไว้เจอกันใหม่ครับ นายกเทศมนตรหู่”

 

          หู่ฮั่วพูดขึ้นมาว่า “ผมเชื่อว่าคุณจะสามารถทำให้ อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้ายิ่งใหญ่และมั่นคงได้ เมื่อถึงเวลานั้นเมืองห่ายจูของเราก็จะมีบริษัทมากมายที่โด่งดัง”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ผมจะพยายามจนถึงที่สุดครับ”

 

          “ถ้ามีปัญหาอะไรบอกผมนะ ผมช่วยคุณได้แน่นอน”

 

          “ขอบคุณอีกครั้งครับนายกเทศมนตรหู่” เมื่อ หู่ฮั่ว เดินจากไปแล้ว เซี่ยเหล่ยก็เดินไปยังลานจอดรถ

 

          เมื่อมาถึงลานจอรถเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขามาที่นี่ด้วยรถของสือจิงชิว และรถของเขาอยู่ที่หลางซือเหยา ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาหลางซือเหยาให้มาหาเขา ทันใดนั้น BMW คันหนึ่งก็วิ่งเข้ามาและกระจกรถถูกเปิดออก นั่นคือสือจิงชิวและเธอกำลังยิ้มให้เขา

 

          “ยืนอยู่ทำไมล่ะ? ขึ้นมาสิ ฉันจะไปส่งคุณเอง” สือจิงชิวพูด

 

          เมื่อมองรอยยิ้มบนใบหน้าของสือจิงชิว เขาก็ต้องชื่นชมในความสวยงามและความจิตใจดีของผู้หญิงคนนี้ ในห้องโถงใหญ่เมื่อสักครู่นี้เธอถูกลวนลามโดยเหยี่ยนเหวินเฉียน  เหยี่ยนเหวินเฉียนกดร่างของเธอลงและทำหยาบคายกับเธอ ทั้งฉีกทึ้งเสื้อผ้าและชุดชั้นใน แต่เพียงครู่ดียวเธอก็กลับมาเป็นปกติราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

          เซี่ยเหล่ยเดินไปขึ้นรถ...

 

          “คุณขับรถไปส่งผม หลังจากโดนเหยี่ยนเหวินเฉียนทำร้าย คุณไม่กลัวบ้างงั้นหรือ?”

 

          “งี่เง่าน่า ฉันต้องกลัวเขาด้วยงั้นหรือ?” สือจิงชิวขับรถ ในขณะเดียวกันก็พูดไปด้วย “ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องถูกคนแบบนั้นลวนลาม แน่นอนว่าฉันชอบคุณมากกว่า และฉันอยากให้เป็นคุณมากกว่าเขา และฉันอยากจะแต่งงานกับคุณ ฮ่าๆ”

 

          เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้ว “ในเวลาแบบนี้คุณยังจะพูดเรื่องตลกได้อีกหรือ?”

 

          สือจิงชิวหุบยิ้มและพูดระบายออกมา

 

          “จริงๆแล้วคุณไม่ได้ใส่ใจเรื่องของหนิงเหยี่ยซานมากนัก เพราะว่าคุณได้ยึดธุรกิจของบูรพาอุตสาหกรรมมาจากเขาแล้ว !”

 

          “มีอะไรอีกมั้ย ?”

 

          “คุณยังขาดประสบการณ์ในการทำงาน !” สือจิงชิวพูด “บูรพาอุตสาหกรรมเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ สิ่งที่คุณควรคำนึงมากที่สุดคือความสัมพันธ์ของคุณกับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน พนักงานในบริษัทนั้นมีตำแหน่งระดับสูงทั้งนั้น โดยเฉพาะมู๋เจียนเฟิงนั่นคือคนสุดท้ายที่คุณสามารถคุยด้วยได้ คุณคิดว่าเมื่อคุณทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับคุณจบลง เขาจะปล่อยให้คุณมีเส้นทางที่ราบรื่นงั้นหรอ ?”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม เขาไม่เคยคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

          รถถูกขับออกมาจากลานจอดรถแล้ว เซี่ยเหล่ยมองทางเข้าห้องโถงใหญ่ผ่านกระจกรถ เขาเห็นหนิงจิงเธอกำลังมองไปรอบๆเพื่อตามหาใครบางคน

 

          “บางทีเธออาจจะมองหาคุณอยู่ อยากให้ฉันหยุดรถไหม?”

 

          เซี่ยเหล่ยลังเลและตอบ “ไม่เป็นไร ไปเถอะ”

 

          สือจิงชิวขับรถ BMW ออกมาจาก บูรพาอุตสาหกรรม หนิงจิงยังคงยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่และมองไปรอบๆ

 

          “เธอไม่เหมาะกับคุณหรอก” สือจิงชิวและยิ้ม “ฉันเป็นคนที่เหมาะกับคุณที่สุด อยากจะปรับความเข้าใจกับฉันไหม?”

 

          “ผมกับคุณไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ทำไมจะต้องปรับความเข้าใจ?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “คุณทำให้ฉันผิดหวัง ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ตราบใดก็ตามที่คุณต้องการฉันจะหย่าทันที และจะลาออกจากบูรพาอุตสาหกรรมและไปช่วยงานคุณที่อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า” สิ่งที่สือจิงชิวพูดไม่มีความล้อเล่นหลงเหลืออยู่ เธอจริงจัง !

 

          เซี่ยเหล่ยพูด  “ขับรถไปเถอะน่า”

 

          แววตาของสือจิงชิวโกรธๆเล็กน้อย แต่มุมปากของธอกลับมีรอยยิ้ม

 

          “ฉันล้อเล่นน่า ดูเหมือนฉันจะทำให้คุณชอบฉันไม่ได้นะ”

 

           รถ BMW เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วบนท้องถนน ภายนอกหน้าต่างรถสว่างขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาพความเจริญรุ่งเรืองของเมืองแห่งนี้ เซี่ยเหล่ยโตขึ้นมาในเมืองนี้แต่ในเวลานี้เขากลับมีความรู้สึกแปลกๆ เขาจำได้ว่าได้ย้ายก้อนอิฐและรวมมันไว้ด้วยกันในไซต์ก่อสร้าง ในตอนนั้นเองเขาก็ยืนขึ้นต่อหน้าสือจิงชิว สือจิงชิวเหลือบมองเขาแปลกๆด้วยตาข้างเดียว เขาสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือความรู้สึกที่แท้จริงและอะไรคือการเสแสร้ง ด้วยเหตุผลนี้ ระหว่างเขาและสือจิงชิวคือธุรกิจ ไม่มีเรื่องของความเห็นใจใดๆทั้งสิ้น !

 

          เซี่ยเหล่ยอยากให้สือจิงชิวไปส่งเขาที่บ้านหลางซือเหยา แต่เขาก็ล้มเลิกความตั้งใจไป สือจิงชิวไม่ได้ถามว่าเขาจะไปที่ไหนและขับไปส่งเขาที่บริษัท

 

          เซี่ยเหล่ยมาถึงหน้าทางเข้าบริษัทเขาลงจากรถแล้วปิดประตูรถพร้อมพูดว่า “ขอบคุณนะ”

 

          “จะไม่เชิญฉันเข้าไปข้างในหน่อยหรอ?” สือจิงชิวพูด

 

          เซี่ยเหล่ยพูด “ไม่ต้องเข้าไปหรอกน่า กลับไปเถอะ เวลานี้คุณควรจะอยู่ข้างๆหนิงเหยี่ยซาน”

 

          สือจิงชิวหยิบกระเป๋าจากเบาะหลังและส่งมันให้เซี่ยเหล่ย “คุณลองอ่านดู ถ้าคุณสนใจให้โทรหาฉันถ้าธุรกิจนี้เป็นของเรา เราจะได้กำไรจากมันมหาศาล”

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมจะอ่านดู  รอรับสายจากผมแล้วกัน”

 

          “ไว้พบกันใหม่นะ” สือจิงชิวขับรถจากไป

 

          เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในบริษัท และเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบของข้างในออกมาเปิดอ่าน

 

          ในนั้นมีกระดาษเอสี่ประมาณ 20 แผ่น มันเป็นแบบแปลนของชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เขาต้องผลิต เป็นชิ้นส่วนที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง

 

          เซี่ยเหล่ยอ่านแบบพิมพ์เขียวทั้งหมดแต่ก็ไม่พบว่าชิ้นส่วนนี้จะถูกไปใช้เพื่ออะไร เขาจึงเกิดความสงสัย ‘คำสั่งซื้อนี้และคำสั่งซื้อของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนเป็นชิ้นส่วนที่มีมาตรฐานแบบเดียวกัน สือจิงชิวอยากจะครอบครองธุรกิจนี้งั้นหรอ? จริงๆแล้วชิ้นส่วนนี้จะถูกนำไปใช้เพื่ออะไรกันแน่?’

 

          เมื่อกลับมาถึงบ้าน เซี่ยเหล่ยพยายามไล่ดูพิมพ์เขียวแต่ละแผ่นเผื่อจะคาดได้ว่ามันจะถูกนำไปใช้ทำอะไร เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

 

          “เหล่ย ฉันกำลังมาส์กหน้าอยู่ คุณมีเรื่องอะไรให้ผมทำอีกล่ะถึงได้โทรหาผม?” เสียงของฉิงเสวียงดังออกมาจากโทรศัพท์

 

          เซี่ยเหล่ยพูด “มีเรื่องบางอย่างที่ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

 

          “อะไรทำให้คุณพูดดีกับผมขนาดนี้ ? มีเรื่องอะไรล่ะ?”

 

          “สือจิงชิวอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เธอให้พิมพ์เขียวกับผมมา แต่ผมคิดว่ามันแปลกๆ…” เซี่ยเหล่ยเล่าเรื่องสั้นๆ

 

          “คุณจะให้ผมทำอะไร?”

 

          “ผมอยากให้คุณจับตาดูเธอไว้ คอยสังเกตดูว่าเธอติดต่อกับใครบ้าง”

 

          “คุณต้องการให้ผมจับตาดูเธองั้นหรือ ได้ ไม่มีปัญหา คุณส่งข้อความสั้นๆมาบอกที่อยู่ของเธอให้ผมแล้วกัน คุณมีอะไรจะพูดอีกไหม ถ้าไม่มีผมจะวางแล้วนะ ผมกำลังมาส์กหน้าอยู่และแผ่นมาส์กนี้มันแพงมากๆ” สุดท้ายฉิงเสวียงก็วางสายไปจริงๆ

 

          เซี่ยเหล่ยอึ้งจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้.....

 

          ติดตามตอนต่อไป.....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด