ตอนที่แล้วTWO Chapter 68 งานชุมนุม ตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 70 สนใจ

TWO Chapter 69 งานชุมนุม ตอนที่ 2


TWO Chapter 69 งานชุมนุม ตอนที่ 2

เมื่อเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในห้องโถงเห็นหยวนผิงนำโอหยางโชวเข้ามาในห้องโถงด้วยความกระตือรือร้น พวกเขาก็ตกใจ นอกจากโอหยางโชวแล้ว ก็มีเพียงสาวงามประจำชั้นอย่างซ่งเจี๋ย(Song Jia)เท่านั้น ที่เขาจะแสดงความกระตือรือร้นขนาดนี้

ในห้องโถงขนาดใหญ่มีโต๊ะอยู่ 4 ตัว หยวนผิงพาโอหยางโชวไปที่โต๊ะแรก เขายิ้มอย่างแจ่มใสแล้วกล่าวว่า “นี่คือโอหยางโชวสุดหล่อของพวกเรา ทุกคนจำเขาได้ใช่มั้ย?”

ที่นั่งอยู่ในโต๊ะ นอกเหนือจากสาวงามประจำชั้นอย่างซ่งเจี๋ยแล้ว ยังมีเมิ่งเฟยเฟย และถานเสี่ยวหลี่ที่เขาได้พบในขณะช็อปปิ้งในวันสิ้นปี เมื่อเห็นเขา พวกเธอก็ยิ้มและทักทายเขา

หลังจากหยวนผิงออกไปแล้ว โอหยางโชวก็คุยกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ

ในโลกนี้คงไม่มีใครน่าอิจฉาเท่ากับชายที่นักโต๊ะเดียวกันกับเขา ชื่อของเขาคือ เจ้าฉิงหลิน(Zhao Qinglin) หลังจากจบการศึกษา ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ เขาได้กลายเป็นผ้ช่วยผู้จัดการของ ปิงเฟิง คอร์เปอร์เรชั่น  ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในรัฐเจียว จากนักเรียนรุ่นเดียวกัน เขาถูกพิจารณาว่า เขาเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

เบื้องหลังครอบครัวของหยวนผิงทำให้เจ้าฉิงหลินอิจฉา เขารีบมาร่วมงาน และหยวนผิงได้จัดให้เขานั่งอยู่ในโต๊ะแรกและทิ้งเขาไว้ หยวนผิงได้ปฏิบัติกับโอหยางโชวอบอุ่นกว่าที่เขาได้รับ มันทำให้เขารู้สึกอิจฉา

เขากล่าวอย่างเย็นชากับโอหยางโชวว่า “เพื่อนร่วมชั่นเรียนเก่า นายดูใจร้อนน่ะ รีบสวมนาฬิกาซะเร็วเชียว นายไม่สามารถซื้อพวกมันได้เองซินะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา คนทั้งโต๊ะก็เงียบ เพื่อนนักเรียน 2 คน ที่ใส่นาฬิกานั้น รีบซ่อนมันไว้ด้วยความอับอาย

โอหยางโชวหัวเราะ เขานั้นไม่เหมือนทั้ง 2 คน เขากล่าวว่า “ใช่ ฉันไม่สามารถซื้อมันได้ เนื่องจากครอบครัวของฉันไม่ได้รวยเหมือนครอบครัวของนายไง ทำไมนายไม่เรียนรู้อย่างหยวนผิงแล้วซื้อแฮนด์เบรนด์ให้พวกเราเป็นของขวัญล่ะ?”

นักเรียนที่โต๊ะหัวเราะ และไม่อึดอัดอีกต่อไป พวกเขามองไปที่เจ้าฉิงหลิน เพื่อดูว่าเขาจะตอบเช่นไร

“นาย!” เจ้าฉิงหลินไม่คิดว่าโอหยางโชวจะไร้ยางอาย และยอมรับตรงๆว่าเขาไม่รวยเท่าตน มันเป็นความจริงที่เขามีภูมิหลังครอบครัวที่ดี แต่เมื่อเทียบกับหยวนผิงเขาก็ไม่มีอะไรเลย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รีบมาที่นี่ก่อนคนอื่นเพื่อจะได้เข้าใกล้หยวนผิง จะให้เขาจ่ายเงินมากกว่า 200000 เครดิต สำหรับของขวัญนั้นคงเป็นไปไม่ได้

โอหยางโชวไม่ได้สนใจใบหน้าที่อับอายของเจ้าฉิงหลิน และหยิบถ้วยชามาดิ่มอย่างสบายใจ

ถานเสี่ยวหลี่ที่นั่งอยู่ซ้ายมือของเขายกนิ้วโป้งให้เขา แล้วกล่าวว่า “นี่คือโอหยางโชวที่เป็นเนิร์ดและชอบเงียบอยู่เสมอจริงๆเหรอ? นายเปลี่ยนไปมากจริงๆ ถ้าฉันไม่มีแฟน ฉันจะไล่ตามนาย”

“อั๊ก! อั๊ก!” โอหยางโชวสำลักชา หญิงสาวทุกวันนี้เปิดกว้างจริงๆ ที่กล้าพูดหัวขอเช่นนี้

“ทำไมนายถึงแสดงท่าทีอย่างนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่าพี่สาวไม่ดีพอสำหรับนาย? แม้ว่านายจะหล่อมาก แต่รูปร่างของพี่สาวก็ดูโอเคอยู่น่ะ?” เมื่อเห็นการแสดงออกของโอหยางโชว ถานเสี่ยวเยว่ก็ทำหน้าเศร้า

โอหยางโชวยกมือขึ้นแสดงท่าทียอมจำนน “เพื่อนนักเรียนถาน สาวสวยถาน ฉันผิดเอง ปล่อยฉันไปเถอะ”

“โอ! ฉันจะถือว่านายพูดความจริง” ถายเสี่ยวหลี่เลื่อนสายตาของเธอไปด้านข้างของเธอแล้วกล่าวว่า “อ่า นายยังไม่มีแฟนใช่มั้น? ให้ฉันแนะนำเฟยเฟยให้นายดีมั้ย?”

โอหยางโชวไม่ได้พูดอะไร แต่เฟยเฟยที่อยู่ด้านข้างหน้าแดง แล้วพึมพำว่า “ฉันจะฉีกอบเธอแน่”

เมื่อเห็นทั้ง 2 สาว เล่นกันเหมือนเด็กอยู่ด้านข้าง โอหยางโชวพยายามดึงสติไม่ให้ไร้สาระไปด้วย ดวงตาของเขามองไปที่ซ่งเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างของเขา เขาครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าทักทาย

ซ่งเจี๋ยก็เหมือนหยวนผิง พวกเขาทั้ง 2 มาจากครอบครัวที่ดี ตระกูลซ่งนั้นถูกจัดอยู่ในดันอับที่ 2 ของหลิงหนาน อีกทั้งซ่งเจี๋ยยังถูกจัดว่าเป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกที่สง่างาม ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ หยวนผิงพยายามไล่ตามเธอตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น แต่เขาก็ยังทำไม้สำเร็จจนถึงตอนนี้

การจัดงานชุมนุมในครั้งนี้ เป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น เหตุผลหลักที่เขาจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อไล่ตามเธอ โอหยางโชวอิจฉาในความมุ่งมั่นของหยวนผิง เขาไม่ยอมแพ้แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึง 10 ปีแล้ว

ซ่งเจี๋ยสวมชุดเดรสสีขาว ให้ความรู้สึกเหมือนกับเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์ เมื่อโอหยางโชวทักทายเธอ เธอก็หยิบถ้วยชาขึ้นมา โอหยางโชวจึงหยิบถ้วยขึ้นมาเช่นกัน แล้วพวกเขาก็ดื่ม ดูเหมือนพวกเขาจะมีความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างเป็นธรรมชาติ

เมื่อเห็นฉากนี้ เจ้าฉิงหลินก็อิจฉาแทบบ้า เทพธิดาไม่เคยแม้แต่จะแลมองเขา ทำให้ความเกลียดชังที่เขามีต่อโอหยางโชวเพิ่มมากขึ้น

ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็มาถึง งานชุมนุมจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ หยวนผิงกลับไปที่โต๊ะแรก ด้านซ้ายของเขาคือโอหยางโชวและวซ่งเจี๋ย

งานชุมนุมของเพื่อนนักเรียน ไม่สามารถขาดการแบ่งปันและสนทนาเพื่อทำความสนิทสนมกันได้ พวกเขาได้ดื่มกัน และระลึกถึงความทรงจำในอดีต ให้ความรู้สึกของเพื่อนเก่าที่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

แน่นอน คนที่โดดเด่นที่สุดคือ หยวนผิง เขาถูกดึงไปรอบๆเพื่อร่วมดื่มกับทุกคน

“เพื่อนนักเรียนเก่า มาดื่มกัน” เสียงหวานของเด็กสาวเข้ามาในหูของเขา เขาหันกลับไปเห็นเป็นซ่งเจี๋ยที่กำลังถือแก้วไวน์แดงอยู่

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วเทไวน์แดงให้ตัวเอง “ตกลง ฉันจะดื่มให้หมดแล้วแก่เทพธิดาของเรา” แล้วโอหยางโชวดื่มจนหมดแก้ว

สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ หลังจากที่เธอดื่มจนหมดแก้ว แก้มของเธอจะแดงขึ้นในทันที

โอหยางโชวจำได้ว่า เมื่อเธอดื่มกับหยวนผิง เธอดื่มไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาไม่คิดว่าเธอจะชอบเขา

พูดตามจริง ในสมัยเรียนมัธยมต้น พวกเขาไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันมากนัก คนหนึ่งเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีบุคลิกที่เย็นชา ส่วนอีกคนเป็นเพียงคนธรรมดาและไม่ชอบเสวนากับใคร

เขาไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่สนใจมันมากนัก เขาถือโอกาสนี้พูดคุยกับเธอ หลังจากที่เขาได้ทำงานกับฟ่านจงหยาน ความสามารถในการพูดของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก ทั้ง 2 คน พูดคุยกันอย่างสนิทสนม

ในขณะที่หยวนผิงกำลังเดินกลับมา โดยมีเจ้าฉิงหลินยืนอยู่ด้านหลังเขา เมื่อเห็นพวกเขากำลังพูดคุยกัน หยวนผิงก็กล่าวว่า “ฉันหายไปพักเดียว ไม่คิดว่าทั้ง 2 จะพูดคุยกันอย่างสนิทสนม”

โอหยางโชวไม่รู้ว่าคำพูดของเขาซ่อนความหมายอะไรไว้หรือไม่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ในความเป็นจริง เขาเป็นเพียงแค่เมฆที่ลอยมา เขาหัวเราะแล้วกล่าวว่า “เทพธิดาแห่งค่ำคืนนี้เพียงแค่คุยกัน และทานอะไรนิดหน่อยก็เท่านั้น”

โอหยางโชวพยายามเปลี่ยนหัวข้อ แต่ก็ไม่มีใครพอใจ เจ้าฉิงหลินเป็นเหมือนตัวตลก เขากระโดดออกมาจากด้านหลังจากหยวนผิง แล้วกล่าวอย่างแดกดันว่า “สิ่งทีฉันเห็นก็คือ คางคกที่พยายามจะกินเนื้อหงส์” เขาเหมือนสุนัขตัวเล็กๆที่ติดตามหยวนผิง เพื่อต่อสู้กับศัตรูของเจ้านายของตน

ใบหน้าของโอหยางโชวมืดมัว เขาต้องการจะสอบบทเรียนให้กับเจ้าฉิงหลิน และเอาชนะความรู้สึกบางอย่างในตัวเขา แต่ซ่งเจี๋ยได้ลุกขึ้นมาก่อน เธอกล่าวตำหนิออกไปว่า “บางคนพยายามทำสิ่งที่น่ารังเกียจ ฉันพยายามไม่สนใจมัน แต่โอหยางโชวเป็นเพื่อนของฉัน ใครที่ไม่เคารพเขา ฉันจะไม่ปล่อยไปแน่”

เมื่อถูกตำหนิโดยซ่งเจี๋ย มันทำให้เจ้าฉิงหลินตกใจ เขารีบเดินกลับไปที่นั่งของตนด้วยความอับอาย แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่โอหยางโชว ราวกับเขาต้องการฉีกโอหยางโชวเป็นชิ้นๆ

เดิมหยวนผิงไม่ได้คิดมาก แต่ความสับสนวุ่นวายนี้ทำให้ใบหน้าของเขามืดมน โชคดีที่เขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ดังนั้น เขาจึงรักษามารยาทได้ “เราทุกคนเป็นเพื่อนรวมชั้นกัน ฉันจะดื่มให้กับทุกๆคน”

โอหยางโชวหยิงแก้วเบียร์ขึ้นมาอย่างกระปรี้กระเปร่า แม้ว่าหยวนผิงจะพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่มันก็ยังคงดูน่าเบื่อและน่าอึดอัด ความสุขมันจะเกิดขึ้นสั้นๆเสมอ

บางคนกล่าวว่า หยวนผิงเป็นคนที่ปรับตัวได้เก่ง เมื่อจบงานชุมนุมในช่วงต้น เขาก็กล่าวว่า “เพื่อนร่วมชั้นทั้งหลาย ฉันได้จองห้องชุด KTV ในชั้นบนไว้แล้ว พวกเราไปร้องเพลงกันเถอะ!”

ทุกคนส่งเสียงเชียร์ออกไป พวกเขาอยากร้องเพลงเพื่อความสนุกสนานและครื้นเครง

โอหยางโชวไม่คิดว่าจะมีงานจัดเลี้ยงเพิ่มเติม มันทำให้เขารู้สึกลำบากใจ เขาไม่ลืมว่าเขาได้สัญญากับปิงเอ๋อว่าเขาจะรีบกลับบ้านเร็วๆเพื่อเล่นกับเธอ เขาได้บรรลุเหตุผลที่มาที่นี่แล้ว เขาระลึกถึงสิ่งที่ควรทำ เมื่อเวลาผ่านไป มันไม่สามารถย้อนกลับได้อีก

“หยวนผิง ฉันคงไม่ได้ไปร้องเพลงด้วยนะ มีคนรอฉันอยู่ที่บ้าน” โอหยางโชวยิ้ม ขณะที่เขาพูดกับผู้จัดงาน

หยวนผิงต้องการให้เขาจากไป เมื่อเขาได้เห็นโอหยางโชวและซ่งเจี๋ยสานสัมพันธ์กันกัน มันทำให้เขาเศร้า “อืม, เมื่อเทียบกับการร้องเพลง ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า ฉันจะไม่ห้ามนาย เดินทางกลับอย่างปลอดภัยล่ะ!”

โอหยางโชวพยักหน้า หลังจากบอกลาทุกคน เขาก็เดินออกจากห้องไป เขาไม่ได้สนใจถานเสี่บวหลี่ที่บอกว่าเขาไม่กล้าเผชิญหน้า เขารีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด