ตอนที่แล้วบทที่ 83 วิธีการอันอำมหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 85 มาถึงหน้าประตู

บทที่ 84 เพื่อจิงสือ!  


 

จั่วม่อมองดูผิวสีทองเข้มที่ปกคลุมไปทั่วร่าง มันอดทดลองใช้นิ้วคีบดูไม่ได้

จริงดังที่คาดไว้ วัชรสูตรน้อยฉบับป้ายหินสุสานกับวัชรสูตรน้อยฉบับที่มันฝึกปรือ มีกลไกการทำงานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉบับที่มันฝึกปรือผิวจะเปล่งประกายสีทองสดใส ส่วนฉบับป้ายหินผิวจะเป็นสีทองเข้มคล้ำกว่า ผิวสีทองสดใสเมื่อทดลองหยิกด้วยนิ้วให้ความรู้สึกแข็งกระด้างดุจเหล็กกล้า ในขณะที่ผิวสีทองเข้มเหมือนแผ่นหนังสัตว์ผสานโลหะ แฝงความหยุ่นเหนียวไว้ภายใต้ความแข็งกร้าว

ค่ายกลรวบรวมปราณบนจี้หยกมีประโยชน์ใช้สอยอย่างยิ่งสำหรับจั่วม่อ ทำให้ปราณธรรมชาติรอบบริเวณหนาแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลดีมากต่อการฝึกปรือวัชรสูตรน้อยฉบับป้ายหินสุสาน

จั่วม่อเมื่อรู้สึกถึงความแตกต่างของวัชรสูตรน้อยทั้งสองฉบับ มันตัดสินใจมุ่งมั่นฝึกปรือวัชรสูตรน้อยฉบับป้ายหินสักระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยพิเคราะห์ความแตกต่างอีกที มันสังหรณ์ว่าป้ายหินสุสานอันลึกลับไม่สมควรธรรมดาสามัญ

ในทะเลแห่งจิตสำนึกของมัน ผูเยายังคงนิ่งสนิทดังเดิม ป้ายหินสุสานก็เงียบกริบเสมือนตาย และเปลวเพลิงยังคงอ่อนโรย

อย่างไรก็ตาม ระยะนี้สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของจั่วม่อมากที่สุด คือครรภ์โอสถในบ่อน้ำพุปราณเกือบจะให้กำเนิดโอสถปราณสำเร็จแล้ว เม็ดยาชุ่มชื้นของผู้อาวุโสเว่ยหนานนี้ เป็นเม็ดยาชนิดแรกที่จั่วม่อทดลองหลอมกลั่นขึ้นมาด้วยวิธีหลอมกลั่นด้วยน้ำ มันย่อมตึงเครียดอยู่บ้าง โชคยังดีที่ไม่มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการ สุดท้ายเม็ดยาชุ่มชื้นก็ประสบผลสำเร็จ

จั่วม่อพินิจพิเคราะห์เม็ดยาชุ่มชื้นอย่างระมัดระวัง โอสถปราณชนิดนี้ราวกับไข่มุกสีชมพู น่ารักน่าหลงใหล เม็ดยาชุ่มชื้นนับเป็นโอสถปราณที่อิสตรีนับไม่ถ้วนล้วนถวิลหา  จั่วม่อเคยลองสอบถามราคาขายมาบ้าง เม็ดยาชุ่มชื้นอันเป็นโอสถปราณระดับหนึ่ง ดังเช่นเม็ดที่อยู่ในมือมันตอนนี้ หนึ่งเม็ดมีค่าเท่ากับหนึ่งชิ้นจิงสือระดับสาม

ราคานี้เหนือล้ำกว่าราคาของโอสถปราณระดับหนึ่งทั่วไปแทบทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาเหมาะสมที่จะขายเม็ดยาชุ่มชื้น มันยังคงหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากไข่มุกหยิน และคาดว่าอีกนานกว่าความกลัวนี้จะบรรเทาลง เป็นเรื่องยากที่จะปัดความกลัวฝังใจออกไปให้หมดสิ้น เมื่อขบคิดว่าเหตุการณ์นี้อึกทึกครึกโครมเพียงใดในตงฝู มันเกรงว่าจะมีคนติดตามร่องรอยการซื้อหาวัตถุดิบของมันในวันนั้น การนำเม็ดยาชุ่มชื้นออกขายในเวลานี้ นับเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง

พลังอำนาจของมันยังคงอ่อนแอยิ่ง

จะอย่างไร การหลอมกลั่นเม็ดยาชุ่มชื้นคราวนี้ก็เท่ากับเป็นการฝึกปฏิบัติทางหนึ่ง วิชาหลอมกลั่นเป็นแขนงวิชาที่ต้องการประสบการณ์ฝึกปฏิบัติปริมาณมหาศาลอยู่แล้ว

อินกุยได้ออกอากาศข่าวคราวในอาณาจักรนภาจันทร์อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเหตุการณ์วุ่นวายในตงฝูก็ดำเนินมาถึงจุดจบ มีข่าวว่าเหล่ายอดฝีมือจากอาณาจักรคลื่นเรืองรองค่อยๆ ทยอยเดินทางกลับไป เนื่องเพราะหลังจากสืบเสาะมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง กลับค้นไม่พบร่องรอยใดๆ แม้แต่น้อย ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้เอง รอบๆ ตงฝูเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงหลายครั้ง ผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก หลังจากความขัดแย้งที่ระเบิดขึ้นอย่างฉับพลันเหล่านี้ สถานการณ์วุ่นวายในตงฝูจู่ๆ ก็สงบลง จั่วม่ออดคิดไม่ได้ว่าต้องมีเรื่องใหญ่โตบางอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลัง

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ซิวเจ่อด่านจู้จีอย่างมันจะสามารถทำความเข้าใจได้

การฟังอินกุยนอกจากจะเป็นกิจวัตรประจำวันของจั่วม่อแล้ว มันยังติดตามให้ความสนใจการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ระยะนี้ราคาของพืชหญ้าสมุนไพรปราณทุกชนิดในท้องตลาด ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังส่งผลให้ราคาของโอสถปราณทะยานขึ้นเช่นกัน

หากเป็นเมื่อก่อน จั่วม่อจะมีความสุขกับข่าวนี้อย่างแน่นอน นี่เป็นช่วงเวลาที่เกษตรกรปราณสามารถมีบทบาทสำคัญ

ในฐานะเกษตรกรปราณผู้หนึ่ง ความสามารถของมันในการปลูกพืชปราณเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มันเข้าสู่ด่านจู้จี จนถึงตอนนี้ ลำพังมันผู้เดียว ก็สามารถดูแลทุ่งปราณได้มากกว่าศิษย์ฝ่ายนอกยี่สิบคนรวมกันเสียอีก นอกจากนี้ ผลผลิตที่ได้รับยังเป็นคนละระดับกันอย่างสิ้นเชิง ในทางตรงกันข้าม มันยังสามารถจัดการการเพาะปลูกที่จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่อย่างเข้มงวด และสามารถปลูกสายพันธุ์พืชปราณระดับสูงขึ้นได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นด้านไหน มันก็อยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจมาก

ประการแรกคือเรื่องทุ่งปราณ สำนักกระบี่สุญตาไม่ได้มีพื้นที่ทุ่งปราณระดับต่ำมากมายกระไรนัก และโดยทั่วไปได้ถูกแบ่งให้แก่เหล่าศิษย์ฝ่ายนอกทั้งหลายเช่าไปเกือบทั้งหมด หากจั่วม่อต้องการเช่าทุ่งปราณ ก็จำเป็นต้องบีบศิษย์ฝ่ายนอกออกไปเป็นจำนวนมาก มันเมื่อมีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งกับชีวิตอันลำบากตรากตรำของศิษย์ฝ่ายนอก จั่วม่อย่อมไม่มีวันกระทำเรื่องเช่นนี้

และพื้นที่ทุ่งปราณที่ระดับสูงขึ้นมาอีกหน่อย สำนักได้มอบให้แก่เรือนขิงหอมไปทั้งหมด หรือจะให้จั่วม่อทดลองแย่งชิงทุ่งปราณจากมือซือฟู่ของมันดู?

แค่คิดก็แข้งขาอ่อนยวบแล้ว

ทุ่งปราณระดับสามจำนวนยี่สิบหมู่ในหุบเขาลมตะวันตก จั่วม่อเคยคิดว่าช่างมากมายนัก แต่บัดนี้มันกลับรู้สึกว่านี่ไม่มากพอ แต่ในสำนักก็มีพื้นที่ทุ่งปราณเพียงเท่านี้ ไม่มีทางขยับขยายออกไปรอบข้างได้อีก สำนักกระบี่สุญตาไม่ใช่สำนักที่มีชื่อเสียงด้านเกษตรกรรม เผยเหยียนหรานกับเหล่าผู้อาวุโสไม่เคยคิดว่าสำนักจะให้กำเนิดเกษตรกรปราณขึ้นมาคนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ราคาตลาดของวัสดุต่างๆ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จั่วม่อมองเห็นแต่ผลกำไรมหาศาล อ้า นี่มันจิงสือทั้งนั้น!

แต่ภรรยาผู้ปราดเปรื่องยังต้องสะดุดหากไม่มีข้าวสาร* เมื่อปราศจากทุ่งปราณ จั่วม่อก็ไม่มีสิ่งใดเลย ความสามารถของมันไม่มีที่ให้แสดงออกมาได้

(*อุปมาว่าถ้าไม่มีวัตถุดิบที่ดีก็ไม่อาจทำงานได้ดี)

ดูท่ามันจำเป็นต้องหาทุ่งปราณสักผืนหนึ่งแล้ว จั่วม่อตกลงใจ

ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลกลใด จั่วม่อมักมีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะวาจาที่ผูเยาเคยกล่าวลอยๆ ‘สงครามกำลังจะอุบัติขึ้น’ หรือบางทีมันอาจจะคิดมากเกินไป ผูเยา เจ้าวัตถุโบราณเก่าแก่นั่น นั่นไม่ใช่หนแรกที่เจ้าผู้นี้กล่าวเรื่องเหลวไหลไร้สาระ แต่ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง จั่วม่อยังคงตัดสินใจที่จะยกระดับพลังบำเพ็ญเพียรให้เร็วที่สุด

ตลอดมาเนื่องเพราะมีเส้นชีพจรปราณปฐพีในห้องศิลา จั่วม่อไม่เคยคิดใช้วิธีการอื่นเพื่อเร่งพัฒนาพลังบำเพ็ญเพียรของมันมาก่อน กระทั่งข้าวปราณที่ได้รับจากสำนักทุกเดือน มันยังขายทิ้งแลกเป็นจิงสือเสียเลย มิหนำซ้ำมันยังไม่เคยคิดหลอมกลั่นโอสถปราณที่เอื้อประโยชน์ต่อการบำเพ็ญเพียร แต่มักจะเลือกโอสถปราณที่ขายได้ง่ายและทำกำไรได้มากกว่า

หากจะว่าไป มันก็ไม่ได้ร่ำเรียนวิชาหลอมกลั่นมานานเท่าใดนัก หัวข้อนี้สำหรับมันนับว่ายากเย็นไม่น้อย ไว้มีเวลาว่างเมื่อใด เห็นทีต้องศึกษาเรื่องนี้ดูบ้าง จั่วม่อคิด

แต่ตอนนี้มันห่วงปัญหาเร่งด่วนเรื่องจิงสือมากกว่า มันจำเป็นต้องใช้จิงสือ!

ด้านหนึ่งจั่วม่อหวังจะช่วยเหลือผูเยา ส่วนอีกด้านหนึ่ง จะมีอะไรที่เจ็บปวดไปกว่าการเฝ้ามองโอกาสทำกำไรร่ำรวยหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาอีกเล่า? นี่ไม่เท่ากับเพียงเฝ้ามองกองทัพจิงสือพร้อมจ่าย เดินขบวนผ่านหน้ามันไปอย่างเหี้ยมหาญหรอกหรือ?

คำสั่งห้ามของซือฟู่ดังก้องอยู่ในโสตประสาท อย่างไรก็ตาม จั่วม่อยังคงฝืนต้านทานอย่างกล้าหาญและมุ่งตรงไปยังเรือนขิงหอม มันเมินเฉยต่อสายตาประหลาดใจของสวี่ฉิงกับเหล่าศิษย์สตรีคนอื่นๆ อย่างน้อยบนฉากหน้าจั่วม่อก็ไม่ได้แสดงความขลาดอายออกมาแม้แต่น้อย เวลานี้มันนับเป็นลำดับแรกในเรือนขิงหอม อยู่ใต้ซือฟู่ของมันเพียงผู้เดียว ดังนั้นย่อมไม่มีผู้ใดกล้าขวางมัน

ข้ายอมถูกลงโทษ!

จั่วม่อน้ำตาไหลพราก ขณะเริ่มหลอมกลั่นเม็ดยาอีกาทองคำ

เวลานี้พลังบำเพ็ญเพียรของมันลึกล้ำกว่าเดิม ซ้ำยังเพิ่มค่ายกลหัวใจจักรพรรดิเพลิงบนจี้หยก ประสิทธิภาพในการหลอมกลั่นเม็ดยาอีกาทองคำของมัน เป็นที่น่าสะพรึงกลัวมาก!

เมื่อจั่วม่อผู้ซึ่งสองตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด นำเม็ดยาอีกาทองคำจำนวนมากมาพบหลี่อิงฟ่ง หลี่อิงฟ่งถึงกับผวา นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยถามว่า “ศิษย์น้อง ไม่ใช่ว่าอาจารย์อาหญิงสั่งห้ามเจ้าหลอมกลั่นหรอกหรือ?”

จั่วม่อฝืนยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าไม่มีจิงสือ!”

หลี่อิงฟ่งเผยสีหน้าเข้าอกเข้าใจในทันที นางไม่ถามอะไรอีก พยักหน้าแล้วกล่าว “เม็ดยาอีกาทองคำชุดนี้คงขายได้ง่าย ข้าสามารถจ่ายจิงสือให้เจ้าก่อนเลย”

“ขอบคุณมาก ศิษย์พี่หญิง!” จั่วม่อซาบซึ้งมาก

หลี่อิงฟ่งกล่าวปนหัวร่อ “แต่เมื่ออาจารย์อาหญิงกลับมา แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถหนีพ้นจากการลงโทษ”

จั่วม่อยักไหล่อย่างอับจนปัญญา “ข้าไม่มีทางเลือก ก็คงต้องทนเท่านั้น!” หลังจากขบคิดแวบหนึ่ง มันตัดสินใจกล่าวเตือนหลี่อิงฟ่ง “ศิษย์พี่หญิง ระยะนี้อย่าลืมซื้อวัตถุดิบสะสมไว้บ้าง”

หลี่อิงฟ่งมองจั่วม่ออย่างตกใจ จากนั้นพลันแย้มยิ้ม “นึกไม่ถึงว่าศิษย์น้องจะกังวลสนใจกับธุรกิจการค้าด้วย อืม ศิษย์น้องไม่ต้องวิตกมากเกินไป สำนักทยอยกักตุนวัตถุดิบไว้มากพอแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุดิบสำหรับหลอมกลั่นโอสถ ซือฟู่ข้าได้เริ่มสะสมมาเป็นเวลานานแล้ว”

จั่วม่อค่อยโล่งอก นั่นก็ถูกต้องแล้ว ปัญหาที่กระทั่งมันยังเล็งเห็น บุคคลอันปราดเปรื่องเยี่ยงอาจารย์ลุงหยานเล่อ ไฉนจะผิดพลาดได้?

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลของสำนัก จั่วม่อในใจรู้สึกมั่นคงขึ้นมาหน่อย

หลี่อิงฟ่งจ่ายให้แก่มันยี่สิบชิ้นจิงสือระดับสาม เมื่อถือความมั่งคั่งจำนวนมหาศาลนี้ จั่วม่อกลับไม่รู้สึกยินดีมากนัก มันรู้สึกเวลากระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ รีบเร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ราคาวัสดุในท้องตลาดได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง! นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนมาก

ใช่แล้ว ต้องรีบมอบจิงสือให้แก่ผูเยาก่อน? จั่วม่อกัดฟัน ถูกแล้ว ให้ผูเยาก่อน แต่แล้วทันใดนั้น มันก็ชะงัก เบิกตาค้าง แล้ว...จะมอบให้แก่ผูเยาด้วยวิธีใด?

ปกติผูเยาจะเป็นคนลงมือเอง และปล้นจิงสือไปจากมันเอง จั่วม่อกลับไม่มีหนทางนำจิงสือเข้าไปในจิตสำนึกของตัวเอง

ผูเยา... นี่ไม่ใช่ว่าเกอไม่อยากมอบให้เจ้าใช้...

จั่วม่อในใจรู้สึกอุ่นใจ เก็บจิงสือไปโดยเร็ว หลังจากขบคิด มันตัดสินใจหาเช่าพื้นที่ทุ่งปราณ

เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ อาณาจักรนภาจันทร์เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเพาะปลูกพืชปราณ ดังนั้นมีพื้นที่ท้องทุ่งปราณจำนวนมาก แต่ท้องทุ่งปราณมากมายเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท้องทุ่งปราณตั้งแต่ระดับสามขึ้นไป มักขาดแคลนผู้คนที่สามารถดูแลพวกมัน ควรทราบว่าสำหรับทุ่งปราณระดับสามหรือสูงกว่า ต้องการซิวเจ่อผู้เชี่ยวชาญในเชิงเกษตรกรรมเป็นผู้ใช้งาน มิเช่นนั้นก็จะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรมากเกินไป ซิวเจ่อทั่วไปไม่สามารถจ่ายค่าเช่าราคาแสนแพงนี้ได้ อาณาจักรนภาจันทร์เป็นดินแดนแห่งเซียนกระบี่ มีจำนวนเกษตรกรปราณน้อยนิดจนน่าเวทนา ดังนั้นจึงมีท้องทุ่งปราณว่างเปล่ามากมาย

เจ้าของทุ่งนาปราณเบื้องหน้าจั่วม่อกล่าววาจาเจื้อยแจ้ว “อย่าได้กังวล ข้าจะไม่คดโกงเจ้า ทุ่งนาปราณแห่งนี้แม้ไม่ใหญ่โต แต่ปราณธรรมชาติหนาแน่นสมบูรณ์ พื้นที่ตลอดทั้งผืนเป็นระดับสามทั้งหมด อากาศชุ่มชื้นมาก แสงแดดส่องถึงตลอดวัน เหมาะที่จะปลูกพืชหญ้าสมุนไพรปราณทุกชนิด ถ้าจะใช้แค่ปลูกข้าวปราณก็น่าเสียดาย”

“ปีละเท่าใด?” จั่วม่อถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“สิบห้าชิ้นจิงสือระดับสาม” อีกฝ่ายตอบอย่างเด็ดขาด

“ตกลงตามนั้น!” จั่วม่อผู้กำลังถุงเงินโป่งพองตอบรับทันควันอย่างไม่เกี่ยงงอน มันต้องการประหยัดเวลาให้มากที่สุด

ท้องทุ่งปราณระดับสาม พื้นที่สองร้อยหมู่ มากพอให้มันทำงานได้เต็มที่! เวลานี้เมื่อทุ่งปราณก็เช่ามาแล้ว ต่อไปก็เป็นคำถามว่าจะปลูกอะไรดี และเนื่องเพราะนี่เป็นพื้นที่ทุ่งปราณขนาดใหญ่ถึงสองร้อยหมู่ มันย่อมไม่สามารถใส่ใจระมัดระวังได้มาก เหมือนที่มันทำกับทุ่งปราณในหุบเขาลมตะวันตกของมัน โชคยังดีที่ทุ่งปราณแห่งนี้ไม่ไกลจากสำนักกระบี่สุญตาเท่าใด

ประหยัดเวลา...

จั่วม่อตาแดงก่ำด้วยเส้นเลือด ความมุ่งมั่นถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่

สุดท้ายจั่วม่อเลือกพืชหญ้าที่เรียกว่าบุปผาแดงคะนอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทั่วไปในโอสถปราณรักษาฟื้นฟูหลายชนิด มิหนำซ้ำมันยังโตเร็วมาก ระยะเก็บเกี่ยวสั้นและขายง่าย เหมาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ในตอนนี้

จั่วม่อปลูกบุปผาแดงคะนองทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดสิบหมู่!

อีกยี่สิบหมู่ที่เหลือ มันปลูกสมุนไพรปราณที่หายากอยู่บ้าง จำนวนสามชนิด พืชหญ้าสมุนไพรปราณในส่วนนี้ มีไว้เพื่อเป็นวัตถุดิบในการเร่งความเร็วบำเพ็ญเพียรของมัน

กล่าวถึงการเร่งความเร็วบำเพ็ญเพียร มีวิธีการมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับจิงสือ ในจำนวนทั้งหมด วิธีที่ดีที่สุดคือสูบกลืนพลังปราณที่อยู่ภายในจิงสือโดยตรง นี่สามารถเร่งความเร็วบำเพ็ญเพียรได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้จำเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความรุนแรงตามธรรมชาติของพลังปราณในจิงสือ เมื่อเทียบกันแล้ว จั่วม่อคิดว่าสำหรับมัน วิถีทางที่อาศัยการหลอมกลั่นโอสถดูเหมือนจะเหมาะสมและทำได้จริงมากกว่า

เวลานี้สิ่งที่มันสามารถหลอมกลั่นได้ ส่วนใหญ่เป็นโอสถปราณระดับหนึ่งและระดับสอง โอสถปราณระดับหนึ่งอัตราความสำเร็จสูงมาก ส่วนโอสถปราณระดับสอง นี่ยากที่จะกล่าวถึงอัตราความสำเร็จ

สำหรับโอสถปราณระดับต่ำเช่นนี้ มีน้อยชนิดมากที่สามารถเร่งการบำเพ็ญเพียรได้โดยตรง เนื่องจากโอสถปราณระดับต่ำย่อมหลอมกลั่นจากวัตถุดิบที่เป็นเพียงพืชหญ้าสมุนไพรปราณระดับต่ำเช่นกัน ผลลัพธ์ของพวกมันจึงมีข้อจำกัดมาก อย่างไรก็ตาม จั่วม่อสามารถหาสิ่งที่มันต้องการได้จำนวนหนึ่งจากห้องตำราหลอมกลั่นในเรือนขิงหอม อย่างเช่นเม็ดยาเสริมสร้างกระดูก ใช้เพื่อแปรสภาพเลือดเนื้อ และเม็ดยาขจัดใจมาร และอื่นๆ ใช้สำหรับกำจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย สรรพคุณของเม็ดยาอันกำกวมเหล่านี้ไม่ค่อยมีความสำคัญนัก ประสิทธิผลของพวกมันจึงไม่ถูกจัดลำดับความสำคัญโดยเหล่าเซียนกระบี่

อย่างไรก็ตามจั่วม่อไม่มีช่องทางให้เลือกมากนัก

เม็ดยาเสริมสร้างกระดูกกับเม็ดยาขจัดใจมาร แม้ว่าจะไม่มีสรรพคุณใหญ่โตอันใด แต่จั่วม่อคิดใช้ร่วมกับวัชรสูตรน้อย อาจได้ผลลัพธ์ที่ดีบางอย่าง นอกจากนี้ อีกชนิดหนึ่งที่มันให้ความสำคัญคือเม็ดยาเสริมวิญญาณ สรรพคุณของเม็ดยาก็ยังไม่ค่อยชัดเจนเช่นเดียวกัน อาจช่วยเพิ่มพลังให้แก่จิตสำนึกของซิวเจ่อ จั่วม่อตั้งใจว่าจะใช้โอสถปราณชนิดนี้ผสานกับเคล็ดบำเพ็ญสูดปราณก่อนกำเนิดของมัน ไม่ทราบว่าจะช่วยอะไรได้หรือไม่

แต่โอสถปราณอันคลุมเครือเหล่านี้ของสำนัก ไม่สามารถซื้อหาได้ในตงฝู

น่าเสียดายที่ไม่ได้พบโอสถปราณที่สามารถเร่งความเร็วการบำเพ็ญเพียรได้โดยตรง แต่เมื่อขบคิดสักเล็กน้อยมันก็พบว่านี่เป็นเรื่องปกติ หากโอสถปราณประเภทนี้สามารถหลอมกลั่นได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นผู้คนก็สามารถรับประทานได้ทุกวันแล้ว...

อย่างไรก็ตาม จั่วม่อก็สลดหดหู่อย่างรวดเร็ว เมื่อพบว่าโอสถปราณสามชนิดที่มันอุตส่าห์เฟ้นหามาอย่างยากลำบาก ล้วนขาดส่วนผสมหายากสามชนิดที่ไม่สามารถซื้อหา

โชคดีที่มันยังสามารถหาซื้อเมล็ดพันธุ์มาได้ และปลูกลงเต็มพื้นที่ยี่สิบหมู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด