ตอนที่แล้วTWO Chapter 69 งานชุมนุม ตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 71 โจรสลัด ตอนที่ 1

TWO Chapter 70 สนใจ


TWO Chapter 70 สนใจ

เมื่อโอหยางโชวออกจากโรงแรม เขากำลังจะเดินไปที่อีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อเรียกแท็กซี่ แต่ทันใดนั้น รถเฟอรารี่สีแดงก็บีบแตรอยู่ด้านหน้าเขา

เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง เธอคือซ่งเจี๋ย เธอยิ้มแล้วกล่าวว่า “นายจะไปไหน? ขึ้นมาซิ เดี๋ยวฉันไปส่ง!”

โอหยางโชวไม่เข้าใจผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงแรมทำให้โอหยางโชวมั่นใจว่า ซ่งเจี๋ยสนใจในตัวเขา แต่ทำไม? เมื่อสมัยมัธยมต้น พวกเขานับได้ว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน แล้วเขาจะได้รับความสนใจจากผู้หญิงที่งดงามอย่างเธอได้ยังไง?

เมื่อเห็นเขาลังเล เธอจึงล้อเขาว่า “ทำไม? นายกลัวว่าฉันจะข่มขืนนายเหรอ”

โอหยางโชวทนฟังโดยไม่ตอบโต้ได้ เขาเปิดประตูและนั่งลงบนรถ แล้วกล่าวว่า “ฉันต้องกลัวด้วยเหรอ? ถ้ามีการข่มขืน มันคงเป็นฉันมากกว่าที่จะข่มขึนเธอ!”

ซ่งเจี๋ยหัวเราะคิกคัก เธอไม่ได้ถามถึงที่อยู่ของโอหยางโชวโดยตรง เธอขับออกไปบนถนนที่เต็มไปด้วยรถ

ในขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ทั้ง 2 ไม่ได้เจอกันนาน 7-8 ปี แต่ตอนนี้ทั้งคู่ได้อยู่ในพื้นที่แคบๆด้วยกัน พวกเขาไม่รู้จะพูดคุยอะไรกัน

โอหยางโชวหันหน้ามาทางซ่งเจี๋ย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย และเขาต้องการสอบถามรายละเอียดจากเธอ

การถูกจ้องมอกโดยโอหยางโชว ถึงแม้จะเป็นหญิงสาวที่งดงามอย่างซ่งเจี๋ยก็ไม่สามารถทนได้ ใบหน้าเธอเริ่มแดง เธอบ่นเขาว่า “นายมองอะไร มีอะไรรึเปล่า?”

“ฉันก็กำลังมองดูสิ่งที่สวยงาม เธอต้องการดูด้วยกันมั้ย?” โอหยางโชวยังคงจ้องมองต่อไป เขาไม่เชื่อว่า เขาจะไม่สามารถทำให้เธอแสดงสีหน้าที่แท้จริงออกมาได้

“นายเปลี่ยนไปมากจริงๆ” ซ่งเจี๋ยไม่ได้กังวลเรื่องการยอกล้อของโอหยางโชว

“หล่อมากขึ้นเหรอ?”

“ใช่, นายพอใจแล้วใช่มั้ย ฉันไม่ได้เจอนายตั้งหลายปี สรีระร่างกายของนายไม่เติบโตมากนัก แต่ผิวหน้าของนายเติบโตขึ้นอย่างมาก ฉันจำได้ว่านายไม่ได้เป็นแบบนี้ในการเจอกันครั้งล่าสุด” ซ่งเจี๋ยปิดปางขณะที่เธอหัวเราะเบาๆ

“เมื่อก่อนฉันเป็นยังไง? ฉันจำไม่ได้แล้ว” โอหยางโชวถาม

“นาย...อ่า, ให้ฉันคิดก่อนนะ ในความทรงจำของฉันในสมัยมัธยม นายเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อ เงียบ แต่ก็น่ารักมาก แล้วนายก็เย็นชานิดหน่อย และไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น”

“เอ่อ, ช่วยอย่าใช้คำว่าน่ารักบรรยายตัวฉันได้มั้ย” เมื่อได้รับคำชมจากสาวงาม โอหยางโชวก็รู้สึกดีใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถแสดงออกทางคำพูดของเขาได้

“ฮ่าๆ ในช่วงนั้นนายอายุ 13-14 ปี ในความทรงจำของฉัน นายน่ารักมาก”

“โอเค ฉันยอมแพ้ ถามจริงๆน่ะ เธอสนใจในตัวฉันใช่มั้ย?” โอหยางโชวพูดติดตลก

“ใช่ ในตอนนั้นฉันสนใจนาย”

“ห๊า?” ตาของโอหยางโชวเบิกกว้าง ปากของเขาอ้าด้วยความตกใจ “หยุดล้อเล่นเถอะ ที่โรงเรียนเธอเป็นดั่งเจ้าหญิง เธอสวยงามดั่งนกยูง มีคนที่คอยไล่ตามเธอทั่วทั้งโรงเรียน แล้วเธอจะมาสนใจเด็กหนุ่มที่ไม่น่าดึงดูดได้ยังไงกัน?”

ซ่งเจี๋ยยิ้มเล็กน้อย “เจ้าหญิงเองก็มองหาอัศวินขี่ม้าขาวของเธอน่ะ คนที่ไล่ตามฉันมีแต่พวกที่เต็มไปด้วยความต้องการทางเพศ พวกเขาน่ารำคาญมาก มีเพียงดวงตาของนายเท่านั้นที่บริสุทธิ์  ฉันรู้สึกว่าฉันหลงรักนาย นายจำวาเลนไทน์ปีนั้นที่นายได้รับช็อกโกแลตได้มั้ย? ฉันเป็นคนให้นายเองแหล่ะ”

“อ่า, ฉันกำลังคิดอยู่ว่าผู้หญิงคนไหนที่ให้ฉัน ทำไมเธอไม่เขียนชื่อไว้ล่ะ?”

“น่าเศร้า ฉันอายเกินไป จนกระทั่งพวกเราเรียนจบ ฉันก็ยังไม่กล้าสารภาพ”

“เธอสามารถทำมันได้ในตอนนี้ ฉันไม่ได้คิดมากอะไร” โอหยางโชวรู้ว่ารักแรกของวัยรุ่นมักเป็นความทรงจำที่ดี แต่ก็ไม่สามารถผ่านการทดสอบของเวลาได้ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นเพียงความทรงจำ ดังนั้น โอหยางโชวจึงกล้ากล่าวอย่างไร้ยางอายเช่นนี้

“นายทันเด็กดื้อ ฉันไม่ชอบคนขี้เกียจ” ซ่งเจี๋ยหวัเราะ

โอหยางโชวกุมมือที่หัวใจ เพื่อเลียนแบบท่าทางของสตีเฟ่นชอว์(Stephen Chow) แล้วกล่าวอย่างเศร้าๆว่า “ในอดีตมีรักที่บริสุทธิ์ต่อหน้าฉัน แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกถึงมัน จนกระทั่งฉันสูญเสียมันไป ฉันเสียใจจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเสียใจที่สุดในโลก...”

ซ่งเจี๋ยร่วมแสดงกับเขา เธอกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้าสวรรค์ประทานโอกาสในนายอีกครั้ง นายอยากจะพูดอะไรกับเด็กสาวคนนั้น?”

โอหยางโชวหันหน้าไปที่เธอ มองเข้าไปในตาของซ่งเจี๋ย เขากล่าวด้วยอารมณ์ลึกซึ้งว่า “ถ้าสวรรค์ให้โอกาสนั้นอีกครั้ง ฉันอยากจะบอกเด็กสาวว่า ฉันรักเธอ ถ้าฉันสามารถเพิ่มอายุความรักของเราได้ ฉันหวังว่ามันจะมีซัก 10000 ปี”

การมองด้วยความรู้สึกลึกซึ้งของเขา ทำให้ใบหน้าของซ่งเจี๋ยแดงขึ้น เธอหลบการจ้องมองของเขาอย่างงุ่มง่าม และหัวใจของเธอเต้นแรง แม้เธอจะรู้ว่าโอหยางโชวกำลังล้อเล่น เมื่อเขาพูดว่า ‘เขารักเธอ’ ออกมาจากปากของเขา ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกถึงมันจริงๆ

มีคนเคยกล่าวไวว่า คำว่ารักคำแรกนั้นหวานที่สุด แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี ความหวานนั้นก็ยังคงอยู่และไม่ได้จางหายไป

บรรยาากศในรถนั้นคลุมเครือ แม้แต่โอหยางโชวก็รู้สึกอัดอัด เมื่อเขากล่าว 3 คำนั้นออกไป ไม่รู้ทำไม หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาอย่างมาก เขาคิดว่าเขาคงได้รับผลกระทบทางอารมณ์

“อะแฮ่ม, ถ้าเธอสะดวก เธอช่วยไปส่งฉันที่ชุมชนเมฆขาวในเขตเทียนหยวนได้มั้ย? ตอนนี้ฉันพวกอยู่ที่นั่น” โอหยางโชวส่ายหัว เพื่อออกจากความรู้สึกนั้น แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อ

“ตกลง” ซ่งเจี๋ยหักพวกมาลัย แล้วหยิงโทรศัพท์ของเธอส่งให้โอหยางโชวในเวลาเดียวกัน

“อะไรเหรอ?”

“บันทึกเบอร์นายไว้” สาวงามบอก

“ตกลง” โอหยางโชวหยิงโทรศัพท์จากมือของเธอ และเขาได้สัมผัสกับปลายนิ้วที่บอบบางของซ่งเจี๋ยโดยไม่ตั้งใจ มันเหมือนแตะโดนกระแสไฟฟ้า เขารีบดึงมือกลับมาในทันที

หลังบันทึกเบอร์ของเขาเสร็จ เขาก็ส่งโทรศัพท์กลับไปให้ซ่งเจี๋ย นิ้วของพวกเขาสัมผัสกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ไม่เกินครึ่งชั่วโมง รถสปอร์ตสีแดงก็มาจอดหน้าประตูชุมชน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกลียดชังรถสปอร์ต ทำไมมันถึงได้วิ่งเร็วขนาดนี้

“ฉันมาถึงแล้ว”

“อืม, นายไม่คิดจะชวนฉันขึ้นไปหน่อยเหรอ?”

“ห๊า? ลืมมันเถอะ”

“ทำไม นายเก็บผู้หญิงไว้ในบ้านของนายเหรอ!”

“ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นล่ะ?”

“ฮ่าๆๆ ฉันแค่ล้อเล่น แล้วฉันจะติดต่อไป บ๊ายบาย”

“บ๊ายบาย”

ไม่ถูกต้องเลย เธอแกล้งฉันเหรอ? ฉันควรจะเป็นคนพูดคำเหล่านั้นไม่ใช่เหรอ? ขณะที่เขาจ้องมองรถสปอร์ตที่หลายลับตาไป หัวใจของโอหยางโชวก็สั่นสะท้าน มันไม่สามารถสงบลงได้

เมื่อเขามาถึงบ้าน ปิงเอ๋อก็วิ่งออกมาต้อนรับเขาอย่างมีความสุข โอหยางโชวยิ้มแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อย วันนี้พี่ชายไม่อยู่บ้าน น้องเป็นเด็กดีรึเปล่า?”

“อื้มมม ปิงเอ๋อเป็นเด็กดี”

“ดีมาก มาๆพี่จะให้รางวัลกับเธอ” โอหยางโชวถอดนาฬิกาอัจฉริยะออกจากข้อมือ และช่วยปิงเอ๋อใส่มัน ในสายตาของเขา มันเหมาะที่จะเป็นของเล่นของปิงเอ๋อ

เวลา 21.00 น. หลังจากปิงเอ๋อเข้านอน โอหยางโชวก็กลับไปที่ห้องของเขา แล้วล็อกอินเข้าสู่ระบบ

……………………………………………………………………………………………………………

หลังจากออนไลน์ เขาก็ได้ฝึกฝนหอกกับหุ่นนานกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเขาก็ได้ฝึกฝนปาจีฉวน ที่เขาเพิ่งเรียนรู้มาเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้เมืองซานไห่ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี สิ่งที่เขาต้องจัดการมีเพียงเล็กน้อย โอหยางโชวจึงใช้โอกาสจากช่วงเวลานี้ ในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้

แม้ว่าเขาจะดูเหมือนข้าราชการพลเรือน เขาวางตัวในฐานะนั้นตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อดำเนินงานต่างๆของดินแดน แต่ในความจริง เขายังคงมีการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่เช่นนั้น ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาคงไม่เลือกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

ด้วยความสัตย์จริง แม้บุรุษเช่นเขาจะไม่ร้อนแรง แต่เขาก็ต้องการพิชิตสนามรบ แม้ว่าเขาจะตกสู่การต่อสู้และความตาย เขาก็ไม่เสียใจ ความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับหลินยี่ เขายังคงอ่อนแอมากๆ เขายังไม่เหมาะสมที่จะเป็นแม่ทัพ ควรคุมกองทัพทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงต้องใช้เวลานี้ในการฝึกฝน

เมื่อถึงตอนเที่ยง โอหยางโชวเดินไปที่ภูเขาด้านหลังคฤหาสน์ เพื่อดูเหนียนทั้ง 2 ตัว ที่พักอาศัยอยู่ที่นั่น ตามตำนานเหนียนจะใช้ชีวิตอยู่ก้นมหาสุทร พวกมันจะขึ้นฝั่งในวันส่งท้ายปีเก่าเท่านั้น

โอหยางโชวไม่รู้ว่าตำนานนั้นเป็นจริงหรือมไม่ แต่มันเป็นความจริงที่เหนียนชอบกินปลาทะเล ดังนั้น กรมคลังวัสดุจึงได้จัดเตรียมปลาทะเลสด จำนวน 50 ตัว มาใชห้กับพวกมันในทุกๆวัน ดินแดนของเขาอยู่ใกล้ทะเล ทำให้การเลี้ยงเหนียนทั้ง 2 ตัวนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

กลับจากภูเขาด้านหลัง โอหยางโชวนำคันธนูออกมา แล้วขี่วายุดำออกไปที่นอกเมือง

เขตทุรกันดารในช่วงฤดูหนาวเป็นภาพที่เศร้าหมอง หญ้าป่าสีเหลืองเหี่ยวแห้งทั่วทั้งป่า ขณะที่โอหยางโชวขี่ม้าเขารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนกับว่าบนโลกนี้มีเพียงเขาเท่านั้น

ขณะที่กำลังขี่ม้า ในความคิดของโอหยางโชวซ่งเจี๋ยที่หันมองมาทางเขา แล้วยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเธอ ช่วยปลุกหัวใจของเขา จากนั้นเก็มีภาพของเสี่ยวเยว่ปรากฎขึ้นมา เขาประหลาดใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เด็กน้อยคนนี้ทิ้งความประทับใจไว้ในใจเขา

ถ้ามีคนสังเกตเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะเข้าใจได้เพียงอย่างเดียวว่า ฤดูใบไม่ผลิของโอหยางโชวได้มาถึงแล้ว

ในช่วง 5 ปี ในชีวิตที่แล้วของเขา โอหยางโชวไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหญิงสาวคนไหน ไม่ใช่ว่าไม่มีเด็กสาวไล่ตามเขา แต่เขาเลือกที่จะปฏิเสธพวกเธอทั้งหมด คนที่เพิ่งเจอกันจะบอกว่าตกหลุมรักได้ยังไง?

ในชีวิตนี้ การพัฒนาเมืองซานไห่เป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไม่คาดคิด มีสาวสวยเข้ามาในชีวิตของเขา ทำให้จิตใจเขาสงบ

เขาจำไม่ได้ว่า ในช่วงชีวิตก่อนของเขา เขาเคยพูดคุยกับซ่งเจี๋ยหรือไม่ ในอดีตเขาเป็นคนที่อ่อนล้า แม้ว่าเขาจะได้พบกับซ่งเจี๋ย เขาก็คงไม่กล้าที่จะล้อเธอเล่น เขาจำได้ว่า หลังจากงานชุมนุมครั้งนี้ เขาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนร่วมชั้นคนใด รวมถึงซ่งเจี๋ยอีกเลย

สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตวิ่งเข้ามาในใจเขา แต่มันไม่ได้ทำให้ความมุ่งมั่นของเขาลดลง ประสบการณ์ต่างๆเตือนว่า การปกครองจักรวรรดิ ไม่มีที่ว่างสำหรับความสะเพร่า ถ้าประเทศนี้เป็นของฉัน ทุกสิ่งที่ฉันต้องการก็จะเป็นของฉันเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด