ตอนที่แล้วTWO Chapter 70 สนใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 72 โจรสลัด ตอนที่ 2

TWO Chapter 71 โจรสลัด ตอนที่ 1


TWO Chapter 71 โจรสลัด ตอนที่ 1

ไกอาปีที่ 1 เดือนที่ 2 วันที่ 24

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นตี่เฉิน ในการเป็นลอร์ดคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 รางวัลพิเศษ : คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นตี่เฉิน ในการเป็นลอร์ดคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 รางวัลพิเศษ : คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นตี่เฉิน ในการเป็นลอร์ดคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 รางวัลพิเศษ : คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”

มีเสียงประกาศจากระบบดังขึ้น หลังจากที่โอหยางโชวล็อกอินเข้าเกมส์

เพียง 10 วัน หลังจากที่ซานไห่อัพเกรด ในที่สุดตี่เฉินก็อัพเกรดดินแดนของเขาตามมาเป็นลำดับที่ 2 นี่เป็นการแสดงถึงพลังอำนาจของเขา เขาปกป้องชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาในฐานะผู้นำของ 6 ทรราชย์แห่งหานตาน แม้ว่ายุคของ 6 ทรราชย์แห่งหานตานจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม

เมื่อไม่มีเงื่อนไขในเรื่องดัชนี ก็จะไม่มีอุปสรรคใดๆอีกสำหรับเมืองหานตาน ที่จะอักเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 ถ้าตี่เฉินทุ่มเทมากขึ้น แน่นอนว่าเขาสามารถไล่ตามโอหยางโชวและเมืองซานไห่ของเขาได้ หรือเขาอาจจะสามารถแซงหน้าเมืองซานไห่เป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 ได้ก่อนก็ได้

แน่นอนโอหยางโชวจะไม่ยอมให้ตี่เฉินทำลายแผนการสำหรับเมืองซานไห่ของเขาเขายังคงฝึกฝนหอกและปาจีฉวนตามปกติ

เวลา 15.00 น. ก็มีรายงานจากฝ่ายข่าวกรอง สานโก่วฉีเข้ามาในสำนักงานของเขา เพื่อรายงานด้วยตัวเอง

เขารายงานด้วยความกังวล “นายท่าน ในที่สุดเราก็พบค่ายโจรแห่งใหม่”

“เยี่ยม! มันอยู่ที่ไหน?” โอหยางโชวรีบถามอย่างตื่นเต้น

“เอ่อ...นายท่าน, มันอยู่ในสถานที่ที่นายท่านคงคาดไม่ถึง ครั้งนี้ ค่ายโจรอยู่บริเวณต้นน้ำของแม้น้ำมิตรภาพ เราต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการค้นหาที่ตั้งของค่ายนี้”

ดวงตาของโอหยางโชวส่องประกาย “เจ้าจะบอกว่าพวกมันเป็นโจรสลัดงั้นหรือ? แล้วพวกมันมีจำนวนเท่าใด”

“ตามรายงานค่ายของพวกมันมีพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร สำหรับจำนวนของพวกมันนั้นข้ายังไม่ทราบ แต่ข้าได้ส่งคนไปตรวจสอบดูแล้ว พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับข้อมูลโดยละเอียดภายใน 2 วันหรือมากกว่านั้น” สานโก่วฉีตอบด้วยเสียงต่ำ เขารู้สึกอับอายในรายงานของหน่วยข่าวกรองในครั้งนี้ การรายข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ต่อผู้บัญชาการ เป็นข้อห้ามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝ่ายข่าวกรอง

รายงานของสานโก่วฉีทำให้โอหยางโชวขมวดคิ้ว หากไม่มีรายระเอียด เขาก็ไม่สามารถวิเคราะห์สถานะการณ์ได้มากนัก จากขนาดของค่าย ภายในคงมีคนประมาณ 1000 คน และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ค่ายตั้งอยู่ในที่สูง แต่สิ่งที่เขางงงวยก็คือ ด้วยจำนวนโจรสลัดมากขนาดนี้ ทำไม่พวกเขาไม่บุกโจมตีซานไห่? หากพวกเขาต้องการ กระแสของสงครามย่อมอยู่ข้างพวกเขา

“ฝ่ายข่าวกรองควรปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด เมื่อตอนที่มันถูกก่อตั้งขึ้น ข้าเคยกล่าวไวว่า ‘ความรับผิดชอบสูงสุดของฝ่ายข่าวกรองก็คือ การตรวจสอบภัยคุกคาม และแหล่งที่มาของมันโดยละเอียด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะมาถึง’ แต่พวกเจ้ากลับเพิ่งมาพบภัยคุกคามขนาดใหญ่เอาป่านนี้ เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก”

“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง นายท่านโปรดลงโทษข้าด้วย”

“จะมีการลงโทษเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ พวกโจรสลัดคงมีเป็นจำนวนมาก และมันจะเป็นภัยคุกคามต่อเมืองของเรา ดังนั้น พวกเราต้องกำจัดพวกมันโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือของเมืองซานไห่ยังไม่พร้อมที่จะรบทางน้ำ นี่เป็นเวลาสำคัญที่ฝ่ายของเจ้าจะแสดงความสามารถ รีบไปสืบหาข้อมูลทุกอย่างของพวกโจรสลัดมาโดยละเอียด ข้าอยากรู้ว่าทำไมพวกมันถึงยังไม่บุกโจมตีเรา มิฉะนั้น หากเรายังตาบอกขาดข้อมูลเช่นนี้ มันจะทำให้เราไม่เหลืออะไร นอกจากความตายของพวกเรา” โอหยางโชวรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้คือ ข้อมูลจากฝ่ายข่าวกรอง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะลงโทษ

สานโก่วฉีพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วตอบเสียงดังว่า “ขอบคุณนายท่าน! สำหรับการให้ข้าและฝ่ายข่าวกรองได้มีโอกาสชดใช้ความผิด ข้าขอสัญญาด้วยชีวิตของข้า ถ้าข้าทำมันไม่เป็นที่น่าพอใจ ข้าจะมอบหัวของข้าให้กับนายท่าน!”

“ข้าจะรอข่าวดีจากเจ้า ตอนนี้ไปได้แล้ว แล้วจำไว้ว่า เจ้ามีเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น” โอหยางโชวให้เวลาเขา 3 วัน การตรวจสอบก่อนหน้านี้อาจเป็นการแจ้งเตือนพวกโจรสลัด ถ้าพวกมันมีเวลาเตรียมตัว มันจะเป็นเรื่องยากอย่างมากที่พวกเขาจะเอาชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ได้

“ขอรับ นายท่าน!”

หลังจากสานโก่วฉีออกไป โอหยางโชวก็เรียกเจ้ากรมทั้ง 3 มาที่สำนักงานของเขา จากนั้นเขาก็ประกาศให้เมืองซานไห่เข้าสู่สภาวะการแจ้งเตือนระดับ 1 กิจกรรมและการเคลื่อนไหวนอกเมืองจะถูกจำกัด เคอร์ฟิวจะถูกประกาศใช้ในเวลากลางคืน

วันที่ 26 กุมพาพันธ์ ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับค่ายของพวกโจรสลัดก็ถูกรายงานต่อโอหยางโชว ผู้ที่ให้ข้อมูลกับเขาได้รับความเสี่ยงอย่างมาก เขาต้องดำน้ำผ่านแม่น้ำมิตรภาพ ไปยังที่ตั้งของค่ายเพื่อตรวจสอบข้อมูลโดยระเอียด ในค่ายมีคนมากกว่า 900 คน ในหมู่คนพวกนั้น 500 คน เป็นนักรบ ซึ่งมากพกที่จะก่อตั้งกองพันได้ ในจำนวน 500 คนนี้ 400 คน เป็นโจรสลัดธรรมดา และโจรสลัดชั้นสูง 110 คน

มีผู้นำ 3 คน ได้แก่ มังกรดำ อสรพิษน้ำ และเผ่ยตงหลาย(Pei Donglai) ผู้นำลำดับที่ 3 เผ่ยตงหลายเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด ว่ากันว่า เขาเคยเป็นนายทหารเรือ ซึ่งเคยถูกมังกรดำช่วยชีวิตไว้ แล้วถูกนำตัวกลับมาที่ค่าย มีความชำนาญในการฝึกอบรมทหารเรือ จากนั้นไม่นาน เขาก็ได้กลายเป็นผู้นำลำดับที่ 3 ของพวกโจรสลัด

แต่มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่ถูกเปิดเผย มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายใน มีการเผชิญหน้าระหว่างอสระพิษน้ำและเผ่ยตงหลาย เขาไม่พอใจกับการที่เผ่ยตงหลายมีอำนาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันมีผลต่ออำนาจและผลประโยชน์ของเขา เขารวบรวมกองกำลังของเขา แล้วอ้างว่าเผ่ยตงหลายนั้นเป็นทหาร และกำลังรวบรวมคนเพื่อก่อกบฏ เขาได้ขอให้มังกรดำช่วยเขากำจัดเผ่ยตงหลายด้วย

อย่างไรก็ตามเผ่ยตงหลายก็ยังคงมีผู้สนับสนุนตัวเขา เกือบครึ่งหนึ่งของพวกโจรสลัดประหลาดใจกับความสามารถในการฝึกอบรมของเผ่ยตงหลาย พวกเขาจึงยืนข้างเผ่ยตงหลาย ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้าและประนามกันดั่ง น้ำกับไฟหรือแมวกับหมา มังกรดำพยายามอย่างที่สุดเพื่อลดความขัดแย้งของพวกเขา และพยายามสร้างความปรองดอง แต่ก็ไม่ได้ผล ในขณะที่สิ่งต่างๆกำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว  สงครามของทั้ง 2 ฝ่าย ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเขาได้ข้อมูลเหล่านี้มาอยู่ในมือ โอหยางโชวก็รู้สึกตื่นเต้นป็นอย่างมาก ในทันที เขาเลื่อนขั้นให้กับทหารกล้าของฝ่ายข่าวกรอง พร้อมมอบเงิน 5 เหรียญทองเป็นรางวัล

เขารู้ว่ากุญแจสำคัญในการจัดการพวกโจรสลัดครั้งนี้ คือ เผ่ยตงหลาย แต่เขาจะทำอย่างไร? เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เขาต้องหาคำตอบ ในขณะนี้ เขาตระหนักถึงความสำคัญและความต้องการนักวางกลยุทธ์

เขาไม่มีทางเลือก เขาจึงเรียกฟ่านจงหยานมาที่สำนักงานของเขา เขาอยากจะฟังความเห็นของฟ่านจงหยาน หลังจากที่เห็นฟ่านจงหยานได้ให้คำแนะนำในครั้งก่อน

เขาพูดสั้นๆเกี่ยวกับค่ายโจรสลัดและข้อมูลที่เขามี “ท่านเจ้ากรมฟ่านพอจะมีแผนดีๆหรือไม่?” โอหยางโชวถาม

ฟ่านจงหยานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกมา “เผ่ยตงหลายมีพื้นเพเป็นทหาร ไม่แปลกเลยที่เขาและพวกโจรจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เมืองซานไห่เป็นดินแดนอย่างเป็นทางการ ถ้าข้าเป็นเผ่ยตงหลาย ข้าจะเลือกเมืองซานไห่เหนือค่ายโจรสลัด ดังนั้น นายท่านควรส่งคนไปหาเผ่ยตงหลาย แสดงให้เขาเห็นว่าเรามีความชอบธรรม แล้วสร้างความขัดแย้งขึ้นภายใน แล้วเราก็โจมตีจากภายนอก โจรสลัดทั้งหมดก็จะถูกกำจัดทิ้งในเวลาไม่นาน”

โอหยางโชวส่ายหัว “ข้าไม่คิดว่ามันจะง่ายเช่นนั้น มังกรดำเคยช่วยชีวิตเผ่ยตงหลายไว้ เขาคงจะไม่ทรยศผู้ที่เคยช่วยชีวิตเขาง่ายๆแน่ จากการต่อสู้ที่เกิดขึ้น เหตุผลที่เผ่ยตงหลายยังคงยืนอยู่ได้ก็เพราะมีมังกรดำให้การสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ดังนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะหันหลังให้กับคนที่ช่วยเหลือเขา อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้นี้”

ฟ่านจงหยานยิ้มอย่างลึกลับแล้วกล่าวว่า “ที่นายท่านกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว แต่จะเป็นเช่นไรหากจดหมายที่เราใช้ติดต่อกับเผ่ยตงหลายตกไปอยู่ในมือมังกรดำ? ด้วยบุคลิกที่ขี้ระแวงของพวกโจร เขาจะไม่ไว้ใจเผ่ยตงหลายอีกต่อไป จากนั้น เราจะบรรลุเป้าหมายของเรา เมื่อเผ่ยตงหลายเข้าร่วมกับเรา เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”

ด้วยความสัตย์จริง แผนของฟ่านจงหยานล่อใจโอหยางโชวอยู่ซักครู่ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยอมแพ้ แล้วกล่าวว่า “มันเป็นแผนที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้ามันเป็นไปตามแผนนี้จริงๆ เผ่ยตงหลายจะถูกบังคับให้ยืนข้างเรา แต่สุดท้ายแล้วเขาจะไม่เป็น 1 ในพวกเรา เขาไม่ได้เต็มใจที่จะอยู่กับเรา ข้าไม่ได้ต้องการแบบนั้น ข้ามั่นใจว่าท่านรู้ว่า ผู้บัญชาการกองทัพเรือนั้นสำคัญกับดินแดนของเรามากแค่ไหน”

ฟ่านจงหยานยิ้มแล้วกล่าวว่า “นายท่านคิดถึงพวกเรา ท่านเข้าใจในทางเลือกของกษัตริย์ หากในกรณีเช่นนี้ นายท่านต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย มันก็พอจะมีวิธีอยู่”

“ยังไงหรือ?”

“จากความสัมพันธ์ระหว่างอสรพิษน้ำและมังกรดำ อสรพิษน้ำเป็นผู้นำกลุ่มอาวุโสในค่าย พวกเขาไม่พอใจที่มังกรดำโปรดปรานเผ่ยตงหลายมากกว่า เราควรจะทำบางสิ่งในเวลาที่เหมาะสม ทำให้พวกเขาหันหลังให้กัน เมื่อนกปากช้อนและหอยต่อสู้กัน ซานไห่ก็เพียงชมการต่อสู้อยู่ในกำแพง แล้วกลายร่างเป็นชาวประมงไปเก็บเอากำไร”

โอหยางโชวพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ถ้าท่านมีแผนก็รีบแจ้งให้ข้ารู้เร็วเข้า”

“นายท่านจะต้องส่งสายลับที่มีความชำนาญและเชื่อถือได้ แอบเข้าไปในค่ายของพวกมัน กระจายคำพูดของอสรพิษน้ำ เกี่ยวกับการก่อกบฏและยึดอำนาจจากมังกรดำ เพื่อขึ้นเป็นผู็นำคนใหม่ของพวกเขา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำพูดเหล่านี้จะไปถึงมังกรดำ แม้จะเป็นที่น่าสงสัย แต่มันก็จะกระตุ้นความหวาดระแวงของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะพบว่ามันผิดปกติ พวกเขาก็ยังคงเลือกที่จะกำจัดอสรพิษน้ำ และเป็นเรื่องปกติที่อสรพิษน้ำจะไม่นั่งอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไร การต่อสู้ของทั้ง 2 ฝ่าย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้” ฟ่านจงหยานวิเคราะห์สถานะการณ์อย่างสงบ

“นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการจะดำเนินไปอย่างราบรื่น มี 2 สิ่งที่เราต้องทำ สิ่งแรกคือ ยกเลิกสภาวะการแจ้งเตือนระดับ 1 ของเมืองซานไห่ เพื่อให้พวกโจรสลัดลดความกดดันลง และลดยามของพวกเขาลง เพื่อที่พวกเขาจะมุ้งเน้นไปที่การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงอย่างเต็มที่ สิ่งที่ 2 คือ ดำเนินติดต่อกับเผ่ยตงหลายต่อไป แสดงความจริงใจและความปราถนาดีของพวกเราต่อเขา ในขณะที่เขาอยู่ห่างจากสนามรบ ความแข็งแกร่งของมังกรดำก็จะลดลง มันจะเป็นการรักษาสมดุลระหว่างสรพิษน้ำและมังกรดำ” ฟ่านจงหยานยังคงเพิ่มมาตรการเพิ่มอีก 2 ข้อ 1 ด้านใน 1 ด้านนอก เพื่อให้แผนการราบรื่นขึ้น

โอหยางโชวปรบมือ และยกย่องฟ่านจงหยาน ให้กับแผนการที่ยอดเยี่ยมของเขา “แผนของท่านช่างยอดเยี่ยม ค่ายของพวกมันคงจะถูกกำจัดในเวลาไม่นาน มีอีกสิ่งที่ข้าต้องการให้ท่านทำ คือการเขียนจดหมายถึงเผ่ยตงหลาย”

“ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”

หลังจากฟ่านจงหยานออกไป โอหยางโชวก็เรียกสานโก่วฉี และรองหัวหน้าฝ่ายคนใหม่เล้งเฉียน(Leng Qian)เข้ามา เขาชี้แจงเรื่องแผนการ “มันเป็นหน้าที่ของฝ่ายข่าวกรองในการดำเนินแผนการนี้ การคัดเลือกสายลับต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่เข้มงวด เขาต้องเชื่อถือได้ และมีความยืดหยุ่น”

สานโก่วฉีมองหน้ากับแล้วพยักหน้า

เล้งเฉียนลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ข้าจะเป็นคนแอบเข้าไปในค่ายด้วยตัวเอง และจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็สบายใจ” โอหยางโชวพยักหน้าด้วยความพอใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด